สาวๆทั้งเก้าคน กลายเป็นศิลปินเคป๊อบกลุ่มที่สอง และเป็นศิลปิน K-POP หญิงรายแรก ที่ขึ้นนำในสองชาร์ตอันดับโลก

แฟนๆพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขา likey เพลงใหม่ของทไวซ์มากแค่ไหน เมื่อสาวๆกลายเป็นศิลปิน K-POP ที่มาแรงสุดๆจนสามารถครองชาร์ตบิลบอร์ดได้หลายชาร์ตด้วยกัน ทั้งแบบอัลบั้ม และแบบซิงเกิล



เริ่มกันที่ทไวซ์ได้ครองอันดับ 1 เป็นครั้งแรกใน World Albums chart อัลบั้มล่าสุดของสาวๆ “Twicetagram” มียอดขายไปแล้วกว่า 1,000 อัลบั้มภายในสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน โดยอ้างอิงจาก Nielsen Music และกลายเป็นอัลบั้ม K-POP ที่ขายดีที่สุดในอเมริกาในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้อัลบั้ม “Twicetagram” ยังเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของทไวซ์ภายในสัปดาห์แรก ด้วยความที่เป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกของพวกเธอ ก็เพิ่มความตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น จนถึงวันนี้ ทไวซ์ได้พาอัลบั้มเก่าของพวกเธอขึ้นชาร์ต World Albums มาแล้วทุกอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็น The Story Begins (ซึ่งได้อันดับ 15 ในชาร์ตหลังจากวางขายในอเมริกาเมื่อเดือนมกราคม 2016), Page Two (ได้อันดับที่ 6 ในเดือนพฤษภาคม 2016), Twicecoaster: Lane 1 (#3, พ.ย.2016), Twicecoaster: Lane 2 (#4, ก.พ. 2017) และ Signal (#3 เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา)

ทไวซ์ยังคงปังไม่หยุด กับชาร์ต Heatseekers Album โดย Twicetagram เปิดตัวในชาร์ตที่อันดับ 10 สูงขึ้นมา 1 อันดับจากจุดพีคที่รุ่นพี่ Signal ทำไว้ก่อนหน้านี้ และความสำเร็จครั้งล่าสุดของพวกเธอนี้ก็ถือว่ามีศิลปิน K-POP ไม่กี่รายที่จะทำได้ อัลบั้มเต็มชุดนี้เป็นอัลบั้มที่ 11 เท่านั้นจากศิลปิน K-POP ทั้งหมดในปีนี้ ที่สามารถอยู่ใน TOP 10 ของชาร์ต Heatseekers Album ได้



แฟนๆต่างก็ติดเพลงใหม่ “Likey” ของทไวซ์กันงอมแงม เห็นได้จากเพลงที่ติดหูสุดๆนี้ เปิดตัวที่อันดับ 1 ในชาร์ต  World Digital Song Sales ของ Billboard ด้วยยอดดาวน์โหลดกว่า 3,000 ครั้ง และยังเป็นเพลงที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดของวงในสัปดาห์แรกอีกด้วย จากเพลงฮิตติดชาร์ตแบบนี้ ทำให้ทไวซ์กลายมาเป็นวง K-POP แถวหน้าร่วมกันกับบรรดาวงต่างๆที่มีเพลงขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต World Digital Song Sales ไม่ว่าจะเป็น  BTS (มีเพลงอันดับ 1 ถึง 5 เพลง), PSY (4 เพลง), BIGBANG และ Blackpink (วงละ 3 เพลง), 2NE1 และ EXO (วงละ 2 เพลง) และ G-Dragon and Taeyang (คนละเพลง).

ความสำเร็จที่ได้รับจากอัลบั้ม Twicetagram และเพลง Likey นั้นยิ่งแรงขึ้นไปอีก เพราะทั้งสองอย่างนี้ทำให้ทไวซ์กลายเป็นศิลปิน K-POP หญิงรายแรก ที่ขึ้นนำในทั้งสองชาร์ต ในปัจจุบันนี้ ศิลปินอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถทำได้แบบนี้มีเพียง BTS ซึ่งประสบความสำเร็จแบบเดียวกันได้ถึง 3 ครั้งรวด ปีที่แล้ว 1 ครั้งกับ "Blood, Sweat & Tears" และอัลบั้ม Wings ในปีนี้ถึงสองด้วยกันกับ "Spring Day" อัลบั้ม You Never Walk Alone รวมทั้ง "DNA" และอัลบั้ม Love Yourself: Her

ทไวซ์ได้ขึ้นอันดับ 2 ในชาร์ต World Digital Song Sales มาก่อนหน้านี้แล้วจากเพลง TT เมื่อปลายปี 2016 สาวๆนำเพลงทั้ง 6 เพลงของพวกเธอขึ้นติด TOP 10 ในชาร์ตได้ทั้งหมด เริ่มจาก "Like Ooh-Ahh" (#6), ตามมาด้วย "Cheer Up" (#3), "TT" (#2), "Knock Knock" (#5) และ "Signal" (#3) นี่ยังเป็นครั้งแรกที่ JYP ซึ่งเป็นบริษัทต้นสังกัดของทไวซ์มีเพลงติดอันดับบนชาร์ต โดยตอนนี้บริษัทที่ทำได้นอกจาก JYP มีเพียง 3 บริษัทเท่านั้น ได้แก่  YG Entertainment ทั้งหมด 13 เพลง Big Hit Entertainment 5 เพลง, and SM Entertainment 2 เพลง

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ซิงเกิลญี่ปุ่นเพลงแรกของทไวซ์ก็ติดอันดับ TOP 10 World Digital Song Sales กับเขาด้วยเหมือนกัน ในฐานะเพลงฮิตอันดับ 1 ในชาร์ต Japan Hot 100 โดยเพลง One More Time กระโดดจากอันดับ 15 มาอยู่ในอันดับที่ 8 ได้ในสัปดาห์นี้ ทำให้ทไวซ์เป็นหนึ่งในวงที่หาได้ยาก ที่จะครองชาร์ตในอเมริกาได้สำเร็จทั้งเพลงเกาหลีและเพลงญี่ปุ่น ความสำเร็จในชาร์ตเพลงต่างๆเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่าอเมริกานั้นมีดาวรุ่ง K-POP ดวงใหม่ที่ไม่ธรรมดามาประดับวงการแล้ว