วันนี้(8 พ.ย.)ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ครั้งที่ 1/2560 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเบื้องต้นตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)ได้เสนอ เรื่องการพัฒนาและการสร้างสรรค์นวัตกรรมในรูปแบบใหม่ (Sandbox) ที่ต้องการปรับรูปแบบและกระบวนการบริหารจัดการโรงเรียนที่ตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน โดยก.พ.ร. จะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)และภาคเอกชน ในการจัดรูปแบบการจัดการศึกษาแบบใหม่ คือ พับบลิค สกูล (Public School) ที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามารับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาของรัฐ โดยรัฐยังคงเป็นเจ้าของ ให้เอกชนบริหารสถานศึกษา 5 ปี และมีการประเมินเป็นระยะๆ ซึ่งภาคเอกชนที่เข้ามาจัดการศึกษานั้นจะต้องไม่มีการแสวงหากำไร
ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันก็จะมีการปลดล็อคกฏระเบียบเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และหลักสูตรให้มีความคล่องตัวในการบริหาร แต่ต้องมีความรับผิดชอบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็ก และสามารถสร้างนวัตกรรมเนื้อหาหลักสูตร ปรับรูปแบบการเรียนที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ที่สำคัญโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะได้รับการจัดสรรงบประมาณแบบเงินอุดหนุนทั่วไป ไม่มีการเก็บค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายอื่นๆจากนักเรียน มีการบริหารงานโดยคณะกรรมการอำนวยการกำหนดนโยบาย หลักการ ขับเคลื่อน กำกับดูแล ซึ่งจะมีศึกษาธิการจังหวัด และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ (ผอ.สพท.) เป็นตัวแทนกระทรวงอยู่ในคณะกรรมการอำนวยฯ ด้วย ทั้งนี้โรงเรียนที่เข้าข่ายโครงการ Public School จะเป็นโรงเรียนรัฐขนาดเล็กและกลาง หรือวิทยาลัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ไม่เน้นโรงเรียนขนาดใหหญ่ที่มีความพร้อมอยู่แล้ว เช่น โรงเรียนประจำจังหวัด เบื้องต้นตั้งเป้าจัดโรงเรียนต้นแบบ จำนวน 77 แห่ง และเริ่มในภาคเรียนที่ 1/2561
นายก ฯเห็นด้วยที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามาจัดการศึกษา และการจัดการศึกษาต้องสอดคล้องกับระบบการศึกษาปกติ ครอบคลุมทั่วประเทศ มีการจัดการศึกษาทั้งสายสามัญและอาชีพ นายกฯยังย้ำว่าการทำงานจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามในส่วนของศธ.ได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆไปทำการบ้านแล้ว เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปลดล็อคเรื่องการสรรหา บรรจุ แต่งตั้ง ของครูและผู้บริหาร ซึ่งในส่วนของครูอาจจะมีการเปิดโอกาสให้ครูสามารถเลือกสถานภาพได้ 2 รูปแบบ คือ ยังคงเป็นข้าราชการ หรือเป็นพนักงานของโรงเรียน สำนักงานปลัด ศธ. ดูแลเรื่องงบฯ และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดูแลเรื่องหลักสูตร ทั้งนี้จะประชุมหารือร่วมกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ อีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า “ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าว
https://www.108news.net/news/4716
น่าสนใจค่ะ...ลองให้เอกชนบริหารโรงเรียน
เปลี่ยนแปลงแบบใหม่เลยนะคะ
~มาลาริน~** ปฏิรูปการศึกษา..'ลุงตู่’ไฟเขียวภาคเอกชนเข้ามาบริหารรร.รัฐเต็มตัว
วันนี้(8 พ.ย.)ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูป เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ครั้งที่ 1/2560 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเบื้องต้นตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)ได้เสนอ เรื่องการพัฒนาและการสร้างสรรค์นวัตกรรมในรูปแบบใหม่ (Sandbox) ที่ต้องการปรับรูปแบบและกระบวนการบริหารจัดการโรงเรียนที่ตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน โดยก.พ.ร. จะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)และภาคเอกชน ในการจัดรูปแบบการจัดการศึกษาแบบใหม่ คือ พับบลิค สกูล (Public School) ที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามารับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาของรัฐ โดยรัฐยังคงเป็นเจ้าของ ให้เอกชนบริหารสถานศึกษา 5 ปี และมีการประเมินเป็นระยะๆ ซึ่งภาคเอกชนที่เข้ามาจัดการศึกษานั้นจะต้องไม่มีการแสวงหากำไร
ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันก็จะมีการปลดล็อคกฏระเบียบเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และหลักสูตรให้มีความคล่องตัวในการบริหาร แต่ต้องมีความรับผิดชอบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็ก และสามารถสร้างนวัตกรรมเนื้อหาหลักสูตร ปรับรูปแบบการเรียนที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ที่สำคัญโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะได้รับการจัดสรรงบประมาณแบบเงินอุดหนุนทั่วไป ไม่มีการเก็บค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายอื่นๆจากนักเรียน มีการบริหารงานโดยคณะกรรมการอำนวยการกำหนดนโยบาย หลักการ ขับเคลื่อน กำกับดูแล ซึ่งจะมีศึกษาธิการจังหวัด และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ (ผอ.สพท.) เป็นตัวแทนกระทรวงอยู่ในคณะกรรมการอำนวยฯ ด้วย ทั้งนี้โรงเรียนที่เข้าข่ายโครงการ Public School จะเป็นโรงเรียนรัฐขนาดเล็กและกลาง หรือวิทยาลัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ไม่เน้นโรงเรียนขนาดใหหญ่ที่มีความพร้อมอยู่แล้ว เช่น โรงเรียนประจำจังหวัด เบื้องต้นตั้งเป้าจัดโรงเรียนต้นแบบ จำนวน 77 แห่ง และเริ่มในภาคเรียนที่ 1/2561
นายก ฯเห็นด้วยที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามาจัดการศึกษา และการจัดการศึกษาต้องสอดคล้องกับระบบการศึกษาปกติ ครอบคลุมทั่วประเทศ มีการจัดการศึกษาทั้งสายสามัญและอาชีพ นายกฯยังย้ำว่าการทำงานจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามในส่วนของศธ.ได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆไปทำการบ้านแล้ว เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปลดล็อคเรื่องการสรรหา บรรจุ แต่งตั้ง ของครูและผู้บริหาร ซึ่งในส่วนของครูอาจจะมีการเปิดโอกาสให้ครูสามารถเลือกสถานภาพได้ 2 รูปแบบ คือ ยังคงเป็นข้าราชการ หรือเป็นพนักงานของโรงเรียน สำนักงานปลัด ศธ. ดูแลเรื่องงบฯ และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดูแลเรื่องหลักสูตร ทั้งนี้จะประชุมหารือร่วมกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ อีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า “ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าว
https://www.108news.net/news/4716
น่าสนใจค่ะ...ลองให้เอกชนบริหารโรงเรียน
เปลี่ยนแปลงแบบใหม่เลยนะคะ