เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อสองเดือนที่แล้วเราพาย่ามาพักที่ ศุนย์ Nursing home แห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว ไม่ขอระบุชื่อนะค่ะ
เพราะเห็นว่าราคาก็พอได้อยู่ไม่ได้สูงหรือแพงมาก ย่า มีโรคประจำตัวคือกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นอัมพฤษ ซีกซ้ายทั้งซีก นอนติดเตียง
ทางบ้านไม่สะดวกที่จะดูแลประกอบด้วยมีพื้นที่ไม่เพียงพอ เลยหาศูนย์ให้ย่าอยู่ มาอยู่ที่ศูนย์ได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ ย่าดูซึมเศร้า ไม่สดใสเหมือนที่ผ่านมา
เวลากินข้าวก็กินได้น้อย เริ่มผิดสังเกตุเราเลยถามย่า ว่าย่าเป็นไร? แกบอกว่าไม่อยากอยู่ที่นี้แล้วไม่ดีเลย เรียกใช้ก็ยาก แพมเพิ้ลเต็มก็ไม่เปลี่ยนให้ ให้นอนแช่ขี้แช่เยี่ยว ตลอด กับข้าวบางวันก็เค็ม บางวันก็หวานอะไรก็ไม่รู้ เราเลยลองชิมกับข้าวย่า หมูกะเทียม เค็มมากกกกกกกกก เราเลยเข้าใจย่าเลย
ถึงเวลาทำกายภาพเราคิดว่าเป็นนักกายภาพจริงๆมาทำให้ย่าเรา แต่ป่าวเลย เป็นน้องผู้ช่วยมาทำกายภาพให้ย่าเรา ทำได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ไปทำให้เตียงอื่นแล้ว เรางงว่าอะไรกัน เลยถามน้องผู้ช่วยว่ากายภาพทำแค่เท่านี้หรอ น้องผู้ช่วยบอกว่า ใช่ค่ะพี่ ผู้สูงอายุมีเยอะ และหนูก็มีหน้าที่ทำอย่างอื่นอีกเยอะจะทำให้ย่าพี่คนเดียวไม่ได้ อึ้งในคำตอบของน้อง และเราคิดว่าที่นี้ไม่โอเคแล้ว เราจ่ายค่าดูแลให้ศูนย์ที่นี้ เดือนละ 18,000 และค่าอื่นๆที่ต้องจ่ายสิ้นเดือนอีกมากมาย ที่นี้คิดเราเยอะมาก เรียกเก็บทั้งค่าหมอ ค่าพยาบาล ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลอง รวมเบ็ดเสร็จ สิ้นเดือนจ่ายเกือบ 35,000 !!!! แพงโคตร
เราเลยให้ย่าออกจากศูนย์มาอยู่บ้านให้แม่ดูแลไปก่อน และเราก็รีบหาศูนย์ใหม่ให้กับย่าเพราะแม่ลางานได้ไม่กี่วัน
เราเจอศุนย์แห่งหนึ่ง แถว ถนนบางนา-ตราด สมุทรปราการ เราโทรไปสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เค้าให้เราเข้าไปชมสถานที่ได้ก่อนการตัดสินใจ เราก็บึงรถไปดูเองเลยค่ะ กลัวพลาดอีก
ที่นี้เป็นศุนย์สไตล์รีสอท์ ดูเย็นตา ไม่แออัด ห้องพักแบ่งเป็นโซนๆ และที่ไม่เหมือนศูนย์ไหนคือ ที่นี้มีคลีนิคกายภาพ มีวารีบำบัด หรือที่เรียกกันว่า ธาราบำบัด สอบถามการบริาร ที่นี้จะมีพยาบาลประจำศูนย์ มีแพท์ยตรวจเยี่ยม 2 ครั้ง/สัปดาห์ และอีกประเด็นสำคัญที่ทำให้เราเลือกที่นี้ คือ ถ้าผู้สูงอายุมีอาการเฝ้าระวังที่คุณหมอ ประเมินแล้วว่าต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ผู้สูงอายุจะได้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยไม่เสียค่าห้อง
เพราะเป็นศูนย์ในเครือของโรงพยาบาล ส่วนค่าบริการนั้นเริ่มต้นที่ 28,000 แต่รวมค่าแพทย์,ค่าพยาบาล,กายภาพ,วารีบำบัด แล้ว เราถือว่าคุ้มกว่าที่เก่า
ที่นี้พนักงานจะแต่งชุดหลากหลายสี เราก็งงว่าทำไมไม่ใช้ชุดฟอร์มสีเดียวกัน คำตอบที่ได้มาคือ ที่นี้ใส่ชุดตามวิชาชีพของตนประกอบด้วย ผู้ช่วย ที่คอยดูแล,เวชกิจ ที่คอยดูแลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน,นักสาธา ที่ดูแลเกี่ยวกับกิจกรรมและสภาพจิตใจของผู้สูงอายุ,นักกายภาพ ที่ดูแลเรื่องกล้ามเนื้อโดยตรง
ที่นี้มีเจ้าหน้าที่ไปดูอาการ หรือ ที่เค้าเรียกว่า ประเมินสุขภาพร่างกายเบื้องต้นให้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ
เราตัดสินใจเลือกที่นี้เลย ตอนนี้ย่าเราพักที่ศุนย์นี้ได้ 1 เดือนแล้วและกำลังต่อสัญญาเดือนที่ 2 ย่าเราพัฒนาขึ้นเยอะเลยค่ะตอนนี้กำลังฝึกยืนและเดิน จากคนที่วันๆนอนแต่อยู่บนเตียง จะนั้งก็ยังต้องมีคนคอยพยุงขึ้น ตอนนี้ฝึกยืนและเดินแล้ว ดีใจมากๆ
จะเลือก Nursing home ก็ดูให้ดีๆนะค่ะ แพงแต่คุ้มค่ะ
แชร์ประสบการ์ณ Nursing home
เพราะเห็นว่าราคาก็พอได้อยู่ไม่ได้สูงหรือแพงมาก ย่า มีโรคประจำตัวคือกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นอัมพฤษ ซีกซ้ายทั้งซีก นอนติดเตียง
ทางบ้านไม่สะดวกที่จะดูแลประกอบด้วยมีพื้นที่ไม่เพียงพอ เลยหาศูนย์ให้ย่าอยู่ มาอยู่ที่ศูนย์ได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ ย่าดูซึมเศร้า ไม่สดใสเหมือนที่ผ่านมา
เวลากินข้าวก็กินได้น้อย เริ่มผิดสังเกตุเราเลยถามย่า ว่าย่าเป็นไร? แกบอกว่าไม่อยากอยู่ที่นี้แล้วไม่ดีเลย เรียกใช้ก็ยาก แพมเพิ้ลเต็มก็ไม่เปลี่ยนให้ ให้นอนแช่ขี้แช่เยี่ยว ตลอด กับข้าวบางวันก็เค็ม บางวันก็หวานอะไรก็ไม่รู้ เราเลยลองชิมกับข้าวย่า หมูกะเทียม เค็มมากกกกกกกกก เราเลยเข้าใจย่าเลย
ถึงเวลาทำกายภาพเราคิดว่าเป็นนักกายภาพจริงๆมาทำให้ย่าเรา แต่ป่าวเลย เป็นน้องผู้ช่วยมาทำกายภาพให้ย่าเรา ทำได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ไปทำให้เตียงอื่นแล้ว เรางงว่าอะไรกัน เลยถามน้องผู้ช่วยว่ากายภาพทำแค่เท่านี้หรอ น้องผู้ช่วยบอกว่า ใช่ค่ะพี่ ผู้สูงอายุมีเยอะ และหนูก็มีหน้าที่ทำอย่างอื่นอีกเยอะจะทำให้ย่าพี่คนเดียวไม่ได้ อึ้งในคำตอบของน้อง และเราคิดว่าที่นี้ไม่โอเคแล้ว เราจ่ายค่าดูแลให้ศูนย์ที่นี้ เดือนละ 18,000 และค่าอื่นๆที่ต้องจ่ายสิ้นเดือนอีกมากมาย ที่นี้คิดเราเยอะมาก เรียกเก็บทั้งค่าหมอ ค่าพยาบาล ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลอง รวมเบ็ดเสร็จ สิ้นเดือนจ่ายเกือบ 35,000 !!!! แพงโคตร
เราเลยให้ย่าออกจากศูนย์มาอยู่บ้านให้แม่ดูแลไปก่อน และเราก็รีบหาศูนย์ใหม่ให้กับย่าเพราะแม่ลางานได้ไม่กี่วัน
เราเจอศุนย์แห่งหนึ่ง แถว ถนนบางนา-ตราด สมุทรปราการ เราโทรไปสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เค้าให้เราเข้าไปชมสถานที่ได้ก่อนการตัดสินใจ เราก็บึงรถไปดูเองเลยค่ะ กลัวพลาดอีก
ที่นี้เป็นศุนย์สไตล์รีสอท์ ดูเย็นตา ไม่แออัด ห้องพักแบ่งเป็นโซนๆ และที่ไม่เหมือนศูนย์ไหนคือ ที่นี้มีคลีนิคกายภาพ มีวารีบำบัด หรือที่เรียกกันว่า ธาราบำบัด สอบถามการบริาร ที่นี้จะมีพยาบาลประจำศูนย์ มีแพท์ยตรวจเยี่ยม 2 ครั้ง/สัปดาห์ และอีกประเด็นสำคัญที่ทำให้เราเลือกที่นี้ คือ ถ้าผู้สูงอายุมีอาการเฝ้าระวังที่คุณหมอ ประเมินแล้วว่าต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ผู้สูงอายุจะได้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยไม่เสียค่าห้อง
เพราะเป็นศูนย์ในเครือของโรงพยาบาล ส่วนค่าบริการนั้นเริ่มต้นที่ 28,000 แต่รวมค่าแพทย์,ค่าพยาบาล,กายภาพ,วารีบำบัด แล้ว เราถือว่าคุ้มกว่าที่เก่า
ที่นี้พนักงานจะแต่งชุดหลากหลายสี เราก็งงว่าทำไมไม่ใช้ชุดฟอร์มสีเดียวกัน คำตอบที่ได้มาคือ ที่นี้ใส่ชุดตามวิชาชีพของตนประกอบด้วย ผู้ช่วย ที่คอยดูแล,เวชกิจ ที่คอยดูแลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน,นักสาธา ที่ดูแลเกี่ยวกับกิจกรรมและสภาพจิตใจของผู้สูงอายุ,นักกายภาพ ที่ดูแลเรื่องกล้ามเนื้อโดยตรง
ที่นี้มีเจ้าหน้าที่ไปดูอาการ หรือ ที่เค้าเรียกว่า ประเมินสุขภาพร่างกายเบื้องต้นให้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ
เราตัดสินใจเลือกที่นี้เลย ตอนนี้ย่าเราพักที่ศุนย์นี้ได้ 1 เดือนแล้วและกำลังต่อสัญญาเดือนที่ 2 ย่าเราพัฒนาขึ้นเยอะเลยค่ะตอนนี้กำลังฝึกยืนและเดิน จากคนที่วันๆนอนแต่อยู่บนเตียง จะนั้งก็ยังต้องมีคนคอยพยุงขึ้น ตอนนี้ฝึกยืนและเดินแล้ว ดีใจมากๆ
จะเลือก Nursing home ก็ดูให้ดีๆนะค่ะ แพงแต่คุ้มค่ะ