สวัสดีค่ะทุกคน ขออนุญาตเรียกแทนตัวเองว่ามีนนะคะ
เข้าเรื่องเลยละกัน วันนี้มีนจะมารีวิว scar gel หรือเจลลดรอยแผลเป็นนั่นแหละค่ะ ขอเล่าก่อนเลยว่ามีนเคยใช้ผลิตภัณฑ์เจลลดรอยแผลเป็นมาบ้างเหมือนกัน โดยจะใช้กับรอยสิวซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังไม่เคยรีวิวเจลลดรอยแผลเป็นของแบรนด์ไหนมาก่อนเลยค่ะ พอดีกับที่ทาง
Puricas (เพียวริก้าส์) เค้าส่งผลิตภัณฑ์ Scar gel มาให้ทดลองใช้พอดีและก็เป็นช่วงที่มีนเองมีแผลจากความซุ่มซ่าม บวกกับรอยสิวพอดีเลยด้วย ก็เลยถือโอกาสนี้ลองใช้ Scar gel ของเพียวริก้าส์ แล้วถ่ายรูปทำรีวิวให้ทุกคนดูซะเลยแล้วกันค่ะ
ก่อนจะพูดถึงตัวผลิตภัณฑ์และรีวิว ขอพูดถึงสารสกัดหลักที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ของแบรนด์นี้ก่อนแล้วกันนะคะ สารที่ว่านี้ก็คือ
“สารสกัดดราก้อนบลัด” นั่นเองค่ะ
เห็นตอนแรกมีนก็แบบ ห๊ะ! ดราก้อนบลัด!? เลือดมังกร? ใช่หรอ?? (นี่ยิ่งบ้าแฮร์รี่พอตเตอร์อยู่ด้วย มโนไปสิ 555555) ด้วยความสงสัยก็เลยไป google ดูค่ะ ปรากฏว่าเจ้า Dragon's Blood เนี่ย เป็นสิ่งที่ได้จาก "พืช" ค่ะ พืชที่ว่านี้ก็คือต้น
Croton Lechleri เป็นไม้ยืนต้นสมุนไพรที่พบในแถบอเมซอน มีสรรพคุณทางยามากมาย ช่วยสมานแผล ต้านการอักเสบ ซ่อมแซมผิวหนัง สร้างคอลลาเจน และยังช่วยลดจุดด่างดำได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ google ยังบอกอีกว่า แค่ 1% ของสารสกัดดราก้อนบลัดก็มีฤทธิ์เทียบเท่าถึง 2 เท่าของ Allium Cepa แล้วค่ะ (Allium Cepa เป็นตัวยาหลักในเจลลดรอยแผลเป็นทั่วไป ใครเคยใช้คงคุ้นเคยกันดีนะคะ)
Dragon's Blood (ยืมภาพจาก google นะคะ)
เท่าที่มีนเคยใช้เจลลดรอยแผลเป็นมา ถ้าเข้าใจไม่ผิด เหมือนว่า
Puricas จะเป็นแบรนด์แรกในไทยเลยค่ะที่นำเอาสารสกัดดราก้อนบลัดมาใช้ในการลดรอยแผลเป็น ในเอกสารกำกับยาที่แนบมากับกล่องระบุว่า เจลตัวนี้นอกจากจะช่วยเรื่องรอยสิวแล้ว ยังช่วยรักษาแผลอื่นๆ ทั้งแผลใหม่และแผลเก่า ไม่ว่าจะเป็นแผลเป็นต่างๆ แผลจากการผ่าตัด แผลเป็นนูนและแผลลึก แผลคีลอยด์ และแผลเป็นจากสิว โดยเค้าเคลมมาว่าสามารถเห็นผลได้ใน 2 สัปดาห์เลยค่ะ
นอกจากดราก้อนบลัดแล้ว
Puricas ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ อีกหลายอย่างเลยค่ะ เช่น
Allium Cepa (สารสกัดจากหัวหอม) – ลดรอยแผลเป็นและจุดด่างดำให้จางลง
Aloe Vera (ว่านหางจระเข้) – ให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ ลดรอยแดง รอยดำ
Centella Asistica (ใบบัวบก) – ลดการอักเสบของแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
Allantoin (อัลลันโทอิน) – ลดการระคายเคือง
สารสกัดทั้งหมดเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี ไม่มีสเตียรอยด์ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน สามารถใช้ได้แม้แต่เด็กและผู้ที่ตั้งครรภ์เลยค่ะ ผ่านการทดสอบจากสถาบัน Dermscan Asia การันตีได้ว่าเหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย ไม่ระคายเคืองผิวค่ะ
เอาละค่ะ หลังจากอ่านข้อมูลไปแล้ว เรามาดูหน้าตาผลิตภัณฑ์กันดีกว่า
เนื้อผลิตภัณฑ์ก็คล้ายกับเจลลดรอยแผลเป็นทั่วไปค่ะ คือเป็นเจลใส แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือสีค่ะ ของ
Puricas ตัวนี้จะมีสีออกเหลืองส้มหน่อยๆ (มีนคิดเอาเองว่าคงเป็นสีจากดราก้อนบลัดค่ะ) เนื้อเจลค่อนข้างเหลวเหมือนกันค่ะ เมื่อเกลี่ยแล้วจะกลายเป็นน้ำ (watery) แล้วซึมแห้งไปเลยค่ะ ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ ส่วนกลิ่นนี่มีนมั่นใจมากว่าเค้าไม่ใส่น้ำหอมแน่นอน 55555 คือมันไม่ถึงกับเหม็นนะคะ แค่ไม่หอม ออกแนวเป็นกลิ่นของส่วนผสมเลยจริงๆ (อธิบายกลิ่นไม่ถูกเหมือนกันค่ะ) อ้อ ตัวนี้มีนใช้ทั้งเช้าและเย็น ตอนเช้าจะใช้ก่อนลงกันแดดค่ะ ไม่พบว่าเป็นคราบหรือรบกวนการแต่งหน้าใดๆ นะคะ
ทีนี้มาพูดถึงวิธีใช้กันบ้างดีกว่า ในเอกสารกำกับตัวยาเค้าเขียนมาว่า “ให้ทาแล้วนวดเบาๆ บริเวณแผลเป็น 3-4 ครั้งต่อวัน ใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง” แต่เอาเข้าจริงแล้ว ด้วยชีวิตที่ต้องทำงาน มีนก็ใช้จริงๆ แค่วันละ 2 ครั้งเท่านั้นล่ะค่ะ คือตอนเช้าก่อนแต่งหน้า และตอนกลางคืนก่อนนอนค่ะ โดยวิธีใช้ของมีนคือ มีนจะทาเฉพาะบริเวณรอยแผลเท่านั้นค่ะ (ซึ่งก็เกือบทั้งหน้าอยู่ดีนั่นแหละ โธ่ 555555) ส่วนแผลจากอุบัติเหตุบนร่างกายก็ใช้ในลักษณะเดียวกันเลยค่ะ
มีนมีแผลที่ถ่ายรูปไว้และทดลองใช้
Puricas อยู่ 2 บริเวณด้วยกัน คือ รอยสิวบนใบหน้า (แก้มทั้งสองข้าง) และรอยแผลที่บริเวณใกล้ๆ หัวเข่าค่ะ หลังจากทดลองใช้
Puricas อยู่ 2 สัปดาห์ตามคำเคลมของเค้าเป๊ะ มาดูผลลัพธ์ที่ได้กันค่ะ!
(หมายเหตุ: ภาพ Before – After มีนถ่ายจากมุมเดียวกันของห้อง ในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อพยายามจะให้แสงและสีของภาพออกมาตรงกันมากที่สุดค่ะ ผลลัพธ์จะได้ไม่เพี้ยน แต่มีนก็ไม่ใช่มืออาชีพ อาจจะมีเออเร่อบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะคะ)
สำหรับมีน ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าน่าพอใจมากเลยค่ะ รอยสิวบนแก้ม โดยเฉพาะรอยใหญ่ๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด ขนาดมีนทาแค่วันละ 2 ครั้งเช้า – เย็นเอง (ตอนแรกก็ไม่ได้สังเกตผิวตัวเองหรอกค่ะ พอถ่ายรูปเทียบเท่านั้นแหละ โอ้โห) ส่วนรอยถลอกที่เข่านั้นมีนเห็นผลชัดเจนด้วยตาเปล่าตั้งแต่ก่อนถ่ายรูปเทียบแล้วค่ะ ชัดมากว่ารอยแผลสมานแล้วหายไปเลย เหลือรอยนิดหน่อยเท่านั้นเอง ดีใจมากค่ะ เอาไปเลย 5 คะแนนเต็ม!
โดยสรุปแล้ว มีนชอบ
Puricas Dragon’s Blood Scar Gel นะคะ คือนอกจากจะใช้แล้วเห็นผลชัดเจนได้จริง สิ่งที่มีนชอบมากที่สุดคือความ “อรรถประโยชน์” ของมันค่ะ จะว่ายังไงดีล่ะ... คือมันออกจะเป็น “ยา” มากกว่าผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับมีนค่ะ คือใช้รักษาแผล ช่วยให้แผลสมานตัวและหายเร็วขึ้นก็ได้ ใช้รักษารอยแผลเป็นหลายๆ ชนิดก็ได้ และรอยสิวก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ถือเป็นผลพลอยได้ละกัน มีนเลยประทับใจค่ะ ถ้าใช้หลอดที่แบรนด์ให้มานี้หมดมีนก็คงหาซื้อหลอดใหม่มาติดบ้านไว้แน่ๆ ค่ะ (แต่ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะหมดนะคะ หลอดนึงเยอะมาก ใช้ทีละนิดเดียวเอง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ระวังตัวไม่ให้มีแผลอีกน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดนะมีนนะ 555555
ขออนุญาตจบการรีวิวดื้อๆ ตรงนี้ค่ะ
[SR] Review เจลลดรอยแผลเป็นและรอยสิว สารสกัดดราก้อนบลัด
เข้าเรื่องเลยละกัน วันนี้มีนจะมารีวิว scar gel หรือเจลลดรอยแผลเป็นนั่นแหละค่ะ ขอเล่าก่อนเลยว่ามีนเคยใช้ผลิตภัณฑ์เจลลดรอยแผลเป็นมาบ้างเหมือนกัน โดยจะใช้กับรอยสิวซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังไม่เคยรีวิวเจลลดรอยแผลเป็นของแบรนด์ไหนมาก่อนเลยค่ะ พอดีกับที่ทาง Puricas (เพียวริก้าส์) เค้าส่งผลิตภัณฑ์ Scar gel มาให้ทดลองใช้พอดีและก็เป็นช่วงที่มีนเองมีแผลจากความซุ่มซ่าม บวกกับรอยสิวพอดีเลยด้วย ก็เลยถือโอกาสนี้ลองใช้ Scar gel ของเพียวริก้าส์ แล้วถ่ายรูปทำรีวิวให้ทุกคนดูซะเลยแล้วกันค่ะ
ก่อนจะพูดถึงตัวผลิตภัณฑ์และรีวิว ขอพูดถึงสารสกัดหลักที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ของแบรนด์นี้ก่อนแล้วกันนะคะ สารที่ว่านี้ก็คือ “สารสกัดดราก้อนบลัด” นั่นเองค่ะ
เห็นตอนแรกมีนก็แบบ ห๊ะ! ดราก้อนบลัด!? เลือดมังกร? ใช่หรอ?? (นี่ยิ่งบ้าแฮร์รี่พอตเตอร์อยู่ด้วย มโนไปสิ 555555) ด้วยความสงสัยก็เลยไป google ดูค่ะ ปรากฏว่าเจ้า Dragon's Blood เนี่ย เป็นสิ่งที่ได้จาก "พืช" ค่ะ พืชที่ว่านี้ก็คือต้น Croton Lechleri เป็นไม้ยืนต้นสมุนไพรที่พบในแถบอเมซอน มีสรรพคุณทางยามากมาย ช่วยสมานแผล ต้านการอักเสบ ซ่อมแซมผิวหนัง สร้างคอลลาเจน และยังช่วยลดจุดด่างดำได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ google ยังบอกอีกว่า แค่ 1% ของสารสกัดดราก้อนบลัดก็มีฤทธิ์เทียบเท่าถึง 2 เท่าของ Allium Cepa แล้วค่ะ (Allium Cepa เป็นตัวยาหลักในเจลลดรอยแผลเป็นทั่วไป ใครเคยใช้คงคุ้นเคยกันดีนะคะ)
เท่าที่มีนเคยใช้เจลลดรอยแผลเป็นมา ถ้าเข้าใจไม่ผิด เหมือนว่า Puricas จะเป็นแบรนด์แรกในไทยเลยค่ะที่นำเอาสารสกัดดราก้อนบลัดมาใช้ในการลดรอยแผลเป็น ในเอกสารกำกับยาที่แนบมากับกล่องระบุว่า เจลตัวนี้นอกจากจะช่วยเรื่องรอยสิวแล้ว ยังช่วยรักษาแผลอื่นๆ ทั้งแผลใหม่และแผลเก่า ไม่ว่าจะเป็นแผลเป็นต่างๆ แผลจากการผ่าตัด แผลเป็นนูนและแผลลึก แผลคีลอยด์ และแผลเป็นจากสิว โดยเค้าเคลมมาว่าสามารถเห็นผลได้ใน 2 สัปดาห์เลยค่ะ
นอกจากดราก้อนบลัดแล้ว Puricas ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ อีกหลายอย่างเลยค่ะ เช่น
Allium Cepa (สารสกัดจากหัวหอม) – ลดรอยแผลเป็นและจุดด่างดำให้จางลง
Aloe Vera (ว่านหางจระเข้) – ให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ ลดรอยแดง รอยดำ
Centella Asistica (ใบบัวบก) – ลดการอักเสบของแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
Allantoin (อัลลันโทอิน) – ลดการระคายเคือง
สารสกัดทั้งหมดเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี ไม่มีสเตียรอยด์ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน สามารถใช้ได้แม้แต่เด็กและผู้ที่ตั้งครรภ์เลยค่ะ ผ่านการทดสอบจากสถาบัน Dermscan Asia การันตีได้ว่าเหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย ไม่ระคายเคืองผิวค่ะ
เอาละค่ะ หลังจากอ่านข้อมูลไปแล้ว เรามาดูหน้าตาผลิตภัณฑ์กันดีกว่า
เนื้อผลิตภัณฑ์ก็คล้ายกับเจลลดรอยแผลเป็นทั่วไปค่ะ คือเป็นเจลใส แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือสีค่ะ ของ Puricas ตัวนี้จะมีสีออกเหลืองส้มหน่อยๆ (มีนคิดเอาเองว่าคงเป็นสีจากดราก้อนบลัดค่ะ) เนื้อเจลค่อนข้างเหลวเหมือนกันค่ะ เมื่อเกลี่ยแล้วจะกลายเป็นน้ำ (watery) แล้วซึมแห้งไปเลยค่ะ ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ ส่วนกลิ่นนี่มีนมั่นใจมากว่าเค้าไม่ใส่น้ำหอมแน่นอน 55555 คือมันไม่ถึงกับเหม็นนะคะ แค่ไม่หอม ออกแนวเป็นกลิ่นของส่วนผสมเลยจริงๆ (อธิบายกลิ่นไม่ถูกเหมือนกันค่ะ) อ้อ ตัวนี้มีนใช้ทั้งเช้าและเย็น ตอนเช้าจะใช้ก่อนลงกันแดดค่ะ ไม่พบว่าเป็นคราบหรือรบกวนการแต่งหน้าใดๆ นะคะ
ทีนี้มาพูดถึงวิธีใช้กันบ้างดีกว่า ในเอกสารกำกับตัวยาเค้าเขียนมาว่า “ให้ทาแล้วนวดเบาๆ บริเวณแผลเป็น 3-4 ครั้งต่อวัน ใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง” แต่เอาเข้าจริงแล้ว ด้วยชีวิตที่ต้องทำงาน มีนก็ใช้จริงๆ แค่วันละ 2 ครั้งเท่านั้นล่ะค่ะ คือตอนเช้าก่อนแต่งหน้า และตอนกลางคืนก่อนนอนค่ะ โดยวิธีใช้ของมีนคือ มีนจะทาเฉพาะบริเวณรอยแผลเท่านั้นค่ะ (ซึ่งก็เกือบทั้งหน้าอยู่ดีนั่นแหละ โธ่ 555555) ส่วนแผลจากอุบัติเหตุบนร่างกายก็ใช้ในลักษณะเดียวกันเลยค่ะ
มีนมีแผลที่ถ่ายรูปไว้และทดลองใช้ Puricas อยู่ 2 บริเวณด้วยกัน คือ รอยสิวบนใบหน้า (แก้มทั้งสองข้าง) และรอยแผลที่บริเวณใกล้ๆ หัวเข่าค่ะ หลังจากทดลองใช้ Puricas อยู่ 2 สัปดาห์ตามคำเคลมของเค้าเป๊ะ มาดูผลลัพธ์ที่ได้กันค่ะ!
(หมายเหตุ: ภาพ Before – After มีนถ่ายจากมุมเดียวกันของห้อง ในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อพยายามจะให้แสงและสีของภาพออกมาตรงกันมากที่สุดค่ะ ผลลัพธ์จะได้ไม่เพี้ยน แต่มีนก็ไม่ใช่มืออาชีพ อาจจะมีเออเร่อบ้าง ต้องขออภัยด้วยนะคะ)
สำหรับมีน ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าน่าพอใจมากเลยค่ะ รอยสิวบนแก้ม โดยเฉพาะรอยใหญ่ๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด ขนาดมีนทาแค่วันละ 2 ครั้งเช้า – เย็นเอง (ตอนแรกก็ไม่ได้สังเกตผิวตัวเองหรอกค่ะ พอถ่ายรูปเทียบเท่านั้นแหละ โอ้โห) ส่วนรอยถลอกที่เข่านั้นมีนเห็นผลชัดเจนด้วยตาเปล่าตั้งแต่ก่อนถ่ายรูปเทียบแล้วค่ะ ชัดมากว่ารอยแผลสมานแล้วหายไปเลย เหลือรอยนิดหน่อยเท่านั้นเอง ดีใจมากค่ะ เอาไปเลย 5 คะแนนเต็ม!
โดยสรุปแล้ว มีนชอบ Puricas Dragon’s Blood Scar Gel นะคะ คือนอกจากจะใช้แล้วเห็นผลชัดเจนได้จริง สิ่งที่มีนชอบมากที่สุดคือความ “อรรถประโยชน์” ของมันค่ะ จะว่ายังไงดีล่ะ... คือมันออกจะเป็น “ยา” มากกว่าผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับมีนค่ะ คือใช้รักษาแผล ช่วยให้แผลสมานตัวและหายเร็วขึ้นก็ได้ ใช้รักษารอยแผลเป็นหลายๆ ชนิดก็ได้ และรอยสิวก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ถือเป็นผลพลอยได้ละกัน มีนเลยประทับใจค่ะ ถ้าใช้หลอดที่แบรนด์ให้มานี้หมดมีนก็คงหาซื้อหลอดใหม่มาติดบ้านไว้แน่ๆ ค่ะ (แต่ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะหมดนะคะ หลอดนึงเยอะมาก ใช้ทีละนิดเดียวเอง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ระวังตัวไม่ให้มีแผลอีกน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดนะมีนนะ 555555
ขออนุญาตจบการรีวิวดื้อๆ ตรงนี้ค่ะ