สวัสดีค่ะ อยากรีวิวเครื่องสำอางค์มานานแล้ว แต่ไม่เคยจะว่างรวบรวมข้อมูลสักที วันนี้เลยอยากมารีวิวครีมดารา ที่ขายอยู่ใน EVEANDBOY สยามแสควร์วัน ค่ะ เดินมาทางซ้ายจนสุดทางจะเจอมุมที่เขียนว่า Celebrity Brand หรือ เครื่องสำอางที่เจ้าของแบรนด์เป็นดารานั่นเอง!!!

จากที่สมัยก่อนเคยใช้เครื่องสำอางค์เคาน์เตอร์แบรนด์ หมดเงินแต่ละเดือนไปเยอะมากๆๆๆ ไม่ต่ำกว่า 5 พันบาท T-T แต่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนมาลองใช้ยี่ห้ออื่นๆมากขึ้น ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยเป็นใจ อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัดโน๊ะ ส่วนตัวรู้สึกว่าแบรนด์ดาราพวกนี้น่าสนใจ และน่าจะคุ้มค่าที่สุด เพราะดารากล้าเอาหน้าตัวเองเป็นประกัน และคิดว่าค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดน่าจะต่ำกว่าพวกเคาน์เตอร์แบรนด์อยู่มากๆๆ
เริ่มเลยดีกว่า เรากำลังหาครีมที่อยากได้ ประกอบกับคุณแฟนใจดี ช่วยออกเงินให้ครึ่งนึง เลยจัดไปจ้าา 3 แบรนด์ที่เราเลือกคือ Glo Essential, Klaire Anti-Pollution Essence และ SEWA Insam Essence

ตัวแรก Glo Essential ก่อนเลย
สารสกัดจากดอกพีโอนี เน้นเรื่องความชุ่มชื่น ผิวกระจ่างใส จุดด่างดำจางลง และผลัดเซลผิว เปิดขวดมาปุ๊บ มีกลิ่นดอกไม้หอมๆอ่อนๆ น้ำตบมีเนื้อใสๆบางๆสีชมพู พบตบปุ๊บ... มันบางจริงๆแฮะ รู้สึกเหมือนตบโทนเนอร์ ไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่างเท่าไหร่ พบตบเสร็จกลิ่นดอกไม้จะหายไป มีความรู้สึกเย็นๆหลังตบประมาณ 1-2 นาที

ความคุ้มค่าต่อราคา (3/5): 1,250 บาท (200 มล.) หรือ 6.25 บาทต่อ มล. พอเทียบราคาต่อ มล. ถือว่าถูกที่สุดใน 3 แบรนด์ แต่เพราะเนื้อมันบางเหมือนโทนเนอร์ มันเจือจาง เราเลยไม่ค่อยรู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ แต่อาจจะมีคนชอบน้ำตบเบาๆแบบนี้
กลิ่น (4/5): หอมดี ได้กลิ่นดอกไม้เบาๆ ไม่รบกวนการตบ
ความชุ่มชื้นของผิวหลังตบ (3/5): สงสัยเพราะเนื้อน้ำตบบาง เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การใช้งานของแพ็คเกจ (3/5): ค่อนข้างไม่สะดวกเพราะต้องหมุนเกลียว และจับขวดเทให้น้ำตบออกมาจากรูที่เจาะตรงกลาง (เหมือนขวดโทนเนอร์น่ะ)
ตัวที่สอง Klaire Anti-Pollution Essence
เห็นว่าจุดขายคืออัดแน่นไปด้วยสารที่มาจากการบ่มหมักแบคทีเรีย และสารให้ความชุ่มชื้น ข่วยฟื้นฟูผิวหน้าจากมลภาวะ เนื้อน้ำตบมีสีเหลืองอ่อนๆ กลิ่นจะฉุนกว่า Glo เล็กน้อย เมื่อตบแล้วรู้สึกว่า... ความชุ่มชิ้นค่อนข้างดีทีเดียว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่จะมีกลิ่นตุ่นๆหลังตบเสร็จ

ความคุ้มค่าต่อราคา (3/5): 890 บาท (30 มล.) หรือ 29.67 บาทต่อ มล. ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอีกสองแบรนด์
กลิ่น (4/5): กลิ่นหอมกำลังดี เค้าเคลมว่าไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมนะ
ความชุ่มชื้นของผิวหลังตบ (4/5): กักความชุ่มชื้นได้ค่อยข้างดีเลย เพราะเนื้อน้ำตบมีเข้มข้นอยู่
การใช้งานของแพ็คเกจ (3/5): แพ็คเกจข้างนอกดูสวยงาม มีความญี่ปุ่น แต่ตอนใช้งานตัวปั๊มมันควบคุมความแรง-เบาได้ค่อนข้างยาก เลยมีการกระฉอกของน้ำตบบ้าง
ตัวสุดท้าย SEWA Insam Essence
น้ำตบโสมของวุ้นเส้น เห็นว่าจุดขายคือมีความผสมของโสมและสมุนไพรอีกมากมาย ทำให้ผิวเด้ง กระชับรูขุมขน ลดการเกิดริ้วรอย เนื้อน้ำตบมีความเข้มข้น สีน้ำตาลทองๆ มีกลิ่นความเป็นโสมชัดเจนมาก พอตบเท่านั้นแหละ.. คือมันมีกลิ่นโสมจางๆหลังตบ เก็บความชุ่มชื้นได้ดีมาก มีความเย็นๆสบายๆหลังตบอีกประมาณ 1-2 นาที ตัวนี้เป็นน้ำตบที่ให้ความรู้สึกไม่เหมือนตัวอื่น ตอนแรกเห็นเนื้อก็คิดว่าจะเหนียว แต่พอตบปั๊บ ซึบเข้าผิวไปเลย

ความคุ้มค่าต่อราคา (4/5): 1,190 บาท (120 มล.) หรือ 9.92 บาทต่อ มล. ราคาสูงกว่า Glo แต่ต่ำกว่า Klaire ค่อนข้างเยอะ ส่วนตัวรู้สึกว่าคุ้ม เพราะเนื้อน้ำตบเข้มข้นมากสุดใน 3 แบรนด์
กลิ่น (4/5): ส่วนตัวชอบกลิ่นความเป็นสมุนไพร และกลิ่นโสมหลังตบ *กรณีคนไม่ชอบกลิ่นโสมน่าจะต้องให้ 3/5 คะแนน
ความชุ่มชื้นของผิวหลังตบ (4/5): ผิวชุ่มชื้นมาก สงสัยคงเป็นเพราะมีความเย็นๆสบายๆหลังตบค้างอยู่ประมาณ 1-2 นาทีด้วย
การใช้งานของแพ็คเกจ (4/5): แพ็คเกจดูหรูแบบเกาหลี ขวดปั๊มหยิบจับง่ายดี และหัวปั๊มมันหนืดๆ เราเลยกำหนดความแรง-เบาในการปั๊มได้
จบแล้วววว กับการรีวิวครีมแบรนด์ดาราของเรา หวังว่าจะมีประโยชน์กับสาวๆที่มองหาทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากพวกเคาน์เตอร์แบรนด์นะ ส่วนตัวเราชอบ Sewa เพราะมันรู้สึกคุ้มดี เนื้อเข้มข้น และดูแพง สุดท้ายก็อยู่ที่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคนเนอะ ขอให้เจอครีมที่ใช่ที่ชอบนะจ๊ะ แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้า (:
[CR] รวมครีมดารา อันไหนเริ่ด อันไหนพัง มาฟังทางนี้!!!!!!
จากที่สมัยก่อนเคยใช้เครื่องสำอางค์เคาน์เตอร์แบรนด์ หมดเงินแต่ละเดือนไปเยอะมากๆๆๆ ไม่ต่ำกว่า 5 พันบาท T-T แต่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนมาลองใช้ยี่ห้ออื่นๆมากขึ้น ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยเป็นใจ อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัดโน๊ะ ส่วนตัวรู้สึกว่าแบรนด์ดาราพวกนี้น่าสนใจ และน่าจะคุ้มค่าที่สุด เพราะดารากล้าเอาหน้าตัวเองเป็นประกัน และคิดว่าค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดน่าจะต่ำกว่าพวกเคาน์เตอร์แบรนด์อยู่มากๆๆ
เริ่มเลยดีกว่า เรากำลังหาครีมที่อยากได้ ประกอบกับคุณแฟนใจดี ช่วยออกเงินให้ครึ่งนึง เลยจัดไปจ้าา 3 แบรนด์ที่เราเลือกคือ Glo Essential, Klaire Anti-Pollution Essence และ SEWA Insam Essence
ตัวแรก Glo Essential ก่อนเลย
สารสกัดจากดอกพีโอนี เน้นเรื่องความชุ่มชื่น ผิวกระจ่างใส จุดด่างดำจางลง และผลัดเซลผิว เปิดขวดมาปุ๊บ มีกลิ่นดอกไม้หอมๆอ่อนๆ น้ำตบมีเนื้อใสๆบางๆสีชมพู พบตบปุ๊บ... มันบางจริงๆแฮะ รู้สึกเหมือนตบโทนเนอร์ ไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่างเท่าไหร่ พบตบเสร็จกลิ่นดอกไม้จะหายไป มีความรู้สึกเย็นๆหลังตบประมาณ 1-2 นาที
ความคุ้มค่าต่อราคา (3/5): 1,250 บาท (200 มล.) หรือ 6.25 บาทต่อ มล. พอเทียบราคาต่อ มล. ถือว่าถูกที่สุดใน 3 แบรนด์ แต่เพราะเนื้อมันบางเหมือนโทนเนอร์ มันเจือจาง เราเลยไม่ค่อยรู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ แต่อาจจะมีคนชอบน้ำตบเบาๆแบบนี้
กลิ่น (4/5): หอมดี ได้กลิ่นดอกไม้เบาๆ ไม่รบกวนการตบ
ความชุ่มชื้นของผิวหลังตบ (3/5): สงสัยเพราะเนื้อน้ำตบบาง เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การใช้งานของแพ็คเกจ (3/5): ค่อนข้างไม่สะดวกเพราะต้องหมุนเกลียว และจับขวดเทให้น้ำตบออกมาจากรูที่เจาะตรงกลาง (เหมือนขวดโทนเนอร์น่ะ)
ตัวที่สอง Klaire Anti-Pollution Essence
เห็นว่าจุดขายคืออัดแน่นไปด้วยสารที่มาจากการบ่มหมักแบคทีเรีย และสารให้ความชุ่มชื้น ข่วยฟื้นฟูผิวหน้าจากมลภาวะ เนื้อน้ำตบมีสีเหลืองอ่อนๆ กลิ่นจะฉุนกว่า Glo เล็กน้อย เมื่อตบแล้วรู้สึกว่า... ความชุ่มชิ้นค่อนข้างดีทีเดียว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่จะมีกลิ่นตุ่นๆหลังตบเสร็จ
ความคุ้มค่าต่อราคา (3/5): 890 บาท (30 มล.) หรือ 29.67 บาทต่อ มล. ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอีกสองแบรนด์
กลิ่น (4/5): กลิ่นหอมกำลังดี เค้าเคลมว่าไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมนะ
ความชุ่มชื้นของผิวหลังตบ (4/5): กักความชุ่มชื้นได้ค่อยข้างดีเลย เพราะเนื้อน้ำตบมีเข้มข้นอยู่
การใช้งานของแพ็คเกจ (3/5): แพ็คเกจข้างนอกดูสวยงาม มีความญี่ปุ่น แต่ตอนใช้งานตัวปั๊มมันควบคุมความแรง-เบาได้ค่อนข้างยาก เลยมีการกระฉอกของน้ำตบบ้าง
ตัวสุดท้าย SEWA Insam Essence
น้ำตบโสมของวุ้นเส้น เห็นว่าจุดขายคือมีความผสมของโสมและสมุนไพรอีกมากมาย ทำให้ผิวเด้ง กระชับรูขุมขน ลดการเกิดริ้วรอย เนื้อน้ำตบมีความเข้มข้น สีน้ำตาลทองๆ มีกลิ่นความเป็นโสมชัดเจนมาก พอตบเท่านั้นแหละ.. คือมันมีกลิ่นโสมจางๆหลังตบ เก็บความชุ่มชื้นได้ดีมาก มีความเย็นๆสบายๆหลังตบอีกประมาณ 1-2 นาที ตัวนี้เป็นน้ำตบที่ให้ความรู้สึกไม่เหมือนตัวอื่น ตอนแรกเห็นเนื้อก็คิดว่าจะเหนียว แต่พอตบปั๊บ ซึบเข้าผิวไปเลย
ความคุ้มค่าต่อราคา (4/5): 1,190 บาท (120 มล.) หรือ 9.92 บาทต่อ มล. ราคาสูงกว่า Glo แต่ต่ำกว่า Klaire ค่อนข้างเยอะ ส่วนตัวรู้สึกว่าคุ้ม เพราะเนื้อน้ำตบเข้มข้นมากสุดใน 3 แบรนด์
กลิ่น (4/5): ส่วนตัวชอบกลิ่นความเป็นสมุนไพร และกลิ่นโสมหลังตบ *กรณีคนไม่ชอบกลิ่นโสมน่าจะต้องให้ 3/5 คะแนน
ความชุ่มชื้นของผิวหลังตบ (4/5): ผิวชุ่มชื้นมาก สงสัยคงเป็นเพราะมีความเย็นๆสบายๆหลังตบค้างอยู่ประมาณ 1-2 นาทีด้วย
การใช้งานของแพ็คเกจ (4/5): แพ็คเกจดูหรูแบบเกาหลี ขวดปั๊มหยิบจับง่ายดี และหัวปั๊มมันหนืดๆ เราเลยกำหนดความแรง-เบาในการปั๊มได้
จบแล้วววว กับการรีวิวครีมแบรนด์ดาราของเรา หวังว่าจะมีประโยชน์กับสาวๆที่มองหาทางเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากพวกเคาน์เตอร์แบรนด์นะ ส่วนตัวเราชอบ Sewa เพราะมันรู้สึกคุ้มดี เนื้อเข้มข้น และดูแพง สุดท้ายก็อยู่ที่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคนเนอะ ขอให้เจอครีมที่ใช่ที่ชอบนะจ๊ะ แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้า (: