หลังจากนักแสดงชื่อดัง ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ได้นำทีมงานเดินทางไปช่วยเหลือ นายกิตติ กลิ่นเกลี้ยง หรือ กิตติ ดัสกร ดาวร้ายชื่อดัง หลังมีกระแสเผยแพร่ออกไปว่าประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
เมื่อเดินทางไปยังที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พบว่าภายในมีแต่ของเก่าเก็บและอาหารที่ส่งกลิ่นเน่าเหม็นวางเกลื่อนอยู่ทั้งบริเวณชั้นบนและชั้นล่างของบ้าน รวมทั้งผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่ใช้แล้ว ถูกถอดทิ้งเอาไว้เต็มไปหมด โดยไม่ได้นำไปทิ้ง ไทด์ เอกพันธ์ ในฐานะหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้พาทีมงานเข้าทำความสะอาดบ้านให้ทันที
คิตตี้ ผู้ที่แชร์เรื่องราวของกิตติ ดัสกร ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยตอนแรกใช้คำเรียกขานดาวร้ายชื่อดังว่า ปะป๋า จนหลายคนคิดว่าเธอเป็นบุตรสาวของนายกิตติ แต่ในภายหลังได้ชี้แจงว่าตนเป็นเพียงหลานสาวของลุงกิตติ ที่แม่พามาฝากให้ลุงดูแลเท่านั้น เมื่อลุงเจ็บป่วย ตนจึงทอดทิ้งไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด น.ส.ศศิประภา อายุ 28 ปี ได้เปิดเผยว่า ที่จริงแล้วตนเป็นอดีตภรรยาของนายกิตติ ที่เลิกรากันไปประมาณ 2 ปีแล้ว โดยมีบุตรด้วยกัน 2 คน คือเด็กหญิงอายุ 10 ปี และเด็กชายวัย 1 ปี เศษ ส่วนเด็กชายอีกคนนั้นเป็นหลานอายุ 4 ปี โดยเด็กทั้ง 3 คน ปัจจุบันได้นำมาอยู่บ้านหลังนี้ด้วย
น.ส.ศศิประภา เผยว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุตนได้พบนายกิตติอีกครั้งหลังแยกทาง จึงนั่งรถมาด้วยกัน แต่เกิดอุบัติเหตุตกข้างทางจนนายกิตติต้องเข้ารักษาตัวที่รพ. ตนจึงกลับมาอยู่ดูแล ที่โพสต์ขอความช่วยเหลือไปในโซเชียล เพราะตนไม่มีรายได้ และนายกิตติเองก็ไม่มีใคร ญาติพี่น้องก็ไม่ได้มาสนใจ ส่วนขยะและของเก่าภายในบ้าน ตอนที่ตนเข้ามาก็เห็นมีอยู่ก่อนแล้ว
โดยพบว่าหลังจากนายเอกพันธ์ พร้อมด้วย นายสมยศ วิชากร นอภ.ไทยน้อย ได้เข้าช่วยเหลือมีการตรวจสอบเรื่องการเปิดบัญชีรับบริจาค โดย คิตตี้ อายุ 28 ปี อดีตภรรยา อ้างว่า เพิ่งกลับเข้ามาดูแลเมื่อเดือนกว่า เมื่อเห็นสภาพจึงโพสต์ขอความช่วยเหลือ เพราะไม่สามารถติดต่อญาติ นายกิตติ ที่ไหนได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการเปิดเผยว่า คิตตี้ เป็นอดีตภรรยา พบว่าในเฟซบุ๊ก มีการลบภาพต่างๆ ที่โพสต์เกี่ยวกับการขอบริจาคก่อนหน้าออกไปจนหมด รวมทั้งยังพบว่า มีภาพที่ถ่ายภายในบ้านหลังดังกล่าวเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาด้วย
ทั้งนี้ นายเอกพันธ์ เปิดเผยว่า จะตั้งกรรมการขึ้นมา 3 คนเพื่อดูแลบัญชีเงินบริจาค เบื้องต้นน่าจะมี กรรมการหมู่บ้าน คุณอมตะ ซึ่งเป็นเพื่อนนักแสดงที่มาแจ้งเรื่องกับตน และคิทตี้ ซึ่งเป็นอดีตภรรยาเพื่อควบคุมการเบิกจ่ายเงินบริจาคต่อไป รวมทั้งจะติดต่อ พม.จังหวัด เข้ามาดูแลเด็กๆ ต่อไป
อดีตภรรยา เปิดเผยว่า หลังจากที่เลิกรากันไปได้ ราว 2 ปี เมื่อตนทราบว่า นายกิตติ ล้มป่วย จึงกลับมาดูแล และทราบว่า นายกิตติ นั้นอยู่คนเดียว และสภาพบ้านทรุดโทรมลงไปกว่าเดิม และตนขอยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนทำบ้านเลอะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว จนกระทั่งตนอยู่ดูแลนายกิตติ มาได้เดือนกว่า และตอนนี้ตนก็ออกจากงานที่ทำอยู่เพื่อมาดูแล เรื่อง ข้าวปลา อาหารพร้อมติดต่อไปหาญาติๆของนายกิตติ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงตัดสินใจตนจึงโพสต์ลงเฟสบุ๊ค เพื่อให้หน่วยงานต่างๆยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพราะว่า ลำพังตนเพียงคนเดียวนั้นดูแลไม่ไหว
คลิปวีดีโอบ้านคุณกิตติ อย่างหลอน
https://www.facebook.com/khaosod/videos/2820930094590598/
Credit: Khaosod.co.th
คิตตี้ ศศิประภา ยอมรับไม่ใช่ลูกหลาน "กิตติ ดัสกร" แต่เป็นภรรยา
หลังจากนักแสดงชื่อดัง ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ได้นำทีมงานเดินทางไปช่วยเหลือ นายกิตติ กลิ่นเกลี้ยง หรือ กิตติ ดัสกร ดาวร้ายชื่อดัง หลังมีกระแสเผยแพร่ออกไปว่าประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
เมื่อเดินทางไปยังที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พบว่าภายในมีแต่ของเก่าเก็บและอาหารที่ส่งกลิ่นเน่าเหม็นวางเกลื่อนอยู่ทั้งบริเวณชั้นบนและชั้นล่างของบ้าน รวมทั้งผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่ใช้แล้ว ถูกถอดทิ้งเอาไว้เต็มไปหมด โดยไม่ได้นำไปทิ้ง ไทด์ เอกพันธ์ ในฐานะหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้พาทีมงานเข้าทำความสะอาดบ้านให้ทันที
คิตตี้ ผู้ที่แชร์เรื่องราวของกิตติ ดัสกร ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยตอนแรกใช้คำเรียกขานดาวร้ายชื่อดังว่า ปะป๋า จนหลายคนคิดว่าเธอเป็นบุตรสาวของนายกิตติ แต่ในภายหลังได้ชี้แจงว่าตนเป็นเพียงหลานสาวของลุงกิตติ ที่แม่พามาฝากให้ลุงดูแลเท่านั้น เมื่อลุงเจ็บป่วย ตนจึงทอดทิ้งไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด น.ส.ศศิประภา อายุ 28 ปี ได้เปิดเผยว่า ที่จริงแล้วตนเป็นอดีตภรรยาของนายกิตติ ที่เลิกรากันไปประมาณ 2 ปีแล้ว โดยมีบุตรด้วยกัน 2 คน คือเด็กหญิงอายุ 10 ปี และเด็กชายวัย 1 ปี เศษ ส่วนเด็กชายอีกคนนั้นเป็นหลานอายุ 4 ปี โดยเด็กทั้ง 3 คน ปัจจุบันได้นำมาอยู่บ้านหลังนี้ด้วย
น.ส.ศศิประภา เผยว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุตนได้พบนายกิตติอีกครั้งหลังแยกทาง จึงนั่งรถมาด้วยกัน แต่เกิดอุบัติเหตุตกข้างทางจนนายกิตติต้องเข้ารักษาตัวที่รพ. ตนจึงกลับมาอยู่ดูแล ที่โพสต์ขอความช่วยเหลือไปในโซเชียล เพราะตนไม่มีรายได้ และนายกิตติเองก็ไม่มีใคร ญาติพี่น้องก็ไม่ได้มาสนใจ ส่วนขยะและของเก่าภายในบ้าน ตอนที่ตนเข้ามาก็เห็นมีอยู่ก่อนแล้ว
โดยพบว่าหลังจากนายเอกพันธ์ พร้อมด้วย นายสมยศ วิชากร นอภ.ไทยน้อย ได้เข้าช่วยเหลือมีการตรวจสอบเรื่องการเปิดบัญชีรับบริจาค โดย คิตตี้ อายุ 28 ปี อดีตภรรยา อ้างว่า เพิ่งกลับเข้ามาดูแลเมื่อเดือนกว่า เมื่อเห็นสภาพจึงโพสต์ขอความช่วยเหลือ เพราะไม่สามารถติดต่อญาติ นายกิตติ ที่ไหนได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการเปิดเผยว่า คิตตี้ เป็นอดีตภรรยา พบว่าในเฟซบุ๊ก มีการลบภาพต่างๆ ที่โพสต์เกี่ยวกับการขอบริจาคก่อนหน้าออกไปจนหมด รวมทั้งยังพบว่า มีภาพที่ถ่ายภายในบ้านหลังดังกล่าวเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาด้วย
ทั้งนี้ นายเอกพันธ์ เปิดเผยว่า จะตั้งกรรมการขึ้นมา 3 คนเพื่อดูแลบัญชีเงินบริจาค เบื้องต้นน่าจะมี กรรมการหมู่บ้าน คุณอมตะ ซึ่งเป็นเพื่อนนักแสดงที่มาแจ้งเรื่องกับตน และคิทตี้ ซึ่งเป็นอดีตภรรยาเพื่อควบคุมการเบิกจ่ายเงินบริจาคต่อไป รวมทั้งจะติดต่อ พม.จังหวัด เข้ามาดูแลเด็กๆ ต่อไป
อดีตภรรยา เปิดเผยว่า หลังจากที่เลิกรากันไปได้ ราว 2 ปี เมื่อตนทราบว่า นายกิตติ ล้มป่วย จึงกลับมาดูแล และทราบว่า นายกิตติ นั้นอยู่คนเดียว และสภาพบ้านทรุดโทรมลงไปกว่าเดิม และตนขอยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนทำบ้านเลอะ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว จนกระทั่งตนอยู่ดูแลนายกิตติ มาได้เดือนกว่า และตอนนี้ตนก็ออกจากงานที่ทำอยู่เพื่อมาดูแล เรื่อง ข้าวปลา อาหารพร้อมติดต่อไปหาญาติๆของนายกิตติ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงตัดสินใจตนจึงโพสต์ลงเฟสบุ๊ค เพื่อให้หน่วยงานต่างๆยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพราะว่า ลำพังตนเพียงคนเดียวนั้นดูแลไม่ไหว
คลิปวีดีโอบ้านคุณกิตติ อย่างหลอน
https://www.facebook.com/khaosod/videos/2820930094590598/
Credit: Khaosod.co.th