(เขียนเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 60)
กระทู้นี้เขียนขึ้นเป็นวิทยาทานเผื่อมีพี่น้องท่านใดประสบปัญหาเดียวกันค่ะ สำหรับพี่น้องที่ไม่มีปัญหานี้ เลื่อนผ่านไปได้เลย แต่ก่อนผ่าน อย่าลืมดูแลสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกายแบบ Cardio เพื่อให้ปอดแข็งแรง กินอาหารดี ตรงเวลา นอนเร็ว คุณจะได้ไม่ต้องเสิชหาข้อมูลเรื่องฝีให้เสียเวลาอีก
"ป้องกันนั้นดีกว่าแก้ไข"อยู่แล้วใช่ไหม
ส่วนการโพสลงกลุ่มชานเรือนคุณแม่ เพราะเราก็มาเป็นฝีตอนเป็นคุณแม่ลูกอ่อนนอนน้อย ไม่มีเวลาออกกำลังกายเนี่ยแหละ
จุดประสงค์ที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่เป็นฝีหรือปุ่มแดงๆไตๆที่อักเสบกำลังจะเป็นฝี ได้ดูแลตัวเองเบื้องต้น
แต่ต้องบอกก่อนว่า เราสามารถรักษาฝีเองเบื้องต้นได้แต่มีข้อควรระวังนะ เดี๋ยวจะบอกต่อไปค่ะ ถ้าไปหาแพทบ์แผนปัจจุบันถ้าตุ่มเล็กให้ยามากิน ถ้าไม่หาย ผ่าออกอย่างเดียว แล้วค่ารักษาฝีแต่ละครั้งกับรพ.เอกชนก็ค่อนข้างแพง จากนั้นก็ต้องมารพ.ทุกวันเพื่อล้างแผลสัก 1-2 สัปดาห์ แผลห้ามโดนน้ำ ไม่ต้องอาบน้ำกันเป็นสัปดาห์เลยล่ะ
มาเริ่มกันเลยนะคะ
= ฝีเม็ดที่ 1 =
หลังจากไม่ได้เป็นฝีมานานมาก จำได้ว่าเป็นสมัยเด็กๆ เมื่อต้นปีนี้เราเป็นฝีตอนท้องได้ 8 เดือนกว่า ที่นิ้วมือขวา แต่ไม่ทราบว่าเป็นฝี เลยปล่อยให้มันบวมแดง1อาทิตย์ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุบหรือหายเอง มีหัวขาวๆ พยายามบีบหลายครั้งก็ไม่ออก จึงไปหาหมอที่รพ.ที่มีประกันสังคม แต่ไม่ได้ใช้เพราะขี้เกียจรอคิวยาวๆ พอเจอหมอ หมอก็บอกว่าเป็นฝี ต้องผ่าระบายหนองออกเท่านั้น จากนั้นก็ให้เราไปนั่งรอผ่า มีพยาบาลเดินมาแจ้งค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 4-5 พัน โอ่ววว... แพงจังค่ะ เราถามพยาบาลว่าทำไมแพงจัง อย่างนั้นขอใช้ประกันสังคมแล้วกันค่ะ พยาบาลจึงแจ้งว่าถ้าประกันสังคมต้องรออนุมัติแล้วอีก 3-4 วันมาผ่าออก ดิฉันจึงแจ้งว่าท้องอยู่กลัวลูกติดเชื้อ ทางรพ.จึงให้ผ่าวันนั้นเลย โดยเราจ่ายค่าหมอเองประมาณ 4-5ร้อย ส่วนค่าผ่ากับล้างแผลเบิกประกันสังคมเอา คุณหมอก็ให้เข้าห้องฉุกเฉินเพื่อผ่าหนองออก ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ คุณหมอยัดผ้าก็อดไว้เพื่อไม่ให้ปากแผลปิด และ ให้มาล้างแผลทุกวัน เสียครั้งละ 160 บาท แผลห้ามโดนน้ำ ก็จะอาบน้ำท่าแปลกๆหน่อย ^^
= ฝีเม็ดที่ 2 =
เวลาผ่านไป คลอดลูกแล้วก็เกิดฝีที่สองขึ้นที่หน้าแข้งซ้าย มันเริ่มจากบวมๆแดงๆมีไตๆ ปล่อยไป 3-4 วันมันก็ใหญ่ขึ้น เป็น 2 วงค่ะ นึกถึงไข่ดาว วงในจะสีแดงมาก วงนอกจะสีแดงอ่อนๆ เราไม่อยากผ่า เห็นสีขาวๆอยู่ตรงกลางคิดว่าบีบออกก็น่าจะหายแต่บีบก็ไม่ออก จึงเสิร์ชหาข้อมูลในเนตว่าเค้ารักษาเองกันยังไงให้ปลอดภัย จึงได้ข้อมูลว่า ทาแอลกอฮอลที่ฝี แล้วใช้เข็มปลอดเชื้อหาซื้อได้ตามร้านขายยา ถ้าไม่สะอาดระวังเป็นบาดทะยัก พอดีเรามีภูมิคุ้มกันบาดทะยักแล้ว จากนั้นก็ลงมือเลย....นำเข็มมาเช็ดแอลกอฮอลล์แล้วรนไฟ แอลกอฮอลเช็ดฝี แล้วเอาเข็มจิ้มเข้าไปที่สีขาวๆที่น่าจะเป็นหนังบางๆหุ้มหนองอยู่ จากนั้นก็บีบเอาหนองออก หนองออกมาเป็นยวงเลยคร่า บีบจนหนองหมด ข้อสังเกตุคือหนองไม่ออกมาแล้ว ที่ออกมาคือเลือดกับน้ำเหลือง จากนั้นก็ทาแอลกอฮอลล์แล้วแปะปลาสเตอร์ เราสังเกตแผลว่ามันบวมน้อยลงกดแล้วแข็งๆ น่าจะเป็นเนื้อที่อักเสบถ้ามีหนองจะกดแล้วนิ่มๆ กดแล้วยังเจ็บอยู่ ก็สังเกตอาการสัก 12 ชม. ปรากฏว่ามันบวมแดงขึ้นเหมือนเดิมจึงเจาะออกเหมือนครั้งแรก ก็มีหนองออกอีกค่ะ ดูอาการสัก 12 ชม. แผลไม่บวมขึ้น จึงดูอาการอีก 12 ชม. ปรากฏว่าแผลหาย อาการแผลหายคือสีแดงวงในจางลงสีแดงวงนอกค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเข้มเหมือนรอยแผลเป็น กดตรงแผลมันเป็นนูนแข็งๆ แม้จะยังเจ็บอยู่ พอผ่านไปสัก 2-3 วัน ก็จะหายเจ็บ แผลก็ค่อยๆยุบลง และประมาณ 3 เดือนแผลเป็นก็เหลือแค่จุดเล็กสีคล้ำๆ
= ฝีเม็ดที่ 3 =
หลังจากฝีที่ 2 ไม่กี่สัปดาก็เป็นฝีที่ 3 ขึ้นที่แขนขวา ...อีกแล้ววว คราวนี้ลองไปหาหมอตั้งแต่เนิ่นๆ แค่อักเสบบวมแดงเล็กๆ ยังไม่น่าจะมีหนอง ถ้านึกถึงไข่ดาว ตอนนี้มีแต่ไข่แดง ก็ไปรพ.ใหม่ คุณหมอให้ยามากิน เรากินครบโดส ไม่หายจ้า เป็นฝีแล้ว สังเกตคือมีแดงๆ 2 วง แต่เราไม่อยากผ่า ก็เจาะเอง เจาะสองรอบถึงจะหาย
= ฝีเม็ดที่ 4 =
ขึ้นที่เอวค่อนไปด้านหลัง ก็รักษาเองด้วยวิธีเจาะเหมือนเดิม
= ฝีเม็ดที่ 5 =
แม้ว่าออกกำลังกายแล้ว กินอาหารดีแล้ว ฝีก็ยังถามหาอยู่ คราวนี้ขึ้นที่ก้น การักษาเองยากมาก เพราะมันเถิบๆเข้าไปในง่ามก้น ดูเองไม่ได้ จึงให้สามีช่วยเจาะให้ >< ก็บีบไม่ออกจ้ะ ไม่มีอะไรออกมาเลย เคสนี้ไปให้หมอผ่าออกด้วยราคา 3 พันกว่า ไม่ใช้ประกันสังคมเพราะ ไม่อยากรอแล้ว นั่งแล้วเจ็บก้น ตอนผ่าคุณหมอแจ้งว่าเนื่องจากหนังก้นมีความหนา แผลจึงลึกเข้าไป 3-4 ซม. เราล้างแผลกว่าจะหายก็ 2 สัปดาห์เต็ม ..ทรมานตรงไม่ได้อาบน้ำเนี่ยแหละ เข็ดจริงๆค่ะ ไม่อยากเป็นอีกแล้ว ไปหาหมอหมอก็ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ เสิร์ชหาข้อมูลอีกรอบว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ ก็มีหลายสาเหตุ เช่น ถ้าเป็นแพทย์แผนจีน เขาจะบอกว่าเป็นเพราะปอดไม่แข็งแรง บางเวปก็บอกว่าขับถ่ายไม่ดีลำไส้ใหญ่จึงดูดสารพิษกลับเข้าสู่ร่างกาย อืมมม ... ที่ผ่านมาเรากินดีแล้วแต่ ขับถ่ายยังไม่เป็นเวลา ไม่ได้ออกกำลังกายแบบให้เหนื่อยหอบ อืมมม ... ก็อาจจะเพราะ2อย่างนี้ ที่ผ่านมาออกกำลังกายแบบยืดเส้นโยคะมากกว่า จึงออกลังกายแบบ cardio ตอนเช้าตรู่ดื่มน้ำอุ่นเยอะๆ ให้ถ่ายทุกเช้า
แต่...ไม่ทันแล้วววจ้าาา
= ฝีเม็ดที่ 6 =
แผลเก่าเพิ่งหายไป ฝีใหม่มาอีกแล้ว พอดีเข้าห้องน้ำมือก็ไปโดนตรงที่มันเจ็บๆ เลยเอี้ยวตัวไปดู แม่จ้าววว มีปุ่มแดง3 ปุ่มเรียงกัน อยู่คนละข้างกับเม็ดก่อน ปุ่มนึงแดงใหญ่หน่อย กดแล้วเจ็บ นูนแล้ว มีหัวสิว ปุ่มนี้น่าจะพัฒนาไปเป็นฝี ส่วนอีก 2 ปุ่มเป็นแดงเล็กๆ มีหัวสิว ไม่นูน กดไม่เจ็บ ไม่น่าจะเป็นฝี ผ่านไป 2-3 วัน การสันนิฐานของเราก็ถูกต้อง เม็ดนึงกำลังจะเป็นฝีจ้า เราไปซื้อยาฆ่าเชื้อที่หมอที่ผ่าก้นเราเคยให้กิน ชื่อ Azithtromycin กินอยู่ 3 วัน ไม่ช่วยจ้ะ ปุ่มอักเสบกลายเป็นหนองแล้ว เอาเข็มจิ้ม หนองก็ออกมาแบบอั้นๆ ซึมๆออกมา สงสัยรูเล็กมั้ง นี่ถ้าผ่า ตูจะไม่ได้อาบน้ำอีก 2 อาทิตย์หรออ เสียตังอีก 5000 หรอออ... ม่ายยยยย
เราหาข้อมูลในเนตรัวๆ ไปเจอการใช้แผ่นกอเอี๊ยะ เพื่อรักษาฝี คนจีนเขารักษาด้วยวิธีนี้กัน เจ้าแผ่นกอเอี๊ยะก็หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เขาแนะนำตราแมวกงจักร แผ่นกอเอี๊ยะจะมีฤทธิ์ดูดหนองมาที่ผิวหนัง คือโดยปกติผิวหนังจะมีแรงต้านทานต่อหนองน้อยสุด หนองจึงพุ่งมาทางผิวหนังอยู่แล้ว แต่กว่ามันจะพุ่งตามธรรมชาติ มันจะใช้เวลานานและ หนองก็ใหญ่แล้ว ปวดเป็นเดือน ใครจะไปรอ พอมันออกมาหรือที่เรียกว่าหนองแตก รูก็จะใหญ่มาก ทำความสะอาดยากอีก จากที่เขาเล่ากัน แต่ถ้าใช้เจ้าแผ่นกอเอี๊ยะเนี่ย มันจะดูดหนองออกมาเร็วขึ้น เราก็ไปหาซื้อที่ร้ายขายยา อย่าซื้อผิดไปซื้อแผ่นกอเอี๊ยะแปะสิวนะ สำหรับแปะสิวจะเป็นกระดาษสีขาว แต่ถ้าสำหรับแปะหนองจะเป็นแผ่นวงกลม มียางเหนียวๆสีดำๆ แผ่นละ 3 บาท เราซื้อมาแล้วแปะเลย บางคนบอกว่า 1 วันเปลี่ยนที บางคนบอกว่าแปะจนกว่ายาจะหาย แต่เราอาบน้ำทีก็เปลี่ยนที แปะ 12 ชม.แรก คือแปะเช้าก่อนไปทำงาน พอตกเย็นกลับบ้านก็ลองเอาแผ่นออก เอออ....มีหนองติดกอเอี๊ยะมา เลยลองบีบดู ยังไม่มีอะไรออกมาจึงแปะต่อข้ามคืน พอรุ่งเช้าก็แกะแผ่นออก เห็นปากแผลเปิดเป็นรูจึงบีบ โป๊ะ... หนองทะลักออกมาเลย ก็เลยบีบๆ เปลี่ยนทิศนิ้วมือไปเรื่อยๆ จนหนองหมด สังเกตจากหนองไม่ออก แต่ที่ออกเป็นน้ำเหลืองกับเลือดแทน จากนั้นก็เช็ดแอลกอฮอลแล้วแปะกอเอี๊ยะต่อ เราลืมทาแอลกอฮอลก่อนบีบน่ะ .. เช้าวันนั้นเองมีปุ่มแดงที่จะกลายเป็นฝีอีก 2 ที่ เฮ้อออ อะไรกันเนี่ย ที่รักแร้กับที่ก้นไกล้ขาหนีบ บังเอิ๊ญญญ ท่อน้ำนัมตัน จึงไปคลีนิคนมแม่ แล้วปรึกษาคุณหมอเรื่องฝีด้วย คุณหมอให้ยา flagyl 400 mg กินเช้า กลางวัน เย็น หลังอาหาร มาก็ลองเอามากินดู แล้วบอกว่าถ้าเอาหัวหนองออกได้ก็จะหาย เราก็คิดๆว่าหัวหนองมันรูปร่างเป็นยังไง ที่รักษาเองไป 3 ที่ก็ไม่รู้ว่ามันออกมาตอนไหน เย็นวันนั้นก็แกะแผ่นกอเอี๊ยะออกแล้วบีบฝีอีกที หนองทะลักไหลออกมาอีก ทันใดนั้นเอง... ก็เห็นเม็ดขาวๆโผล่มาครึ่งนึงจากรูแผลจึงสะกิดออกมา มันเป็นเม็ดใหญ่ๆแข็งๆ บีบไม่ลง คงจะเป็นหัวหนองอย่างที่คุณหมอว่า จากนั้นก็บีบหนองจนหมด แล้วทาแอลกอฮอลแล้วแปะกอเอี๊ยะต่อเพื่อความชัวร์ พอตอนเช้ามาเปิดแผลดู เออรอยแดงวงนอกดูจางลง เปลี่ยนเป็นสีคล้ำๆ ส่วนรอยแดงวงในก็แดงน้อยลง น่าจะหายแล้วจึงใช้ปลาสเตอร์แปะแผลแทนแผ่นกอเอี๊ยะ หลังจากนั้น 2 วัน อาการเจ็บเวลากดค่อยๆหาย แผลยังนูนอยู่แต่แผลไม่แดงแล้ว รอบๆเปลี่ยนเป็นสีคล้ำเหมือนแผลเป็น ... สรุปคือ หายแล้ว เย่ๆ
หลังจากนี้สัญญากับตัวเองว่าจะออกกำลังหายแบบ cadio อาทิตย์ละ 2 ครั้ง อย่างน้อยๆต้อง 1 ครั้ง ชั้นไม่อยากเป็นฝีแล้ว ส่วนฝีอีก 2 ที่ก็ยุบไม่รู้จะเพราะออกกำลังกายหรือ ยา flagyl พอยาหมดโดสแล้วเดี๋ยวรู้กัน ถ้ายังขึ้นถี่เหมือนเดิมเราจะไปฝังเข็ม ครอบแก้วแล้วล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้จะมาเล่าภาคต่อ
แต่ขอให้ไม่มาเล่าจะดีกว่า ....ฮ่าาา
จบแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นนะคะ
9 เดือน กับ ฝี 8 ที่ เป็นบ่อยจนรักษาเองแล้ว
กระทู้นี้เขียนขึ้นเป็นวิทยาทานเผื่อมีพี่น้องท่านใดประสบปัญหาเดียวกันค่ะ สำหรับพี่น้องที่ไม่มีปัญหานี้ เลื่อนผ่านไปได้เลย แต่ก่อนผ่าน อย่าลืมดูแลสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกายแบบ Cardio เพื่อให้ปอดแข็งแรง กินอาหารดี ตรงเวลา นอนเร็ว คุณจะได้ไม่ต้องเสิชหาข้อมูลเรื่องฝีให้เสียเวลาอีก "ป้องกันนั้นดีกว่าแก้ไข"อยู่แล้วใช่ไหม
ส่วนการโพสลงกลุ่มชานเรือนคุณแม่ เพราะเราก็มาเป็นฝีตอนเป็นคุณแม่ลูกอ่อนนอนน้อย ไม่มีเวลาออกกำลังกายเนี่ยแหละ
จุดประสงค์ที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่เป็นฝีหรือปุ่มแดงๆไตๆที่อักเสบกำลังจะเป็นฝี ได้ดูแลตัวเองเบื้องต้น
แต่ต้องบอกก่อนว่า เราสามารถรักษาฝีเองเบื้องต้นได้แต่มีข้อควรระวังนะ เดี๋ยวจะบอกต่อไปค่ะ ถ้าไปหาแพทบ์แผนปัจจุบันถ้าตุ่มเล็กให้ยามากิน ถ้าไม่หาย ผ่าออกอย่างเดียว แล้วค่ารักษาฝีแต่ละครั้งกับรพ.เอกชนก็ค่อนข้างแพง จากนั้นก็ต้องมารพ.ทุกวันเพื่อล้างแผลสัก 1-2 สัปดาห์ แผลห้ามโดนน้ำ ไม่ต้องอาบน้ำกันเป็นสัปดาห์เลยล่ะ
มาเริ่มกันเลยนะคะ
= ฝีเม็ดที่ 1 =
หลังจากไม่ได้เป็นฝีมานานมาก จำได้ว่าเป็นสมัยเด็กๆ เมื่อต้นปีนี้เราเป็นฝีตอนท้องได้ 8 เดือนกว่า ที่นิ้วมือขวา แต่ไม่ทราบว่าเป็นฝี เลยปล่อยให้มันบวมแดง1อาทิตย์ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุบหรือหายเอง มีหัวขาวๆ พยายามบีบหลายครั้งก็ไม่ออก จึงไปหาหมอที่รพ.ที่มีประกันสังคม แต่ไม่ได้ใช้เพราะขี้เกียจรอคิวยาวๆ พอเจอหมอ หมอก็บอกว่าเป็นฝี ต้องผ่าระบายหนองออกเท่านั้น จากนั้นก็ให้เราไปนั่งรอผ่า มีพยาบาลเดินมาแจ้งค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 4-5 พัน โอ่ววว... แพงจังค่ะ เราถามพยาบาลว่าทำไมแพงจัง อย่างนั้นขอใช้ประกันสังคมแล้วกันค่ะ พยาบาลจึงแจ้งว่าถ้าประกันสังคมต้องรออนุมัติแล้วอีก 3-4 วันมาผ่าออก ดิฉันจึงแจ้งว่าท้องอยู่กลัวลูกติดเชื้อ ทางรพ.จึงให้ผ่าวันนั้นเลย โดยเราจ่ายค่าหมอเองประมาณ 4-5ร้อย ส่วนค่าผ่ากับล้างแผลเบิกประกันสังคมเอา คุณหมอก็ให้เข้าห้องฉุกเฉินเพื่อผ่าหนองออก ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ คุณหมอยัดผ้าก็อดไว้เพื่อไม่ให้ปากแผลปิด และ ให้มาล้างแผลทุกวัน เสียครั้งละ 160 บาท แผลห้ามโดนน้ำ ก็จะอาบน้ำท่าแปลกๆหน่อย ^^
= ฝีเม็ดที่ 2 =
เวลาผ่านไป คลอดลูกแล้วก็เกิดฝีที่สองขึ้นที่หน้าแข้งซ้าย มันเริ่มจากบวมๆแดงๆมีไตๆ ปล่อยไป 3-4 วันมันก็ใหญ่ขึ้น เป็น 2 วงค่ะ นึกถึงไข่ดาว วงในจะสีแดงมาก วงนอกจะสีแดงอ่อนๆ เราไม่อยากผ่า เห็นสีขาวๆอยู่ตรงกลางคิดว่าบีบออกก็น่าจะหายแต่บีบก็ไม่ออก จึงเสิร์ชหาข้อมูลในเนตว่าเค้ารักษาเองกันยังไงให้ปลอดภัย จึงได้ข้อมูลว่า ทาแอลกอฮอลที่ฝี แล้วใช้เข็มปลอดเชื้อหาซื้อได้ตามร้านขายยา ถ้าไม่สะอาดระวังเป็นบาดทะยัก พอดีเรามีภูมิคุ้มกันบาดทะยักแล้ว จากนั้นก็ลงมือเลย....นำเข็มมาเช็ดแอลกอฮอลล์แล้วรนไฟ แอลกอฮอลเช็ดฝี แล้วเอาเข็มจิ้มเข้าไปที่สีขาวๆที่น่าจะเป็นหนังบางๆหุ้มหนองอยู่ จากนั้นก็บีบเอาหนองออก หนองออกมาเป็นยวงเลยคร่า บีบจนหนองหมด ข้อสังเกตุคือหนองไม่ออกมาแล้ว ที่ออกมาคือเลือดกับน้ำเหลือง จากนั้นก็ทาแอลกอฮอลล์แล้วแปะปลาสเตอร์ เราสังเกตแผลว่ามันบวมน้อยลงกดแล้วแข็งๆ น่าจะเป็นเนื้อที่อักเสบถ้ามีหนองจะกดแล้วนิ่มๆ กดแล้วยังเจ็บอยู่ ก็สังเกตอาการสัก 12 ชม. ปรากฏว่ามันบวมแดงขึ้นเหมือนเดิมจึงเจาะออกเหมือนครั้งแรก ก็มีหนองออกอีกค่ะ ดูอาการสัก 12 ชม. แผลไม่บวมขึ้น จึงดูอาการอีก 12 ชม. ปรากฏว่าแผลหาย อาการแผลหายคือสีแดงวงในจางลงสีแดงวงนอกค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเข้มเหมือนรอยแผลเป็น กดตรงแผลมันเป็นนูนแข็งๆ แม้จะยังเจ็บอยู่ พอผ่านไปสัก 2-3 วัน ก็จะหายเจ็บ แผลก็ค่อยๆยุบลง และประมาณ 3 เดือนแผลเป็นก็เหลือแค่จุดเล็กสีคล้ำๆ
= ฝีเม็ดที่ 3 =
หลังจากฝีที่ 2 ไม่กี่สัปดาก็เป็นฝีที่ 3 ขึ้นที่แขนขวา ...อีกแล้ววว คราวนี้ลองไปหาหมอตั้งแต่เนิ่นๆ แค่อักเสบบวมแดงเล็กๆ ยังไม่น่าจะมีหนอง ถ้านึกถึงไข่ดาว ตอนนี้มีแต่ไข่แดง ก็ไปรพ.ใหม่ คุณหมอให้ยามากิน เรากินครบโดส ไม่หายจ้า เป็นฝีแล้ว สังเกตคือมีแดงๆ 2 วง แต่เราไม่อยากผ่า ก็เจาะเอง เจาะสองรอบถึงจะหาย
= ฝีเม็ดที่ 4 =
ขึ้นที่เอวค่อนไปด้านหลัง ก็รักษาเองด้วยวิธีเจาะเหมือนเดิม
= ฝีเม็ดที่ 5 =
แม้ว่าออกกำลังกายแล้ว กินอาหารดีแล้ว ฝีก็ยังถามหาอยู่ คราวนี้ขึ้นที่ก้น การักษาเองยากมาก เพราะมันเถิบๆเข้าไปในง่ามก้น ดูเองไม่ได้ จึงให้สามีช่วยเจาะให้ >< ก็บีบไม่ออกจ้ะ ไม่มีอะไรออกมาเลย เคสนี้ไปให้หมอผ่าออกด้วยราคา 3 พันกว่า ไม่ใช้ประกันสังคมเพราะ ไม่อยากรอแล้ว นั่งแล้วเจ็บก้น ตอนผ่าคุณหมอแจ้งว่าเนื่องจากหนังก้นมีความหนา แผลจึงลึกเข้าไป 3-4 ซม. เราล้างแผลกว่าจะหายก็ 2 สัปดาห์เต็ม ..ทรมานตรงไม่ได้อาบน้ำเนี่ยแหละ เข็ดจริงๆค่ะ ไม่อยากเป็นอีกแล้ว ไปหาหมอหมอก็ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ เสิร์ชหาข้อมูลอีกรอบว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ ก็มีหลายสาเหตุ เช่น ถ้าเป็นแพทย์แผนจีน เขาจะบอกว่าเป็นเพราะปอดไม่แข็งแรง บางเวปก็บอกว่าขับถ่ายไม่ดีลำไส้ใหญ่จึงดูดสารพิษกลับเข้าสู่ร่างกาย อืมมม ... ที่ผ่านมาเรากินดีแล้วแต่ ขับถ่ายยังไม่เป็นเวลา ไม่ได้ออกกำลังกายแบบให้เหนื่อยหอบ อืมมม ... ก็อาจจะเพราะ2อย่างนี้ ที่ผ่านมาออกกำลังกายแบบยืดเส้นโยคะมากกว่า จึงออกลังกายแบบ cardio ตอนเช้าตรู่ดื่มน้ำอุ่นเยอะๆ ให้ถ่ายทุกเช้า
แต่...ไม่ทันแล้วววจ้าาา
= ฝีเม็ดที่ 6 =
แผลเก่าเพิ่งหายไป ฝีใหม่มาอีกแล้ว พอดีเข้าห้องน้ำมือก็ไปโดนตรงที่มันเจ็บๆ เลยเอี้ยวตัวไปดู แม่จ้าววว มีปุ่มแดง3 ปุ่มเรียงกัน อยู่คนละข้างกับเม็ดก่อน ปุ่มนึงแดงใหญ่หน่อย กดแล้วเจ็บ นูนแล้ว มีหัวสิว ปุ่มนี้น่าจะพัฒนาไปเป็นฝี ส่วนอีก 2 ปุ่มเป็นแดงเล็กๆ มีหัวสิว ไม่นูน กดไม่เจ็บ ไม่น่าจะเป็นฝี ผ่านไป 2-3 วัน การสันนิฐานของเราก็ถูกต้อง เม็ดนึงกำลังจะเป็นฝีจ้า เราไปซื้อยาฆ่าเชื้อที่หมอที่ผ่าก้นเราเคยให้กิน ชื่อ Azithtromycin กินอยู่ 3 วัน ไม่ช่วยจ้ะ ปุ่มอักเสบกลายเป็นหนองแล้ว เอาเข็มจิ้ม หนองก็ออกมาแบบอั้นๆ ซึมๆออกมา สงสัยรูเล็กมั้ง นี่ถ้าผ่า ตูจะไม่ได้อาบน้ำอีก 2 อาทิตย์หรออ เสียตังอีก 5000 หรอออ... ม่ายยยยย
เราหาข้อมูลในเนตรัวๆ ไปเจอการใช้แผ่นกอเอี๊ยะ เพื่อรักษาฝี คนจีนเขารักษาด้วยวิธีนี้กัน เจ้าแผ่นกอเอี๊ยะก็หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เขาแนะนำตราแมวกงจักร แผ่นกอเอี๊ยะจะมีฤทธิ์ดูดหนองมาที่ผิวหนัง คือโดยปกติผิวหนังจะมีแรงต้านทานต่อหนองน้อยสุด หนองจึงพุ่งมาทางผิวหนังอยู่แล้ว แต่กว่ามันจะพุ่งตามธรรมชาติ มันจะใช้เวลานานและ หนองก็ใหญ่แล้ว ปวดเป็นเดือน ใครจะไปรอ พอมันออกมาหรือที่เรียกว่าหนองแตก รูก็จะใหญ่มาก ทำความสะอาดยากอีก จากที่เขาเล่ากัน แต่ถ้าใช้เจ้าแผ่นกอเอี๊ยะเนี่ย มันจะดูดหนองออกมาเร็วขึ้น เราก็ไปหาซื้อที่ร้ายขายยา อย่าซื้อผิดไปซื้อแผ่นกอเอี๊ยะแปะสิวนะ สำหรับแปะสิวจะเป็นกระดาษสีขาว แต่ถ้าสำหรับแปะหนองจะเป็นแผ่นวงกลม มียางเหนียวๆสีดำๆ แผ่นละ 3 บาท เราซื้อมาแล้วแปะเลย บางคนบอกว่า 1 วันเปลี่ยนที บางคนบอกว่าแปะจนกว่ายาจะหาย แต่เราอาบน้ำทีก็เปลี่ยนที แปะ 12 ชม.แรก คือแปะเช้าก่อนไปทำงาน พอตกเย็นกลับบ้านก็ลองเอาแผ่นออก เอออ....มีหนองติดกอเอี๊ยะมา เลยลองบีบดู ยังไม่มีอะไรออกมาจึงแปะต่อข้ามคืน พอรุ่งเช้าก็แกะแผ่นออก เห็นปากแผลเปิดเป็นรูจึงบีบ โป๊ะ... หนองทะลักออกมาเลย ก็เลยบีบๆ เปลี่ยนทิศนิ้วมือไปเรื่อยๆ จนหนองหมด สังเกตจากหนองไม่ออก แต่ที่ออกเป็นน้ำเหลืองกับเลือดแทน จากนั้นก็เช็ดแอลกอฮอลแล้วแปะกอเอี๊ยะต่อ เราลืมทาแอลกอฮอลก่อนบีบน่ะ .. เช้าวันนั้นเองมีปุ่มแดงที่จะกลายเป็นฝีอีก 2 ที่ เฮ้อออ อะไรกันเนี่ย ที่รักแร้กับที่ก้นไกล้ขาหนีบ บังเอิ๊ญญญ ท่อน้ำนัมตัน จึงไปคลีนิคนมแม่ แล้วปรึกษาคุณหมอเรื่องฝีด้วย คุณหมอให้ยา flagyl 400 mg กินเช้า กลางวัน เย็น หลังอาหาร มาก็ลองเอามากินดู แล้วบอกว่าถ้าเอาหัวหนองออกได้ก็จะหาย เราก็คิดๆว่าหัวหนองมันรูปร่างเป็นยังไง ที่รักษาเองไป 3 ที่ก็ไม่รู้ว่ามันออกมาตอนไหน เย็นวันนั้นก็แกะแผ่นกอเอี๊ยะออกแล้วบีบฝีอีกที หนองทะลักไหลออกมาอีก ทันใดนั้นเอง... ก็เห็นเม็ดขาวๆโผล่มาครึ่งนึงจากรูแผลจึงสะกิดออกมา มันเป็นเม็ดใหญ่ๆแข็งๆ บีบไม่ลง คงจะเป็นหัวหนองอย่างที่คุณหมอว่า จากนั้นก็บีบหนองจนหมด แล้วทาแอลกอฮอลแล้วแปะกอเอี๊ยะต่อเพื่อความชัวร์ พอตอนเช้ามาเปิดแผลดู เออรอยแดงวงนอกดูจางลง เปลี่ยนเป็นสีคล้ำๆ ส่วนรอยแดงวงในก็แดงน้อยลง น่าจะหายแล้วจึงใช้ปลาสเตอร์แปะแผลแทนแผ่นกอเอี๊ยะ หลังจากนั้น 2 วัน อาการเจ็บเวลากดค่อยๆหาย แผลยังนูนอยู่แต่แผลไม่แดงแล้ว รอบๆเปลี่ยนเป็นสีคล้ำเหมือนแผลเป็น ... สรุปคือ หายแล้ว เย่ๆ
หลังจากนี้สัญญากับตัวเองว่าจะออกกำลังหายแบบ cadio อาทิตย์ละ 2 ครั้ง อย่างน้อยๆต้อง 1 ครั้ง ชั้นไม่อยากเป็นฝีแล้ว ส่วนฝีอีก 2 ที่ก็ยุบไม่รู้จะเพราะออกกำลังกายหรือ ยา flagyl พอยาหมดโดสแล้วเดี๋ยวรู้กัน ถ้ายังขึ้นถี่เหมือนเดิมเราจะไปฝังเข็ม ครอบแก้วแล้วล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้จะมาเล่าภาคต่อ
แต่ขอให้ไม่มาเล่าจะดีกว่า ....ฮ่าาา
จบแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นนะคะ