สวัสดีครับเพื่อนๆ แอบตามอ่านพันทิปมาได้พักใหญ่ๆ เห็นคนรีวิวมาก็เยอะ เริ่มคิดว่า เหย เราก็รีวิวได้น่ะ ลองซะหน่อย (^^)/ จะว่าไปก็ไม่ได้อยู่ห้องไหนเป็นพิเศษครับ โพสต์บ้างไม่โพสต์บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ หว้ากอ ชายคา กล้อง และมาบุญครองครับ
ที่มารีวิววันนี้ ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่สาวกค่ายใดค่ายหนึ่งนะครับ (ช่วงนี้เห็นแต่ละค่ายดุเดือดเหลือเกิน กลัวลูกหลงฮะ ^^”) ผมชอบเทคโนโลยีครับ เล่นมาตั้งแต่ O2 สมัยก่อนนู้นนน ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ห้างฟอร์จูน (ใครเล่น O2 ช่วงนั้นจะทราบนะครับ นัดมีทติ้งที่นั่นกันก็บ่อย ฮ่าๆๆๆ) โทรศัพท์เครื่องล่าสุดก็ Note 3 > LG G4 แล้วกระโดดมา S8+ พักหลังมาเริ่มมาทำงานออกแบบ ตกแต่ง ก่อสร้าง เลยคิดว่า Note 8 น่าจะตอบโจทย์ ส่วนแท็บเลต ก็ยังใช้ iPad ด้วยความเคยชินฮะ พูดถึงตัว Note 8 ปัจจุบันก็เห็นคนรีวิวกันเยอะ แต่หลังจากใช้เองมาประมาณเดือนกว่า ก็ค้นพบว่า เฮ้ย จริงๆแล้ว มีมุมที่น่าสนใจอีกนะ (หรือมีคนพูดไปแล้วแต่ผมไม่รู้ ฮ่าๆๆ) เอาเป็นว่า คิดซะว่าผมมาเล่าให้ฟังละกันครับ ว่าโทรศัพท์เครื่องนี้ ผมใช้แล้วมีอะไรที่ผมชอบครับ
ปล. ของคนอื่นรีวิวเค้าออกตั้งนานแล้ว เวลาซื้อโทรศัพท์มาใหม่ๆ เราก็อยากจะเล่นจนหลับแล้วรีบตื่นแต่เช้ามานั่งเล่นต่อใช่ไหมครับ แต่สำหรับผม ได้เครื่องมาตั้งแต่วันพุธหลังจากออกได้ 1 สัปดาห์ครับ แต่เล่นไม่ได้ เพราะคุณแฟน(เมีย)เชื่อว่าห้ามใช้ของใหม่วันพุธ.....จริงๆแล้วก็โดนห้ามแบบนี้มาตลอดอ่ะนะ แต่อย่างอื่นมันเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เลยไม่ค่อยรู้สึกครับ แต่ก็นั่นแหล่ะ ใครจะกล้าฝ่าฝืนครับ ได้เล่นจริงๆ ตั้งแต่พฤหัสกลางคืนครับ – เพราะกลางวันพอจับโทรศัพท์ก็โดนบ่นว่าจับมือถืออยู่นั่นแหล่ะ เล่นทั้งวัน ต้องรอหลับก่อน (- -“)
เข้าเรื่องกันเลยละกัน ผมขอรีวิวแบ่งเป็น 3 จุดหลักๆดังนี้ครับ
- ดีไซน์ และการสัมผัส
- กล้อง (Live Focus Vs. Selective Focus)
- กล้อง (Macro Note8 Vs. S8)
- การใช้งานและความเร็ว
ดีไซน์ และการสัมผัส
เมื่อพูดโทรศัพท์ใหม่ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอก และความรู้สึกแรกสัมผัสครับ
รูปไม่ได้เบี้ยวนะครับ ถ่ายที่บ่อน้ำข้างบ้าน ขอบบ่อมันเบี้ยวฮะ (- -“)
มีความรู้สึกว่า เทรนด์สมัยนี้ โทรศัพท์จอโค้งข้างๆกันหมดเลย (จริงๆแล้ว ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องจอโค้งโดยเฉพาะ Note ครับ ตอนที่ Note Edge ออก ผมก็ไปลองมา การที่จอมันโค้งแล้วจดงานเร็วๆปากกามันดูจะลื่นตกขอบ เคยไปลองจับ S6 Edge มันก็สวยนะครับ แต่มีคนบอกว่าจะต้องคอยระวังนิ้วโดนขอบ ตอนนั้นก็เลยเลือก LG G4 ครับ) แต่หลังจากเปลี่ยนมาเป็น S8 และ Note 8 ก็รู้สึกว่าความโค้งมันไม่ได้ทำให้ชีวิตลำบากขนาดนั้น เค้าน่าจะทำโค้งมาแค่ให้จอมันดูไม่มีขอบครับ
ในส่วนของการออกแบบ ตัวเครื่องออกแบบมาตามการ Design ของ S8 นั่นก็คือ จอไร้ขอบ และมีความผสมผสานเป็นชิ้นเดียวกันครับ จริงๆแล้วผมว่าดีไซน์สวยมากนะครับ ติดอย่างเดียวว่าถ้าไม่ได้ใส่เคส จะเจอปัญหาว่าเวลาควักออกมาจากกระเป๋า จะหยิบออกมาผิดด้านเสมอ เพราะด้านหน้าและด้านหลังเหมือนกัน (ฮา)
ในแง่ของการจับและการถือ ไม่รู้ว่าอุปทานไปเองหรือเปล่า แต่มีความรู้สึกว่า สัดส่วนตัวเครื่องที่มันกว้างเท่ากันตลอดแนว จับและถือง่ายกว่า S8+ คือจับแล้วรู้สึกว่าจะไม่ทำตกครับ (S8+ ทำตกบ่อย แฟนชอบบอกว่าเป็นคนมือไม่มีกาว) การใช้งานมือเดียวยังพอได้อยู่ครับ แต่อาจต้องแบะมือออกนิดนึง
เรื่องของกล้อง
การรีวิวประสิทธิภาพของกล้อง ทางเว็บต่างๆก็ได้มีการทดสอบให้ดูค่อนข้างเยอะแล้วครับ ถ้าสนใจลองเสิร์ชอากู๋ดูนะครับ ในเรื่องของกล้องที่ผมจะพูดถึงวันนี้ คือเรื่องของการที่มีกล้อง 2 ตัว นั่นคือฟังก์ชั้น Live Focus และการถ่ายมาโครด้วยโหมดออฟติคอลซูม 2 เท่าครับ
Live Focus Vs. Selective Focus
หลักการทำงานของ Live Focus ของ Note 8 คือการใช้กล้องตัวที่สองระยะ Focal Length 52mm จับภาพวัตถุที่จะถ่ายแล้วใช้กล้องตัวที่หนึ่งระยะ Focal Length 26mm เบลอฉากหลัง ในขณะที่ Selective Focus ของ S8 ใช้กล้องตัวเดียวกันที่ Focal Length 26mm ถ่ายภาพหลายครั้ง แต่ละครั้งเปลี่ยนจุดโฟกัส ทำให้ได้หน้าชัดหลังเบลอ ทั้งสองอย่างใช้การทำงานของฮาร์ดแวร์ผสมซอฟท์แวร์ แต่ว่า....อันไหนดีกว่า ก็เลยจับมาทดสอบให้ดูครับ
เงื่อนไขการทดสอบ
- ใช้ขาตั้งกล้อง ติดเทปกาวที่พื้น และห่างจากตัวแบบ ระยะเท่ากัน
- กดจุดโฟกัสไปที่ตัวแบบ
- สภาพแสงธรรมชาติ
- ไม่มีการปรับค่าชดเชยแสง (Exposure)
Test 1 : Live Focus @ 20cm Vs. Selective Focus @ 20cm
เนื่องจาก Live Focus ใช้กล้องตัวที่สองจับภาพวัตถุซึ่งมี Focal length มากกว่า S8 การตั้งกล้องในระยะเดียวกันจึงทำให้วัตถุในภาพของ Note 8 ดูใกล้กว่า
Test 2 : Live Focus @ 25cm Vs. Selective Focus @ 20cm
เพื่อให้เห็นความแตกต่างของทั้งสองโหมด ผมได้ทำการเลื่อนระยะของขาตั้งกล้องของ Note 8 ถอยไป 5 เซ็นติเมตร เพื่อให้ได้ Focal Length เดียวกันกับ S8 โดยปัจจัยควบคุมอื่นยังเหมือนเดิม พบว่า Live Focus ของ Note 8 ฉากหลังละลายโฮก คหสต ผมชอบการละลายหลังของ Note 8 มากกว่า S8 แต่มีข้อสังเกตุที่ตัวลำกล้องปืนใหญ่ถูกละลายไปบ้าง
การถ่ายมาโคร
ผมชอบถ่ายรูปธรรมชาติครับ เห็นดอกไม้สวยๆ แมลงทำกิจกรรม เห็นแล้วต้องรีบเอากล้องเข้าไปถ่าย (เพราะตัวแบบมันสวยอยู่แล้ว ตอนถ่ายไม่ต้องคิดไรเยอะ ^^) ก็เลยลองเอา Note 8 และ S8+ มาทดสอบถ่ายมาโครระยะใกล้
กล้องของ S8 และกล้องหลักของ Note 8 มีระยะ Focal Length อยู่ที่ 26mm ซึ่งการถ่ายวัตถุระยะใกล้ที่สุดที่สามารถถ่ายได้จะอยู่ที่ประมาณ 7 เซ็นติเมตรจากระยะวัตถุครับ ถ้าเข้าใกล้มากกว่านี้วัตถุจะหลุดโฟกัส ภาพชุดด้านล่างเป็นการถ่ายภาพเดียวกันด้วย Note 8 โดยเพิ่มระยะห่างจากวัตถุเป็น 12 เซ็นติเมตรเพื่อให้ได้ภาพในมุมเดียวกันภาพชุดแรก โหมดที่ใช้ เป็นกล้องตัวที่สองแบบซูม และ โหมด Live Focus การตั้งกล้องอาจมีเหลื่อมเล็กน้อย แต่ปัจจัยควบคุมอื่นๆเหมือนเดิมครับ
ผลปรากฎว่าการถ่ายโหมด Auto ผ่านกล้องหลักฉากหลังละลายสวยกว่าเพราะรูรับแสงที่กว้างกว่า เป็นการละลายด้วยฮาร์ดแวร์อย่างแท้จริงครับ แต่การถ่ายมาโครของผม อยากให้เห็นรายละเอียดของวัตถุมากกว่านี้ครับ
เนื่องจากโหมด Selective Focus และ Live Focus มีข้อจำกัดด้านสภาพแสงและระยะห่างจากตัววัตถุ จึงไม่สามารถถ่ายภาพในระยะห่างจากวัตถุน้อยกว่า 7 เซ็นติเมตรได้ แต่โหมดซูมสองเท่าของ Note 8 ทำได้!! ผลจึงเป็นดังนี้ครับ
เห็นหน้าบานาจชัดมากกกกกกกก เห็นยันรอยยับกางเกง (และก็เห็นด้วยว่าลงสีไม่เรียบร้อย ฮ่าๆๆๆ)
ดอกและเกสรของโป๊ยเซียน
การใช้งานและความเร็วของเครื่อง
ในฐานะที่เป็นคิดว่าตัวเองเป็น Geek คนนึง ผมชอบความเร็วครับ ยอมรับครับว่า iPhone แรงกว่า และระบบดีกว่าโทรศัพท์รุ่นอื่นที่ออกในปีเดียวกันครับ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในตัวเลขนะครับ แต่ความเร็วสำหรับผมคือความเร็วในการทำงานครับ คือถ้าใครมาจากสายคอมพ์จะทราบครับว่า ความเร็วของ CPU ไม่สำคัญเท่ากับความเร็วของการบูทเครื่องหรือความเร็วในการเข้าวินโดว์ หรือดูว่าใช้เวลาเท่าไหร่กว่าระบบจะแคลช โดยพื้นฐานก็ใช้ Notepad เนี่ยแหล่ะครับ echo ไปกันจนกว่าจะเดี้ยงไปข้างนึง (หรือทั้งหมดที่ว่ามามีแค่ผมทำคนเดียวก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆๆ)
โทรศัพท์ก็เช่นกันครับ ปัจจุบันความเร็วในการเปิดแอพไม่ต่างกัน แต่ผมอยากทราบว่าเปิดได้กี่แอพจนกว่าเครื่องจะเดี้ยง หรือแอพปิดตัวเองทิ้ง การทดสอบผมทำโดยสองวิธีด้วยกันครับ แต่ก่อนอื่นเริ่มทดสอบโดยดูความเร็วพื้นฐานของทั้งสองรุ่นกันก่อนครับ
จะเห็นได้ว่าความเร็วที่ได้คะแนนไม่ต่างกันมากครับ เราจะลองดูความต่างหลังจากการเทสดังนี้ครับ
Test 1 : โหลดแอพตามรายชื่อดังนี้มา แล้วเปิดทีละแอพ สลับไปสลับมา การตัดสินดูว่ากี่แอพกว่าระบบจะเริ่มปิดแอพแรก
พบว่าทั้ง Note 8 และ S8+ สามารถจัดการทรัพยากรได้ค่อนข้างดี ยังไม่มีแอพไหนถูกปิดตัว ทั้ง Note 8 และ S8+ คะแนนดรอปลงเล็กน้อย
Test 2 : ทำการทดสอบขีดจำกัดของ RAM โดยการทำแรมให้เต็มมากที่สุด ในที่นี้ผมใช้แอพ RamEater ซึ่งสามารถเริ่มเซอร์วิสกินแรม เซอร์วิสละ 500MB การตัดสินดูว่าเปิดได้ทั้งหมดกี่ Service ก่อนจะเริ่มปิดตัวเอง และขณะที่เซอร์วิสเต็ม ทดสอบได้คะแนนเท่าไหร่
ผลปรากฎว่า Note 8 สามารถรันเซอร์วิสได้ถึง 10 ตัว ในขณะที่ S8+ สามารถรันได้ 7 ตัว ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ เพราะ Note 8 มี RAM มากกว่า S8+ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในสภาวะที่แรมถูกใช้จนเกลี้ยงทั้งคู่ Note 8 แสดงอาการกระตุกและดีเลย์น้อยมาก เมื่อเลื่อนแถบNotification ลงมา Note 8 หน่วงประมาณน้อยกว่า 1 วินาที ในขณะที่ S8+ ต้องรอประมาณ 2-3 วินาที ที่สำคัญในแง่ของคะแนน Note 8 คะแนนลดลงจากสภาวะปกติเพียง 100 กว่าจุด ในขณะที่ S8+ คะแนนลดลงเกือบ 2,000 จุด ทำให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการทรัพยากรที่ดีกว่าของ Note 8
สรุป
ผมค่อนข้างประทับใจกับโทรศัพท์เครื่องนี้ครับ กล้องเก่งในส่วนที่ผมใช้งานประจำ ด้าน multi-tasking ทำได้ค่อนข้างดี ตอบโจทย์ในความเป็น Note และความเป็นจอใหญ่ได้อย่างดีครับ ส่วนเรื่องปากกา และการใช้งานด้านอื่นๆ เชื่อว่ามีหลายท่านที่รีวิวไว้ค่อนข้างดีอยู่แล้วครับ
แหม่...ของใหม่ใครก็เห่อ แม้แต่เต่าในบ่อก็อยากมาดูฮะ
[CR] รีวิวแบบบ้านๆ Galaxy Note 8 - หน้าชัดหลังเบลอและการถ่ายมาโคร
ที่มารีวิววันนี้ ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่สาวกค่ายใดค่ายหนึ่งนะครับ (ช่วงนี้เห็นแต่ละค่ายดุเดือดเหลือเกิน กลัวลูกหลงฮะ ^^”) ผมชอบเทคโนโลยีครับ เล่นมาตั้งแต่ O2 สมัยก่อนนู้นนน ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ห้างฟอร์จูน (ใครเล่น O2 ช่วงนั้นจะทราบนะครับ นัดมีทติ้งที่นั่นกันก็บ่อย ฮ่าๆๆๆ) โทรศัพท์เครื่องล่าสุดก็ Note 3 > LG G4 แล้วกระโดดมา S8+ พักหลังมาเริ่มมาทำงานออกแบบ ตกแต่ง ก่อสร้าง เลยคิดว่า Note 8 น่าจะตอบโจทย์ ส่วนแท็บเลต ก็ยังใช้ iPad ด้วยความเคยชินฮะ พูดถึงตัว Note 8 ปัจจุบันก็เห็นคนรีวิวกันเยอะ แต่หลังจากใช้เองมาประมาณเดือนกว่า ก็ค้นพบว่า เฮ้ย จริงๆแล้ว มีมุมที่น่าสนใจอีกนะ (หรือมีคนพูดไปแล้วแต่ผมไม่รู้ ฮ่าๆๆ) เอาเป็นว่า คิดซะว่าผมมาเล่าให้ฟังละกันครับ ว่าโทรศัพท์เครื่องนี้ ผมใช้แล้วมีอะไรที่ผมชอบครับ
ปล. ของคนอื่นรีวิวเค้าออกตั้งนานแล้ว เวลาซื้อโทรศัพท์มาใหม่ๆ เราก็อยากจะเล่นจนหลับแล้วรีบตื่นแต่เช้ามานั่งเล่นต่อใช่ไหมครับ แต่สำหรับผม ได้เครื่องมาตั้งแต่วันพุธหลังจากออกได้ 1 สัปดาห์ครับ แต่เล่นไม่ได้ เพราะคุณแฟน(เมีย)เชื่อว่าห้ามใช้ของใหม่วันพุธ.....จริงๆแล้วก็โดนห้ามแบบนี้มาตลอดอ่ะนะ แต่อย่างอื่นมันเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เลยไม่ค่อยรู้สึกครับ แต่ก็นั่นแหล่ะ ใครจะกล้าฝ่าฝืนครับ ได้เล่นจริงๆ ตั้งแต่พฤหัสกลางคืนครับ – เพราะกลางวันพอจับโทรศัพท์ก็โดนบ่นว่าจับมือถืออยู่นั่นแหล่ะ เล่นทั้งวัน ต้องรอหลับก่อน (- -“)
เข้าเรื่องกันเลยละกัน ผมขอรีวิวแบ่งเป็น 3 จุดหลักๆดังนี้ครับ
- ดีไซน์ และการสัมผัส
- กล้อง (Live Focus Vs. Selective Focus)
- กล้อง (Macro Note8 Vs. S8)
- การใช้งานและความเร็ว
ดีไซน์ และการสัมผัส
เมื่อพูดโทรศัพท์ใหม่ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอก และความรู้สึกแรกสัมผัสครับ
รูปไม่ได้เบี้ยวนะครับ ถ่ายที่บ่อน้ำข้างบ้าน ขอบบ่อมันเบี้ยวฮะ (- -“)
มีความรู้สึกว่า เทรนด์สมัยนี้ โทรศัพท์จอโค้งข้างๆกันหมดเลย (จริงๆแล้ว ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องจอโค้งโดยเฉพาะ Note ครับ ตอนที่ Note Edge ออก ผมก็ไปลองมา การที่จอมันโค้งแล้วจดงานเร็วๆปากกามันดูจะลื่นตกขอบ เคยไปลองจับ S6 Edge มันก็สวยนะครับ แต่มีคนบอกว่าจะต้องคอยระวังนิ้วโดนขอบ ตอนนั้นก็เลยเลือก LG G4 ครับ) แต่หลังจากเปลี่ยนมาเป็น S8 และ Note 8 ก็รู้สึกว่าความโค้งมันไม่ได้ทำให้ชีวิตลำบากขนาดนั้น เค้าน่าจะทำโค้งมาแค่ให้จอมันดูไม่มีขอบครับ
ในส่วนของการออกแบบ ตัวเครื่องออกแบบมาตามการ Design ของ S8 นั่นก็คือ จอไร้ขอบ และมีความผสมผสานเป็นชิ้นเดียวกันครับ จริงๆแล้วผมว่าดีไซน์สวยมากนะครับ ติดอย่างเดียวว่าถ้าไม่ได้ใส่เคส จะเจอปัญหาว่าเวลาควักออกมาจากกระเป๋า จะหยิบออกมาผิดด้านเสมอ เพราะด้านหน้าและด้านหลังเหมือนกัน (ฮา)
ในแง่ของการจับและการถือ ไม่รู้ว่าอุปทานไปเองหรือเปล่า แต่มีความรู้สึกว่า สัดส่วนตัวเครื่องที่มันกว้างเท่ากันตลอดแนว จับและถือง่ายกว่า S8+ คือจับแล้วรู้สึกว่าจะไม่ทำตกครับ (S8+ ทำตกบ่อย แฟนชอบบอกว่าเป็นคนมือไม่มีกาว) การใช้งานมือเดียวยังพอได้อยู่ครับ แต่อาจต้องแบะมือออกนิดนึง
เรื่องของกล้อง
การรีวิวประสิทธิภาพของกล้อง ทางเว็บต่างๆก็ได้มีการทดสอบให้ดูค่อนข้างเยอะแล้วครับ ถ้าสนใจลองเสิร์ชอากู๋ดูนะครับ ในเรื่องของกล้องที่ผมจะพูดถึงวันนี้ คือเรื่องของการที่มีกล้อง 2 ตัว นั่นคือฟังก์ชั้น Live Focus และการถ่ายมาโครด้วยโหมดออฟติคอลซูม 2 เท่าครับ
Live Focus Vs. Selective Focus
หลักการทำงานของ Live Focus ของ Note 8 คือการใช้กล้องตัวที่สองระยะ Focal Length 52mm จับภาพวัตถุที่จะถ่ายแล้วใช้กล้องตัวที่หนึ่งระยะ Focal Length 26mm เบลอฉากหลัง ในขณะที่ Selective Focus ของ S8 ใช้กล้องตัวเดียวกันที่ Focal Length 26mm ถ่ายภาพหลายครั้ง แต่ละครั้งเปลี่ยนจุดโฟกัส ทำให้ได้หน้าชัดหลังเบลอ ทั้งสองอย่างใช้การทำงานของฮาร์ดแวร์ผสมซอฟท์แวร์ แต่ว่า....อันไหนดีกว่า ก็เลยจับมาทดสอบให้ดูครับ
เงื่อนไขการทดสอบ
- ใช้ขาตั้งกล้อง ติดเทปกาวที่พื้น และห่างจากตัวแบบ ระยะเท่ากัน
- กดจุดโฟกัสไปที่ตัวแบบ
- สภาพแสงธรรมชาติ
- ไม่มีการปรับค่าชดเชยแสง (Exposure)
Test 1 : Live Focus @ 20cm Vs. Selective Focus @ 20cm
เนื่องจาก Live Focus ใช้กล้องตัวที่สองจับภาพวัตถุซึ่งมี Focal length มากกว่า S8 การตั้งกล้องในระยะเดียวกันจึงทำให้วัตถุในภาพของ Note 8 ดูใกล้กว่า
Test 2 : Live Focus @ 25cm Vs. Selective Focus @ 20cm
เพื่อให้เห็นความแตกต่างของทั้งสองโหมด ผมได้ทำการเลื่อนระยะของขาตั้งกล้องของ Note 8 ถอยไป 5 เซ็นติเมตร เพื่อให้ได้ Focal Length เดียวกันกับ S8 โดยปัจจัยควบคุมอื่นยังเหมือนเดิม พบว่า Live Focus ของ Note 8 ฉากหลังละลายโฮก คหสต ผมชอบการละลายหลังของ Note 8 มากกว่า S8 แต่มีข้อสังเกตุที่ตัวลำกล้องปืนใหญ่ถูกละลายไปบ้าง
การถ่ายมาโคร
ผมชอบถ่ายรูปธรรมชาติครับ เห็นดอกไม้สวยๆ แมลงทำกิจกรรม เห็นแล้วต้องรีบเอากล้องเข้าไปถ่าย (เพราะตัวแบบมันสวยอยู่แล้ว ตอนถ่ายไม่ต้องคิดไรเยอะ ^^) ก็เลยลองเอา Note 8 และ S8+ มาทดสอบถ่ายมาโครระยะใกล้
กล้องของ S8 และกล้องหลักของ Note 8 มีระยะ Focal Length อยู่ที่ 26mm ซึ่งการถ่ายวัตถุระยะใกล้ที่สุดที่สามารถถ่ายได้จะอยู่ที่ประมาณ 7 เซ็นติเมตรจากระยะวัตถุครับ ถ้าเข้าใกล้มากกว่านี้วัตถุจะหลุดโฟกัส ภาพชุดด้านล่างเป็นการถ่ายภาพเดียวกันด้วย Note 8 โดยเพิ่มระยะห่างจากวัตถุเป็น 12 เซ็นติเมตรเพื่อให้ได้ภาพในมุมเดียวกันภาพชุดแรก โหมดที่ใช้ เป็นกล้องตัวที่สองแบบซูม และ โหมด Live Focus การตั้งกล้องอาจมีเหลื่อมเล็กน้อย แต่ปัจจัยควบคุมอื่นๆเหมือนเดิมครับ
ผลปรากฎว่าการถ่ายโหมด Auto ผ่านกล้องหลักฉากหลังละลายสวยกว่าเพราะรูรับแสงที่กว้างกว่า เป็นการละลายด้วยฮาร์ดแวร์อย่างแท้จริงครับ แต่การถ่ายมาโครของผม อยากให้เห็นรายละเอียดของวัตถุมากกว่านี้ครับ
เนื่องจากโหมด Selective Focus และ Live Focus มีข้อจำกัดด้านสภาพแสงและระยะห่างจากตัววัตถุ จึงไม่สามารถถ่ายภาพในระยะห่างจากวัตถุน้อยกว่า 7 เซ็นติเมตรได้ แต่โหมดซูมสองเท่าของ Note 8 ทำได้!! ผลจึงเป็นดังนี้ครับ
เห็นหน้าบานาจชัดมากกกกกกกก เห็นยันรอยยับกางเกง (และก็เห็นด้วยว่าลงสีไม่เรียบร้อย ฮ่าๆๆๆ)
ดอกและเกสรของโป๊ยเซียน
การใช้งานและความเร็วของเครื่อง
ในฐานะที่เป็นคิดว่าตัวเองเป็น Geek คนนึง ผมชอบความเร็วครับ ยอมรับครับว่า iPhone แรงกว่า และระบบดีกว่าโทรศัพท์รุ่นอื่นที่ออกในปีเดียวกันครับ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในตัวเลขนะครับ แต่ความเร็วสำหรับผมคือความเร็วในการทำงานครับ คือถ้าใครมาจากสายคอมพ์จะทราบครับว่า ความเร็วของ CPU ไม่สำคัญเท่ากับความเร็วของการบูทเครื่องหรือความเร็วในการเข้าวินโดว์ หรือดูว่าใช้เวลาเท่าไหร่กว่าระบบจะแคลช โดยพื้นฐานก็ใช้ Notepad เนี่ยแหล่ะครับ echo ไปกันจนกว่าจะเดี้ยงไปข้างนึง (หรือทั้งหมดที่ว่ามามีแค่ผมทำคนเดียวก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆๆ)
โทรศัพท์ก็เช่นกันครับ ปัจจุบันความเร็วในการเปิดแอพไม่ต่างกัน แต่ผมอยากทราบว่าเปิดได้กี่แอพจนกว่าเครื่องจะเดี้ยง หรือแอพปิดตัวเองทิ้ง การทดสอบผมทำโดยสองวิธีด้วยกันครับ แต่ก่อนอื่นเริ่มทดสอบโดยดูความเร็วพื้นฐานของทั้งสองรุ่นกันก่อนครับ
จะเห็นได้ว่าความเร็วที่ได้คะแนนไม่ต่างกันมากครับ เราจะลองดูความต่างหลังจากการเทสดังนี้ครับ
Test 1 : โหลดแอพตามรายชื่อดังนี้มา แล้วเปิดทีละแอพ สลับไปสลับมา การตัดสินดูว่ากี่แอพกว่าระบบจะเริ่มปิดแอพแรก
พบว่าทั้ง Note 8 และ S8+ สามารถจัดการทรัพยากรได้ค่อนข้างดี ยังไม่มีแอพไหนถูกปิดตัว ทั้ง Note 8 และ S8+ คะแนนดรอปลงเล็กน้อย
Test 2 : ทำการทดสอบขีดจำกัดของ RAM โดยการทำแรมให้เต็มมากที่สุด ในที่นี้ผมใช้แอพ RamEater ซึ่งสามารถเริ่มเซอร์วิสกินแรม เซอร์วิสละ 500MB การตัดสินดูว่าเปิดได้ทั้งหมดกี่ Service ก่อนจะเริ่มปิดตัวเอง และขณะที่เซอร์วิสเต็ม ทดสอบได้คะแนนเท่าไหร่
ผลปรากฎว่า Note 8 สามารถรันเซอร์วิสได้ถึง 10 ตัว ในขณะที่ S8+ สามารถรันได้ 7 ตัว ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ เพราะ Note 8 มี RAM มากกว่า S8+ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในสภาวะที่แรมถูกใช้จนเกลี้ยงทั้งคู่ Note 8 แสดงอาการกระตุกและดีเลย์น้อยมาก เมื่อเลื่อนแถบNotification ลงมา Note 8 หน่วงประมาณน้อยกว่า 1 วินาที ในขณะที่ S8+ ต้องรอประมาณ 2-3 วินาที ที่สำคัญในแง่ของคะแนน Note 8 คะแนนลดลงจากสภาวะปกติเพียง 100 กว่าจุด ในขณะที่ S8+ คะแนนลดลงเกือบ 2,000 จุด ทำให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการทรัพยากรที่ดีกว่าของ Note 8
สรุป
ผมค่อนข้างประทับใจกับโทรศัพท์เครื่องนี้ครับ กล้องเก่งในส่วนที่ผมใช้งานประจำ ด้าน multi-tasking ทำได้ค่อนข้างดี ตอบโจทย์ในความเป็น Note และความเป็นจอใหญ่ได้อย่างดีครับ ส่วนเรื่องปากกา และการใช้งานด้านอื่นๆ เชื่อว่ามีหลายท่านที่รีวิวไว้ค่อนข้างดีอยู่แล้วครับ
แหม่...ของใหม่ใครก็เห่อ แม้แต่เต่าในบ่อก็อยากมาดูฮะ