เราเคยลงเรื่องเกี่ยวกับ Stephen Curry มาก่อนเเล้วนะคะ
5 เหตุการณ์สําคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนให้ทีม Warriors เข้าสู่ยุคทองในลีก 🏀 NBA
https://ppantip.com/topic/36508138
มาวันนี้ขอลงบทความที่ 2 ที่เราเเปลมาจาก The Athletic.com ค่ะ
เมื่อ 5 ปีก่อนในวันที่ 30 ตุลา 2012 Stephen Curry ได้เซ็นต่อสัญญาที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ franchise ทีม Warriors ให้เข้าสู่ยุคทอง วันนั้น Curry ได้รับข้อความจากเอเยนต์ของเขาผ่านทาง voicemail ของโทรศัพท์ เอเยนต์บอก Curry ว่าทาง Warriors ได้ยื่นข้อเสนอต่อสัญญามาให้แล้ว Curry ต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเอายังไง Curry โทรหา Ayesha เมียของเขาที่เพิ่งแต่งงานกันมา 15 เดือนเพื่อปรึกษาพูดคุยกัน เขามีเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่จะต้องตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อดี
วันต่อมา Curry และเอเยนต์ของเขาได้เข้าพูดคุยกับ Bob Meyers GM และทีมงานของ Warriors ที่ร้านอาหารโรงแรม Ritz-Carlton Meyers มาพร้อมเอกสารปึกใหญ่ที่ Curry ต้องเซ็น Curry ได้ตัดสินใจลงนามต่อสัญญา 4 ปี/$44 ล้านกับทีม Warriors ไม่มีใครรู้เลยว่าการเซ็นสัญญาครั้งนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทีม Warriors ที่นำไปสู่การสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในลีก NBA
จริงๆ สัญญามูลค่า 4 ปี/$44 ล้านตอนนั้นมันก็ดูสมเหตุสมผลกับทุกฝ่ายนะเพราะ Curry เองมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนบริเวณข้อเท้าหลายหนทำให้เขาพลาดลงเล่นถึง 40 เกมส์ในฤดูกาลปี 2011-2012 แถมยังต้องเข้าผ่าเข่าช่วงปิดฤดูกาลสองปีติดกัน วันที่ 19 ตุลา 2012 ก่อนหน้าวันเซ็นสัญญา 12 วัน Curry ไปปะทะกับ Wesley Matthews ทําให้ข้อเท้าเคล็ดอีก Mark Jackson ที่ตอนนั้นยังเป็นโค้ชของ Warriors เลยตัดสินใจพัก Curry ในเกมส์อุ่นเครื่องที่เหลืออีก 2 เกมส์เพราะทาง Warriors มีเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่จะต้องตัดสินใจแล้วว่าจะต่อสัญญา Curry หรือไม่ โชคดีที่ตอนนั้น Curry ข้อเท้าเคล็ดเล็กน้อยไม่เป็นอะไรมาก Blake Griffin อดีต draft เบอร์ 1 ที่ถูกดราฟต์ปีเดียวกับ Curry ก็เพิ่งต่อสัญญา 5 ปี/$96 ล้านกับ Clippers ไปก่อนหน้านั้นสามเดือน ที่ได้เยอะเพราะ Blake ใช้กฎ Rose Rule ที่อนุญาตให้รุกกี้ที่ติดตัวจริงทีมออลสตาร์หรือติดทีม All-NBA ได้สิทธิ์เจรจาขอค่าเหนื่อยเพิ่มได้ Eric Gordon ก็เพิ่งต่อสัญญา 4 ปี/$58 ล้านกับทีม Pelicans ที่ไป match offer sheet ที่ทีม Suns ยื่นเสนอมา
ทีม Warriors ไม่ยอมเสนอ max contract ที่มีมูลค่า 4 ปี/$61 ล้านหรือ 5 ปี/$78.9 ล้านให้ Curry ก่อน deadline วันที่ 31 ตุลา 2012 แต่ทีม Warriors ยื่นทางเลือกมาให้ Curry 2 ทาง
ทางเลือกที่ 1 ถ้า Curry อยากได้ max contract เขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทีมได้เห็นก่อนว่าสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บในฤดูกาลปี 2012 ที่กำลังจะเริ่มขึ้น ถ้าเขาไม่เจ็บเลยในฤดูกาลนี้ ทีมจะยื่น max offer ให้ในปี 2013 ถ้า Curry เลือกข้อนี้ จะยังไม่มีการต่อสัญญาปีนี้ ทีม Warriors จะติดตามดูฟอร์มเเละสุขภาพเขาอีก 1 ปี
ทางเลือกที่ 2 ถ้า Curry อยากเซ็นต่อสัญญากับทีม Warriors ตอนนี้ก่อนเปิดฤดูกาลปี 2012 Curry ต้องยอมรับเงินน้อยลงเพราะทีมไม่มั่นใจเรื่องอาการบาดเจ็บของเขา ทีมต้องเเบกความเสี่ยงด้วยที่จะต่อสัญญาผู้เล่นที่มีปัญหาข้อเท้าบ่อยๆ เเบบเขา ตอนเเรกทีม Warriors เสนอค่าเหนื่อยมาที่เริ่มต้น $8 ล้าน/ปี ซึ่งเอเยนต์ของ Curry มองว่าเงินที่เสนอมาน้อยเกินไปแต่ทีม Warriors ก็พร้อมเจรจาต่อรองตัวเลขนี้
วันก่อนหน้านั้น Ty Lawson ที่ถูกดราฟต์ปีเดียวกับ Curry แต่อันดับดราฟต์ของ Lawson ตํ่ากว่า Curry ตัว Lawson เพิ่งต่อสัญญา 4 ปี/$48 ล้านกับ Nuggets หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มได้ดีพา Nuggets เข้าเพลยออฟได้ เอเยนต์ของ Curry เลยคิดว่าค่าเหนื่อยของ Curry ก็ควรจะได้ราวๆ นี้ ก็มีการเจราจาต่อรองค่าเหนื่อยกัน ทาง Warriors ก็เพิ่มข้อเสนอให้แค่ทีมก็ยังยืนกรานว่ายังไงๆ ทีมก็จะเสนอให้ Curry ได้เฉลี่ยไม่เกินปีละ $11 ล้าน ทางเอเยนต์ของ Curry ก็เอาข้อเสนอเหล่านี้มาคุยกับ Curry ว่าจะเอายังไง ถ้ารออีก 1 ปี ให้สัญญารุกกี้หมดก่อน ถ้า Curry ไม่เจ็บและโชว์ฟอร์มดี เขาจะได้ max contract แต่มันเสี่ยงไปไหมเพราะที่ผ่านมา Curry เจ็บบ่อย หรือจะเลือกต่อสัญญาแบบ 3 ปีแทนดี Curry ก็ปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อแม่เขาด้วย Curry ก็ตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องเอาทางเลือกที่ปลอดภัยไว้ก่อน ยอมเซ็น 4 ปี/$44 ล้านดีกว่าเพราะเงินมันก็เยอะพอควร ถ้าต่อไปเจ็บหนัก ลงเล่นไม่ได้แล้ว เงินแค่นี้ก็พออยู่ไปตลอดชีวิต ตอนนั้นชีวิตของ Curry ก็มีความไม่แน่นอนหลายอย่าง
-เขาถูกดราฟต์มาอยู่ทีมที่เขาไม่อยากมาอยู่ด้วยตั้งแต่แรก
-ทีม Warriors เปลี่ยนโค้ชหน้าใหม่ทุกปีในสามปีแรกที่เขามาอยู่ด้วย
-Monta Ellis ก็ดูฮึ่มๆ ใส่เขาอยู่ที่มาแย่งบอลและแย่งความสนใจไป
-Curry บาดเจ็บข้อเท้าเคล็ดนับครั้งไม่ถ้วน
-Curry เข้าผ่าตัดส่องกล้องที่เข่าสองหน แถมต้องทำกายภาพฟื้นฟูร่างกายอีก
ความกังวลทั้งจากปัญหาเรื่องสุขภาพและสภาพแวดล้อมทำให้ Curry มองว่าสัญญา 4 ปี/$44 ล้านอย่างน้อยก็สร้างความมั่นคงให้เขาได้ในระดับนึง แถมไม่ต้องแบกความกดดันมากด้วยถ้ารับเงินแค่นี้ Curry เลยตัดสินใจเซ็นไป สัญญาใหม่นี้จะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าสัญญารุ้กกี้ของ Curry จะหมดลง
ฤดูกาลปี 2012-2013
Curry ยังได้เงินค่าเหนื่อย $3.98 ล้านจากสัญญารุกกี้ปีสุดท้ายอยู่ ในสัญญารุกกี้ปีสุดท้ายปีนี้ Curry พาทีม Warriors เข้ารอบเพลยออฟเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2007 ทีม Warriors ปราบทีม Nuggets ของ Lawson ในเพลยออฟรอบแรก ก่อนที่จะไปพ่ายให้สเปอร์ในเพลยออฟรอบ 2 ไป 4-2
ฤดูกาลปี 2013-2014
สัญญาฉบับใหม่ของ Curry เริ่มบังคับใช้แล้ว Curry ได้ค่าเหนื่อย $9.88 ล้าน ทีม Warriors พยายามล่าตัว Andre Iguodala มาร่วมทีม ทีมพยายามอย่างหนักที่จะได้ตัวเขามาโดยการปล่อยตัวสำรองอย่าง Jarett Jack และ Carl Landry ออกและทีมได้ทำการ clear แคปอีก $23 ล้านโดยการปล่อย Richard Jefferson, Brandon Rush และ Andris Biedrins ออกไปจากทีม แถมทีมยังต้องยอมเสียสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกแถมไปด้วยเพื่อเปิดทางให้ทีมมีงบ 4 ปี/$48 ล้านไปจ้าง Iggy ตัว Bob Byers บอกเองเลยว่าการเซ็นตัว Iguodala เป็นดีลที่ยากที่สุดที่เขาเคยตกลงมาเลย
ถ้า Curry ได้สัญญาระดับ Ty Lawson ที่ 4 ปี/$48 ล้าน ทีม Warriors คงต้องยอมเสีย Kent Bazemore เพิ่มไปอีกคนด้วยหรือทีมอาจจะไม่ได้ตัว Iggy มาก็เป็นได้ หรือถ้า Curry เกิดเลือกเสี่ยงที่จะยอมรอ 1 ปีแล้วไม่เจ็บ ได้ max contract ขึ้นมา ก็ไม่มีทางเลยที่ทีมนักรบจะได้ตัว Iggy มายกเว้นแต่ถ้าทีมจะยอมปล่อยผู้เล่นดีๆ หรือผู้เล่นหนุ่มๆ ดาวรุ่งทิ้ง Curry บอกว่าเขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเอง underpaid นะ เพิ่งมาเริ่มรู้สึกก็ฤดูกาลปี 2013-2014 นี่แหละที่ทีม Warriors พ่าย series ในเพลยออฟรอบแรกในเกมส์ 7 ให้ Clippers ตอนนั้น Curry เริ่มพัฒนาเป็นสตาร์ดวลเเข่งกับคริส พอลตัวต่อตัวเลย ทีม Warriors ไล่ HC Mark Jackson ออกหลังจบฤดูกาลนี้
ฤดูกาลปี 2014-2015
ทีม Warriors ได้ Steve Kerr มาคุมทีมเเทน ในฤดูกาลนี้ Curry ได้ค่าเหนื่อย $10.6 ล้าน เขามีค่าเหนื่อยสูงเป็นอันดับ 4 ของทีมรองจากเดวิด ลี, Bogut และ Iggy Curry คว้ารางวัล MVP ตัวเเรกเเละพาทีมนักรบคว้าแหวนแชมป์ด้วย เมื่อก่อนทีม Warriors เคยดิ้นรนที่จะได้สตาร์ดังมาก่อน ทีมเคยจีบเลบรอนมาร่วมทีมเมื่อปี 2010, พยายามล่อ Dwight Howard ในปี 2013 โดยเอา Curry มาช่วยชวน superman เองเลย ถ้าทีม Warriors ได้ LeBron หรือ Dwight มาตอนนั้น แคปค่าเหนื่อยของทีมก็จะสูงลิ่ว ค่าเหนื่อยสตาร์ดังพวกนี้น่าจะราวๆ ปีละ $20 ล้าน+ นับว่าทีมนักรบโชคดีมากที่เซ็น Curry ให้ต่อสัญญาได้ด้วยราคาตํ่ากว่าครึ่งของผู้เล่นระดับสตาร์คนอื่นๆ และการเซ็น Curry ได้ด้วยราคานั้น ก็เป็นการเปิดทางให้ทีมมีแคปเหลือไปเซ็นต่อสัญญา Draymond Green และ Klay Thompson ด้วย โดยกรีนได้ไป 5 ปี/$82 ล้านและเคลยได้ไป 4 ปี/$70 ล้าน ทั้งคู่ไม่ได้ max contract เลยสักคนเพราะทีมนักรบเจรจาต่อรองลดค่าเหนื่อยสองคนนั้นลงมาได้
ฤดูกาลปี 2015-2016
ค่าเหนื่อยของ Green กับ Klay รวมกันอยู่ที่ $30 ล้านทำให้ค่าเหนื่อย $11.3 ล้านของ Curry ตกมาอยู่อันดับ 5 ของทีม Curry คว้ารางวัล MVP ตัวที่ 2 ได้และพาทีม Warriors เข้ารอบชิง NBA ได้อีกครั้งแต่ทีม Warriors ดันไปแพ้เกมส์ 7 ให้ทีม Cavaliers การที่ทีม Warriors แพ้ในนัดชิงปีนี้ก็มีข้อดีอยู่อย่างนึงคือทำให้ทีม Warriors ตัดสินใจล่าตัว Kevin Durant มาร่วมทีมอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้มีข่าวลือมาเป็นปีว่าทีมนักรบสนใจเคดีแต่ทีมเพิ่งมาเริ่มจีบเขาจริงจังก็หลังแพ้นัดชิงให้ Cavs นี่แหละ และทีมก็ได้ตัวเขามาสมใจแต่ทีมก็ต้องเสีย Bogut กับ Barnes ไป
ฤดูกาลปี 2016-2017
Curry มีสัญญาปีสุดท้ายกับทีม เขาได้ค่าเหนื่อย $12.1 ล้านในปีนี้ ทีม Warriors ที่มีเคดีเพิ่มมาอีกคนได้กลายเป็น Superteam คว้าเเชมป์ลีกมาครองได้ตามความคาดหมาย
อย่าลืมว่าตอน Curry ต่อสัญญากับทีม Warriors เมื่อปี 2012 ตอนนั้นเขาจะต่อสัญญาแบบสามปีแทนก็ได้ ถ้าตอนนั้น Curry เลือกต่อแบบสามปี ไม่ใช่สี่ปี เขาจะเป็น free agency ซัมเมอร์ปี 2016 ซึ่งจะทำให้เขาได้ค่าเหนื่อยเริ่มต้นที่ปีละ $26.5 ล้าน ทีม Warriors อาจจะต้องเสีย Shuan, Iggy และทีมคงไม่มีงบไปเซ็นเคดีมาปีก่อนถ้า Curry หมดสัญญากับทีมปีก่อน
ถ้า Curry เลือกที่จะเสี่ยงรอ 1 ปีจนสัญญารุกกี้หมดแล้วพิสูจน์ตัวได้ว่าไม่เจ็บ ได้ max contract ในปี 2013 เขาจะได้ค่าเหนื่อยปีละ $16 ล้านตอนนี้ ทีมก็คงไม่ทางเก็บ Livingston ไว้ได้
อิฐก้อนแรกของยุคทอง Superteam ถูกวางตอนที่ Curry เซ็นต่อสัญญารุกกี้เมื่อปี 2012 การที่ Curry ได้เงินค่าเหนื่อย 4 ปี/$44 ล้านก็ไม่ได้แย่อะไรอย่างที่หลายๆ คนคิดเลยนะ เขาอาจจะถูกมองว่าค่าเหนื่อย underpaid มาหลายปีก็จริง แต่การที่สัญญาของ Curry มาหมดในปี 2017 พอดีทำให้เขามีสิทธิ์ต่อสัญญาแบบ Designated Player Exception ที่เพิ่งบังคับใช้ปีนี้เป็นปีเเรก หนนี้ Curry ฟันเงินอื้อได้ไป 5 ปี/$201 ล้าน ถึง Curry จะไม่ได้ no-trade clause หรือ player option ตามที่เขาร้องขอแต่การที่ Curry หมดสัญญากับทีม Warriors ใน summer ปีนี้ มีข้อดีตรงมันทำให้ Curry ได้เงินพิเศษเพิ่มจาก Designated Player Exception อีก $48 ล้านด้วย ดังนั้นการเซ็นของ Curry ตอนนั้นถือว่า win-win กับทุกฝ่าย
Credit: The Athletic.com
ข่าว 🏀 NBA: สัญญาที่ Curry เซ็นเมื่อปี 5 ก่อนเป็นจุดเริ่มต้นของ Superteam
5 เหตุการณ์สําคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนให้ทีม Warriors เข้าสู่ยุคทองในลีก 🏀 NBA
https://ppantip.com/topic/36508138
มาวันนี้ขอลงบทความที่ 2 ที่เราเเปลมาจาก The Athletic.com ค่ะ
เมื่อ 5 ปีก่อนในวันที่ 30 ตุลา 2012 Stephen Curry ได้เซ็นต่อสัญญาที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ franchise ทีม Warriors ให้เข้าสู่ยุคทอง วันนั้น Curry ได้รับข้อความจากเอเยนต์ของเขาผ่านทาง voicemail ของโทรศัพท์ เอเยนต์บอก Curry ว่าทาง Warriors ได้ยื่นข้อเสนอต่อสัญญามาให้แล้ว Curry ต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเอายังไง Curry โทรหา Ayesha เมียของเขาที่เพิ่งแต่งงานกันมา 15 เดือนเพื่อปรึกษาพูดคุยกัน เขามีเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่จะต้องตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อดี
วันต่อมา Curry และเอเยนต์ของเขาได้เข้าพูดคุยกับ Bob Meyers GM และทีมงานของ Warriors ที่ร้านอาหารโรงแรม Ritz-Carlton Meyers มาพร้อมเอกสารปึกใหญ่ที่ Curry ต้องเซ็น Curry ได้ตัดสินใจลงนามต่อสัญญา 4 ปี/$44 ล้านกับทีม Warriors ไม่มีใครรู้เลยว่าการเซ็นสัญญาครั้งนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทีม Warriors ที่นำไปสู่การสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในลีก NBA
จริงๆ สัญญามูลค่า 4 ปี/$44 ล้านตอนนั้นมันก็ดูสมเหตุสมผลกับทุกฝ่ายนะเพราะ Curry เองมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนบริเวณข้อเท้าหลายหนทำให้เขาพลาดลงเล่นถึง 40 เกมส์ในฤดูกาลปี 2011-2012 แถมยังต้องเข้าผ่าเข่าช่วงปิดฤดูกาลสองปีติดกัน วันที่ 19 ตุลา 2012 ก่อนหน้าวันเซ็นสัญญา 12 วัน Curry ไปปะทะกับ Wesley Matthews ทําให้ข้อเท้าเคล็ดอีก Mark Jackson ที่ตอนนั้นยังเป็นโค้ชของ Warriors เลยตัดสินใจพัก Curry ในเกมส์อุ่นเครื่องที่เหลืออีก 2 เกมส์เพราะทาง Warriors มีเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่จะต้องตัดสินใจแล้วว่าจะต่อสัญญา Curry หรือไม่ โชคดีที่ตอนนั้น Curry ข้อเท้าเคล็ดเล็กน้อยไม่เป็นอะไรมาก Blake Griffin อดีต draft เบอร์ 1 ที่ถูกดราฟต์ปีเดียวกับ Curry ก็เพิ่งต่อสัญญา 5 ปี/$96 ล้านกับ Clippers ไปก่อนหน้านั้นสามเดือน ที่ได้เยอะเพราะ Blake ใช้กฎ Rose Rule ที่อนุญาตให้รุกกี้ที่ติดตัวจริงทีมออลสตาร์หรือติดทีม All-NBA ได้สิทธิ์เจรจาขอค่าเหนื่อยเพิ่มได้ Eric Gordon ก็เพิ่งต่อสัญญา 4 ปี/$58 ล้านกับทีม Pelicans ที่ไป match offer sheet ที่ทีม Suns ยื่นเสนอมา
ทีม Warriors ไม่ยอมเสนอ max contract ที่มีมูลค่า 4 ปี/$61 ล้านหรือ 5 ปี/$78.9 ล้านให้ Curry ก่อน deadline วันที่ 31 ตุลา 2012 แต่ทีม Warriors ยื่นทางเลือกมาให้ Curry 2 ทาง
ทางเลือกที่ 1 ถ้า Curry อยากได้ max contract เขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทีมได้เห็นก่อนว่าสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บในฤดูกาลปี 2012 ที่กำลังจะเริ่มขึ้น ถ้าเขาไม่เจ็บเลยในฤดูกาลนี้ ทีมจะยื่น max offer ให้ในปี 2013 ถ้า Curry เลือกข้อนี้ จะยังไม่มีการต่อสัญญาปีนี้ ทีม Warriors จะติดตามดูฟอร์มเเละสุขภาพเขาอีก 1 ปี
ทางเลือกที่ 2 ถ้า Curry อยากเซ็นต่อสัญญากับทีม Warriors ตอนนี้ก่อนเปิดฤดูกาลปี 2012 Curry ต้องยอมรับเงินน้อยลงเพราะทีมไม่มั่นใจเรื่องอาการบาดเจ็บของเขา ทีมต้องเเบกความเสี่ยงด้วยที่จะต่อสัญญาผู้เล่นที่มีปัญหาข้อเท้าบ่อยๆ เเบบเขา ตอนเเรกทีม Warriors เสนอค่าเหนื่อยมาที่เริ่มต้น $8 ล้าน/ปี ซึ่งเอเยนต์ของ Curry มองว่าเงินที่เสนอมาน้อยเกินไปแต่ทีม Warriors ก็พร้อมเจรจาต่อรองตัวเลขนี้
วันก่อนหน้านั้น Ty Lawson ที่ถูกดราฟต์ปีเดียวกับ Curry แต่อันดับดราฟต์ของ Lawson ตํ่ากว่า Curry ตัว Lawson เพิ่งต่อสัญญา 4 ปี/$48 ล้านกับ Nuggets หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มได้ดีพา Nuggets เข้าเพลยออฟได้ เอเยนต์ของ Curry เลยคิดว่าค่าเหนื่อยของ Curry ก็ควรจะได้ราวๆ นี้ ก็มีการเจราจาต่อรองค่าเหนื่อยกัน ทาง Warriors ก็เพิ่มข้อเสนอให้แค่ทีมก็ยังยืนกรานว่ายังไงๆ ทีมก็จะเสนอให้ Curry ได้เฉลี่ยไม่เกินปีละ $11 ล้าน ทางเอเยนต์ของ Curry ก็เอาข้อเสนอเหล่านี้มาคุยกับ Curry ว่าจะเอายังไง ถ้ารออีก 1 ปี ให้สัญญารุกกี้หมดก่อน ถ้า Curry ไม่เจ็บและโชว์ฟอร์มดี เขาจะได้ max contract แต่มันเสี่ยงไปไหมเพราะที่ผ่านมา Curry เจ็บบ่อย หรือจะเลือกต่อสัญญาแบบ 3 ปีแทนดี Curry ก็ปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อแม่เขาด้วย Curry ก็ตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องเอาทางเลือกที่ปลอดภัยไว้ก่อน ยอมเซ็น 4 ปี/$44 ล้านดีกว่าเพราะเงินมันก็เยอะพอควร ถ้าต่อไปเจ็บหนัก ลงเล่นไม่ได้แล้ว เงินแค่นี้ก็พออยู่ไปตลอดชีวิต ตอนนั้นชีวิตของ Curry ก็มีความไม่แน่นอนหลายอย่าง
-เขาถูกดราฟต์มาอยู่ทีมที่เขาไม่อยากมาอยู่ด้วยตั้งแต่แรก
-ทีม Warriors เปลี่ยนโค้ชหน้าใหม่ทุกปีในสามปีแรกที่เขามาอยู่ด้วย
-Monta Ellis ก็ดูฮึ่มๆ ใส่เขาอยู่ที่มาแย่งบอลและแย่งความสนใจไป
-Curry บาดเจ็บข้อเท้าเคล็ดนับครั้งไม่ถ้วน
-Curry เข้าผ่าตัดส่องกล้องที่เข่าสองหน แถมต้องทำกายภาพฟื้นฟูร่างกายอีก
ความกังวลทั้งจากปัญหาเรื่องสุขภาพและสภาพแวดล้อมทำให้ Curry มองว่าสัญญา 4 ปี/$44 ล้านอย่างน้อยก็สร้างความมั่นคงให้เขาได้ในระดับนึง แถมไม่ต้องแบกความกดดันมากด้วยถ้ารับเงินแค่นี้ Curry เลยตัดสินใจเซ็นไป สัญญาใหม่นี้จะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าสัญญารุ้กกี้ของ Curry จะหมดลง
ฤดูกาลปี 2012-2013
Curry ยังได้เงินค่าเหนื่อย $3.98 ล้านจากสัญญารุกกี้ปีสุดท้ายอยู่ ในสัญญารุกกี้ปีสุดท้ายปีนี้ Curry พาทีม Warriors เข้ารอบเพลยออฟเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2007 ทีม Warriors ปราบทีม Nuggets ของ Lawson ในเพลยออฟรอบแรก ก่อนที่จะไปพ่ายให้สเปอร์ในเพลยออฟรอบ 2 ไป 4-2
ฤดูกาลปี 2013-2014
สัญญาฉบับใหม่ของ Curry เริ่มบังคับใช้แล้ว Curry ได้ค่าเหนื่อย $9.88 ล้าน ทีม Warriors พยายามล่าตัว Andre Iguodala มาร่วมทีม ทีมพยายามอย่างหนักที่จะได้ตัวเขามาโดยการปล่อยตัวสำรองอย่าง Jarett Jack และ Carl Landry ออกและทีมได้ทำการ clear แคปอีก $23 ล้านโดยการปล่อย Richard Jefferson, Brandon Rush และ Andris Biedrins ออกไปจากทีม แถมทีมยังต้องยอมเสียสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกแถมไปด้วยเพื่อเปิดทางให้ทีมมีงบ 4 ปี/$48 ล้านไปจ้าง Iggy ตัว Bob Byers บอกเองเลยว่าการเซ็นตัว Iguodala เป็นดีลที่ยากที่สุดที่เขาเคยตกลงมาเลย
ถ้า Curry ได้สัญญาระดับ Ty Lawson ที่ 4 ปี/$48 ล้าน ทีม Warriors คงต้องยอมเสีย Kent Bazemore เพิ่มไปอีกคนด้วยหรือทีมอาจจะไม่ได้ตัว Iggy มาก็เป็นได้ หรือถ้า Curry เกิดเลือกเสี่ยงที่จะยอมรอ 1 ปีแล้วไม่เจ็บ ได้ max contract ขึ้นมา ก็ไม่มีทางเลยที่ทีมนักรบจะได้ตัว Iggy มายกเว้นแต่ถ้าทีมจะยอมปล่อยผู้เล่นดีๆ หรือผู้เล่นหนุ่มๆ ดาวรุ่งทิ้ง Curry บอกว่าเขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเอง underpaid นะ เพิ่งมาเริ่มรู้สึกก็ฤดูกาลปี 2013-2014 นี่แหละที่ทีม Warriors พ่าย series ในเพลยออฟรอบแรกในเกมส์ 7 ให้ Clippers ตอนนั้น Curry เริ่มพัฒนาเป็นสตาร์ดวลเเข่งกับคริส พอลตัวต่อตัวเลย ทีม Warriors ไล่ HC Mark Jackson ออกหลังจบฤดูกาลนี้
ฤดูกาลปี 2014-2015
ทีม Warriors ได้ Steve Kerr มาคุมทีมเเทน ในฤดูกาลนี้ Curry ได้ค่าเหนื่อย $10.6 ล้าน เขามีค่าเหนื่อยสูงเป็นอันดับ 4 ของทีมรองจากเดวิด ลี, Bogut และ Iggy Curry คว้ารางวัล MVP ตัวเเรกเเละพาทีมนักรบคว้าแหวนแชมป์ด้วย เมื่อก่อนทีม Warriors เคยดิ้นรนที่จะได้สตาร์ดังมาก่อน ทีมเคยจีบเลบรอนมาร่วมทีมเมื่อปี 2010, พยายามล่อ Dwight Howard ในปี 2013 โดยเอา Curry มาช่วยชวน superman เองเลย ถ้าทีม Warriors ได้ LeBron หรือ Dwight มาตอนนั้น แคปค่าเหนื่อยของทีมก็จะสูงลิ่ว ค่าเหนื่อยสตาร์ดังพวกนี้น่าจะราวๆ ปีละ $20 ล้าน+ นับว่าทีมนักรบโชคดีมากที่เซ็น Curry ให้ต่อสัญญาได้ด้วยราคาตํ่ากว่าครึ่งของผู้เล่นระดับสตาร์คนอื่นๆ และการเซ็น Curry ได้ด้วยราคานั้น ก็เป็นการเปิดทางให้ทีมมีแคปเหลือไปเซ็นต่อสัญญา Draymond Green และ Klay Thompson ด้วย โดยกรีนได้ไป 5 ปี/$82 ล้านและเคลยได้ไป 4 ปี/$70 ล้าน ทั้งคู่ไม่ได้ max contract เลยสักคนเพราะทีมนักรบเจรจาต่อรองลดค่าเหนื่อยสองคนนั้นลงมาได้
ฤดูกาลปี 2015-2016
ค่าเหนื่อยของ Green กับ Klay รวมกันอยู่ที่ $30 ล้านทำให้ค่าเหนื่อย $11.3 ล้านของ Curry ตกมาอยู่อันดับ 5 ของทีม Curry คว้ารางวัล MVP ตัวที่ 2 ได้และพาทีม Warriors เข้ารอบชิง NBA ได้อีกครั้งแต่ทีม Warriors ดันไปแพ้เกมส์ 7 ให้ทีม Cavaliers การที่ทีม Warriors แพ้ในนัดชิงปีนี้ก็มีข้อดีอยู่อย่างนึงคือทำให้ทีม Warriors ตัดสินใจล่าตัว Kevin Durant มาร่วมทีมอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้มีข่าวลือมาเป็นปีว่าทีมนักรบสนใจเคดีแต่ทีมเพิ่งมาเริ่มจีบเขาจริงจังก็หลังแพ้นัดชิงให้ Cavs นี่แหละ และทีมก็ได้ตัวเขามาสมใจแต่ทีมก็ต้องเสีย Bogut กับ Barnes ไป
ฤดูกาลปี 2016-2017
Curry มีสัญญาปีสุดท้ายกับทีม เขาได้ค่าเหนื่อย $12.1 ล้านในปีนี้ ทีม Warriors ที่มีเคดีเพิ่มมาอีกคนได้กลายเป็น Superteam คว้าเเชมป์ลีกมาครองได้ตามความคาดหมาย
อย่าลืมว่าตอน Curry ต่อสัญญากับทีม Warriors เมื่อปี 2012 ตอนนั้นเขาจะต่อสัญญาแบบสามปีแทนก็ได้ ถ้าตอนนั้น Curry เลือกต่อแบบสามปี ไม่ใช่สี่ปี เขาจะเป็น free agency ซัมเมอร์ปี 2016 ซึ่งจะทำให้เขาได้ค่าเหนื่อยเริ่มต้นที่ปีละ $26.5 ล้าน ทีม Warriors อาจจะต้องเสีย Shuan, Iggy และทีมคงไม่มีงบไปเซ็นเคดีมาปีก่อนถ้า Curry หมดสัญญากับทีมปีก่อน
ถ้า Curry เลือกที่จะเสี่ยงรอ 1 ปีจนสัญญารุกกี้หมดแล้วพิสูจน์ตัวได้ว่าไม่เจ็บ ได้ max contract ในปี 2013 เขาจะได้ค่าเหนื่อยปีละ $16 ล้านตอนนี้ ทีมก็คงไม่ทางเก็บ Livingston ไว้ได้
อิฐก้อนแรกของยุคทอง Superteam ถูกวางตอนที่ Curry เซ็นต่อสัญญารุกกี้เมื่อปี 2012 การที่ Curry ได้เงินค่าเหนื่อย 4 ปี/$44 ล้านก็ไม่ได้แย่อะไรอย่างที่หลายๆ คนคิดเลยนะ เขาอาจจะถูกมองว่าค่าเหนื่อย underpaid มาหลายปีก็จริง แต่การที่สัญญาของ Curry มาหมดในปี 2017 พอดีทำให้เขามีสิทธิ์ต่อสัญญาแบบ Designated Player Exception ที่เพิ่งบังคับใช้ปีนี้เป็นปีเเรก หนนี้ Curry ฟันเงินอื้อได้ไป 5 ปี/$201 ล้าน ถึง Curry จะไม่ได้ no-trade clause หรือ player option ตามที่เขาร้องขอแต่การที่ Curry หมดสัญญากับทีม Warriors ใน summer ปีนี้ มีข้อดีตรงมันทำให้ Curry ได้เงินพิเศษเพิ่มจาก Designated Player Exception อีก $48 ล้านด้วย ดังนั้นการเซ็นของ Curry ตอนนั้นถือว่า win-win กับทุกฝ่าย
Credit: The Athletic.com