1. แนะนำให้ดูเรื่อง patriots day มาก่อนจะได้อารมณ์มากขึ้นครับ เพราะทั้งสองเรื่องอยู่บน base story เดียวกัน patriots day เน้นเหตุการณ์ระเบิดที่งานมาราธอนที่บอสตันตั้งแต่ตั้นจนจบ แต่ stronger มาเจาะชีวิตคนคนนึงที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ครั้งนี้ครับ
สำหรับผมแล้ว เรื่อง stronger คือ patriots day ภาคสองดีๆนี่เอง
2. ขึ้นชื่อว่า เจค จิลลาฮาน เลือกแสดงหนังแต่ละเรื่อง ผมรู้สึกว่าเรื่องนั้นต้องมีอะไรดีซักอย่าง เรื่องนี้ทั้งชื่อเรื่อง รูปโปสเตอร์ ทำให้ผมคาดเดาเนื้อเรื่องได้คร่าวๆว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่เผชิญภาวะเสียขาแน่ๆเลย (ผมไม่ได้ดูตัวอย่างหนังก่อนเข้าไปดู)
ความคาดหวังว่าหนังจะบิ้วอารมณ์คนดูให้รู้สึกสู้ และ feel good จึงมีกับผมอยู่พอสมควร แต่หนังก็ไม่ได้ทำได้ถึงระดับเท่าที่ผมคาดไว้เท่าไหร่ พูดง่ายๆคือ ออกจากโรงไปแบบขึ้นไม่สุด
ประเด็นหลักคือหนังแทนที่จะเลือกเฉพาะมุมที่เป็นฮีโร่ พระเอกพยายามยืนหยัดด้วยขาของตัวเอง มี passion มีการฝ่าฟันอุปสรรคต่างนานา จนสุดท้ายก็สำเร็จ หนังกลับหยิบเอาด้านมืดของพระเอกมาด้วยแฮะ
พระเอกเรื่องนี้สำหรับผมจึงเป็นแบบสีเทาๆ. ต้นเรื่องเจคเล่นได้แบบพระเอกเป็นคนน่าเอ็นดูมาก พอถึงฉากระเบิดตัดขา ฉากทนพิษบาดแผล เลย ผมเลยน้ำตาคลอนิดๆ (อารมณ์เศร้ามาจากเรื่อง patriots dayส่วนนึง)
หนังเดินไปครึ่งเรื่อง พระเอกดันเสียคนซะงั้น ติดเหล้า เมายา กันไปตามแม่ ตามเพื่อน แต่ผมก็ชอบที่หนังก็ไม่ได้เน้นว่าเพราะเหตุการณ์ระเบิดครั้งนั้น ทำให้พระเอกต้องเสียคนจนเกือบจะเลิกกับนางเอกอีกรอบ
แน่นอนโดนระเบิดตัดขาย้อมส่งผลกระทบจิตใจของพระเอกแน่นอน แต่ถ้าดูดีๆ ก่อนพระเอกโดนระเบิดตัดขา นิสัยพระเอกก็ไม่ได้เป็นคนที่รับผิดชอบอะไรได้มากอยู่แล้ว ออกจะเป็นลูกแหง่ ไม่ตรงเวลา ความรับผิดชอบไม่ค่อยมี เน้นความสุขส่วนตัวเป็นหลัก แต่เป็นคนจิตใจดี เฮฮา เป็นที่รักของคนอื่นๆได้ง่าย
พอโดนระเบิดตัดขาด้วยพื้นฐานนิสัยแบบนั้น พระเอกเลยไม่มีพลังที่จะทำจนสุด
แต่สุดท้ายก็ได้แรงบันดาลใจ บทเรียนจากคาร์รอส คนที่ช้วยชีวิตเค้า ทำให้เค้าฮึดกลับมายืนและรับผิดชอบสิ่งที่ควรจะรับผิดชอบ ไม่ว่าจะมีขา หรือไม่มีขาก็ตาม
สำหรับผมเรื่องนี้เลยกลายเป็นเรื่องที่สอนคนที่เป็นเด็กไม่รู้จักโตให้มีความรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี เพราะแบบที่นางเอกพูดไว้ ความรับผิดชอบตัวเองกับมีขาไม่มีขาเป็นคนละเรื่องกัน
ไม่มีขาแต่ชีวิตมันก็ต้องเดินต่อไป ทำในสิ่งที่ควรทำต่อไป
3. ในอีกมุมหนึ่งที่เด่นๆเลยคือ พระเอกโดนแม่ยัดเยียดให้เป็น ฮีโร่ เพราะลูกโดนระเบิดตัดขาแต่ยังชี้ตัวคนร้ายได้ เลยจับพลัดจับผลูมาเป็นฮีโร่ ทั้งๆที่จริงๆแล้วพระเอกไม่ได้มีพลังใจถึงขนาดจะเป็นฮีโร่ มันกลายเป็นความเครียดให้พระเอกแทน แต่สุดท้ายพอพระเอกเจอคาร์ลอส พระเอกเลยได้รู้ว่าบทบาทของเขาคืออะไร และสิ่งที่เขาควรทำคืออะไร ผู้คนมากมายจึงได้เห็นเป็นตัวแทนของคนที่ strongจริงๆซะที
4. ตอนแรกก็งงๆว่าทำไมต้องจัด rate 15+ พอเจอฉากเจคนอนหงายแช่อ่าง (เห็นแล้วแอบเทียบกับของตัวเองแปบ) บวกกับฉากเซ็กซ์แบบปราณีตถึงเข้าใจว่าทำไม ทั้งสองฉากทำให้ผมรู้สึกถึงชีวิตมนุษย์แฮะ ดูดิบๆดี
7.5/10
Stronger : รีวิว (สปอย)
สำหรับผมแล้ว เรื่อง stronger คือ patriots day ภาคสองดีๆนี่เอง
2. ขึ้นชื่อว่า เจค จิลลาฮาน เลือกแสดงหนังแต่ละเรื่อง ผมรู้สึกว่าเรื่องนั้นต้องมีอะไรดีซักอย่าง เรื่องนี้ทั้งชื่อเรื่อง รูปโปสเตอร์ ทำให้ผมคาดเดาเนื้อเรื่องได้คร่าวๆว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่เผชิญภาวะเสียขาแน่ๆเลย (ผมไม่ได้ดูตัวอย่างหนังก่อนเข้าไปดู)
ความคาดหวังว่าหนังจะบิ้วอารมณ์คนดูให้รู้สึกสู้ และ feel good จึงมีกับผมอยู่พอสมควร แต่หนังก็ไม่ได้ทำได้ถึงระดับเท่าที่ผมคาดไว้เท่าไหร่ พูดง่ายๆคือ ออกจากโรงไปแบบขึ้นไม่สุด
ประเด็นหลักคือหนังแทนที่จะเลือกเฉพาะมุมที่เป็นฮีโร่ พระเอกพยายามยืนหยัดด้วยขาของตัวเอง มี passion มีการฝ่าฟันอุปสรรคต่างนานา จนสุดท้ายก็สำเร็จ หนังกลับหยิบเอาด้านมืดของพระเอกมาด้วยแฮะ
พระเอกเรื่องนี้สำหรับผมจึงเป็นแบบสีเทาๆ. ต้นเรื่องเจคเล่นได้แบบพระเอกเป็นคนน่าเอ็นดูมาก พอถึงฉากระเบิดตัดขา ฉากทนพิษบาดแผล เลย ผมเลยน้ำตาคลอนิดๆ (อารมณ์เศร้ามาจากเรื่อง patriots dayส่วนนึง)
หนังเดินไปครึ่งเรื่อง พระเอกดันเสียคนซะงั้น ติดเหล้า เมายา กันไปตามแม่ ตามเพื่อน แต่ผมก็ชอบที่หนังก็ไม่ได้เน้นว่าเพราะเหตุการณ์ระเบิดครั้งนั้น ทำให้พระเอกต้องเสียคนจนเกือบจะเลิกกับนางเอกอีกรอบ
แน่นอนโดนระเบิดตัดขาย้อมส่งผลกระทบจิตใจของพระเอกแน่นอน แต่ถ้าดูดีๆ ก่อนพระเอกโดนระเบิดตัดขา นิสัยพระเอกก็ไม่ได้เป็นคนที่รับผิดชอบอะไรได้มากอยู่แล้ว ออกจะเป็นลูกแหง่ ไม่ตรงเวลา ความรับผิดชอบไม่ค่อยมี เน้นความสุขส่วนตัวเป็นหลัก แต่เป็นคนจิตใจดี เฮฮา เป็นที่รักของคนอื่นๆได้ง่าย
พอโดนระเบิดตัดขาด้วยพื้นฐานนิสัยแบบนั้น พระเอกเลยไม่มีพลังที่จะทำจนสุด
แต่สุดท้ายก็ได้แรงบันดาลใจ บทเรียนจากคาร์รอส คนที่ช้วยชีวิตเค้า ทำให้เค้าฮึดกลับมายืนและรับผิดชอบสิ่งที่ควรจะรับผิดชอบ ไม่ว่าจะมีขา หรือไม่มีขาก็ตาม
สำหรับผมเรื่องนี้เลยกลายเป็นเรื่องที่สอนคนที่เป็นเด็กไม่รู้จักโตให้มีความรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี เพราะแบบที่นางเอกพูดไว้ ความรับผิดชอบตัวเองกับมีขาไม่มีขาเป็นคนละเรื่องกัน
ไม่มีขาแต่ชีวิตมันก็ต้องเดินต่อไป ทำในสิ่งที่ควรทำต่อไป
3. ในอีกมุมหนึ่งที่เด่นๆเลยคือ พระเอกโดนแม่ยัดเยียดให้เป็น ฮีโร่ เพราะลูกโดนระเบิดตัดขาแต่ยังชี้ตัวคนร้ายได้ เลยจับพลัดจับผลูมาเป็นฮีโร่ ทั้งๆที่จริงๆแล้วพระเอกไม่ได้มีพลังใจถึงขนาดจะเป็นฮีโร่ มันกลายเป็นความเครียดให้พระเอกแทน แต่สุดท้ายพอพระเอกเจอคาร์ลอส พระเอกเลยได้รู้ว่าบทบาทของเขาคืออะไร และสิ่งที่เขาควรทำคืออะไร ผู้คนมากมายจึงได้เห็นเป็นตัวแทนของคนที่ strongจริงๆซะที
4. ตอนแรกก็งงๆว่าทำไมต้องจัด rate 15+ พอเจอฉากเจคนอนหงายแช่อ่าง (เห็นแล้วแอบเทียบกับของตัวเองแปบ) บวกกับฉากเซ็กซ์แบบปราณีตถึงเข้าใจว่าทำไม ทั้งสองฉากทำให้ผมรู้สึกถึงชีวิตมนุษย์แฮะ ดูดิบๆดี
7.5/10