[[อีกกระทู้สำหรับรีวิวหนังTHOR RAGNAROK]] - คุณค่าอาจไม่ค่อยมี แต่ก็ควรค่าแก่การดู เพราะความสนุกปนฮามาเต็ม

รีวิว Thor Ragnarok


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
สำหรับธอร์ภาคนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นภาคที่จัดความบันเทิง ความสนุกเฮฮา ให้กับได้อย่างดีเยี่ยมที่สุด
แต่ถ้าถามถึงในแง่ของคุณภาพของตัวหนัง ถ้าวัดจากตัวเนื้อเรื่อง ตัวบท หรือองค์ประกอบในความเป็นCinematic
คิดว่ายังคงไม่สามารถเทียบได้กับ ธอร์ ภาคแรก
ซึ่งในภาคนั้น ผมยกให้เป็นธอร์ภาคที่สมบูรณ์ที่สุด

แม้ว่าจะมีหลายคนค่อนแคะภาคนั้นว่าดูลิเก ดูเล่นใหญ่รัชดาลัย
แต่ในความเห็นผม ธอร์ มันไม่ใช่คนปกติอยู่แล้ว ในความเป็นเทพเจ้า มันต้องมาพร้อมกับความขลัง ความโออ่า
ดูเยอะๆ มีลูกเล่น และดูแกรนด์ๆ อาจเหมือนละครเวทีนิดนึง แต่มันดูแล้วเข้ากับบริบทของธอร์มากๆ

นอกจากนี้ ทั้งนักแสดง และตัวเนื้อเรื่อง ยังมีการเล่าออกมาได้อย่างลงตัว
พร้อมๆกับการถ่ายภาพ การจัดโทนสีและองค์ประกอบ ไปจนถึงการตัดต่อ เรียกได้ว่าภาคแรก งานเนี๊ยบมาก

แต่ถ้าจะกล่าวถึงภาคแรกมากกว่านี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า จะหาว่าเรามารีวิวหนังภาคแรกอีก
ไม่ก็คนที่คิดในแง่ร้ายหน่อย อาจรู้สึกได้ว่า เรากำลังหยิบยกคุณงามความดีของภาคแรกมาทับถมภาคนี้


ซึ่งจริงๆแล้ว เราไม่ได้จะทำอย่างนั้น
แต่กำลังจะบอกว่า
สำหรับธอร์ภาคนี้ ความขลังที่สะสมมาทั้งสองภาค ถูกพังทลายผ่านมุขตลกสุดแสนเลอะเทอะตลอดเรื่อง

ถ้ามองในแง่ดี ในความเลอะเทอะนี้ เราก็จะได้เห็นโลกใหม่ มิติใหม่ของธอร์
อาจจะไม่ใช่แค่ ธอร์ ชวนชื่น หรือ พี่ฮัล์ค เชิญยิ้ม

แต่ในแง่ของการดำเนินเรื่อง ก็ต้องยอมรับว่าภาคนี้มันสามารถทำให้ความดราม่าหนักหน่วงมากมาย
ดูแล้วยังหัวเราะออกมาได้ แล้วยังมีช่วงที่ผมชอบอย่างที่ ซาคาร์ อาณาจักรดวงดาวอันไกลโพ้น
ที่ในความไม่สมเหตุสมผล มันสนุก ล้ำ เร้าใจ เหมือนหนังภาคนี้ทั้งเรื่อง ที่ให้ความสำคัญกับแก๊กหรือมุขย่อยๆ มากกว่าตัวเรื่องหลักๆ

สิ่งที่เสียดายคือ จั่วหัวมาว่าศึกอวสานเทพเจ้า ขุ่นแม่เคต แบลนเชล์ต แม้จะเป็นถึงเทพธิดาแห่งความตาย
ก็อาจต้องมีเก้อ เพราะบทส่งมาไม่ค่อยเยอะนัก คนดูอย่างเราเลยรู้สึกกับการเอาใจเชียร์ธอร์กับฮัล์คสู้กันไปจนถึงภารกิจในซาคาร์แทน
ยังไม่หมดเท่านี้ ใครอยากต่อก็ติดตามรีวิวต่อได้ใน Live นะครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่