กลับมาจาก "น่าน" ทุกครั้ง ต้องบ่นตลอดว่า "อยากอยู่ "น่าน" ให้นานกว่านี้อีกหน่อย" เพราะ จ.น่าน มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเยอะมาก บรรยากาศดีสุดๆ (ในหน้าหนาวนะ เพราะหน้าร้อนก็ร้อนเอาเรื่องเลย) แถมยังมีร้านน่ารัก น่านั่ง เปิดใหม่อยู่ตลอด



รีวิวนี้ จะชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยว "น่าน" ด้วยกัน รายละเอียดจะเยอะหน่อย ทั้งการเดินทาง, ที่พัก, ที่กิน, ที่เที่ยว และรายละเอียดค่าใช้จ่าย เผื่อใครที่กำลังจะไป "ดอยเสมอดาว-น่าน" จะได้มีข้อมูลไว้เป็นประโยชน์ในการเดินทาง
ทริปนี้เราไปกัน 3 คน ค่าใช้จ่ายคนละ 3,000 บาท เที่ยวแบบสนุก กินอิ่ม นอนอุ่น (รายละเอียดค่าใช้จ่ายอยู่ท้ายรีวิว... กระซิบนิสนึงว่าเดินทางด้วยรถส่วนตัว ประหยัดกว่านั่งรถขนส่งสาธารณะเยอะเลย) ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย!

เพื่อให้มีเวลาเที่ยวได้มากขึ้น เราจึงออกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จาก กทม. วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม หลังเลิกงาน โดยใช้ Google Map และแผนที่การเดินทางที่เตรียมเอาไว้เป็นตัวช่วยในการเดินทาง  
ใช้เส้นทาง บางปะอิน-อยุธยา-บางบัวทอง ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 32 (ผ่านอยุธยา-อ่างทอง-สิงห์บุรี-ชัยนาท-อุทัยธานี-นครสวรรค์-พิษณุโลก) เนื่องจากเป็นถนนหลวง มีระยะทางเป็นเส้นตรงยาว มีป้ายบอกทางเป็นระยะ เราเป็นคนคอยดูแผนที่ และสังเกตป้ายข้างทาง ช่วยบอกทางคนขับอีกที สำหรับคนที่จะขับรถส่วนตัวไปเที่ยวน่าน โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าไม่น่าเป็นกังวลเรื่องถนนหนทาง เพราะถนนสภาพดี เส้นทางไม่ซับซ้อน ขับง่าย แต่ควรกังวลถึงสุขภาพของคนขับมากกว่า เพราะบางถนนบางช่วง เป็นทางตรงยาวเกือบ 100 กม. ถ้าร่างกายอ่อนล้า อาจทำให้หลับในได้ง่าย
เราวางแผนไปแวะพักค้างคืนที่ จ.อุตรดิตถ์ ก่อน แล้วเช้าค่อยเดินทางต่อ เพราะคืนแรกเราจะไปนอนที่ดอยเสมอดาว เลยคิดว่าถ้าพักรถ และพักคนก่อนขึ้นไปบนดอย จะได้ไปเที่ยวแบบไม่อ่อนล้าจนเกินไป

เราแวะพักที่ J2 Inn อุตรดิตถ์ โดยโทร และโอนเงินจองล่วงหน้า เจ้าของที่พักบริการดีมาก เราแจ้งว่าจะเข้าพักช่วงดึกประมาณเที่ยงคืน  
ก็ให้เบอร์คนดูแลที่พักกับเราไว้ พี่เค้าอยู่คอยเอากุญแจห้องให้เมื่อเราไปถึง (แต่ไปถึงจริงๆ เกือบตีหนึ่ง เพราะพี่คนขับไม่ชำนาญเส้นทาง เลยขับอยู่แค่ 90-100 กม./ชม.) ห้องพักค่อนข้างใหม่ และราคาถูกมากกกก (คืนละ 350 บาท/ห้อง) ถ้าใครวางแผนเดินทางขึ้นเหนือ แล้วจะแวะพักค้างคืนกลางทาง เราแนะนำที่นี่เลย อยู่ติดถนนหลวง ไม่ต้องเข้าซอย หาง่าย
ห้องพักติดแอร์, มีเครื่องทำน้ำอุ่น, มีทีวี, ตู้เย็น แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปภายในห้องมาเนื่องจากตอนถึงที่พักก็ง่วงเต็มที จะถ่ายตอนเช้าสภาพห้องก็ไม่สวยแล้ว เลยเก็บแค่ภาพด้านนอกมาฝาก (ดูรูปเพิ่มเติมได้จาก facebook J2 inn ห้องพักอุตรดิตถ์ ค่ะ)






เราออกเดินทางจากที่พัก เวลา 7.30 น. เพราะมีแผนแวะจิบกาแฟดริป กับชาหญ้าหวานที่ร้าน "ฮิมม่อน กาแฟดริป" เป็นร้านกาแฟริมทาง น่ารัก น่านั่งใน จ.อุตรดิตถ์ ที่บังเอิญเจอตอนหาที่พัก
เวลาเปิด/ปิด : 08.00 น. - 18.00 น. ทุกวัน ร้านนี้ให้บริการทั้งอาหาร และเครื่องดื่มร้อน/เย็น
เครื่องดื่มแนะนำของที่นี่ ก็ต้องเป็น ฮิมม่อน กาแฟดริป กับชาหญ้าหวานค่ะ (ชาหญ้าหวาน หอม หวาน รสชาติดี ดื่มตอนอากาศหนาวๆ ทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นเยอะเลย) ที่จริงร้านกาแฟริมทาง แถว จ.อุตรดิตถ์ มีหลายร้านนะคะ แต่เราเลือกที่นี่ เพราะเปิดเช้ากว่าร้านอื่นค่ะ








หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไป ดอยเสมอดาว จ.น่าน เส้นทางต่อจากนี้ สองข้างทางจะเป็นวิวภูเขา และเส้นทางจะเริ่มคดโค้ง แต่ก็ขับไม่ยากค่ะ เราไปถึงแยกเวียงสา จ.น่าน ประมาณเที่ยงกว่าๆ (จุดนี้ถ้าใครต้องการแวะซื้ออาหาร, ของใช้จำเป็นก่อนขึ้นดอย ก่อนถึงแยกเวียงสา ซ้ายมือ มีโลตัสนะคะ ถ้าไม่ซื้อที่นี่ จะมีโลตัส Ex-press ที่ อ.นาน้อย อยู่ทางขวามือ ก่อนเลี้ยวซ้ายขึ้นดอย แต่พวกอาหาร, ของสด, ขนม จะน้อยกว่าที่เวียงสา)

เราแวะพักทานมื้อเที่ยง กันที่ "ร้านบ้านไม้คนเมือง" ตั้งอยู่หลังวัดบุญยืน (พอถึงแยกเวียงสา แล้วขับตรงเข้าไปในตลาด ขับผ่านไฟแดงไป เลี้ยวซอยเล็กๆ ซ้ายมือ ก่อนข้ามสะพาน)
เวลาเปิด/ปิด : 08.00 น. - ประมาณ 14.00 น. ทุกวัน เป็นร้านดั้งเดิม ขายขนมจีน, ข้าวซอย, ก๋วยเตี๋ยว และขนมหวาน (เราตั้งใจจะไปกินสาคูเปียกมะพร้าวอ่อน แต่วันที่ไปเค้าขายลอดช่องแตงไทยน้ำกะทิ เลยอดชิมสาคูเลย ) ขนมหวานที่นี่เค้าจะสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวันนะคะ
ขนมจีนน้ำเงี๊ยว อร่อยถูกปากเรา ส่วนข้าวซอยไก่ รสชาติน้ำเข้มข้น เนื้อไก่นุ่มนิ่ม อร่อยมาก









อิ่มกันแล้วก็มุ่งหน้าสู่ "ดอยเสมอดาว" กันเลย!!!
สำหรับใครที่อยากซื้อน้ำแข็งขึ้นไปกินบนดอย พอถึง อ.นาน้อย จะมีร้านขายน้ำแข็งอยู่ซ้ายมือ (เยื้องๆ กับโลตัส) ราคาไม่แพงค่ะ แถวนั้นยังมีร้านที่ให้บริการเช่าเต้นท์ กับเครื่องนอนด้วยนะคะ แต่เราไม่ได้ถามราคา เพราะเราจองเต้นท์ของอุทยานฯ ไว้แล้ว
หลังจากซื้อของเสร็จแล้วก็เลี้ยวซ้าย ที่แยก อ.นาน้อย จะมีป้ายบอก จากนี้ก็ขับตามป้ายไปเรื่อยๆ (จากแยกเวียงสา - ดอยเสมอดาว ประมาณชั่วโมงครึ่ง)
ดอยเสมอดาว ทางขึ้นไม่ชันมาก ขับง่าย แต่ถ้าใครไปกางเต้นท์ที่ผาชู้ ทางขึ้นจะชันหน่อย
เราไปถึง "ดอยเสมอดาว" ประมาณเกือบๆ บ่ายสอง ไปถึงฝนตกเลย ต้องนั่งรออยู่ในรถ ภาวนาให้ฝนหยุดตกเร็วๆ ตกอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็หยุด พอหยุดปุ๊บฟ้าก็ใสแจ๋วเลย

การจองเต็นท์ : ดอยเสมอดาว เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน รับจองทางโทรศัพท์เพียงช่องทางเดียว ที่เบอร์ 093-242-2914 เพียงเบอร์เดียว สามารถโทรจองได้ตั้งแต่ 09.00 น. - 16.00 น. (12.00 - 13.00 น. พักเที่ยง 1 ชม.) รับจองล่วงหน้าเพียง 1 เดือน เช่น ถ้าจะพักเดือนธันวาคม สามารถโทรจองได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้น
เนื่องจากมีเบอร์เดียว ทำให้โทรติดยาก แต่รับรองค่ะว่ามาแล้วสวย คุ้มค่าความพยายามแน่นอน (ของเราโทรตั้งแต่ 9 โมงเช้า ติดตอนบ่าย 3 โมงเย็น โทรไปประมาณร้อยกว่ารอบ ใครที่อยากมาที่นี่ต้องมีความพยายามนะคะ)
เต็นท์ของอุทยานมีประมาณ 100 หลัง ทางอุทยานจะอัพเดทยอดจองเต็นท์ ทาง FaceBook "ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน" ให้ทราบกันว่าวันไหนเต็มแล้วบ้าง สามารถเข้าไปเช็คกันก่อนได้
ส่วนใครที่เอาเต็นท์ไปเองไม่ต้องโทรจอง แต่แนะนำให้ไปแต่เช้า เพราะถ้าพื้นที่กางเต็นท์เต็มแล้ว เจ้าหน้าที่จะปิดรับ ห้ามกางเต็นท์ค่ะ
ราคา และรูปแบบเต็นท์ : เต็นท์ มี 2 แบบนะคะ คือแบบนอน 2 คน ราคา 345 บาท กับนอน 3 คน ราคา 405 บาท
ทั้ง 2 แบบ มีขนาดเท่ากัน ต่างกันที่เครื่องนอน (เต็นท์ 2 คน เครื่องนอน 2 ชุด เต็นท์ 3 คน เครื่องนอน 3 ชุด)
เครื่องนอนประกอบด้วย ที่รองนอน, หมอน และถุงนอน
ห้องน้ำ : ห้องน้ำที่นี่เป็นห้องน้ำรวม แยกหญิง/ชาย มีทั้งแบบที่เป็นห้องอาบน้ำ, ห้องส้วม และห้องอาบน้ำที่มีส้วมในตัว ห้องน้ำค่อนข้างสะอาด (แต่ขึ้นอยู่กับวินัยของนักท่องเที่ยวช่วงที่เราไปเจอด้วยนะคะ) และน้ำไหลแรง
หมายเหตุ : ต้องเสียค่าเข้าอุทยานคนละ 30 บาท ทุกคน (ทั้งคนที่จองเต็นท์ของอุทยาน และเอาไปกางเอง) ตอนกลางคืน จะมีเจ้าหน้าที่มาสุ่มตรวจบัตรเข้าอุทยาน ถ้าไม่มีแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู สถานเบาคือเจ้าหน้าที่รับจ่ายเงินตอนนั้น สถานหนักคือ เจ้าหน้าที่เชิญออกจากลานกางเต็นท์
ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่ไป ก็ไปติดต่อเสียค่าเข้าอุทยานกันให้เรียบร้อยเนาะ ถือว่าช่วยบำรุงรักษาสถานที่ไปในตัว
> ด้านบนลานกางเต็นท์ อนุญาติให้รถมอเตอร์ไซด์จอดได้เท่านั้น ส่วนรถประเภทอื่น อนุญาติให้ขึ้นมาจอดเอาของลง แล้วก็ต้องเอารถกลับไปจอดด้านล่าง เพราะลานจอดรถค่อนข้างแคบ ต้องกันพื้นที่ไว้สำหรับรถที่ขึ้นมาช่วงเย็น จะได้สามารถขึ้นมาจอดเอาของลงได้ (ทางเดินไม่ไกลมาก เดินเล่นดูข้างทางไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง) แต่มีนักเที่ยวบางท่าน (เป็นส่วนน้อย ตอนเราไปเจอ 2 คัน) ไม่นำรถไปจอดด้านล่างตามระเบียบ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถ้ายังมีคนฝืนระเบียบแบบนี้บ่อยๆ ทางอุทยานฯ จะไม่อนุญาติให้นำรถขึ้นมาอีก โดยจะให้จอดไว้ด้านล่าง แล้วขนของขึ้น-ลงกันเอา เพื่อความปลอดภัยของนักเที่ยวเอง (ก็ได้แต่ภาวนาว่า ขอให้ไปครั้งหน้ายังสามารถขึ้นไปจอดรถด้านบนเพื่อขนของลงได้อยู่ เพราะไม่อย่างนั้นได้เหนื่อยแน่ๆ)
> ที่ศูนย์อำนวยการ มีบริการให้เช่าเสื่อ ผืนละ 30 บาท, เตาปิ้งย่าง พร้อมถ่านและตะแกรงย่าง 100 บาท/ชุด
> ใครที่อยากกินหมูกะทะ มีเบอร์ติดอยู่บริเวณศูนย์อำนวยการ สามารถโทรสั่งได้ (เราไม่ได้สั่ง เลยไม่ทราบราคา และปริมาณค่ะ)

เมื่อขึ้นไปด้านบนแล้ว ก็ไปติดต่อที่ศูนย์อำนวยการฯ แจ้งชื่อ พร้อมแสดงสลิปการโอนเงินกับเจ้าหน้าที่ แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่ พาเราไปที่เต็นท์ค่ะ
***ผาหัวสิงห์ ตอนนี้ไม่อนุญาติให้ขึ้นไปชมธรรมชาติด้านบนแล้วนะคะ

บรรยากาศ "ดอยเสมอดาว" ช่วงบ่าย หลังฝนหยุดตก







มื้อเย็น เราต้มมาม่า ทำชาบูอีก 1 หม้อ กินกัน 3 คน อิ่มจนจุก แต่ไม่ได้เก็บภาพมาฝาก เพราะดันลืมเอาไฟฉาย LED ไป เอาไปแต่ไฟฉายพกพา

เราชอบกลางคืนที่นี่มากๆ เพราะฟ้าต่ำ จนทำให้เห็นดาวกระพริบได้ ในมุมมองแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว
ใครที่อยากเห็นดาวเยอะๆ แนะนำให้เลือกมาคืนข้างแรม (คือคืนเดือนมืด) จะไม่มีแสงจากพระจันทร์มาบดบังความงามของแสงดาวเลยค่ะ
รูปถ่ายเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของความสวยงามจากธรรมชาติ เทียบกับของจริงที่ได้สัมผัสด้วยตัวเองไม่ได้เลย





คืนที่เราไป ตามข่าวมีฝนดาวตกด้วย แต่นั่งรอจน 4 ทุ่มกว่า ได้เห็นดาวตกแค่ดวงเดียว เราเลยหนีเข้าเต็นท์นอน

ที่เหลือต่อในความคิดเห็นนะคะ