สวัสดีจ้า บอกก่อนเลยว่านี่เป็นกระทู้แรก อาจจะใช้คำถูกผิดบ้างก็คงไม่ว่ากันนะ
เข้าเรื่องกันเลย เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมาน้องเราประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคาที่ โดยที่น้องชายเราขับรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง ในตอนแรกทางคู่กรณีบอกยอมรับผิดทุกอย่าง จะชดเชยให้ทางเราได้ผลประโยชน์มากที่สุด ซึ่งในการเยี่ยวยาเบื้องต้นทางคู่กรณีได้ช่วยในเรื่องของการจัดงานศพและบอกทางเราว่าถ้าขาดเหลืออะไรให้บอกจะชดเชยให้ทางเราให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้ คือแรกๆก็เหมือนจะแสดงความรับผิดชอบดี แต่เนื่องจากในสภาวะจิตใจในตอนนั้นทางเราเลยบอกทางคู่กรณีว่าขอให้เสร็จจากงานศพก่อนค่อยมาคุยกันว่าจะรับผิดชอบยังไง(ตกลงกันภายใน)แล้วถึงจะไปเคลียร์ในเรื่องของคดีที่ สน. อีกที พอเสร็จจากเรื่องของงานศพแล้วทางตำรวจผู้รับผิดชอบคดีโทรมาแจ้งทางเราว่าทางคู่กรณีโทรมานัดให้เข้าไปเคลียร์คดีกับคู่กรณีที่ สน. ใน วัน........... พอวางสายจากตำรวจทางเราก็งงว่าไหนบอกว่าจะมาคุยกันก่อน(ตกลงกันภายใน)ก่อนที่จะไปเคลียร์คดีที่ สน. ทางเราเลยโทรไปหาทางคู่กรณีแล้วโดนคู่กรณีตอบกับมาว่า ''จะคุยอะไรกับผมอีก ผมไม่มีอะไรจะคุยแล้ว ผมให้ทางประกันเป็นผู้ดำเนินการแล้ว เจอกันวันเคลียร์คดีเลย'' บอกก่อนว่าในส่วนของน้องเราเราก็ยอมรับว่าผิดเพราะ น้องไม่ได้สวมหมวกกันน็อค และยังไม่มีใบขับขี่ แต่ทางของคู่กรณีก็ยังไม่มีใบขับขี่เช่นกัน และสถานะการณ์คดีตอนนี้มีแนวโน้มว่าทางฝ่ายของคู่กรณีจะกลับคำพูด จะไม่รับผิดชอบตามที่เคยพูดไว้ แล้วยังบอกทางเราว่าก็ช่วยไปเยอะแล้วไงจัดงานจะเอาอะไรอีกแล้วเหมือนมางคู่กรณีตอนนี้จะเปลี่ยนตัวผู้ขับแทน (เอาคนที่มีใบขับขี่มาเป็นผู้ขับขี่ในวันเกิดเหตุแทน) เหมือนเขาพยายามจะทำให้ราเป็นคนผิดฝ่ายเดียว อยากทราบว่าจริงๆแล้วใครผิด คือเราอยากบอกว่าถ้าทางคู่กรณีเสียดายเงินที่จะเยียวยาทางเราก็ให้เขาเก็บไว้ซ่อมรถเขาเถอะ ส่วนทางเราต่อให้ทางคู่กรณีเยียวยามาเป็นแสนเป็นล้านเราก็ซ่อมชีวิตของคนทางเราไม่ได้หรอก เราแค่อยากดูความมีน้ำใจก็เท่านั้น (ทางเราไม่อยากให้เรื่องถึงขั้นขึ้นศาล) เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง
ใครผิด?
เข้าเรื่องกันเลย เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2560 ที่ผ่านมาน้องเราประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคาที่ โดยที่น้องชายเราขับรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง ในตอนแรกทางคู่กรณีบอกยอมรับผิดทุกอย่าง จะชดเชยให้ทางเราได้ผลประโยชน์มากที่สุด ซึ่งในการเยี่ยวยาเบื้องต้นทางคู่กรณีได้ช่วยในเรื่องของการจัดงานศพและบอกทางเราว่าถ้าขาดเหลืออะไรให้บอกจะชดเชยให้ทางเราให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้ คือแรกๆก็เหมือนจะแสดงความรับผิดชอบดี แต่เนื่องจากในสภาวะจิตใจในตอนนั้นทางเราเลยบอกทางคู่กรณีว่าขอให้เสร็จจากงานศพก่อนค่อยมาคุยกันว่าจะรับผิดชอบยังไง(ตกลงกันภายใน)แล้วถึงจะไปเคลียร์ในเรื่องของคดีที่ สน. อีกที พอเสร็จจากเรื่องของงานศพแล้วทางตำรวจผู้รับผิดชอบคดีโทรมาแจ้งทางเราว่าทางคู่กรณีโทรมานัดให้เข้าไปเคลียร์คดีกับคู่กรณีที่ สน. ใน วัน........... พอวางสายจากตำรวจทางเราก็งงว่าไหนบอกว่าจะมาคุยกันก่อน(ตกลงกันภายใน)ก่อนที่จะไปเคลียร์คดีที่ สน. ทางเราเลยโทรไปหาทางคู่กรณีแล้วโดนคู่กรณีตอบกับมาว่า ''จะคุยอะไรกับผมอีก ผมไม่มีอะไรจะคุยแล้ว ผมให้ทางประกันเป็นผู้ดำเนินการแล้ว เจอกันวันเคลียร์คดีเลย'' บอกก่อนว่าในส่วนของน้องเราเราก็ยอมรับว่าผิดเพราะ น้องไม่ได้สวมหมวกกันน็อค และยังไม่มีใบขับขี่ แต่ทางของคู่กรณีก็ยังไม่มีใบขับขี่เช่นกัน และสถานะการณ์คดีตอนนี้มีแนวโน้มว่าทางฝ่ายของคู่กรณีจะกลับคำพูด จะไม่รับผิดชอบตามที่เคยพูดไว้ แล้วยังบอกทางเราว่าก็ช่วยไปเยอะแล้วไงจัดงานจะเอาอะไรอีกแล้วเหมือนมางคู่กรณีตอนนี้จะเปลี่ยนตัวผู้ขับแทน (เอาคนที่มีใบขับขี่มาเป็นผู้ขับขี่ในวันเกิดเหตุแทน) เหมือนเขาพยายามจะทำให้ราเป็นคนผิดฝ่ายเดียว อยากทราบว่าจริงๆแล้วใครผิด คือเราอยากบอกว่าถ้าทางคู่กรณีเสียดายเงินที่จะเยียวยาทางเราก็ให้เขาเก็บไว้ซ่อมรถเขาเถอะ ส่วนทางเราต่อให้ทางคู่กรณีเยียวยามาเป็นแสนเป็นล้านเราก็ซ่อมชีวิตของคนทางเราไม่ได้หรอก เราแค่อยากดูความมีน้ำใจก็เท่านั้น (ทางเราไม่อยากให้เรื่องถึงขั้นขึ้นศาล) เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง