*อัปเดทครับลงรูปได้แล้ว
[Biker dairy]
[Title:สองวันหนึ่งคืนกับทริปเขาใหญ่]
เมื่ออยู่ๆผมก็มีวันว่าง จะรอช้าอยู่ใยคว้ามอเตอร์ไซค์คู่ใจออกไปเที่ยวสิครับ รถที่ผมใช้คือเจ้า Cbr150 ตัวหัวฉีดครับ ติดกล่องท้ายหนึ่งใบก็พอขนๆอะไรไปได้บ้าง
จุดหมายปลายทางคือเขาใหญ่ที่คุ้นเคย เพราะงบไม่มีเลยไปได้แค่ใกล้ๆนี่แหละครับ 555
ขอสารภาพตามตรงเลยนะครับ เดิมทีทริปนี้ตั้งใจว่าจะเป็นทริปไปเข้าเย็นกลับ แต่แล้วด้วยหลายๆเหตุผลจึงทำให้ผมเปลี่ยนใจนอนกางเต้นท์ค้างคืนที่นี่
โดยผมเลือกที่จะกางเต้นท์ที่ลานกางเต้นท์ลำตะคอง ในวันที่ผมไปนั้นเต้นท์ที่ให้เช่าของลานนั้นหมด จึงต้องขี่ไปเช่าที่ลานกางเต้นท์ผากล้วยไม้แล้วถึงขี่ย้อนกลับมากางที่ลำตะคอง
นอนคนเดียวเลยเลือกเต้นท์ขนาดเล็กสุดมาครับ
กางฝั่งตรงข้ามร้านค้าพอดี ไม่อดตายแน่ 555

บรรยากาศนั้นสบายๆชิลๆไม่ร้อนไม่หนาว มีฝนปรอยๆทั้งคืน โดยในตอนกลางคืนนั้นก็จะเห็นสัตว์ป่าเดินป้วนเปี้ยนตามเต้นท์ ไม่ว่าจะเป็น กวาง ลิง หรือเม่นก็ตาม
กล้องผมถ่ายเวลากลางคืนไม่ชัดเท่าไหร่นัก

นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่นอนกางเต้นท์คนเดียวต่างถิ่นแบบนี้ครับ ตอนแรกก็กลัวว่าจะนอนไม่หลับหรือนอนไม่สบายบ้างแหละครับแต่พอล้มตัวลงนอน ผมก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่ทราบเช่นกัน
ตื่นเช้ามาก็มีเจ้าลิงขี่ 300f ตามมาช่วยผมเก็บเต้นท์อีกคันนึง น่าเสียดายผมลืมถ่ายรูปคู่กันไว้
พอเก็บเต้นท์เสร็จแล้ว ก็ตกลงกันว่าจะไปน้ำตกผากล้วยไม้ เพราะยังไงผมก็ต้องเอาเต้นท์ไปคืนทางนั้นพอดี
พอถึงบริเวณน้ำตก ก็พบว่าน้ำไหลแรงและมีสีค่อนข้างขุ่น น่าจะเป็นเพราะฝนที่มันตกมาตลอดทั้งคืน
ตามภาพเลยครับ

เราเลยลงความเห็นกันว่า ลองไปที่อื่นกันแทน นั่นก็คือไปผาเดียวดายกัน
แต่แล้วแผนก็ล่มในทันที เพราะระหว่างทางขี่กลับจากน้ำตก มีต่อที่ไหนก็ไม่ทราบบินมาชนมือผม ขนาดความยาวตัวของมันประมาณเกือบๆสองข้อนิ้วผมได้ มันไม่ได้จบแค่บินมาชนครับ พอมันตั้งหลักจัดท่าจัดทางได้มันก็ต่อยนิ้วผมทันที 😂😂😂
ก็กลายเป็นว่าจากจะไปผาเดียวดายกัน ต้องฝืนขี่รถไปที่ศูนย์พยาบาลของอุทยานแทน
ทางศูนย์ก็ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ครับ
ตรงช่วงปลายนิ้วกลางเลยครับ จะเห็นได้ว่ามือบวมและแดงอย่างเห็นได้ชัดเลย
ประคบเย็นไปตามระเบียบ

เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงอาการยังไม่ดีขึ้นและยังคงปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ทางศูนย์จึงเรียกหน่วย paramedics ให้มาพาผมลงไปคลินิกตรงตีนเขา หมอก็ซักประวัติถามไถ่อาการแล้วกืฉีดยาชากับยาแก้ปวดตรงบริเวณที่ถูกต่อย ผมนั่งรอรับยาอยู่ครู่หนึ่ง หน่วย paramedics ก็พาผมขึ้นไปเอารถที่ผมจอดไว้บนเขา
(การรักษาครั้งนี้ฟรีครับ เบิกประกันของมหาวิทยาลัยเอา) จากที่จะไปเที่ยวกันต่อก็ทริปล่มเป็นอันต้องแยกย้ายกันกลับบ้านไป เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำไปอีกนาน

สรุปค่าใช้จ่ายนะครับ
- ค่าน้ำมันเต็มถัง 300 บาท กลับถึงบ้านน้ำมันยังเหลือสองขีด
- ค่าเข้าอุทยาน 70 บาท คน 30 รถ 40 นะถ้าผมจำไม่สลับกัน
- ค่าเช่าอุปกรณ์กางเต้นท์ 180 บาท (ตอนเช่าต้องใช้บัตรประชาชน)
- ค่าอาหาร ฟรี เพราะเพื่อนผมซื้อขึ้นมาฝาก แต่บนเขาราคาของชาร์จเพิ่มพอสมควร น้ำเปล่าขวดละ 15 ถูกชาร์จเพิ่มเป็น 20 บาท เป็นต้น

การออกทริปครั้งนี้มันได้อะไรมากกว่าที่ผมคิด และตอนกลับนั้นผมก็ได้ของฝากติดไม้ติดมือมาด้วยนั่นก็คือ เหล็กในของต่อที่ฝังในมือซ้ายของผมนั่นเอง
กว่าจะหายบวมก็ใช้เวลาไปหนึ่งสัปดาห์เต็มๆกันเลยทีเดียว

ขอบคุณคุณผู้อ่านที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของผมด้วยนะครับ

วันนี้ก็สวัสดีครับ ไว้มีเรื่องราวอะไรจะมาเขียนลงให้อ่านใน Biker dairy อย่างแน่นอน

#เข้าป่าก็ระวังสัตว์มีพิษด้วยนะครับผม