ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/37047894
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/37049905
ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/37051044



13/5/60 Day 9 : Eiffel – Arc de Triomphe - มหาวิหารซาเคร-เกอร์ – Louvre
วันนี้เราจะค่อนข้างชะโงกนิดนึง เนื่องจากเรามา paris 2 วัน ต้องเก็บให้มากที่สุด แต่คิดว่าแค่นี้ก็พอแล้ว จุดละ 2 ชั่วโมงก็อิ่มแล้ว Louvre นี่อยุ่นานหน่อย แต่ศิลปะที่เราก็ไม่ค่อยเข้าใจ ไม่รู้ประวัติใดๆทั้งสิ้น เลยไม่ว้าวเท่าที่ควร หลายคนบอกว่าต้องใช้เวลาครึ่งวัน แต่เราเข้าไปแล้วอยู่แค่ 2 ชั่วโมงก็พอแล้ว จะเที่ยวให้สนุกต้องรู้ story แต่เราไม่ ของเราเน้น สถาปัตยกรรมและวิวธรรมชาติเป็นหลัก



จากที่พัก นั่ง subway สถานี cambrone เพื่อไปลง Trocadero เป็นวิวมหาชนสำหรับหอ Eiffel มากๆ แต่เราไปช่วงเช้า ทิศด้านนี้จะย้อนแสง ทำให้เราต้องเดินไปอีกฟากของ Eiffel ซึ่งต้องอ้อมไกลนิดหน่อย เพราะเหตุการณ์การวางระเบิดในทวีปยุโรป เลยทำให้ตอนนี้ต้องมีการตรวจเข้ม แถวเข้า Eiffel ยาวมาก


เดินไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปไปจนไปโผล่อีกด้านของหอ Eiffel คนไม่เยอะมาก
แต่อยู่ใน paris ต้องระวังตัวอย่างมาก อันดับแรกคือการเตรียมตัว
1. ห้ามสะพายเป้ด้านหลัง
2. ห้ามนำกระเป๋าสตางค์หรือโทรศัพท์มือถือไว้กระเป๋าหลังหรือกระเป๋ากางเกงทั้งข้างหน้าข้างหลังเด็ดขาด
3. ควรซื้อกระเป๋าคาดเอว หรือสะพายหน้าแบบเล็กๆ เพื่อใส่ passport เงิน และ โทรศัพท์ และควรสวมเสื้อกันหนาวทับอีกที
4. ระวังนิโกร และ แขกขาวให้มาก แขกขาวจะอยู่ตามสถานีรถไฟ และ สถานที่สำคัญต่างๆเช่น Eiffel เห็นบอกสถานี concorde ก็มาก พวกนี้คือมิจฉาชีพทั้งนั้น โดยจะเล็งคนหน้าตา Asian เป็นหลัก จะมาให้รูปแบบต่างๆ พวกแขกขาว romania จะมากันเป็นกลุ่ม วนเวียนกันมาขอลายเซ็น พูด No, get away from me อย่างเดียว ถ้าคุณเผลอไปเซ็นเมื่อไหร่ คือคุณจะไม่ระวังตัว พวกนี้จะฉวยโอกาสตอนนั้นล้วงกระเป๋าคุณ ซึ่งระหว่างที่ผมอยู่ Eiffel พวกนี้เดินวนมาหาเป็นสิบๆรอบ ตำรวจมาก็หลบที ตำรวจไปก็กลับมาเหมือนเดิม เป็นประเทศที่จัดการอะไรไม่ได้เลย ความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวต่ำ ไม่รู้ว่าต่ำกว่าไทยเปล่านะ 555 ทำให้ทริปนี้กลายเป็นอะไรที่มาต้องระแวง ความสุขในการเที่ยวจะลดลง กลับกันที่ขณะที่เราอยู่ switzerland เราไม่ต้องระวังระแวงอะไรทั้งสิ้น

ส่วนพวกนิโกร จะมากันเป็นกลุ่ม ดึงตัวคุณ ดึงข้อมือคุณให้หยุด แล้วทำทีจะผูกข้อมือเรา ให้ say no ไปเลย เพราะถ้ามันผูกเมื่อไหร่ มันจะเก็บตังเราและขึ้นเสียงดังถ้าเราไม่ให้


ความรู้สึกคือ Paris เป็นเมืองที่เจริญมานานมาก จนมันคงจะอิ่มตัว และเริ่มเสื่อมโทรม ข้างทางมีทั้งสะอาดและสกปรกเป็นโซนๆไป Subway infrastructure ต่างๆ ครบ การเดินทางสะดวก แต่ค่อนข้างสกปรกมาก รถไฟเก่า เหม็น ห้องน้ำสาธารณะ จะตั้งอยู่ข้างถนน แต่การจัดการยังไม่ได้เรื่อง เข้าห้องน้ำที ไม่มีปุ่มกดน้ำ มันเป็นระบบอัตโนมัติ คือเมื่อคุณเข้าห้องน้ำเสร็จ คนต่อไปจะเข้าต่อเลยไม่ได้ เพราะไม่มีปุ่มกดน้ำ โดยคุณจะต้องเดินออก และห้องน้ำจะทำการปิดตัวเอง เพื่อชำระล้างทั้งห้อง ฟังไม่ผิด คือเข้า 1 ครั้ง ไม่ว่าคุณจะทำอุจจะ หรือ ปัสสะ มันจะล้างโถ ล้างพื้นห้องน้ำด้วย ทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก จะปัสสาวะ 1 ครั้ง ถ้ามีคนรอข้างหน้าคุณ 4 คน คุณจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาที ในการยืนรอ ถ้ามีคนอุจจาระ ไม่ต้องพูดถึง รอไปเถอะ หรือถ้าไม่อยากทน ก็ไปเข้าตามห้างร้าน ซึ่งเสีย 1 EUR ต่อครั้ง
อ้อ ในสวิสและปารีส ห้องน้ำจะไม่เหมือนเมืองไทยนะ ที่จะมีสัญลักษณ์รูป คนชายหญิง ไอ้เราก็ฉี่จะราด หาห้องน้ำตั้งนาน วนอยู่นั่นแหละ หาไม่เจอ สรุปคือมันเป็นตัวย่อ Wc .  คือ water closet คือห้องน้ำ โอ้ยยย

จากนั้น นั่งรถไฟสายเดิมไปลง Charles de Gaulle Étoile เพื่อชม Arc de Triomphe ประตูชัยนั่นเอง

ที่นี่เราซื้อ museum pass แบบ 2 วัน 48 EUR ซึ่งบอกเลยว่าไม่คุ้ม ไม่ต้องซื้อ แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่อยากจะต้องต่อคิวซื้อตั๋วนานๆที่ Lourve และ Versailles เพื่อประหยัดเวลาก็ซื้อไปเถอะ แต่จะบอกว่า ยังไงก็ต้องต่อคิวเพื่อเข้าชมอยู่ดี ซึ่งแถวยาวกว่าต่อแถวซื้อตั๋วมากๆ


ภาพวิวด้านบนนี่ fantastic มาก แต่จะบอกว่าเดินเหนื่อยมาก คือมันสูงมากอะ และไม่มีลิฟท์ รึมีก็ไม่รู้


ลงมาชมภาพด้านล่างกันต่อ


เราย้ายก้นของเราไปต่อกันที่ Sacred Heart Basilica of Montmartre มหาวิหาร ซาเคร แห่งมงมาท
นั่ง subway สีน้ำเงินลง Anvers นี่คือถิ่นของนิโกรผูกข้อมือ ระวังให้ดี


เดี๋ยวมาต่อ