หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] อิสตันบูล เมืองสองทวีป ไม่ไกลเกินเยี่ยมชม
กระทู้รีวิว
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ประเทศตุรกี
เที่ยวยุโรป
อิสตันบูล เมืองเอกของประเทศตุรกี นั่งเครื่องประมาณ 10-12 ชม เป็นเมืองที่ตั้งอยู่สองทวีป คือเอเซีย และยุโรป ไปเที่ยวที่เดียวได้ทั่งสองทวีป แถมเป็นเมืองมีประวัติศาสตร์ยาวนานตังแต่ สมัยโรมัน กรีก จนมาเป็นถึงจักรวรรดิออโตมัน อิสตันบูลเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรนี้มาถึง พันกว่าปี ก่อนย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่กรุงอังการาในปัจจุบัน แต่ยังคงเป็นเมืองสำคัญของตุรกี เพราะตั้งอยู่บนช่องแคบบอฟอรัส แหล่งยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมยุโรปและเอเซีย ตุรกีไม่น่ากล้วอย่างที่คิด คนตุรกี ใจดี ให้ความช่วยเหลือดี เป็นมุสลิมที่ไม่เคร่งครัด อากาศก็ดีเพราะอยู่ติดทะแล แต่แนะนำเวลาไปเที่ยว แต่งตัวมิดชิดหน่อย เพราะที่เที่ยวส่วนใหญ่เป็นสุเหร่า มัสยิด ซึ่งเวลาเข้าไปชมต้องแต่งกายสุภาพตามหลักศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะผู้หญิง
อิสตันบูลมีรถไฟฟ้าให้บริการ สะดวก สถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลกันเที่ยวสองวันก็เกือบครบเกือบหมด ค่าครองชีพไม่สูงมาก คนไทยยังไปกันน้อย ลองไปเที่ยวดู แล้วจะชอบ โดยเฉพาะคนชอบประวัติศาสตร์ เพราะ รอบนอกเมืองมีซากเมืองโบราณให้เยียมชมมากมาย บรรยากาศคล้ายอยุธยาบ้านเรา รวมทั้งเมืองทรอย(ม้าไม้ หนังที่แบรดพิดแสดง)
ที่เที่ยวแห่งแรกคือ พระราชวัง Dolmabahce เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกและตะวันออก ตั้งริมฝั่งแม่นำ้มาร์มารา โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 30 ปี โดยตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร แต่เปิดให้ชมแค่บางส่วนด้านหน้าเท่านั้น ภายในไม่อนุญาต ให้ถ่ายรูป
ทางเข้าจะมีรูปหอนาฬิกาขนาดใหญ่ สงเกตุได้ง่าย
เดินเข้ามาก็จะเจอประตูแบบนี้ ให้แวะซื้อบัตรผ่านประตูก่อนเข้า
เข้ามาก็เจอสวนสวย มีที่ให้ถ่ายรูปสวยๆๆหลายจุด
อันนี้คือตัวพระราชวัง อาคารนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน จุดเด่นของพระราชวังนี้คือ มีโคมไฟแชงเดอเลียร์คริสตัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นของขัวญจากอังกฤษ หนักถึง 5000 กก.และพรมทอผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เวลาเข้าไปชมต้องสวมถึงพลาสติกครอบรองเท้าป้องกัน พื่นปาเกต์อันสวยงามเสียหาย พระราชวังเปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์และพฤหัสบดี 09.30ถึง 16.00 ภายในสวยงามมากต้องแวะมาชมกันให้ได้นะครับ
พระราชวังด้านข้าง ติดแม่นำ้ยาวขนานไปกับแม่น้ำมาร์บาร่า
สถานที่ที่จะแนะนำต่อไปคือ สุเหร่าสีนำ้เงิน(Blue Mosque) ซึ่งเป็นที่สถานที่สำคัญทางศาสนาอิสลาม ซึงชื่อนี้ได้มาจากกระเบี้องเคลือบสีนำ้เงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านในสุเหร่า โดยสุเหร่านี้ใช้เวลาก่อสร้างถึง 7 ปี โดยสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในพื้นที่ที่เคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์
มาชมด้านในสุเหร่ากันต่อ อลังการมาก แต่ต้องดูเวลามาด้วย เพราะบางช่วงปิดเพื่อให้มีการทำละมาด
ที่เที่ยวต่อไปคือ พิพิธภัณท์ ฮาเจีย โซเฟีย(hagia sophia) เดิมเป็น่โบสถ์คริสต์ในสมัยจักรวรรดิ ไปเซนไทน์ ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ เป็นส่วนใหญ่ แต่ต่อมาจักรวรรดิออโตมัน เข้ามาครอบครอง ก็เปลี่ยนมาเป็นสุเหร่าแทน แต่ปัจจุบันเป็นพิภัณฑ์เปิดให้เข้าชม ซึงอดีตถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ทีสุดแห่งหนึ่ง 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง การเดินทางพอออกมาจากสุเหร่าสีนำ้เงิน ก็จะเจอพิภัณฑ์นี้อยู่ตรงกันข้ามกันเลย
บริเวณทางเข้าต้องซื้อตั๋วก่อนเข้าชม และตรวจสัมมภาระก่อนเข้า สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในตุรกีส่วนใหญ่เข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยต้องตรวจค้นกระเป๋าก่อนเข้าชมเกือบทุกที่ อีกเรื่องการแต่งตัวต้องมิดชิด แต่บางที่ก็มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนก่อนเข้าชม โดยเฉพาะผ้าคลุมผม หรือผ้าคลุมไหล่เตรียมไปด้วยก็ดีสำหรับผู้หญิงนะครับ ส่วนผู้ชายก็ขอเป็นกางเกงขายาว ห้ามเสื้อกล้าม แขนกุด
แผนผังของพิพิธภัณฑ์
เข้ามาชมด้านในกันต่อ อันนี้เป็นบริเวณห้องโถงก่อนถึงห้องหลัก มีประวัติของโบสถ์นี้ให้ชมให้อ่านกันเพลินๆๆ
ภายในห้องโถง เสียดายช่วงที่ไป ปิดซ่อมแซมเยอะ ได้ชมเพียงบางส่วน ใครมีเวลาลองขึ้นไปชั้นสองดู ก็จะได้วิวรวมๆๆของโบสถ์(สุเหร่า) สวยไปอีกแบบ
อาคารนี้เดิมเป็นโบสถ์คริสต์ ก็เลยมีรูปของพระเยซู และสาวกมากมาย จุดไฮไลคือรูปพระเยซูบนเพดานของโบสถ์ ซึ่งเป็นโมเซทชิ้นเล็กๆๆมาประกอบกันเป็นรูป แต่พอถูกอาณาจักรออโตมันยึดครองก็เปลี่ยนมาเป็นสุเหร่า และมีการนำปูนมาโบกปิดทับรูปพระเยซู และเปลียนเป็นสุเหร่าอิสลามแทน
ขี้นมาชั้นสองมองลงมาก็จะเห็นวิวแบบนี้
รูปภาพบนพนัง ที่บูรณะแล้วหลังจากเอาปูนที่โบกทับออกแล้ว มีเรื่องราวให้ศึกษารอบโบสถ์
ชื่อสินค้า:
เที่ยวอิสตันบูล ภายในสองวันก็หมด ใครๆๆก็ไปได้
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รีวิวบินเดี่ยวเที่ยวตุรกี ซื้อ Museum Pass ไปไฮกิ้งที่คัปปาโดเกีย แวะ Hattusa ฮิตไทต์ พิพิธภัณฑ์อนาโตเลียและอิสตันบูล
อันนี้เป็นรีวิวที่เราเคยเขียนโพสท์ลงที่อื่นเมื่อประมาณสองปีมาแล้ว ในส่วนราคาค่าเข้าและพาสต่างๆ เชื่อว่าแพงขึ้นแล้วค่ะ แต่เชื่อว่าวิธีการเดินทาง และข้อมูลพิพิธภัณฑ์ยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ยังสามาร
47Rainbowcat
🎄เมื่อคริสต์มาสที่เบธเลเฮม เงียบงันเพราะสงคราม🎄
คริสต์มาสที่เบธเลเฮม ยังคงไม่มีงานเฉลิมฉลองวันเกิดให้พระเยซู เบธเลเฮม เมืองในเขตเวสต์แบงก์ สถานที่ประสูติของพระเยซู ศาสดาของศาสนาคริสต์ ยกเลิกจัดงานเทศกาลคริสต์มาสในดินแดนศักดิ์สิทธิ์
สมาชิกหมายเลข 6803172
สิ่งมหัศจรรย์ของโลก The Hagia Sophia
ค่าเข้า 500 บาท จร้า ^__^ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ‘The Hagia Sophia’ (ฮายาโซฟีอา / สุเหร่าโซเฟีย / ฮาเกียโซเฟีย) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับ 1 ที่ถูกโหวตมาแล้วถึง 2 ปีซ้อน (2014-201
สมาชิกหมายเลข 2345707
(CR) ตุรกี....ดีจริง ๆ ตอนที่ 4 อิสตันบูล (1) ทอปกาปึ - เยเรบาตัน - เซนต์โซเฟีย - สุเหร่าสีน้ำเงิน - ฮิปโปโดม
วันนี้เราเดินทางจาก อังการ่า ไป อิสตันบูล เพื่อไปชม พระราชวัง ทอปกาปึ อ่างเก็บน้ำใต้ดิน เยเรบาตัน สุเหร่าเซนต์โซเฟีย สุเหร่าสีน้ำเงิน และ ฮิปโปโดม ก็นั่งรถกันยาวหน่อย แต่นั่นไม่เป็นปัญหา สำหรับเรา นั
เถาไอวี่
หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 7 อิสตันบูล (จบทริปตุรกี)
ตอนเดิม หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 1 มุ่งสู่อีสตันบลู หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 2 ม้าเมืองทรอย หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 3 เมืองโบราณเอฟฟิซุส บ้านพระแม่มารีย์ หนีร้อนไปนอน ตุรกี ฉบับที่ 4 ปามุกกาเล
สายลั่นปั่นเรือเป็ด
พระเยซูคริสตเจ้า
พระเยซูคริสตเจ้าและดวงหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระองค์ ทรงเมตตากรุณาต่อมนุษย์ และพร้อมรับฟังและอภัยโทษบาปที่เราได้กระทำใส่ข้อความ
สมาชิกหมายเลข 8540122
ชาวพุทธเวลาทุกข์ ฟังธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ ชาวคริสต์เขาทำอะไรกัน เพื่อบรรเทาทุกข์ครับ
ชาวพุทธเวลาทุกข์ ฟังธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ ชาวคริสต์เขาทำอะไรกัน เพื่อบรรเทาทุกข์ครับ... เป็นคนที่สนใจศาสนาคริสต์ เพราะลองอธิษฐานกับพระเยซูแล้วเป็นจริงหลายๆอย่าง .ยังไม่ได้ผ่านพิธีแบบคริสต์นะครับ..แต
สมาชิกหมายเลข 8157622
โต้แย้งเรื่องโกหก ! พระเยซูเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า !!!
ปัญญาจารย์ : PanYaJarn ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้ คนโง่ย่อมดูหมิ่นปัญญาและการสั่งสอน (สุภาษิต 1:7) อย่าคิดว่าตนมีปัญญาจงยำเกรงพระยาห์เวห์ และ
สมาชิกหมายเลข 8507360
เที่ยวตุรกี 2566 ด้วยตัวเองคนเดียว 🇹🇷 Türkiye Trip 2023
สวัสดีครับ กระทู้นี้ผมขอรีวิวและแบ่งปันประสบการณ์การเที่ยวประเทศตุรกี ในช่วงปลายตุลา-ต้นพฤศจิกาที่ผ่านมานี้นะครับ ทริปนี้ผมเดินทางด้ว
สมาชิกหมายเลข 2763267
One year in Istanbul, Turkey :)
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ :) ก่อนอื่นเลย กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมเลยนะครับ ในเนื้อหากระทู้จะเล่าเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาและได้ผ่านไปในช่วงระยะเวลา 1 ปี จากการไปอยู่ที่ เมืองอิสตัลบูล, ตุรกี
สมาชิกหมายเลข 3313232
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ประเทศตุรกี
เที่ยวยุโรป
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] อิสตันบูล เมืองสองทวีป ไม่ไกลเกินเยี่ยมชม
อิสตันบูลมีรถไฟฟ้าให้บริการ สะดวก สถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลกันเที่ยวสองวันก็เกือบครบเกือบหมด ค่าครองชีพไม่สูงมาก คนไทยยังไปกันน้อย ลองไปเที่ยวดู แล้วจะชอบ โดยเฉพาะคนชอบประวัติศาสตร์ เพราะ รอบนอกเมืองมีซากเมืองโบราณให้เยียมชมมากมาย บรรยากาศคล้ายอยุธยาบ้านเรา รวมทั้งเมืองทรอย(ม้าไม้ หนังที่แบรดพิดแสดง)
ที่เที่ยวแห่งแรกคือ พระราชวัง Dolmabahce เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกและตะวันออก ตั้งริมฝั่งแม่นำ้มาร์มารา โดยใช้เวลาก่อสร้างถึง 30 ปี โดยตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร แต่เปิดให้ชมแค่บางส่วนด้านหน้าเท่านั้น ภายในไม่อนุญาต ให้ถ่ายรูป
ทางเข้าจะมีรูปหอนาฬิกาขนาดใหญ่ สงเกตุได้ง่าย
เดินเข้ามาก็จะเจอประตูแบบนี้ ให้แวะซื้อบัตรผ่านประตูก่อนเข้า
เข้ามาก็เจอสวนสวย มีที่ให้ถ่ายรูปสวยๆๆหลายจุด
อันนี้คือตัวพระราชวัง อาคารนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน จุดเด่นของพระราชวังนี้คือ มีโคมไฟแชงเดอเลียร์คริสตัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นของขัวญจากอังกฤษ หนักถึง 5000 กก.และพรมทอผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เวลาเข้าไปชมต้องสวมถึงพลาสติกครอบรองเท้าป้องกัน พื่นปาเกต์อันสวยงามเสียหาย พระราชวังเปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์และพฤหัสบดี 09.30ถึง 16.00 ภายในสวยงามมากต้องแวะมาชมกันให้ได้นะครับ
พระราชวังด้านข้าง ติดแม่นำ้ยาวขนานไปกับแม่น้ำมาร์บาร่า
สถานที่ที่จะแนะนำต่อไปคือ สุเหร่าสีนำ้เงิน(Blue Mosque) ซึ่งเป็นที่สถานที่สำคัญทางศาสนาอิสลาม ซึงชื่อนี้ได้มาจากกระเบี้องเคลือบสีนำ้เงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านในสุเหร่า โดยสุเหร่านี้ใช้เวลาก่อสร้างถึง 7 ปี โดยสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในพื้นที่ที่เคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์
มาชมด้านในสุเหร่ากันต่อ อลังการมาก แต่ต้องดูเวลามาด้วย เพราะบางช่วงปิดเพื่อให้มีการทำละมาด
ที่เที่ยวต่อไปคือ พิพิธภัณท์ ฮาเจีย โซเฟีย(hagia sophia) เดิมเป็น่โบสถ์คริสต์ในสมัยจักรวรรดิ ไปเซนไทน์ ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ เป็นส่วนใหญ่ แต่ต่อมาจักรวรรดิออโตมัน เข้ามาครอบครอง ก็เปลี่ยนมาเป็นสุเหร่าแทน แต่ปัจจุบันเป็นพิภัณฑ์เปิดให้เข้าชม ซึงอดีตถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ทีสุดแห่งหนึ่ง 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง การเดินทางพอออกมาจากสุเหร่าสีนำ้เงิน ก็จะเจอพิภัณฑ์นี้อยู่ตรงกันข้ามกันเลย
บริเวณทางเข้าต้องซื้อตั๋วก่อนเข้าชม และตรวจสัมมภาระก่อนเข้า สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในตุรกีส่วนใหญ่เข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยต้องตรวจค้นกระเป๋าก่อนเข้าชมเกือบทุกที่ อีกเรื่องการแต่งตัวต้องมิดชิด แต่บางที่ก็มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนก่อนเข้าชม โดยเฉพาะผ้าคลุมผม หรือผ้าคลุมไหล่เตรียมไปด้วยก็ดีสำหรับผู้หญิงนะครับ ส่วนผู้ชายก็ขอเป็นกางเกงขายาว ห้ามเสื้อกล้าม แขนกุด
แผนผังของพิพิธภัณฑ์
เข้ามาชมด้านในกันต่อ อันนี้เป็นบริเวณห้องโถงก่อนถึงห้องหลัก มีประวัติของโบสถ์นี้ให้ชมให้อ่านกันเพลินๆๆ
ภายในห้องโถง เสียดายช่วงที่ไป ปิดซ่อมแซมเยอะ ได้ชมเพียงบางส่วน ใครมีเวลาลองขึ้นไปชั้นสองดู ก็จะได้วิวรวมๆๆของโบสถ์(สุเหร่า) สวยไปอีกแบบ
อาคารนี้เดิมเป็นโบสถ์คริสต์ ก็เลยมีรูปของพระเยซู และสาวกมากมาย จุดไฮไลคือรูปพระเยซูบนเพดานของโบสถ์ ซึ่งเป็นโมเซทชิ้นเล็กๆๆมาประกอบกันเป็นรูป แต่พอถูกอาณาจักรออโตมันยึดครองก็เปลี่ยนมาเป็นสุเหร่า และมีการนำปูนมาโบกปิดทับรูปพระเยซู และเปลียนเป็นสุเหร่าอิสลามแทน
ขี้นมาชั้นสองมองลงมาก็จะเห็นวิวแบบนี้
รูปภาพบนพนัง ที่บูรณะแล้วหลังจากเอาปูนที่โบกทับออกแล้ว มีเรื่องราวให้ศึกษารอบโบสถ์