ก่อนหน้านี้ผมเคยลงรีวิวเรื่องการทดลองใช้อาหารปลากัด Sakura ไปแล้วครั้งหนึ่ง และถือเป็นโชคดีของผมที่มีเพื่อนๆ พี่น้องผู้เลี้ยงปลากัดสอบถามเข้ามาขอคำแนะนำอยู่เรื่อยๆ ทั้งในเรื่องของตัวอาหารซากุระและในเรื่องของปลากัดที่ผมขายอยู่ มาในวันนี้ผมเลยขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ทำบทความรีวิวอาหารปลาขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งมาจากความบังเอิญเล็กๆ ผสมกับความตั้งใจหน่อยๆ อ่านแล้วอาจจะงงๆเล็กน้อย งั้นผมขอไปขยายความให้ในย่อหน้าถัดไปแล้วกัน
รอบนี้ผมยังเอาอาหารปลาซากุระเจ้าเดิมมาลองใช้ แต่คราวนี้เป็นสูตร ‘Gold’ ซึ่งเขาพรีเซนท์มาว่ามันเป็นสูตรที่สามารถให้ปลากินได้หลายชนิด อันนี้ต้องบอกตามตรงว่าตอนแรกผมเองไม่ค่อยนิยมอาหารปลาแนวๆ นี้เท่าไหร่ เพราะตัวผมเป็นประเภทที่เลี้ยงปลาอะไรก็อยากให้อาหารที่ตรงใจกับปลาชนิดนั้นๆ มากที่สุด แต่ที่ได้จับพลัดจับผลูมาลองใช้ซากุระซองนี้ก็เพราะเพื่อนของผมเอาปลาทองจำนวนหนึ่งมาฝากผมเลี้ยงไว้ชั่วคราว เนื่องจากมันต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ 1 สัปดาห์ถ้วน ส่วนตัวผมเองที่เลี้ยงปลากัดเป็นหลักปกติก็ให้ทั้งไรแดงและอาหารเม็ดสลับสับเปลี่ยนกันไปก็ไม่มีปัญหา เพราะปลากัดมันถึก กินอะไรก็ได้ แต่กับปลาทองนี่ผมไม่ค่อยอยากให้ไรแดง เพราะไรแดงมันมีขนาดที่เล็กมาก ปลาทองกว่าจะอิ่มคงต้องบ๊วบปากจนเมื่อยกันไปข้าง แถมเวลาให้ไรแดงน้ำก็จะเน่าเสียง่าย งานเปลี่ยนถ่ายน้ำก็จะตามมา ซึ่งผมไม่ปรารถนาภารกิจนั้น ก็ลำพังแค่ปลากัดในฟาร์มผมก็เปลี่ยนน้ำจนมือเปื่อยแล้ว ถ้ามีขบวนการปลาทองมาให้เปลี่ยนน้ำวันเว้นวันนี่ตายแน่ๆ สุดท้ายก็เลยตรงดิ่งไปคว้าอาหารเม็ดซากุระ Gold ซองนี้มาจากร้านขายปลาแถวบ้าน เพราะอาหารเม็ดทำให้น้ำเสียช้ากว่าอาหารสด แถมยังไม่ยุ่งยาก แค่ฉีกซองแล้วก็เทแหลกแหกโค้งกันไปเลย
สรุปคือผมนำอาหารปลาซากุระ Gold มาใช้เพราะบังเอิญว่าเพื่อนเอาปลาทองมาฝากเลี้ยง และผมเห็นว่ารีวิวสรรพคุณอาหารปลาเหล่านี้พอจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านก็เลยตั้งใจทำรีวิวนี้ขึ้นมา หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะหายงงนะครับ หรือถ้ายังงงอยู่ก็ลองหลังไมค์มาขอซื้อปลากัดจากผมได้ นี่พิมพ์ไปพิมพ์มาก็เริ่มงงเหมือนกันว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร ฮา...
ปลาทองออรันดา
สำหรับเหตุผลที่ผมเลือกนำอาหารปลาเจ้านี้มาใช้ก็เพราะ...
1.เคยใช้ซากุระสูตรอาหารปลากัดมาแล้วก็จัดว่าโอเคดี
2.เป็นยี่ห้อที่ติดหูคนไทย
3.หาซื้อง่าย
4.ราคาไม่แพง
5.ใช้กับปลาได้หลากหลายชนิด
ข้อห้านี่ตรงใจผมที่สุด คืออย่างที่บอกมันเป็นสูตรที่ใช้กับปลาได้หลากหลายชนิด ทั้งปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลาคาร์พ และอื่นๆ ซึ่งมันตอบโจทย์กับปลาทองที่เพื่อนผมมันหอบมาฝากแถมยังให้เป็นอาหารปลากัดในฟาร์มผมได้ด้วย แม้จะต้องยอมรับว่าซากุระ Gold สูตรนี้ไม่ได้เน้นคุณค่าสารอาหารที่เจาะจงไปที่ปลาชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นหลัก แต่ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เพราะมันใช้สะดวก เหมาะกับคนที่ชอบเลี้ยงปลาหลายๆประเภทเอาไว้ในบ้าน ประมาณว่าถือซองเดียว เดินให้ได้ทั่วบ้านนั่นละ
ซากุระ Gold ที่ผมซื้อมาเป็นขนาด 250 กรัม ซึ่งจริงๆที่ร้านขายเขามีหลายขนาดกว่านี้ แต่ผมว่าซองเท่านี้ก็เพียงพอต่อการเลี้ยงปลาได้ถึง 1 สัปดาห์สบายๆแล้วล่ะ ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็ย่างเข้าสัปดาห์ที่ 3 แล้ว ไอ้เพื่อนเจ้ากรรมก็ไม่มีทีท่าจะมารับลูกๆ ของมันกลับไปสักที ปัดโธ่!!! T^T
พรรณนามาพักใหญ่แล้ว ถึงเวลารายงานผลการใช้อาหารปลาตัวนี้แล้วครับ
1.คุณค่าทางโภชนาการ
แรกเริ่มเปิดซองอาหาร ต้องบอกว่ากลิ่นหอมดีครับ จะคว้ามาเคี้ยวเองก็เกรงใจปลาทองในตู้บวกเกรงใจกระเพาะลำไส้ตัวเอง ก็เป็นแนวโน้มที่ดีที่ปลาน่าจะชอบอาหารตัวนี้ แถมหน้าซองเขาเขียนว่าโปรตีน 35 เปอร์เซ็นต์ อันนี้ถือว่าสูงกำลังดี ไม่เวอร์วังบ้าพลังจนเกินไป เพราะเคยมีบางเจ้าเขียนว่าโปรตีน 50 เปอร์เซ็นต์อัพ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ปลามันไม่ได้ต้องการโปรตีนที่สูงส่งอะไรขนาดนั้น เพราะร่างกายมันรับโปรตีนได้ในจำนวนจำกัด ผมจำตัวเลขชัดๆไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ร่างกายของพวกมันรับสารโปรตีนได้ไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์แน่นอนครับ
แม้รายละเอียดด้านหลังซองจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่เขาก็แอบแนบข้อมูลส่วนประกอบภาษาไทยเล็กด้านล่างมาให้ด้วยว่าอาหารตัวนี้ ใช้ส่วนผสมของปลาป่น กุ้งป่น วัตถุดิบจากการเกษตร ตับปลาหมึก สาหร่ายสไปรูลิน่า และวิตามินต่างๆ
สำหรับจุดเด่นหลักๆ ของอาหารซากุระสูตรนี้ เขาระบุไว้หลังซองเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อคือหนึ่ง เป็นอาหารแบบเม็ดลอย (Floating Pellet) ที่เหมาะกับปลาหลายๆชนิด สองคือน้ำไม่ขุ่นไม่เสีย (Not Cloud The Water) ข้อนี้ผมว่าคงไม่ถึงกับไม่ขุ่นไม่เสีย แต่อาจจะน้ำเสียช้ากว่าอาหารเม็ดอื่นๆ และข้อสามนี่ ถือเป็นข้อที่อ่านแล้วผมอยากเอามากินเองให้มันรู้แล้วรู้รอด นั่นคือ “สืบพันธุ์ดี 555” (Easy Breed)
3 ลักษณะเด่นที่ระบุไว้หลังซอง
2.ขนาดของเม็ดอาหารและอัตราการกินของปลา
ซากุระ Gold นี่ เขาผลิตเม็ดอาหารออกมาถึง 4 ขนาด เพื่อรองรับขนาดตัวปลาที่หลากหลาย คือขนาดเม็ดจิ๋ว ขนาดเม็ดเล็ก ขนาดเม็ดกลาง และขนาดเม็ดแบบใหญ่ ซึ่งตัวผมเองไปหยิบขนาดเม็ดเล็กมาใช้ด้วยความบังเอิญ เพราะตอนแรกไม่รู้ว่าเขามีขนาดให้เลือก แต่ก็โอเคครับ ขนาดกำลังดี ปลาทองกินได้กินดี ไม่มีปัญหา เทให้เมื่อไหร่ก็ว่ายขึ้นมากินเมื่อนั้น ปลากัดก็เช่นกัน
ส่วนเม็ดอาหารเขาทำออกมา 3 สีในซองเดียว จะมีสีดำ สีแดง และสีเขียว ซึ่งในตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไร นึกว่าทำออกมาให้มันเป็นสีสันแบบว่าคนเลี้ยงเห็นแล้วอยากใช้ ปลาทองเห็นแล้วอยากกินอะไรทำนองนั้น เพราะอาหารปลาที่เคยซื้อที่ผ่านๆมาก็จะไม่ได้แยกสีของเม็ดอาหารแบบนี้ แต่พอไปเปิดเว็บหาข้อมูลจะมาทำรีวิวให้ท่านๆ ถึงได้รู้ว่าเขาแยกสีออกไปตามสรรพคุณของอาหาร โดยเม็ดสีดำจะเป็นเม็ดสำหรับเร่งโต สีแดงสำหรับเร่งสี และสีเขียวเร่งวุ้น (วุ้นบนหน้าปลาทอง) ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จริงเท็จอย่างไรผมก็ไม่อาจทราบจริงๆ เพราะไม่เคยถึงขึ้นมานั่งแยกสีของเม็ดอาหารแล้วลองให้ปลากินทีละสีเพื่อดูพัฒนาการแต่ละด้านว่าจะตรงกับสีอาหารที่แจ้งไว้หรือไม่ (แต่ถ้าซากุระมาเห็นบทความนี้เข้าแล้วอยากให้ผมทดสอบก็ยินดีนะครับ) แต่ที่แน่ๆ อาหารปลาบางตัวที่บอกว่าผสมทั้งกุ้งป่น - แดง, ตับปลาหมึก - ดำ, สไปรูลิน่า – เขียว ผสมแล้วอัดเม็ดออกมาเป็นสีเดียวนี่มองตามหลักความเป็นจริงนั้นเป็นไปได้ยาก
เม็ดอาหาร 3 สี 3 คุณประโยชน์ นี่พยายามเรียงให้เป็นรูปปลาทอง T T
3.ผลที่ได้รับจากการให้ซากุระ Gold
ผมว่าสูตรนี้เขาทำออกมาเพื่อเน้นความสะดวกเป็นหลัก ซึ่งปลาก็มีฟีดแบคที่ดี กล่าวคือ ทั้งปลาทองและปลากัดเรื่อยไปจนถึงปลาหางนกยูงในอ่างบัวหน้าบ้านก็ยินดีที่จะกินเจ้าซากุระตัวนี้อย่างไม่ขัดขืนใดๆ แลจะชอบเสียด้วยซ้ำ ด้านรูปร่างและสีสันของปลาแม้จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด แต่ก็มีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่ดี คือปลามีการเติบโตที่ดี สีสันก็ไม่ได้ดรอปลง ประเด็นปลาป่วยไม่มี เอาไป 3 ผ่าน
จุดที่ผมชอบสุดคือเรื่องสืบพันธุ์ดี(ล้อเล่นๆ) จริงๆ ผมชอบที่น้ำไม่ค่อยขุ่น เม็ดอาหารไม่แตกตัว ไม่ทิ้งคราบบนผิวน้ำ หรือมีก็น้อยมาก เหมาะกับสายขี้เกียจเปลี่ยนน้ำแบบผมเป็นอย่างมาก(ล้อเล่นอีกที 555) ผมเปลี่ยนน้ำให้ปลาทองของเพื่อนสัปดาห์ละ 2 ครั้งครับ
จุดที่ผมไม่ขอเรียกว่าเป็นข้อด้อย แต่เป็นจุดที่ยังเป็นข้อจำกัดเล็กๆ คือเม็ดอาหารที่มีแต่แบบชนิดลอยนั้น จะไม่สามารถนำไปเลี้ยงปลาทองบางสายพันธุ์ที่ชอบกินอาหารเม็ดจมอย่างกลุ่มปลาหัวสิงห์ โดยเฉพาะกับปลาทองสายพันธุ์รันชู (Ranchu) ซึ่งเป็นปลาที่ชอบกินอาหารจากพื้นตู้หรือพื้นอ่างเป็นหลัก ในส่วนของปลาทองหัวสิงห์อย่างสิงห์ญี่ปุ่นหรือสิงห์ลูกผสมยังพอกินได้ เนื่องจากปลากลุ่มนี้มีทั้งตัวที่ชอบกินอาหารจากพื้น และบางตัวก็ขึ้นมากินอาหารบนผิวน้ำได้เช่นกัน ส่วนปลาทองออรันดากับริวกิ้นนี่ไม่มีปัญหา ว่ายมากินกันสบายใจเฉิบมาก
ปลาทองหัวสิงห์ พวกนี้ชอบกินอาหารเม็ดจม แต่บางตัวก็สามารถกินแบบเม็ดลอยได้ครับ
อย่างไรก็ตาม ผมพอจะเข้าใจกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ที่ทำออกมาเพื่อเน้นความสะดวกสบาย รองรับการเลี้ยงปลาสวยงามได้หลากหลายชนิดเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ปลาสวยงามเหล่านั้นจะเป็นปลาที่ชอบขึ้นมากินอาหารบนผิวน้ำ และตัวผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางซากุระเขามีการผลิตอาหารสูตรเม็ดจมหรือไม่ ถ้ามี ผมอาจจะเอามาลองใช้และนำมารีวิวผลการทดลองให้ทุกท่านได้ทราบกันต่อไปในโอกาสหน้าครับ
[CR] รีวิว ผลการทดลองอาหารปลา Sakura GOLD ในปลาทอง
รอบนี้ผมยังเอาอาหารปลาซากุระเจ้าเดิมมาลองใช้ แต่คราวนี้เป็นสูตร ‘Gold’ ซึ่งเขาพรีเซนท์มาว่ามันเป็นสูตรที่สามารถให้ปลากินได้หลายชนิด อันนี้ต้องบอกตามตรงว่าตอนแรกผมเองไม่ค่อยนิยมอาหารปลาแนวๆ นี้เท่าไหร่ เพราะตัวผมเป็นประเภทที่เลี้ยงปลาอะไรก็อยากให้อาหารที่ตรงใจกับปลาชนิดนั้นๆ มากที่สุด แต่ที่ได้จับพลัดจับผลูมาลองใช้ซากุระซองนี้ก็เพราะเพื่อนของผมเอาปลาทองจำนวนหนึ่งมาฝากผมเลี้ยงไว้ชั่วคราว เนื่องจากมันต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ 1 สัปดาห์ถ้วน ส่วนตัวผมเองที่เลี้ยงปลากัดเป็นหลักปกติก็ให้ทั้งไรแดงและอาหารเม็ดสลับสับเปลี่ยนกันไปก็ไม่มีปัญหา เพราะปลากัดมันถึก กินอะไรก็ได้ แต่กับปลาทองนี่ผมไม่ค่อยอยากให้ไรแดง เพราะไรแดงมันมีขนาดที่เล็กมาก ปลาทองกว่าจะอิ่มคงต้องบ๊วบปากจนเมื่อยกันไปข้าง แถมเวลาให้ไรแดงน้ำก็จะเน่าเสียง่าย งานเปลี่ยนถ่ายน้ำก็จะตามมา ซึ่งผมไม่ปรารถนาภารกิจนั้น ก็ลำพังแค่ปลากัดในฟาร์มผมก็เปลี่ยนน้ำจนมือเปื่อยแล้ว ถ้ามีขบวนการปลาทองมาให้เปลี่ยนน้ำวันเว้นวันนี่ตายแน่ๆ สุดท้ายก็เลยตรงดิ่งไปคว้าอาหารเม็ดซากุระ Gold ซองนี้มาจากร้านขายปลาแถวบ้าน เพราะอาหารเม็ดทำให้น้ำเสียช้ากว่าอาหารสด แถมยังไม่ยุ่งยาก แค่ฉีกซองแล้วก็เทแหลกแหกโค้งกันไปเลย
สรุปคือผมนำอาหารปลาซากุระ Gold มาใช้เพราะบังเอิญว่าเพื่อนเอาปลาทองมาฝากเลี้ยง และผมเห็นว่ารีวิวสรรพคุณอาหารปลาเหล่านี้พอจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านก็เลยตั้งใจทำรีวิวนี้ขึ้นมา หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะหายงงนะครับ หรือถ้ายังงงอยู่ก็ลองหลังไมค์มาขอซื้อปลากัดจากผมได้ นี่พิมพ์ไปพิมพ์มาก็เริ่มงงเหมือนกันว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร ฮา...
ปลาทองออรันดา
สำหรับเหตุผลที่ผมเลือกนำอาหารปลาเจ้านี้มาใช้ก็เพราะ...
1.เคยใช้ซากุระสูตรอาหารปลากัดมาแล้วก็จัดว่าโอเคดี
2.เป็นยี่ห้อที่ติดหูคนไทย
3.หาซื้อง่าย
4.ราคาไม่แพง
5.ใช้กับปลาได้หลากหลายชนิด
ข้อห้านี่ตรงใจผมที่สุด คืออย่างที่บอกมันเป็นสูตรที่ใช้กับปลาได้หลากหลายชนิด ทั้งปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลาคาร์พ และอื่นๆ ซึ่งมันตอบโจทย์กับปลาทองที่เพื่อนผมมันหอบมาฝากแถมยังให้เป็นอาหารปลากัดในฟาร์มผมได้ด้วย แม้จะต้องยอมรับว่าซากุระ Gold สูตรนี้ไม่ได้เน้นคุณค่าสารอาหารที่เจาะจงไปที่ปลาชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นหลัก แต่ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เพราะมันใช้สะดวก เหมาะกับคนที่ชอบเลี้ยงปลาหลายๆประเภทเอาไว้ในบ้าน ประมาณว่าถือซองเดียว เดินให้ได้ทั่วบ้านนั่นละ
ซากุระ Gold ที่ผมซื้อมาเป็นขนาด 250 กรัม ซึ่งจริงๆที่ร้านขายเขามีหลายขนาดกว่านี้ แต่ผมว่าซองเท่านี้ก็เพียงพอต่อการเลี้ยงปลาได้ถึง 1 สัปดาห์สบายๆแล้วล่ะ ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็ย่างเข้าสัปดาห์ที่ 3 แล้ว ไอ้เพื่อนเจ้ากรรมก็ไม่มีทีท่าจะมารับลูกๆ ของมันกลับไปสักที ปัดโธ่!!! T^T
พรรณนามาพักใหญ่แล้ว ถึงเวลารายงานผลการใช้อาหารปลาตัวนี้แล้วครับ
1.คุณค่าทางโภชนาการ
แรกเริ่มเปิดซองอาหาร ต้องบอกว่ากลิ่นหอมดีครับ จะคว้ามาเคี้ยวเองก็เกรงใจปลาทองในตู้บวกเกรงใจกระเพาะลำไส้ตัวเอง ก็เป็นแนวโน้มที่ดีที่ปลาน่าจะชอบอาหารตัวนี้ แถมหน้าซองเขาเขียนว่าโปรตีน 35 เปอร์เซ็นต์ อันนี้ถือว่าสูงกำลังดี ไม่เวอร์วังบ้าพลังจนเกินไป เพราะเคยมีบางเจ้าเขียนว่าโปรตีน 50 เปอร์เซ็นต์อัพ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ปลามันไม่ได้ต้องการโปรตีนที่สูงส่งอะไรขนาดนั้น เพราะร่างกายมันรับโปรตีนได้ในจำนวนจำกัด ผมจำตัวเลขชัดๆไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ร่างกายของพวกมันรับสารโปรตีนได้ไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์แน่นอนครับ
แม้รายละเอียดด้านหลังซองจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่เขาก็แอบแนบข้อมูลส่วนประกอบภาษาไทยเล็กด้านล่างมาให้ด้วยว่าอาหารตัวนี้ ใช้ส่วนผสมของปลาป่น กุ้งป่น วัตถุดิบจากการเกษตร ตับปลาหมึก สาหร่ายสไปรูลิน่า และวิตามินต่างๆ
สำหรับจุดเด่นหลักๆ ของอาหารซากุระสูตรนี้ เขาระบุไว้หลังซองเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อคือหนึ่ง เป็นอาหารแบบเม็ดลอย (Floating Pellet) ที่เหมาะกับปลาหลายๆชนิด สองคือน้ำไม่ขุ่นไม่เสีย (Not Cloud The Water) ข้อนี้ผมว่าคงไม่ถึงกับไม่ขุ่นไม่เสีย แต่อาจจะน้ำเสียช้ากว่าอาหารเม็ดอื่นๆ และข้อสามนี่ ถือเป็นข้อที่อ่านแล้วผมอยากเอามากินเองให้มันรู้แล้วรู้รอด นั่นคือ “สืบพันธุ์ดี 555” (Easy Breed)
3 ลักษณะเด่นที่ระบุไว้หลังซอง
2.ขนาดของเม็ดอาหารและอัตราการกินของปลา
ซากุระ Gold นี่ เขาผลิตเม็ดอาหารออกมาถึง 4 ขนาด เพื่อรองรับขนาดตัวปลาที่หลากหลาย คือขนาดเม็ดจิ๋ว ขนาดเม็ดเล็ก ขนาดเม็ดกลาง และขนาดเม็ดแบบใหญ่ ซึ่งตัวผมเองไปหยิบขนาดเม็ดเล็กมาใช้ด้วยความบังเอิญ เพราะตอนแรกไม่รู้ว่าเขามีขนาดให้เลือก แต่ก็โอเคครับ ขนาดกำลังดี ปลาทองกินได้กินดี ไม่มีปัญหา เทให้เมื่อไหร่ก็ว่ายขึ้นมากินเมื่อนั้น ปลากัดก็เช่นกัน
ส่วนเม็ดอาหารเขาทำออกมา 3 สีในซองเดียว จะมีสีดำ สีแดง และสีเขียว ซึ่งในตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไร นึกว่าทำออกมาให้มันเป็นสีสันแบบว่าคนเลี้ยงเห็นแล้วอยากใช้ ปลาทองเห็นแล้วอยากกินอะไรทำนองนั้น เพราะอาหารปลาที่เคยซื้อที่ผ่านๆมาก็จะไม่ได้แยกสีของเม็ดอาหารแบบนี้ แต่พอไปเปิดเว็บหาข้อมูลจะมาทำรีวิวให้ท่านๆ ถึงได้รู้ว่าเขาแยกสีออกไปตามสรรพคุณของอาหาร โดยเม็ดสีดำจะเป็นเม็ดสำหรับเร่งโต สีแดงสำหรับเร่งสี และสีเขียวเร่งวุ้น (วุ้นบนหน้าปลาทอง) ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จริงเท็จอย่างไรผมก็ไม่อาจทราบจริงๆ เพราะไม่เคยถึงขึ้นมานั่งแยกสีของเม็ดอาหารแล้วลองให้ปลากินทีละสีเพื่อดูพัฒนาการแต่ละด้านว่าจะตรงกับสีอาหารที่แจ้งไว้หรือไม่ (แต่ถ้าซากุระมาเห็นบทความนี้เข้าแล้วอยากให้ผมทดสอบก็ยินดีนะครับ) แต่ที่แน่ๆ อาหารปลาบางตัวที่บอกว่าผสมทั้งกุ้งป่น - แดง, ตับปลาหมึก - ดำ, สไปรูลิน่า – เขียว ผสมแล้วอัดเม็ดออกมาเป็นสีเดียวนี่มองตามหลักความเป็นจริงนั้นเป็นไปได้ยาก
เม็ดอาหาร 3 สี 3 คุณประโยชน์ นี่พยายามเรียงให้เป็นรูปปลาทอง T T
3.ผลที่ได้รับจากการให้ซากุระ Gold
ผมว่าสูตรนี้เขาทำออกมาเพื่อเน้นความสะดวกเป็นหลัก ซึ่งปลาก็มีฟีดแบคที่ดี กล่าวคือ ทั้งปลาทองและปลากัดเรื่อยไปจนถึงปลาหางนกยูงในอ่างบัวหน้าบ้านก็ยินดีที่จะกินเจ้าซากุระตัวนี้อย่างไม่ขัดขืนใดๆ แลจะชอบเสียด้วยซ้ำ ด้านรูปร่างและสีสันของปลาแม้จะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด แต่ก็มีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่ดี คือปลามีการเติบโตที่ดี สีสันก็ไม่ได้ดรอปลง ประเด็นปลาป่วยไม่มี เอาไป 3 ผ่าน
จุดที่ผมชอบสุดคือเรื่องสืบพันธุ์ดี(ล้อเล่นๆ) จริงๆ ผมชอบที่น้ำไม่ค่อยขุ่น เม็ดอาหารไม่แตกตัว ไม่ทิ้งคราบบนผิวน้ำ หรือมีก็น้อยมาก เหมาะกับสายขี้เกียจเปลี่ยนน้ำแบบผมเป็นอย่างมาก(ล้อเล่นอีกที 555) ผมเปลี่ยนน้ำให้ปลาทองของเพื่อนสัปดาห์ละ 2 ครั้งครับ
จุดที่ผมไม่ขอเรียกว่าเป็นข้อด้อย แต่เป็นจุดที่ยังเป็นข้อจำกัดเล็กๆ คือเม็ดอาหารที่มีแต่แบบชนิดลอยนั้น จะไม่สามารถนำไปเลี้ยงปลาทองบางสายพันธุ์ที่ชอบกินอาหารเม็ดจมอย่างกลุ่มปลาหัวสิงห์ โดยเฉพาะกับปลาทองสายพันธุ์รันชู (Ranchu) ซึ่งเป็นปลาที่ชอบกินอาหารจากพื้นตู้หรือพื้นอ่างเป็นหลัก ในส่วนของปลาทองหัวสิงห์อย่างสิงห์ญี่ปุ่นหรือสิงห์ลูกผสมยังพอกินได้ เนื่องจากปลากลุ่มนี้มีทั้งตัวที่ชอบกินอาหารจากพื้น และบางตัวก็ขึ้นมากินอาหารบนผิวน้ำได้เช่นกัน ส่วนปลาทองออรันดากับริวกิ้นนี่ไม่มีปัญหา ว่ายมากินกันสบายใจเฉิบมาก
ปลาทองหัวสิงห์ พวกนี้ชอบกินอาหารเม็ดจม แต่บางตัวก็สามารถกินแบบเม็ดลอยได้ครับ
อย่างไรก็ตาม ผมพอจะเข้าใจกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ที่ทำออกมาเพื่อเน้นความสะดวกสบาย รองรับการเลี้ยงปลาสวยงามได้หลากหลายชนิดเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ปลาสวยงามเหล่านั้นจะเป็นปลาที่ชอบขึ้นมากินอาหารบนผิวน้ำ และตัวผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางซากุระเขามีการผลิตอาหารสูตรเม็ดจมหรือไม่ ถ้ามี ผมอาจจะเอามาลองใช้และนำมารีวิวผลการทดลองให้ทุกท่านได้ทราบกันต่อไปในโอกาสหน้าครับ