สำหรับสัปดาห์นี้ มีหนังให้ดูแค่สองเรื่อง คือ Thor กับ Stronger เท่านั้น ซึ่งอารมณ์หนังก็ต่างกันสุดขั้ว สำหรับเทพเจ้าสายฟ้านี้ เป็นภาคที่สามแล้ว หลังจากภาคแรก แอ็คชั่นมันส์ระเบิด ภาคสองใส่ความหนักลงไปในเนื้อหา แต่มาภาคนี้ฉีกแนวไปเลย หนังเน้นบันเทิงเริงรมย์ล้วนๆ เอาฮาเข้าว่า ยิงมุขกันกระจายตลอด 130 กว่านาที แต่เนื้อหามันกลับเบาแบบไม่น่าเชื่อ
ในภาคนี้ธอร์ ถูกทำลายค้อนคู่ใจ เขาจะต้องหาทางกลับไปยังแอสการ์ดเพื่อหยุดยั้งมหาสงครามที่จะทำลายล้างดินแดนแห่งเทพ และจบสิ้นอารยธรรมแห่งแอสการ์ด ภายใต้เงื้อมมือของวายร้ายคนใหม่ที่ทรงพลังและโหดเหี้ยมที่สุด เฮล่า แต่ก่อนอื่นเขาจะต้องเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้แบบฉบับกลาดิเอเตอร์ให้ได้เสียก่อน ซึ่งคู่ต่อสู้ในคราวนี้เป็นถึงหนึ่งในทีมอเวนเจอร์ที่เขาคุ้นเคย...เดอะ ฮัลค์!
คือจริงๆ หนัง #Marvel เป็นหนังที่มีสีสันสดใสและมุขตลกเป็นจุดขายอยู่แล้ว แต่กับเรื่องนี้หนังเปิดมาก็ยิงมุขกันเกลื่อนกลาด เรียกว่า มุขห้าบาทสิบบาทก็เล่น ทั้งเรื่องเรียกเสียงฮาได้ตลอดเวลา หนังไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมาก เดินเป็นเส้นตรงๆ ทื่อๆ บอกถึงการบุกรุกแอสการ์ดของเฮล่า แล้วก็การเอาตัวรอดของธอร์ที่ภาคนี้ดูเหมือนจะระหกระเหินเตลิดไปกันใหญ่ ซึ่งถ้าหนังไม่ได้ใส่มุขตลกเข้าไป อาจจะทำให้หนังมันจืดชืดกว่านี้ก็ได้ ยิ่งช่วงกลางเรื่อง ช่วงที่ธอร์ต้องไปติดอยู่ที่อีกดาวร่วมกับโลกิและฮัลค์ ช่วงนี้เรียกว่าเจื่อนๆ เลยทีเดียว จนถึงช่วงแอ็คชั่นหนักๆ ช่วงครึ่งชั่วโมงท้าย ถึงจะกลับมาดูสนุกอีกครั้ง
พอหนังมันไปเน้นฮาเยอะเกินไป มันเลยกลายเป็นว่าหนังดูไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ความคาดหวังจะเห็นหนังเทพเจ้าสายฟ้าแบบเท่ปนเกรียนเหมือนสองภาคแรก มันถูกกลบด้วยเทพเจ้าสายฮาไปแทน แล้วยิ่งตัวละครที่ออกมาทั้งเรื่องผลัดเปลี่ยนกันมาเล่นมุขเป็นคณะชวนชื่น ก็ยิ่งทำให้หนังมันดูผิดเพี้ยนกันไปใหญ่ ทั้งโลกิ ทั้งฮัลค์ ทั้งโอดิน หรือแม้แต่ตัวธอร์เอง ไม่มีคนไหนที่ไม่ยิงมุขตลกออกมา เลยทำให้ภาพความเท่แบบเกรียนมันหายไป
ความเจ๋งของหนังเรื่องนี้ต้องยกให้เรื่องของงานภาพเป็นอันดับแรก สีสันของภาพ สวยงามสดใสเหมือนอยู่ใน comic ฉากที่ดูค่อนข้างอลังการและเป็นเมืองเทพที่อยู่ในอวกาศดูสวยงามมาก ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้ค่อนข้างเยี่ยม ส่วนตัวผมชอบฉากที่กองงทัพวัลคีรี เผชิญหน้ากับ เฮล่า ดูมันเป็นฉากรบที่เท่มากๆ ฉากอื่นก็ดูสวยงามน่าตื่นตา
แต่ท้ายสุดความเป็นหนัง Marvel ก็ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญกับตัวร้ายอยู่เหมือนเดิม ตัวร้ายหญิงตัวแรกของค่ายซึ่งรับบทโดยผู้หญิงที่โคตรสวยในความคิดผม Cate Blanchett ออกมาได้น่าเกรงขามและดูสง่าสุดๆ แต่บทกลับน้อยนิด แถมจุดจบก็เหมือนหนัง Marvel เรื่องอื่น เรียกว่าไม่คุ้มกับค่าตัวและฝีมือการแสดงเลย
สุดท้ายท้ายสุด จริงๆ แล้ว Thor Raknarok มันคือภาคที่สามหนังเดี่ยวของเทพเจ้าสายฟ้าเพื่อให้มันสมบูรณ์ในตัวมันเอง แต่ในความคิดผม เหมือนเป็นหนังที่สร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมต่อจักรวาลของ The Avengers มากกว่า ยิ่งฉีกแนวมาเป็นหนังตลกแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้หนังมันดูผิดเพี้ยนจากความคาดหวัง และดูไม่ลงตัวเอาอย่างมากเลยทีเดียว
ฝากเพจด้วยนะครับ >>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
[CR] [#Review] Thor Raknarok ศึกอวสานเทพเจ้า - เทพสายฮา เน้นดูสนุก ภาพสวย แต่ดูไม่ลงตัว
ในภาคนี้ธอร์ ถูกทำลายค้อนคู่ใจ เขาจะต้องหาทางกลับไปยังแอสการ์ดเพื่อหยุดยั้งมหาสงครามที่จะทำลายล้างดินแดนแห่งเทพ และจบสิ้นอารยธรรมแห่งแอสการ์ด ภายใต้เงื้อมมือของวายร้ายคนใหม่ที่ทรงพลังและโหดเหี้ยมที่สุด เฮล่า แต่ก่อนอื่นเขาจะต้องเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้แบบฉบับกลาดิเอเตอร์ให้ได้เสียก่อน ซึ่งคู่ต่อสู้ในคราวนี้เป็นถึงหนึ่งในทีมอเวนเจอร์ที่เขาคุ้นเคย...เดอะ ฮัลค์!
คือจริงๆ หนัง #Marvel เป็นหนังที่มีสีสันสดใสและมุขตลกเป็นจุดขายอยู่แล้ว แต่กับเรื่องนี้หนังเปิดมาก็ยิงมุขกันเกลื่อนกลาด เรียกว่า มุขห้าบาทสิบบาทก็เล่น ทั้งเรื่องเรียกเสียงฮาได้ตลอดเวลา หนังไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมาก เดินเป็นเส้นตรงๆ ทื่อๆ บอกถึงการบุกรุกแอสการ์ดของเฮล่า แล้วก็การเอาตัวรอดของธอร์ที่ภาคนี้ดูเหมือนจะระหกระเหินเตลิดไปกันใหญ่ ซึ่งถ้าหนังไม่ได้ใส่มุขตลกเข้าไป อาจจะทำให้หนังมันจืดชืดกว่านี้ก็ได้ ยิ่งช่วงกลางเรื่อง ช่วงที่ธอร์ต้องไปติดอยู่ที่อีกดาวร่วมกับโลกิและฮัลค์ ช่วงนี้เรียกว่าเจื่อนๆ เลยทีเดียว จนถึงช่วงแอ็คชั่นหนักๆ ช่วงครึ่งชั่วโมงท้าย ถึงจะกลับมาดูสนุกอีกครั้ง
พอหนังมันไปเน้นฮาเยอะเกินไป มันเลยกลายเป็นว่าหนังดูไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ความคาดหวังจะเห็นหนังเทพเจ้าสายฟ้าแบบเท่ปนเกรียนเหมือนสองภาคแรก มันถูกกลบด้วยเทพเจ้าสายฮาไปแทน แล้วยิ่งตัวละครที่ออกมาทั้งเรื่องผลัดเปลี่ยนกันมาเล่นมุขเป็นคณะชวนชื่น ก็ยิ่งทำให้หนังมันดูผิดเพี้ยนกันไปใหญ่ ทั้งโลกิ ทั้งฮัลค์ ทั้งโอดิน หรือแม้แต่ตัวธอร์เอง ไม่มีคนไหนที่ไม่ยิงมุขตลกออกมา เลยทำให้ภาพความเท่แบบเกรียนมันหายไป
ความเจ๋งของหนังเรื่องนี้ต้องยกให้เรื่องของงานภาพเป็นอันดับแรก สีสันของภาพ สวยงามสดใสเหมือนอยู่ใน comic ฉากที่ดูค่อนข้างอลังการและเป็นเมืองเทพที่อยู่ในอวกาศดูสวยงามมาก ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้ค่อนข้างเยี่ยม ส่วนตัวผมชอบฉากที่กองงทัพวัลคีรี เผชิญหน้ากับ เฮล่า ดูมันเป็นฉากรบที่เท่มากๆ ฉากอื่นก็ดูสวยงามน่าตื่นตา
แต่ท้ายสุดความเป็นหนัง Marvel ก็ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญกับตัวร้ายอยู่เหมือนเดิม ตัวร้ายหญิงตัวแรกของค่ายซึ่งรับบทโดยผู้หญิงที่โคตรสวยในความคิดผม Cate Blanchett ออกมาได้น่าเกรงขามและดูสง่าสุดๆ แต่บทกลับน้อยนิด แถมจุดจบก็เหมือนหนัง Marvel เรื่องอื่น เรียกว่าไม่คุ้มกับค่าตัวและฝีมือการแสดงเลย
สุดท้ายท้ายสุด จริงๆ แล้ว Thor Raknarok มันคือภาคที่สามหนังเดี่ยวของเทพเจ้าสายฟ้าเพื่อให้มันสมบูรณ์ในตัวมันเอง แต่ในความคิดผม เหมือนเป็นหนังที่สร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมต่อจักรวาลของ The Avengers มากกว่า ยิ่งฉีกแนวมาเป็นหนังตลกแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้หนังมันดูผิดเพี้ยนจากความคาดหวัง และดูไม่ลงตัวเอาอย่างมากเลยทีเดียว
ฝากเพจด้วยนะครับ >> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/