“ไมค์” ภัทรเดช สงวนความดี กับการเป็น "นายฮ้อยทมิฬ"


กระแสตอบรับดีสำหรับละครเรื่อง “นายฮ้อยทมิฬ”  โกยเรตติ้งให้ช่อง 7 ในช่วงที่ผ่านมาอย่างถล่มทลาย โดยเฉพาะพระเอกหนุ่ม “ไมค์” ภัทรเดช สงวนความดี ที่มารับบท “นายฮ้อยเคน” ก็ได้รับคำชื่นชมกับการสวมบทบาทนี้ โดย “บันเทิง คม ชัด ลึก” มีโอกาสพูดคุยกับไมค์ถึงการทำงานในเรื่องนี้

คาแรกเตอร์ “นายฮ้อยเคน” ในละคร “นายฮ้อยทมิฬ” ที่ไมค์ชื่นชม

“ไมค์ชอบในความเสียสละ นายฮ้อยเคนในเรื่องคล้ายๆ กับผู้ใหญ่บ้าน แต่ด้วยความที่เขาอายุยังน้อย ตามเรื่องคืออายุแค่ 26-27 ปีเอง แต่ด้วยภาระหน้าที่ของเขา ทำให้เขากลายเป็นผู้นำ และที่สำคัญนายฮ้อยเคนคือคนจริง เห็นแต่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว และเป็นคนรักความถูกต้อง ผมชอบคาแรกเตอร์ของเขา และผมอยากเป็นเหมือนเขา”

ในความเป็น “นายฮ้อยทมิฬ” กับ “ไมค์” มีอะไรที่เหมือนกัน

“ผมว่าเรื่องของความเป็นผู้นำ นายฮ้อยเคนคือคนในอนาคตของผม อย่างความเป็นผู้นำและความเสียสละทุกอย่างที่ทำได้เพื่อส่วนรวม วันหนึ่งผมอยากเป็นแบบนั้น”

ภาพใน “นายฮ้อยทมิฬ” ที่คนจดจำคือ “ตั้ว” ศรัณยู ต้องทำอย่างไง “ไมค์” ถึงจะเป็น “นายฮ้อยทมิฬ” แบบของไมค์

“ผมเป็นคนที่เล่นละครรีเมกมาหลายเรื่อง ซึ่งมีคนถามผมเยอะมากเรื่องของการเปรียบเทียบ แต่เชื่อไหมว่าผมไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย เพราะฉะนั้นคาแรกเตอร์ที่แสดงมันเลยออกมาเป็นในแบบของผม คนดูก็จะชอบในแบบของผม อย่างการเป็นนายฮ้อยเคนในแบบของผม ผมเล่นมาจากข้างใน ผมไม่ได้แสดงแค่ภายนอกว่าเราเป็นผู้นำว่าต้องพูดเสียงแบบนี้ วางท่าแบบนี้ ดูจากหลายๆ ฉากที่ออกไป คนดูก็จะเห็นว่าผมไม่ได้เสียงเข้มในทุกฉาก แต่ผมเลือกที่จะสื่อสารออกมาอย่างไร กับคนแบบไหน เราเล่นจากข้างในจริงๆ ถามว่าผมทำการบ้านหนักแค่ไหนกับบทนี้ บอกเลยว่าเยอะ เพราะอย่างที่คุยกันเมื่อกี้ว่า ละครเรื่องนี้คือละครที่พี่ตั้ว (ศรัณยู วงศ์กระจ่าง) เล่นมาก่อน ซึ่งคือนักแสดงระดับเทพ เราจึงต้องทำการบ้านให้มากขึ้น อะไรที่เป็นความแตกต่างในทางที่ดี เช่น เรื่องของภาษา ผมเป็นลูกอีสาน เป็นคนท้องถิ่น แต่ด้วยความที่ไม่ได้พูดตั้งแต่เด็กก็อาจจะพูดไม่คล่อง จึงต้องท่อง บางคำเราก็ต้องเปลี่ยนให้เป็นอีสานจริงๆ แล้วอีกอย่างภาษาอีสานในสมัยนั้นกับสมัยนี้ไม่เหมือนกัน ก็ต้องมาเรียนรู้และปรับให้สมจริง ผมโชคดีที่มีคุณแม่คอยช่วย ผมยอมรับว่าผมกดดันมาก เพราะด้วยความที่เราเป็นลูกอีสาน ถ้าเราพูดออกมาไม่ดี คนก็จะว่าได้ ผมกดดันมากกว่าปุ๊ก (“ปุ๊กลุก” ฝนทิพย์) อีก ทำให้เราต้องทำการบ้านเยอะ อาจจะมากกว่าปุ๊กอีก

(ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเรื่องนี้วางตัวพระเอกเป็น “เวียร์” ศุกลวัฒน์ ทำให้เรากดดันไหม) ไม่เลย อย่างที่บอกผมก็มีสไตล์ในแบบผม ผมไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับใคร ผมเชื่อว่าคนดูจะชอบนายฮ้อยเคนในแบบของผม เพราะนายฮ้อยเคนในแบบของผมมีความเป็นธรรมชาติเรื่องของภาษา เรื่องของการแสดงออกมา เพราะผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ และคนที่แสดงร่วมกันกับผม เขาก็ให้เกียรติผม ให้ความเคารพผมเหมือนผมเป็นนายฮ้อยเคนจริงๆ”

“ไมค์” มั่นใจในการเป็น “นายฮ้อยเคน” มาก

“ผมรักตัวละครตัวนี้ และผมก็เชื่อว่าคนดูก็จะรักในตัวละครนี้ที่ผมแสดงออกมาเหมือนกัน เพราะความรู้สึกที่นายฮ้อยเคนมีให้ตัวละครทุกตัวมันอบอุ่น เราอายุน้อยกว่าเขา แต่ทุกคนให้ความเคารพเราในเรื่อง แล้วเราก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เวลาเราเล่น คนดูต้องชอบ”

กลับมาร่วมงาน “ปุ๊กลุก” อีกครั้งเป็นไงบ้าง

“ไม่ต้องปรับจูนเลย เขาเป็นคนที่ทำให้เราเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เวลาทำงานร่วมกับเขาคือด้วยความที่เราชินกันแล้ว เวลาเรามองตาเราก็ตัดความเกร็งลงและเราสามารถสื่อสารกันได้มากยิ่งขึ้น อย่างเรื่องของพัฒนาการ หลังจากที่ร่วมงานกันครั้งที่แล้ว ผมว่าเขาน่าจะเห็นพัฒนาการของผมมากกว่า เพราะเขาเป็นคนเก่งอยู่แล้ว เป็นนักแสดงมือรางวัล ซึ่งเขาเองก็บอกผมว่า การแสดงของผมดีขึ้นจากเรื่องก่อนๆ จากเรื่องอตีตา, รอยรักฯ”

"ช่วงที่ผ่านมาหายจากหน้าจอไปนานเพื่อทุ่มเวลาให้เรื่องนี้

“ใช่ ตอนนี้ผมพยายามทำงานในแบบของผมอยู่ ต้องเริ่มจากการประมาณความสามารถตัวเองก่อน ผมเคยรับละคร 2-3 เรื่อง ถามว่าออกมาดีไหม ก็ดีในระดับหนึ่ง คนดูอาจจะชอบ แต่เขาอาจไม่รู้ว่าเราอาจทำได้ดีกว่านี้ไหม มีคนถามผมมาตลอดว่า ทำไมมีละครเรื่องเดียว ช่องไม่ให้ละครเหรอ บอกเลยว่าไม่ใช่ ผู้ใหญ่ให้โอกาสเราเสมอ แต่ว่าเราก็บอกว่าเราอยากลองทุ่มเทกับตรงนี้ดู เพราะว่าเรื่องนี้เป็นละครที่ไม่ง่าย ซึ่งผมทุ่มเทกับละครเรื่องนี้มาก ตอนนั้นผู้ใหญ่ให้ละครผมมา ซึ่งผมมีละครที่ง่ายกว่าเรื่องนี้ด้วย และก็น่าจะเป็นละครที่กระแสน่าจะดีอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าผู้ใหญ่ให้ผมเลือกหนึ่งเรื่องกับเรื่องนี้ ผมเลือกเรื่องนี้ เพราะว่าละครภาษาอีสานอีก 10 ปีจะมีมาอีกหรือเปล่า ผมว่ามันเป็นโอกาสของผม ปีหนึ่งที่ผ่านมาไม่มีละครผมเลย แต่ผมก็ยอม เพราะต้องการทุ่มเทให้เรื่องนี้”

มาถึงเรื่องหัวใจกันบ้าง

“ผมไม่ซีเรียสกับการที่ว่าจะมีใครหรือไม่มีใคร ตอนนี้ผมอยากทำตรงนี้ก่อน ผมอยากทำงาน ผมต้องดูแลครอบครัวด้วย ผมอยากให้ทุกคนในครอบครัวผมมีชีวิตที่ดีเหมือนผม ทำให้ตอนนี้ผมยังไม่ได้โฟกัสในเรื่องความรัก แต่ถ้าเกิดมีเข้ามาผมก็ไม่ปิดกั้น ผมเป็นคนที่มีความรักมาก่อน ผมรู้ว่าความรักมันสวยงาม มันดี ช่วงที่มีความรักที่ดี ชีวิตดีเลยนะ แต่ว่าไม่เสถียรเท่านั้น”


cr : http://www.komchadluek.net/news/ent/300828
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่