เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม จัดสาธิตการชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ให้กับสื่อมวลชน และประชาชนจำนวนหนึ่งได้เข้าชมนิทรรศการ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วันนี้ผมได้รับโอกาสพิเศษสุด ๆ ในการเข้าไปเยี่ยมชมนิทรรศการครั้งนี้ เราไปชมรูปและรายละเอียดกันเลยดีกว่า
เรียกได้ว่านี่คือประชาชนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้เข้าชมสถาปัตยกรรมไทย ที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยเรา โดยนิทรรศการนี้จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเป็นวันแรกในวันที่ 2 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น.จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยในแต่ละรอบจะให้เวลาเยี่ยมชมรอบละ 1 ชั่วโมง รองรับประชาชนได้รอบละ 5,000 คน โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมียอดเข้าชมนิทรรศการวันละประมาณ 100,000 คน
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาชมนิทรรศการ คุณสามารถเข้าได้จาก 5 จุดคัดกรอง แบ่งออกเป็นสำหรับประชาชนทั่วไป 3 จุด 1.บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ 2.บริเวณท่าช้าง 3.บริเวณหน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ส่วนจุดคัดกรอง บริเวณหน้า ม.ธรรมศาสตร์ จะใช้สำหรับพระภิกษุ และสามเณร ส่วนจุดคัดกรองบริเวณด้านหลังกระทรวงกลาโหม จะใช้สำหรับผู้พิการ
สำหรับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ “พระเมรุมาศ 9 ยอด” คือคุณก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรมแห่งกรมศิลปากร ซึ่งได้แนวคิดการจัดวางยอดมาจากพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีกทั้งการออกแบบพระเมรุมาศในครั้งนี้ คิดตามหลักโบราณราชประเพณีการสร้างพระเมรุมาศ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ อีกด้วย สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถไปชมรายระเอียดได้ของการออกแบบให้ครั้งนี้ได้ ที่นิทรรศการในจุดที่หนึ่ง
นิทรรศการที่น่าสนใจมาก ๆ อีกจุดหนึ่งจะอยู่ในส่วนตรงพระที่นั่งทรงธรรม นิทรรศการที่จัดแสดงในส่วนนี้ มีชื่อว่า "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์" เป็นนิทรรศการที่จะแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของในหลวง ร.9 ภายในนิทรรศการแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อย่อย 1.เมื่อเสด็จอวตาร 2.รัชกาลที่ร่มเย็น 3.เพ็ญพระราชธรรม 4.นำพระราชไมตรี และ 5.พระจักรีนิวัตฟ้า ด้านในของอาคารยังมีส่วนที่เป็นจิตกรรมฝาผนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริบริเวณรอบพระที่นั่งทรงธรรมทั้ง 3 ด้าน
โดยภายในนิทรรศการ จะประกอบด้วย 5 ส่วนใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้
1.นิทรรศการพระเมรุมาศ และสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศที่ใช้ใพระราชพิธีฯ
2. สิ่งปลูกสร้างบริเวณพระที่นั่งทรงธรรม ส่วนนี้จะเป็นนิทรรศการแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และจิตกรรมฝาผนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ใช้ชื่อว่า "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์"
3. บริเวณศาลาลูกขุน 6 หลัง จุดนี้จะแสดงนิทรรศการพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้าง งานบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ
4.บริเวณทับเกษตร นิทรรศการส่วนนี้จะอยู่ถัดจากศาลาลูกขุนไปทางทิศใต้ เป็นนิทรรศการสัมผัสเพื่อผู้พิการทางสายตา สำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ส่วนนี้จะมีจิตอาสาคอยนำชมด้วยภาษามือ
5.ภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศ จุดนี้จะแสดงถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่ว่าจะเป็นโครงการพระราชดำริต่าง ๆ
สุดท้ายก่อนจาก รัฐบาลฝากขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ถ่ายภาพภายในนิทรรศการด้วยความสุภาพ ทั้งกริยาวาจา ไม้เซลฟี่ นี่ห้ามเลย ! ถ้าไม่อยากเจอสายตาอํามหิต จากทั่วสารทิศ... อีกทั้งทุกคนต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย แขนกุด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ไม่เอานะครับ ท้ายสุดสำหรับคนที่กลัวร้อน และอยากถ่ายภาพสวย ๆ ผมแนะนำให้ไปช่วงเวลาการคืน เพราะตอนนี้เริ่มมีลมเย็น ๆ แล้ว บวกกับแสงไฟ บริเวณรอบ ๆ พระเมรุมาศ ตอนกลางคืน น่าจะทำให้การมาชมนิทรรศการในครั้งนี้น่าจดจำและพิเศษสำหรับคุณสุด ๆ
ที่มา :
https://gmlive.com/Royal-Cremation-Pyre-Exhibition
[CR] ไปชม นิทรรศการพระเมรุมาศ สถาปัตยกรรมไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
เรียกได้ว่านี่คือประชาชนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้เข้าชมสถาปัตยกรรมไทย ที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยเรา โดยนิทรรศการนี้จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเป็นวันแรกในวันที่ 2 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น.จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยในแต่ละรอบจะให้เวลาเยี่ยมชมรอบละ 1 ชั่วโมง รองรับประชาชนได้รอบละ 5,000 คน โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมียอดเข้าชมนิทรรศการวันละประมาณ 100,000 คน
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาชมนิทรรศการ คุณสามารถเข้าได้จาก 5 จุดคัดกรอง แบ่งออกเป็นสำหรับประชาชนทั่วไป 3 จุด 1.บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ 2.บริเวณท่าช้าง 3.บริเวณหน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ส่วนจุดคัดกรอง บริเวณหน้า ม.ธรรมศาสตร์ จะใช้สำหรับพระภิกษุ และสามเณร ส่วนจุดคัดกรองบริเวณด้านหลังกระทรวงกลาโหม จะใช้สำหรับผู้พิการ
สำหรับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ “พระเมรุมาศ 9 ยอด” คือคุณก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรมแห่งกรมศิลปากร ซึ่งได้แนวคิดการจัดวางยอดมาจากพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีกทั้งการออกแบบพระเมรุมาศในครั้งนี้ คิดตามหลักโบราณราชประเพณีการสร้างพระเมรุมาศ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ อีกด้วย สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถไปชมรายระเอียดได้ของการออกแบบให้ครั้งนี้ได้ ที่นิทรรศการในจุดที่หนึ่ง
นิทรรศการที่น่าสนใจมาก ๆ อีกจุดหนึ่งจะอยู่ในส่วนตรงพระที่นั่งทรงธรรม นิทรรศการที่จัดแสดงในส่วนนี้ มีชื่อว่า "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์" เป็นนิทรรศการที่จะแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของในหลวง ร.9 ภายในนิทรรศการแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อย่อย 1.เมื่อเสด็จอวตาร 2.รัชกาลที่ร่มเย็น 3.เพ็ญพระราชธรรม 4.นำพระราชไมตรี และ 5.พระจักรีนิวัตฟ้า ด้านในของอาคารยังมีส่วนที่เป็นจิตกรรมฝาผนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริบริเวณรอบพระที่นั่งทรงธรรมทั้ง 3 ด้าน
โดยภายในนิทรรศการ จะประกอบด้วย 5 ส่วนใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้
1.นิทรรศการพระเมรุมาศ และสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศที่ใช้ใพระราชพิธีฯ
2. สิ่งปลูกสร้างบริเวณพระที่นั่งทรงธรรม ส่วนนี้จะเป็นนิทรรศการแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และจิตกรรมฝาผนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ใช้ชื่อว่า "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์"
3. บริเวณศาลาลูกขุน 6 หลัง จุดนี้จะแสดงนิทรรศการพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้าง งานบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ
4.บริเวณทับเกษตร นิทรรศการส่วนนี้จะอยู่ถัดจากศาลาลูกขุนไปทางทิศใต้ เป็นนิทรรศการสัมผัสเพื่อผู้พิการทางสายตา สำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ส่วนนี้จะมีจิตอาสาคอยนำชมด้วยภาษามือ
5.ภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศ จุดนี้จะแสดงถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่ว่าจะเป็นโครงการพระราชดำริต่าง ๆ
สุดท้ายก่อนจาก รัฐบาลฝากขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ถ่ายภาพภายในนิทรรศการด้วยความสุภาพ ทั้งกริยาวาจา ไม้เซลฟี่ นี่ห้ามเลย ! ถ้าไม่อยากเจอสายตาอํามหิต จากทั่วสารทิศ... อีกทั้งทุกคนต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย แขนกุด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ไม่เอานะครับ ท้ายสุดสำหรับคนที่กลัวร้อน และอยากถ่ายภาพสวย ๆ ผมแนะนำให้ไปช่วงเวลาการคืน เพราะตอนนี้เริ่มมีลมเย็น ๆ แล้ว บวกกับแสงไฟ บริเวณรอบ ๆ พระเมรุมาศ ตอนกลางคืน น่าจะทำให้การมาชมนิทรรศการในครั้งนี้น่าจดจำและพิเศษสำหรับคุณสุด ๆ
ที่มา : https://gmlive.com/Royal-Cremation-Pyre-Exhibition