วันนี้ (31 ต.ค.60) ที่สหกรณ์ กองทุนสวนยาง ยูงทอง จำกัด ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ชาวสวนยางยังคงนำน้ำยางสดมาส่งผลิตเป็นยางแผ่นรมควันเช่นทุกวัน แม้ว่ารายได้จะตกต่ำจนไม่พอค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยวันนี้ (31 ต.ค.60) ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ 40-41 บาทต่อกิโลกรัม ราคายางแผ่นดิบรมควันจากการผลิตของสหกรณ์อยู่ที่ 50-51 บาทต่อกิโลกรัม ขณะขี้ยางนั้นอยู่ที่ 18 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าชาวสวนยางพารานครศรีธรรมราชได้หารือถึงความเดือดร้อนจนไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งอีกต่อไปได้ และมีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังราคายางพาราได้ตกต่ำอย่างหนัก เพราะไม่เชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และเรียกร้องให้รัฐบาลเอาจริงเอาจัง แก้ปัญหาการครอบงำของนายทุนซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ และผู้หน่วยงานที่รับผิดชอบควรแสดงความรับผิดอบให้มากกว่านี้
นายจตุพร เตราชูสงค์ ประธานสหกรณ์ กองทุนสวนยาง ยูงทอง จำกัด กล่าวว่า รายได้ของชาวสวนยางลดลงครึ่งต่อครึ่ง จากรายได้ 100 ตอนนี้เหลือประมาณ 30-40 บาท แล้วจะอยู่ได้อย่างไร เพราะค่าครองชีพสูง ราคาสินค้าสูงทั้งหมด ทุกวันจะมีสมาชิกนำยางมาขายตามปกติ แต่น้อยกว่าเดิมมาก จึงอยากให้เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาดูแลโดยด่วน ทำอย่างไรก็ได้ให้ราคาสูงกว่านี้ เพื่อให้เกษตรอยู่ได้ด้วย
นอกจากนั้นเกษตรกรยังแนะนำให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ตรงจุด คือ นำยางพาราไปให้ทำถนนแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบต., อบจ. และเทศบาล ทั่วประเทศที่ทำถนน เชื่อว่าจะสามารถระบายยางพาราได้มากขึ้น และจะส่งผลดีต่อพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพารา เพื่อจะได้ลืมตาอ้าปากได้ ดีกว่าต้องรอวันตายหากสถานการณ์ยังเป็นอยู่อย่างนี้ และมีแนวโน้มว่าจะตกต่ำลงไปอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.prachachat.net/local-economy/news-63176
##> บริหารดี๊ดีจนชาวบ้านเดือดร้อน ชาวสวนยางไม่ทนราคายางตกต่ำหนักเตรียมเคลื่อนไหวอีก
วันนี้ (31 ต.ค.60) ที่สหกรณ์ กองทุนสวนยาง ยูงทอง จำกัด ต.ท่าดี อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ชาวสวนยางยังคงนำน้ำยางสดมาส่งผลิตเป็นยางแผ่นรมควันเช่นทุกวัน แม้ว่ารายได้จะตกต่ำจนไม่พอค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยวันนี้ (31 ต.ค.60) ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ 40-41 บาทต่อกิโลกรัม ราคายางแผ่นดิบรมควันจากการผลิตของสหกรณ์อยู่ที่ 50-51 บาทต่อกิโลกรัม ขณะขี้ยางนั้นอยู่ที่ 18 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าชาวสวนยางพารานครศรีธรรมราชได้หารือถึงความเดือดร้อนจนไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งอีกต่อไปได้ และมีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังราคายางพาราได้ตกต่ำอย่างหนัก เพราะไม่เชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และเรียกร้องให้รัฐบาลเอาจริงเอาจัง แก้ปัญหาการครอบงำของนายทุนซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ และผู้หน่วยงานที่รับผิดชอบควรแสดงความรับผิดอบให้มากกว่านี้
นายจตุพร เตราชูสงค์ ประธานสหกรณ์ กองทุนสวนยาง ยูงทอง จำกัด กล่าวว่า รายได้ของชาวสวนยางลดลงครึ่งต่อครึ่ง จากรายได้ 100 ตอนนี้เหลือประมาณ 30-40 บาท แล้วจะอยู่ได้อย่างไร เพราะค่าครองชีพสูง ราคาสินค้าสูงทั้งหมด ทุกวันจะมีสมาชิกนำยางมาขายตามปกติ แต่น้อยกว่าเดิมมาก จึงอยากให้เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาดูแลโดยด่วน ทำอย่างไรก็ได้ให้ราคาสูงกว่านี้ เพื่อให้เกษตรอยู่ได้ด้วย
นอกจากนั้นเกษตรกรยังแนะนำให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ตรงจุด คือ นำยางพาราไปให้ทำถนนแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบต., อบจ. และเทศบาล ทั่วประเทศที่ทำถนน เชื่อว่าจะสามารถระบายยางพาราได้มากขึ้น และจะส่งผลดีต่อพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพารา เพื่อจะได้ลืมตาอ้าปากได้ ดีกว่าต้องรอวันตายหากสถานการณ์ยังเป็นอยู่อย่างนี้ และมีแนวโน้มว่าจะตกต่ำลงไปอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้