เอามาให้ได้อ่านกันค่ะ ขอบคุณบทความจาก คุณอาร์ม อิสระ ผู้เขียนบท จ้าวสมิง
ละครเรื่องเดียวที่ผู้จัดรู้ว่าขาดทุน แต่ยังทำ !!??
เพื่ออะไร เพื่อที่จะแก้ไข กู้ชื่อในสิ่งที่ผิดพลาดไป จากเทคนิคละครในเรื่องเก่า เพื่อบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงคนเดียว แต่ฉันก็ยังทำได้
ผมเพิ่งรู้ความในใจของพี่พร หรือคุณพรพิมล มั่นฤทัย จากน้องในทีมงาน ที่เจ้านายเรียกไปประชุมว่า ละครเรื่อง "จ้าวสมิง" นั้น หมดไปกับ CG กว่าครึ่ง " แต่ถึงฉันจะขาดทุน ฉันก็จะทำ" นั่นคือคำพูดของหญิงเหล็กคนนี้ คนที่ทำให้ผมอึ้ง เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านที่ผมวีนบ้าง งอแง บ้าง เพราะผมไม่รู้ว่า เขาเองก็หนักยิ่งกว่าผม
" ไม่ต้องไปบอกอาร์มเขาหรอกเรื่องซีจี เดี่ยวเขาจะเขียนได้ไม่เต็มที่ เอาที่เขียนแล้วสนุก สบายใจ ก็ให้เขาใส่มาเถอะ ขาดทุนกี่ล้าน ฉันรับไหว "
นั่นเป็นคำพูดที่น้องทีมงานพูดให้ผมฟังวันนี้ และก่อนหน้านี้ ทางฝ่ายที่ทำภาพเทคนิคก็บอกมาเหมือนกันว่า พี่อย่าใส่มาเยอะ เกินไปนะ เดี่ยว ผมทำไม่ทัน ส่วนช่องก็เคยติงมาว่า ซีจีเยอะขนาดนี้ จะปิดกล้องทันมั้ย เพราะเดีย่วนี้กำหนดถ่ายละครของช่องในแต่ละกองให้เวลาถ่ายทำ ไม่เกิน 7 เดือน แต่สำหรับ "จ้าวสมิง" ผมว่าน่าจะนานกว่านั้น แม้ว่า ฝ่ายเทคนิคจะทำทุกอย่างไปล่วงหน้า ทำโครงสร้างของเสือ ของสัตว์อาคมทั้งหลายเอาไว้ แต่เราก็ต้องถ่ายคนเข้าไปแมทซ์กันในฉากนั้น
"ตอนนี้เราต้องถ่ายฉากที่ใช้ CG กับนักแสดงส่งให้เขาก่อนพี่ จะขาดทุนเยอะก็ตรงนี้แหละ แต่พี่เขาบอกแล้วว่า ขาดทุนเท่าไหร่เขาก็สู้ "
รู้อย่างนี้แล้ว คิดว่าผมจะทำอย่างไร ยังเหลืออีก 3 ตอนใหญ่ที่เขียนคาอยู่ ซึ่งสามตอนที่ว่านี้มีฉากใหญ่ๆทั้งนั้น และอัดแน่นไปด้วย CG แต่โชคดีที่ผมเขียนฉากเทคนิคเหล่านี้เสร็จไปหมดแล้ว เพื่อส่งไปให้เขาขึ้นโครงกราฟฟิค ดังนั้นมันจึงพออยู่ในงบที่เขาคิดแล้ว จะมีบ้าง ในบางฉากที่ผมอาจจะงอกออกมาสักเล็กน้อย แต่ก็คงไม่เยอะเหมือนต้นเรื่องที่อัดเข้าไปแน่นมาก ชนิดที่ คนดูจะต้องนั่งอยู่กับที่ไม่ลุกหนีไปไหน มันคือเทคนิค "ตีหัวเข้าบ้าน" อย่างที่ "ครูอ้น ฐานวดี" เคยสอนผมเอาไว้เมื่อตอนที่ผมเริ่มเขียนบทละครใหม่ๆ
การเขียนบทละครเรื่องหนึ่ง ใช้เวลานานมาก การถ่ายทำละครเรื่องหนึ่ง ถ่ายทำนานมากกว่าจะจบเรื่องหรือได้สักตอน แต่...การทำภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิค หรือที่เราเรียกสั้นๆว่า CG มันนานกว่านั้น ภาพที่ผู้ชมเห็นเพียงแค่ 30 วินาที หรือ 1 นาที อย่างในละครเรื่องนี้ แต่ฝ่ายเทคนิคต้องใช้เวลาทำนานเกือบเดือน ละครเรื่องนี้ มี 15 ตอน แต่มีฉากที่ใช้เทคนิค CG อัดเข้าไปมากกว่า30 ฉาก เรียกว่าเกินไปเท่าตัวเลยทีเดียว และถ้าหากละครสนุก ผู้ชมชอบ เกิดต้องขยับออกไปอีกสัก 2-3 ตอน คิดดูละครว่า งานมันจะงอกยาวไปถึงไหน
ผมจึงอารมณ์เสียทุกครั้งที่มีใครมาค่อนขอดว่าถึงเรื่อง CG ในครั้งก่อน ซึ่งตอนนั้นเขาพลาดไป และพี่พรเองก็ไม่เคยให้อภัยกับตัวเอง ผมได้เห็นตัวอย่าง CG ของละครเรื่องนี้แล้ว ฉากเดียวเท่านั้น ที่เสือสองตัวต่อสู้กัน มันสร้างความตื่นตะลึงให้กับผมเลย ว่านี่คือ CG ที่ไม่หลอกตาคนดู แต่มันคือเสือคู่หนึ่งที่ต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายจริงๆ
อดใจรอนะครับ รับรองไม่เกินเดือนตุลาคมปีหน้า เราจะได้ชมละคร "จ้าวสมิง" ละครกู้ชื่อของบริษัทโคลีเซี่ยมที่ทุกคนจะต้องปรบมือให้กับใจที่สู้ไม่ถอยของผู้หญิงคนนี้ ที่ชื่อ "พรพิมล มั่นฤทัย" หัวเรือใหญ่เจ้าของบริษัทโคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป ที่ช่อง 7 ไว้ใจให้แจ้งเกิดพระเอกใหม่ มาแล้วหลายคน
Arm Issara
#ไม่ได้ชะเลียร์นายแต่เขียนจากใจจริงๆ
#ข้อมูลบนFacebookผมไม่สงวนลิขสิทธิ์ถ้าจะทำไปใช้ครับ
#จ้าวสมิง
***************************
ละครเรื่องเดียวที่ผู้จัดรู้ว่าขาดทุน แต่ยังทำ !!
เพื่ออะไร เพื่อที่จะแก้ไข กู้ชื่อในสิ่งที่ผิดพลาดไป จากเทคนิคละครในเรื่องเก่า เพื่อบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงคนเดียว แต่ฉันก็ยังทำได้
ผมเพิ่งรู้ความในใจของพี่พร หรือคุณพรพิมล มั่นฤทัย จากน้องในทีมงาน ที่เจ้านายเรียกไปประชุมว่า ละครเรื่อง "จ้าวสมิง" นั้น หมดไปกับ CG กว่าครึ่ง " แต่ถึงฉันจะขาดทุน ฉันก็จะทำ" นั่นคือคำพูดของหญิงเหล็กคนนี้ คนที่ทำให้ผมอึ้ง เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านที่ผมวีนบ้าง งอแง บ้าง เพราะผมไม่รู้ว่า เขาเองก็หนักยิ่งกว่าผม
" ไม่ต้องไปบอกอาร์มเขาหรอกเรื่องซีจี เดี่ยวเขาจะเขียนได้ไม่เต็มที่ เอาที่เขียนแล้วสนุก สบายใจ ก็ให้เขาใส่มาเถอะ ขาดทุนกี่ล้าน ฉันรับไหว "
นั่นเป็นคำพูดที่น้องทีมงานพูดให้ผมฟังวันนี้ และก่อนหน้านี้ ทางฝ่ายที่ทำภาพเทคนิคก็บอกมาเหมือนกันว่า พี่อย่าใส่มาเยอะ เกินไปนะ เดี่ยว ผมทำไม่ทัน ส่วนช่องก็เคยติงมาว่า ซีจีเยอะขนาดนี้ จะปิดกล้องทันมั้ย เพราะเดีย่วนี้กำหนดถ่ายละครของช่องในแต่ละกองให้เวลาถ่ายทำ ไม่เกิน 7 เดือน แต่สำหรับ "จ้าวสมิง" ผมว่าน่าจะนานกว่านั้น แม้ว่า ฝ่ายเทคนิคจะทำทุกอย่างไปล่วงหน้า ทำโครงสร้างของเสือ ของสัตว์อาคมทั้งหลายเอาไว้ แต่เราก็ต้องถ่ายคนเข้าไปแมทซ์กันในฉากนั้น
"ตอนนี้เราต้องถ่ายฉากที่ใช้ CG กับนักแสดงส่งให้เขาก่อนพี่ จะขาดทุนเยอะก็ตรงนี้แหละ แต่พี่เขาบอกแล้วว่า ขาดทุนเท่าไหร่เขาก็สู้ "
รู้อย่างนี้แล้ว คิดว่าผมจะทำอย่างไร ยังเหลืออีก 3 ตอนใหญ่ที่เขียนคาอยู่ ซึ่งสามตอนที่ว่านี้มีฉากใหญ่ๆทั้งนั้น และอัดแน่นไปด้วย CG แต่โชคดีที่ผมเขียนฉากเทคนิคเหล่านี้เสร็จไปหมดแล้ว เพื่อส่งไปให้เขาขึ้นโครงกราฟฟิค ดังนั้นมันจึงพออยู่ในงบที่เขาคิดแล้ว จะมีบ้าง ในบางฉากที่ผมอาจจะงอกออกมาสักเล็กน้อย แต่ก็คงไม่เยอะเหมือนต้นเรื่องที่อัดเข้าไปแน่นมาก ชนิดที่ คนดูจะต้องนั่งอยู่กับที่ไม่ลุกหนีไปไหน มันคือเทคนิค "ตีหัวเข้าบ้าน" อย่างที่ "ครูอ้น ฐานวดี" เคยสอนผมเอาไว้เมื่อตอนที่ผมเริ่มเขียนบทละครใหม่ๆ
การเขียนบทละครเรื่องหนึ่ง ใช้เวลานานมาก การถ่ายทำละครเรื่องหนึ่ง ถ่ายทำนานมากกว่าจะจบเรื่องหรือได้สักตอน แต่...การทำภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิค หรือที่เราเรียกสั้นๆว่า CG มันนานกว่านั้น ภาพที่ผู้ชมเห็นเพียงแค่ 30 วินาที หรือ 1 นาที อย่างในละครเรื่องนี้ แต่ฝ่ายเทคนิคต้องใช้เวลาทำนานเกือบเดือน ละครเรื่องนี้ มี 15 ตอน แต่มีฉากที่ใช้เทคนิค CG อัดเข้าไปมากกว่า30 ฉาก เรียกว่าเกินไปเท่าตัวเลยทีเดียว และถ้าหากละครสนุก ผู้ชมชอบ เกิดต้องขยับออกไปอีกสัก 2-3 ตอน คิดดูละครว่า งานมันจะงอกยาวไปถึงไหน
ผมจึงอารมณ์เสียทุกครั้งที่มีใครมาค่อนขอดว่าถึงเรื่อง CG ในครั้งก่อน ซึ่งตอนนั้นเขาพลาดไป และพี่พรเองก็ไม่เคยให้อภัยกับตัวเอง ผมได้เห็นตัวอย่าง CG ของละครเรื่องนี้แล้ว ฉากเดียวเท่านั้น ที่เสือสองตัวต่อสู้กัน มันสร้างความตื่นตะลึงให้กับผมเลย ว่านี่คือ CG ที่ไม่หลอกตาคนดู แต่มันคือเสือคู่หนึ่งที่ต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายจริงๆ
อดใจรอนะครับ รับรองไม่เกินเดือนตุลาคมปีหน้า เราจะได้ชมละคร "จ้าวสมิง" ละครกู้ชื่อของบริษัทโคลีเซี่ยมที่ทุกคนจะต้องปรบมือให้กับใจที่สู้ไม่ถอยของผู้หญิงคนนี้ ที่ชื่อ "พรพิมล มั่นฤทัย" หัวเรือใหญ่เจ้าของบริษัทโคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป ที่ช่อง 7 ไว้ใจให้แจ้งเกิดพระเอกใหม่ มาแล้วหลายคน
Arm Issara
#ไม่ได้ชะเลียร์นายแต่เขียนจากใจจริงๆ
#ข้อมูลบนFacebookผมไม่สงวนลิขสิทธิ์ถ้าจะทำไปใช้ครับ
#จ้าวสมิง
***************************