30 ต.ค. 60 18.30น. คลิปนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติถูกชายขี้เมาเดินประกบคุกคาม โชคดีผมเห็นเข้าพอดี

ผมเคยเจอเคส ผู้ชายเดินตามผู้หญิงไทยถูกผู้ชายเดินตามหลายครั้ง อาทิ ช่วงกลางวันแสกๆ เด็กนักศึกษาสาววัยรุ่นคนหนึ่งขึ้นรถเมล์มาจากสวนลุม มีชายวัยกลางคนเดินขึ้นตามมาจากสวนลุม พยายามพูดจาแทะโลม เด็กนักศึกษาสาวขอความช่วยเหลือจากคนในรถ ชายคนดังกล่าวก็บอกเป็นเรื่องของผัวเมีย ก็ไม่มีคนยื่นมือเข้ามาช่วย จนกระทั่งเด็กนักศึกษาลงจากรถและเดินมาถึงที่ท่าท่าโพธิ์ทอง วัดคลองเตยนอก มาพบผมแล้วขอความช่วยเหลือ ชายคนดังกล่าวบอกเป็นเรื่องผัวเมีย เมื่อผมถามนักศึกษาคนดังกล่าวว่าจริงหรือไม่ เด็กนักศึกษาบอกไม่จริง ผมจึงทำการไล่ชายคนดังกล่าวไป ภายหลังนักศึกษาคนดังกล่าวพร้อมแฟนก็มาขอบคุณผมในภายหลัง

ผมเคยเจออีกเคสหนึ่ง ชายแต่งกายคล้ายทหาร แต่ไม่ใช่ทหาร เดินตามสาวผู้หญิงวัยทำงาน และเข้าไปวุ่นวายก่อกวนคุกคาม ผมประเมินแล้วคงไม่ใช่คนรู้จักกัน จึงเดินเข้าไปถามผู้หญิงว่ารู้จักหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านั้นมีกระเป๋ารถเมล์ผู้หญิงคนหนึ่งที่ขึ้นลงเรือที่ท่าเป็นประจำ เคยมาบอกผมว่าถึงชายลักษณะคนดังกล่าวว่าชอบเดินตาม จนเขารู้สึกกลัว ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นชายคนเดียวกัน พอผู้หญิงส่ายหน้าบอกไม่รู้จัก ผมก็ทำการไล่ชายคนดังกล่าวไป

ยังมีอีกหลายครั้งครับ ที่ผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ สำหรับผม ผมขอแนะนำให้ท่านผู้หญิงที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ พยายามร้องขอความช่วยเหลือนะครับ คนแรกๆ ไม่ช่วยไม่เป็นไร แต่ต้องมีใครสักคนที่จะต้องช่วยเหลือคุณ หรือพยายามไปในสถานที่ที่คุณพอจะมีคนรู้จัก พวกผู้ชายประเภทที่อ้างว่าเป็นเรื่องผัวเมีย ประเด็นจะได้ตกไป

สำหรับคนที่พบผู้หญิงที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ผมขอวิงวอนให้ท่านยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในทันที โดยไม่ต้องรีรอนะครับ ถึงแม้จะมีการอ้างว่าเป็นเรื่องผัวเมียก็ตามที ใช่ไม่ใช่ค่อยว่ากันอีกทีในภายหลัง แต่ส่วนมากเมื่อเราไม่เชื่อและยื่นมือเข้าช่วยเหลือแล้วล่ะก็ พวกมิจฉาชีพจะถอยหนีเกือบทุกรายครับ นี่วัดจากประสบการณ์ล้วนๆ นะครับ

เหตุการณ์ล่าสุดจากคลิป

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

กรณีนี้ผมเห็นชายขี้เมาคนดังกล่าว ซึ่งไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนมาป้วนเปี้ยนบริเวณท่าเรือ แต่ยังไม่ได้ทำอะไร ผมจึงไม่ได้ทำการไล่ไป สักพักมีนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติขึ้นเรือกลับมาจากฝั่งบางกะเจ้า ก็มีการสอบถามเส้นทางไปสถานีรถไฟฟ้า BTS ผมจึงทำการบอกเส้นทางไป พอผมบอกเสร็จ ผมก็เดินหันหลังกลับ นักท่องเที่ยวสาวก็เดินจากไป บังเอิญผมหันหลังกลับไปดูอีกที ผมเห็นชายชี้เมาคนดังกล่าวเดินตามประกบคุกคาม จับตัวนักท่องเที่ยว ผมจึงรีบเดินปรี่เข้าไปให้การช่วยเหลือในทันที ด้วยการไล่ชายคนดังกล่าวไปก่อน ให้นักท่องเที่ยวนั่งรอสักพัก แต่ผมก็คิดว่า ขืนปล่อยให้นักท่องเที่ยวเดินไปคนเดียว ชายคนดังกล่าวอาจจะไปดักรอระหว่างทางได้

ผมจึงตัดสินใจคิดจะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งเธอที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สีลมเลยเพื่อความปลอดภัย เธอก็ตัดสินใจไปกับผม จากท่าวัดคลองเตยนอกไป-กลับสถานีรถไฟฟ้า BTS ผมใช้เวลาไปกลับเพียง 20 นาที (จริงๆ รถติดเหมือนกัน) ผมไปส่งเธอตรงหน้าโรงแรมดุสิต แล้วบอกกับเธอว่า ถ้าเจอเคสเหตุการณ์แบบนี้ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากคนไทยเลย เธอก็กล่าวขอบคุณ

หลังจากกลับมาผมก็แจ้งเรื่องเหตุการณ์พร้อมทั้งลงคลิปส่งไปทางไลน์กลุ่มห้องดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวของสถานีตำรวจท่าเรือเพื่อช่วยตรวจสอบ เผื่อชายขี้เมาคนดังกล่าวจะไปทำการคุกคามหญิงสาวคนอื่น สักพักก็มีรถสายตรวจของสน.ท่าเรือเข้ามา ผมก็เข้าไปแจ้งเรื่องให้ทราบ เพื่อติดตามหาชายคนดังกล่าวมาทำบันทึกประวัติกลุ่มเสี่ยงต่อไป



เพื่อนสมัยเรียนป.โทด้วยกันมาพอเห็นคลิปนี้ ก็บอกว่าผมเคยช่วยเพื่อนผู้หญิงของเธอ ไอ้ผมก็ยัง งงๆ ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงคนไหน เพราะตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมช่วยเหลือผู้หญิงจากเคสนี้ตั้งหลายคน


สำหรับผู้ชายผมก็ช่วยนะครับ คนถูกตี ถูกแทง ถูกทำร้าย ผมก็ช่วย กรณีการช่วยเหลือผู้ชาย ตัวผมเองต้องไปขึ้นศาลสองสามครั้งในฐานะเป็นพยานในคดีพยายามฆ่าทั้งศาลอาญา ศาลเด็ก (เด็กวัยรุ่น 3 คน ดักไถเงินผู้โดยสารที่ลงจากรถเมล์หน้าเซเว่นหน้าปากซอย เมื่อผู้โดยสารไม่ให้ เด็กวัยรุ่นก็ใช้มีดไล่ฟันไล่แทงมาถึงบริเวณท่าเรือ)

สรุป

เวลาผมเห็นข่าวนักท่องเที่ยวสาวถูกทำร้าย นางงามต่างชาติถูกข่มขืนแล้วรู้สึกไม่ดีมากๆ ครับ รวมไปถึงกรณีผู้หญิงไทยประสบเหตุแบบเดียวกัน ดังนั้นเพื่อปกป้องสังคมไทยให้น่าอยู่และปลอดภัย พวกเราต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ อย่าไปคิดว่าธุระไม่ใช่ เพราะอนาคตใครจะไปรู้ ถ้าเราทำตัวเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ปล่อยคนชั่วลอยนวล หรือทำอะไรโดยไม่มีใครกล้าไปยุ่ง เหยื่อคนต่อไปอาจกลายเป็นคนในครอบครัวเราเองครับ




ทิ้งท้ายวันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมาผมขี่จักรยานและบังเอิญไปเจอครอบครัวนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย(ชุดดำ)หลงทางอยู่ที่บางน้ำผึ้งสอบถามทางจากนักท่องเที่ยวสาวชาวไทย แต่ผมเห็นสาวไทยส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง ผมจึงปรี่เข้าไปสอบถาม จากการสอบถามสาวเจ้า(รัสเซีย) ครอบครัวของเธอ (พ่อ แม่ หลาน) เดินหลงทางที่บางน้ำผึ้งนาน 2 ชั่วโมง เพื่อจะไปสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ จากการพูดคุยพบว่า ครอบครัวเธอใช้การท่องเที่ยวแบบประหยัด เช่าอพาร์ตเมนท์แถวห้วยขวาง อยู่กรุงเทพ 2 อาทิตย์ และวันที่ 5 พ.ย. จะเดินทางไปเชียงใหม่ต่อ ก่อนแยกย้ายกันกลับประเทศ (พ่อกับหลานกลับรัสเซีย แม่กลับยูเครน ตัวเธอเองกลับ New York เป็นนักศึกษา)

ผมเห็นสภาพแล้ว พ่อและแม่ของเธออายุมาก เดินมา 2 ชม. คงเดินต่อไปไม่ไหวแน่ๆ (ตอนนั้นอยู่ที่ปากทางวัดบางน้ำผึ้งนอก) ผมจึงแนะนำเธอให้พาครอบครัวขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปที่สวนศรีแล้วผมจะพาเดินทัวร์สวนศรีฟรี พร้อมพานั่งเรือฟรีกลับกรุงเทพฝั่งคลองเตยที่ท่าโพธิ์ทอง วัดคลองเตยนอก ซึ่งเธอสามารถจะเดินทางกลับอาพาร์ตเมนท์ของเธอได้สะดวก และประหยัดเงินและเวลาได้มากกว่า ผมจึงมีรูปของนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียที่น่ารักๆ มาฝากครับ

พาไปให้อาหารปลาที่สวนศรี บางกะเจ้า


พาไปถ่ายรูปที่จุดฮิตหอชมนกในสวนศรี บางกะเจ้า (ให้ยืมใช้จักรยานผมเข้าฉาก)




ภาพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างเวลาที่ออกแอคชั่นมันส์ๆ ที่หอชมนก เวลาผมพาไปยังมีอีกหลายภาพครับ ผมชอบถ่ายเก็บไว้ดูเล่น ^__^

นั่งเรือหางยาวกลับฝั่งคลองเตย ท่าโพธิ์ทอง วัดคลองเตยนอก



พาไหว้ศาลหลวงปู่ฮวดเพื่อขอพร วัดคลองเตยนอก (ที่บ้านบริจาคสร้างศาลและโลงแก้ว)





พาไหว้ขอพรพระประธานหลวงพ่อพุทธมหาลาโภ อุโบสถ วัดคลองเตยนอก


น่าเสียดายครับ นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่เดินทางมาเที่ยวบางกะเจ้าผ่านทางวัดคลองเตยนอก แต่ไม่ได้หยุดแวะวัดคลองเตยนอก ซึ่งมีศาลหลวงปู่ฮวด(ร่างกายไม่เน่าเปื่อย)ที่ชาวบ้านในละแวกนั้นชอบมาไหว้ขอพร รวมทั้งครอบครัวผม

อีกทั้งประเพณีสวดมนต์ข้ามปีที่เพิ่งมาฮิตในภายหลัง วัดคลองเตยนอกมีประเพณีสวดมนต์ข้ามปีมา 40 กว่าปีแล้วที่อุโบสถวัด ซึ่งมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ผมก็ขอเชิญชวนใครที่ผ่านมาทำธุระแถววัดคลองเตยนอกหรือจะมาลอยกระทง ก็อย่าลืมมาแวะสักการะหลวงพ่อพุทธมหาลาโภและขอพรศาลหลวงปู่ฮวดที่วัดคลองเตยนอกกันนะครับ




ทำดีทำได้ทันทีไม่มีวันหยุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่