สวัสดีครับ ผมได้วางแผนอนาคตผมไว้แบบนี้ ฝากพิจารณาด้วยครับ
จบ ม.6 - สอบมหาลัยที่ดีๆติด - โอเคแล้วไปตั้งใจเรียนให้จบหางานดีๆทำ
จบ ม.6 - สอบหมาลัยที่ดีๆไม่ติด - ไปสอบจ่าทหารเรือ - พรรคนาวิน เหล่าสามัญ - เรียน 2ปี - จบได้วุฒิ ปวส กับใบประกาศจ่าตรี - เงินเดือน 10,260บาท + เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว 2,000บาท รวมแล้วรายได้สุทธิ/เดือน 12,260บาท
เมื่อติดยศจ่าตรีแล้ว - ไปสอบซีล - ฝึก 8เดือน - บรรจุนักทำลายใต้น้ำจู่โจม - ได้เงินเพิ่ม/เดือน 11,000บาท
รวมรายได้ ณ ตอนเป็นทหารเรือ 23,260บาท/เดือน
เมื่อครองยศจนเป็นจ่าเอกแล้ว ลาออกจากทหารเรือไปสอบนายสิบตำรวจ
ถามว่าทำไมต้องลาออกจากทหารเรือ เหตุผลเพราะว่า ทหารเรือขึ้นสัญญาบัตรยากมาก เป็นที่ทราบทั่วกันดีว่า ทหารเรือลาออกไปสอบ ข้าราชการท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นๆเยอะที่สุด เหตุผลเพราะว่าก้าวหน้ายากที่สุดในสี่เหล่าทัพ ไล่เรียง ตำรวจ - ทหารบก - ทหารอากาศ - ทหารเรือ
ตำรวจส่วนมากเป็นแล้วไม่ค่อยลาออกกันหรอก
ทหารบกอาจจะมีรับงานเพิ่ม ธุรกิจส่วนตัว
ทหารอากาศลาออกไปเป็น รปภ สนามบิน หรือสถานทูตเยอะ หรือไม่ไปทำงานสนามบิน
ทหารเรือ ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น
แล้วทำไมผมถึงมาสอบทหารเรือล่ะ? เพราะว่าผมมีความฝัน ซึ่งความฝันกับความจริงบางทีมันสวนทางกัน ผมยอมรับผมเป็นเยาวชนคนหนึ่งในหลายๆคนที่ชอบ ยิงปืน ชอบบู๊ อยากเป็นทหาร ผมชอบดูหนังพวกซีลอเมริกา ดูแล้วชอบ ผมเลยอยากตามฝัน แต่ใช่ผมไปเป็นทหารอเมริกาไม่ได้ ไม่มีกรีนการ์ดไม่ใช่พลเมืองเขา ผมก็ต้องเป็นซีลไทยบ้านเรา ซึ่งทางสหรัฐมาฝึกให้ ผมอยากเป็นซีล ผมอยากเป็นมนุษย์ที่เหนือมนุษย์สักครั้งในชีวิต ฝึกที่ว่ายากลำบากแล้ว นั่นมันแค่เบสิคของการเป็นซีล ผมต้องการที่จะทำงานเป็นซีลจริงๆ ฝึกหลักสูตรที่มันสูงขึ้นAdvance Expert ก็ว่ากันไป ไม่ใช่ว่ามาฝึกแล้วย้ายต้นสังกัดเดิม หากเป็นเช่นนั้นผมก็สอบนายสิบตำรวจตั้งแต่แรกแล้ว
เข้าเรื่องสู่ความจริงกันต่อ
ลาออกจากทหารเรือที่ยศจ่าเอก - สอบนายสิบตำรวจสายปราบปราม - จบมาได้เงินเดือน 10,760บาท + เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว 2,000บาท +
ค่าตำแหน่ง 3,000บาท รวม 15,760บาท/เดือน
ส่วนต่างตำรวจกับทหารเรือประมาณ 7,500บาท
อ้าวเงินรายได้มันน้อยลงตั้ง 7,500บาทเลยนะ คิดดีแล้วเหรอ เริ่มจาก 0 ใหม่ ผมคิดดีแล้วครับ
1. ทหารเรือหากสอบขึ้นพันจ่าตรีไม่ได้ก็แป๊กอยู่ที่ จ่าเอกนะครับ พันจ่าเอกสอบขึ้นเรือตรีไม่ได้ ก็แป๊กที่พันจ่าเอกนะครับผม เรือเอกสอบนาวาตรีไม่ได้ก็แป๊กที่เรือตรีนะครับ ฉะนั้นผมว่าขอบายดีกว่า
2. ตำรวจน้อยกว่า 7,500บาทก็จริง แต่หากผมจำไม่ผิด เหมือนจะได้ % จากโรงพักด้วย และหากเป็นตำรวจราจร เหมือนถ้าจ่ายใบสั่งครบตามที่กำหนดจะได้เพิ่ม 10,000บาท/เดือน แต่ผมไม่เป็นหรอกครับ เงินหนึ่งหมื่นบาทเทียบกับที่ต้องไปยืนตากแดดประเทศไทย สูดควันรถกว่าครึ่งวัน เงินหนึ่งหมื่นบาทไม่สามารถ ตอบแทนสุขภาพปอดกับระบบทางเดินหายใจของผมได้หรอกครับ
ผมอาจจะไปสายสืบสวน ซึ่งผมคิดว่าได้ประสบการณ์กับทักษะชีวิตดี หรือไม่ก็กองปราบ ทั้งนี้ทั้งนั้นมีความสามารถมาจากซีลอยู่แล้ว หากผ่านการฝึกที่เล่าลือกันว่า เป็นขุมนรกแล้ว กองปราบก็คงเป็นงานที่ไม่เกินความสามารถของอดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม
เข้าเรื่องกันต่อครับ
ติดยศสิบตำรวจตรี - เรียนม.รามคำแหง คณะนิติศาสตร์ไปด้วยเพื่อสอบเลื่อนยศสัญญาบัตร - หากสอบติดสัญญาบัตร - จบแล้วครับชีวิตของผม ตั้งใจทำงานสบายแล้วชีวิต ไม่ต้องวิตกกังวลกับการสอบ - ไปเรียนอาชญาวิทยาเพิ่มป.โท เพื่อความก้าวหน้า -หลังจากนั้นยศก็เลื่อนไหลไปเรื่อยๆ อาจจะถึงพลตำรวจตรีหากนายดี - อย่างน้อยๆก็มันนายพันตำรวจล่ะ
ติดยศสิบตำรวจตรี - เรียนนิติราม - สอบไม่ติดเสียที - อายุ40ต้นๆ ติดดาบตำรวจ ยศเทียบเท่ากับพันจ่าเอก จ่าสิบเอก จ่าอากศเอกแต่ต่างกันตรงที่ตำรวจไม่ต้องสอบนะครับผม - 53ติดร้อยตำรวจตรี - เกษียณที่อายุ 60 ก็มีร้อยตำรวจโทหรือเอกล่ะ
เป็นไงครับแนวทางอนาคตของผมดีไหมครับ
ผมเลือกเส้นทางนี้ดีไหมครับ? เส้นทางแห่งอนาคต
จบ ม.6 - สอบมหาลัยที่ดีๆติด - โอเคแล้วไปตั้งใจเรียนให้จบหางานดีๆทำ
จบ ม.6 - สอบหมาลัยที่ดีๆไม่ติด - ไปสอบจ่าทหารเรือ - พรรคนาวิน เหล่าสามัญ - เรียน 2ปี - จบได้วุฒิ ปวส กับใบประกาศจ่าตรี - เงินเดือน 10,260บาท + เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว 2,000บาท รวมแล้วรายได้สุทธิ/เดือน 12,260บาท
เมื่อติดยศจ่าตรีแล้ว - ไปสอบซีล - ฝึก 8เดือน - บรรจุนักทำลายใต้น้ำจู่โจม - ได้เงินเพิ่ม/เดือน 11,000บาท
รวมรายได้ ณ ตอนเป็นทหารเรือ 23,260บาท/เดือน
เมื่อครองยศจนเป็นจ่าเอกแล้ว ลาออกจากทหารเรือไปสอบนายสิบตำรวจ
ถามว่าทำไมต้องลาออกจากทหารเรือ เหตุผลเพราะว่า ทหารเรือขึ้นสัญญาบัตรยากมาก เป็นที่ทราบทั่วกันดีว่า ทหารเรือลาออกไปสอบ ข้าราชการท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นๆเยอะที่สุด เหตุผลเพราะว่าก้าวหน้ายากที่สุดในสี่เหล่าทัพ ไล่เรียง ตำรวจ - ทหารบก - ทหารอากาศ - ทหารเรือ
ตำรวจส่วนมากเป็นแล้วไม่ค่อยลาออกกันหรอก
ทหารบกอาจจะมีรับงานเพิ่ม ธุรกิจส่วนตัว
ทหารอากาศลาออกไปเป็น รปภ สนามบิน หรือสถานทูตเยอะ หรือไม่ไปทำงานสนามบิน
ทหารเรือ ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น
แล้วทำไมผมถึงมาสอบทหารเรือล่ะ? เพราะว่าผมมีความฝัน ซึ่งความฝันกับความจริงบางทีมันสวนทางกัน ผมยอมรับผมเป็นเยาวชนคนหนึ่งในหลายๆคนที่ชอบ ยิงปืน ชอบบู๊ อยากเป็นทหาร ผมชอบดูหนังพวกซีลอเมริกา ดูแล้วชอบ ผมเลยอยากตามฝัน แต่ใช่ผมไปเป็นทหารอเมริกาไม่ได้ ไม่มีกรีนการ์ดไม่ใช่พลเมืองเขา ผมก็ต้องเป็นซีลไทยบ้านเรา ซึ่งทางสหรัฐมาฝึกให้ ผมอยากเป็นซีล ผมอยากเป็นมนุษย์ที่เหนือมนุษย์สักครั้งในชีวิต ฝึกที่ว่ายากลำบากแล้ว นั่นมันแค่เบสิคของการเป็นซีล ผมต้องการที่จะทำงานเป็นซีลจริงๆ ฝึกหลักสูตรที่มันสูงขึ้นAdvance Expert ก็ว่ากันไป ไม่ใช่ว่ามาฝึกแล้วย้ายต้นสังกัดเดิม หากเป็นเช่นนั้นผมก็สอบนายสิบตำรวจตั้งแต่แรกแล้ว
เข้าเรื่องสู่ความจริงกันต่อ
ลาออกจากทหารเรือที่ยศจ่าเอก - สอบนายสิบตำรวจสายปราบปราม - จบมาได้เงินเดือน 10,760บาท + เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว 2,000บาท +
ค่าตำแหน่ง 3,000บาท รวม 15,760บาท/เดือน
ส่วนต่างตำรวจกับทหารเรือประมาณ 7,500บาท
อ้าวเงินรายได้มันน้อยลงตั้ง 7,500บาทเลยนะ คิดดีแล้วเหรอ เริ่มจาก 0 ใหม่ ผมคิดดีแล้วครับ
1. ทหารเรือหากสอบขึ้นพันจ่าตรีไม่ได้ก็แป๊กอยู่ที่ จ่าเอกนะครับ พันจ่าเอกสอบขึ้นเรือตรีไม่ได้ ก็แป๊กที่พันจ่าเอกนะครับผม เรือเอกสอบนาวาตรีไม่ได้ก็แป๊กที่เรือตรีนะครับ ฉะนั้นผมว่าขอบายดีกว่า
2. ตำรวจน้อยกว่า 7,500บาทก็จริง แต่หากผมจำไม่ผิด เหมือนจะได้ % จากโรงพักด้วย และหากเป็นตำรวจราจร เหมือนถ้าจ่ายใบสั่งครบตามที่กำหนดจะได้เพิ่ม 10,000บาท/เดือน แต่ผมไม่เป็นหรอกครับ เงินหนึ่งหมื่นบาทเทียบกับที่ต้องไปยืนตากแดดประเทศไทย สูดควันรถกว่าครึ่งวัน เงินหนึ่งหมื่นบาทไม่สามารถ ตอบแทนสุขภาพปอดกับระบบทางเดินหายใจของผมได้หรอกครับ
ผมอาจจะไปสายสืบสวน ซึ่งผมคิดว่าได้ประสบการณ์กับทักษะชีวิตดี หรือไม่ก็กองปราบ ทั้งนี้ทั้งนั้นมีความสามารถมาจากซีลอยู่แล้ว หากผ่านการฝึกที่เล่าลือกันว่า เป็นขุมนรกแล้ว กองปราบก็คงเป็นงานที่ไม่เกินความสามารถของอดีตนักทำลายใต้น้ำจู่โจม
เข้าเรื่องกันต่อครับ
ติดยศสิบตำรวจตรี - เรียนม.รามคำแหง คณะนิติศาสตร์ไปด้วยเพื่อสอบเลื่อนยศสัญญาบัตร - หากสอบติดสัญญาบัตร - จบแล้วครับชีวิตของผม ตั้งใจทำงานสบายแล้วชีวิต ไม่ต้องวิตกกังวลกับการสอบ - ไปเรียนอาชญาวิทยาเพิ่มป.โท เพื่อความก้าวหน้า -หลังจากนั้นยศก็เลื่อนไหลไปเรื่อยๆ อาจจะถึงพลตำรวจตรีหากนายดี - อย่างน้อยๆก็มันนายพันตำรวจล่ะ
ติดยศสิบตำรวจตรี - เรียนนิติราม - สอบไม่ติดเสียที - อายุ40ต้นๆ ติดดาบตำรวจ ยศเทียบเท่ากับพันจ่าเอก จ่าสิบเอก จ่าอากศเอกแต่ต่างกันตรงที่ตำรวจไม่ต้องสอบนะครับผม - 53ติดร้อยตำรวจตรี - เกษียณที่อายุ 60 ก็มีร้อยตำรวจโทหรือเอกล่ะ
เป็นไงครับแนวทางอนาคตของผมดีไหมครับ