ประสบการณ์ทำรีแพร์

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ทำ “รีแพร์”  ปัจจุบันผ่านการคลอดลูกมา 2 คน (คลอดธรรมชาติ) เวลากุ๊งกิ๊งกับคุณสามีก็จะมีปัญหาเสร็จยากบ้าง (ถึงขั้นค้างเติ่งกันเลยทีเดว) มีลมออกทางช่องคลอดขณะกุ๊งกิ๊ง หรือแม้แต่เวลาพลิกตัวนอนตะแคงข้าง!!  เลยศึกษาการทำรีแพร์มาพักใหญ่พอสมควร ตั้งแต่ตอนคลอดลูกคนแรก จนร่วงเลยมาถึงลูกคนที่ 2  เลยตัดสินใจไปทำ การทำรีแพร์นั้น แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ 1.แบบผ่าตัดเพื่อกระชับช่องคลอด (ผ่าตัดเล็ก ทำ 1 ชม.กลับบ้านได้ ) 2.แบบแก้ปัญหาช่องคลอดหย่อนยานจากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน (ผ่าตัดใหญ่ ต้องนอนค้าง รพ. 2-3วัน) วิธีการผ่าตัดก็มีให้เลือก 2 แบบ คือ 1. ใช้มีดผ่าเป็นแบบทั่วไป มีการเย็บแผลตามปกติ  2. ใช้เลเซอร์ ในการช่วยกรีดหรือตัดแทนมีด ส่งผลให้การผ่าตัดมีความแม่นยำขึ้นและเสียเลือดน้อยลง (อ้างอิงมาจากเว็บของ ร.พ.อีกที) ***จขกท.เลือกรีแพร์แบบผ่าตัดเล็กคือเพื่อกระชับช่องคลอดอย่างเดียว / ใช้มีดผ่าปกติ (เลเซอร์บวกราคาเพิ่ม 1 เท่า) ***

ขั้นแรกก็โทรนัดกับทาง รพ. ก่อน 1 สัปดาห์ เลือกวันที่เราสะดวก พร้อมโอนเงินมัดจำล่วงหน้า 3,000 บาท พอถึงวันที่ขึ้นเขียง รพ.นัดบ่าย 3 โมง ไปถึงก็ลงทะเบียน ทำประวัติผู้ป่วย พร้อมชำระเงินส่วนที่เหลือเรียบร้อย ก็มานั่งรอตรงจุดที่เค้าเตรียมไว้ รอนานพอสมควร 3 ชม. หลังจากนั้นมีพยาบาลมาเรียกให้ไปเปลี่ยนเป็นชุดคลุม ถอดแค่ช่วงล่าง แล้วเข้ามานั่งรอในห้องเตรียมเชือดอีกห้องนึง .. 555 จนเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ก็ถึงคิวเรา (ปล.สาเหตุที่รอคิวนานเพราะว่าคุณหมอติดเคสยาก .. พยาบาลว่าอย่างนั้น) พอถึงคิวเรา พยาบาลก็พาไปห้องเชือด คุณหมอก็เข้ามาคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการทำรีแพร์ ตกลงเรียบร้อยก็ขึ้นเตียง รัดแขน-ขา ฉีดยาสลาบเข้าเส้นเลือด กลืนน้ำลาย 3 ที หลับ!!   จขกท.ก็สงสัยว่าทำไมต้องรัดแขน-ขาด้วย พยาบาลบอกว่า ป้องกันคนไข้ดิ้น (เราก็คิดในใจว่า จะดิ้นได้ยังไงในเมื่อฉีดยาสลบ) มารู้สึกตัวอีกทีคุณหมอกำลังเย็บแผลอยู่ พร้อมกับฉีดยาชาเพิ่มให้อีกเข็ม ระหว่างเย็บแผลพยาบาลก็เล่าให้ฟังว่าคนไข้ละเม่อนะคะ เสียงดังลั่นเชียว  (ชั้นนหรืออ?? 555)  ทำเสร็จ พยาบาลก็ให้ไปรอห้องพักฟื้นชั่วคราว แต่ จขกท. กลัวว่ายาชาจะหมดฤทธิ์ เลยขอตัวกลับเลย (5555กลัวเจ็บเวลานั่งรถไง) ถึงบ้านประมาณ 3 ทุ่มพอดี เหมือนยาจะเริ่มหมดฤทธิ์ รีบกินยาที่คุณหมอให้มาทันที ก่อนนอนไม่ลืมล้างหน้า เช็คเครื่องสำอาง แล้วนอน (กลัวสิวขึ้นนน 55) พอหลับตาไปได้ซักพัก เกิดปวดอึ๊ขึ้นมา (ซวยยยยยแย้ววววว) หลังอึ๊เสร็จเท่านั้นแหละ ปวดระบบไปทั้งก้นเลย คือ จขกท.มีปัญหาเรื่องริสซี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (5555) คนเป็นริสซี่จะรู้ดี หลังอึ๊เสร็จ ริสซี่ก็จะเป่งๆ บวกกับจิ๊มิ๊ที่เพิ่งไปผ่ามา โอ๊ววมายก๊อดดด ปวดสิคะคุณขา ยาแก้ปวดอัดไปเลย 2 เม็ด ทุก 4 ชม. กว่าจะข่มตาหลับได้ร่วมตี 3 ตื่นมาอีกที 7โมงเช้า ตื่นเพราะปวดฉี่ แต่ แต่ .. ฉี่ไม่ออก !!! คือ นั่งฉี่ไม่ได้ นั่งอยู่นานนนน ทำยังไงก็ไม่ออก เลยลองยืนฉี่ดู!! (ฉี่ออกเฉยแฮะ ^^) หลังจากผ่านพ้นไป 1 สัปดาห์ อาการก็เหมือนเดิมคือ ต้องทานยาแก้ปวด ทุก 4 ชม. คือ มันปวด นั่งไม่ได้นะ ต้องนอนเอนๆ เอา เอาหมอนโดนัทมารอง เวลาจะนอนต้อง นอนตะแคงข้าง เอาหมอนข้างมาหนีบไว้ นอนตรงไม่ได้ เจ็บบบ!! เข้าสัปดาห์ที่ 2 แผลเหมือนมันบวม คือ บวมทั้งแผลรีแพร์+ริสซี่ เลยโทรไปนัดพบคุณหมอ คุณหมอก็ให้ยามาทานสำหรับแผลรีแพร์และจดรายชื่อยาสำหรับริสซี่ให้ไปหาซื้อตามคลินิคเอา อาการปวดก็ทุเลาลง 5 สัปดาห์ผ่านไป แผลก็ดีขึ้น อาการปวดก็หายไป จะมีเจ็บบ้างเป็นบางท่า เช่นเวลาเดิน ต้องเดินช้าๆ ยังเดินตรงๆเหมือนปกติไม่ได้ เดินแบบแอ่นก้น ระหว่างนั้นก็มีอาการตกขาวแบบเยอะกว่าปกติ พร้อมมีเศษไหมละลายออกมาเป็นระยะ (นึกภาพออกกันมั้ย) เวลาผ่านไปครบ 45 วัน ช่วงเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึงงง (เพลงมา แท่นแทนแท๊นนนนน) กลับมาจากทำงานเรากับคุณสามีก็เริ่มภาระกิจลับ อาบน้ำ เปิดแอร์ช่ำๆ บิ้วกันอยู่นานเลย เพราะไอ้เราก็กลัวเจ็บ กลัวแผลยังไม่หายดี โอ้ยคิดต่างๆนาๆ (ก็คนมันกลัวนิ) ส่วนคุณสาก็ใจจดจ่อกับตรงนั้นมาก ใช้เวลาเกือบ 40 นาที กว่า จขกท.จะกลั้นใจยอมให้คุณสามีแต่โดยดี 55 (เอาวะ ตายเป็นตาย อย่างมากก็ไปหาคุณหมอเย็บ 5555) เพลง 14 อีกครั้ง ของคุณเสกแว๊บขึ้นมาในหัวววว .. จบ (ไปนึกกันต่อเอาเองนะคะ อิอิ)
มีคำถาม หลังไมค์ได้นะคะ ,ถ้าแท๊กห้องผิดขอโทษด้วยค่ะ เพิ่งเคยตั้งกระทู้, ถ้าใช้คำไม่เหมาะสม 18+ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่