ไม่รู้จะส่องภูเขาหิมะมังกรหยกที่ไหน มาลองส่องที่อ่างเก็บน้ำชิงซีสิ(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
เวลาที่พวกเราคนไทยมาเที่ยวที่ลี่เจียง ถ้าต้องนึกถึงสถานที่ ๆ จะถ่ายภูเขาหิมะมังกรหยกที่มีเงาสะท้อนในน้ำเป็นส่วนประกอบด้วยนั้น โดยมากพวกเรามักจะนึกถึงสองสถานที่หลัก ๆ นั่นก็คือ:
1. สระมังกรดำ(黑龙潭)
สระมังกรดำ อยู่ไม่ไกลจากเมืองเก่าลี่เจียง (ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
2. บลูมูนวัลเลย์ (蓝月谷)
บลูมูนวัลเลย์ อยู่ในอุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
ทั้งสองสถานที่นี้ เรียกได้ว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดสำหรับคนไทยที่มาลี่เจียง ก็ว่าได้
แต่จริง ๆ แล้ว นอกจาก 2 ที่นั้นแล้ว ยังมีอีกสถานที่หนึ่ง ที่เราสามารถถ่ายภาพสะท้อนของภูเขาหิมะมังกรหยกได้เช่นกัน โดยเราสามารถไปได้ง่าย ๆ จากแถวเมืองเก่าลี่เจียง แถมยังไม่มีค่าผ่านประตูอีกด้วย
สถานที่ ๆ ว่าก็คือ อ่างเก็บน้ำชิงซี(清溪水库) ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองลี่เจียง โดยที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยรู้จักกัน
อ่างเก็บน้ำชิงซี มองเห็นเงาภูเขาหิมะมังกรหยกได้เช่นกัน(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
เราสามารถไปอ่างเก็บน้ำชิงซีได้อย่างง่ายดายเอามาก ๆ โดยนั่งรถเมล์สาย 3 ต่อเดียว(ค่าโดยสาร 1 หยวน)จากเมืองเก่าลี่เจียง ไม่ถึง 20 นาทีก็ถึง
ห่างจากเมืองเก่าลี่เจียงแค่ห้าป้ายรถเมล์เท่านั้น
วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2017
เพื่อน ๆ กลุ่มผมส่วนใหญ่ (10 คน) ออกจากที่พักในเมืองเก่าลี่เจียงตอน 7 โมงเช้า เพื่อไปเที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก
เหลือเพียงผมกับรุ่นน้องอีกคนที่ไม่ได้ไปด้วย นั่นก็เพราะว่าเราสองคนเคยไปเที่ยวภูเขามังกรหยกกันมาแล้ว พวกเราเลยเลือกที่จะตื่นสายกันชิว ๆ ดีกว่า พอตื่นมาผมก็นั่งเสิรชหาว่า จะไปไหนกันดี
จริง ๆ เราสองคนอยากไปบลูมูนวัลเลย์ แต่ในวันนั้น อากาศไม่ดีเอามาก ๆ ฝนตกโปรยปรายไม่หยุดหย่อน ท้องฟ้ามีเมฆปกคลุมไปทั่ว
ผมบอกรุ่นน้องว่า ไปบลูมูนวัลเลย์น่ะ ไปได้ แต่เชื่อว่า ด้วยสภาพอากาศแบบนี้ เราคงไม่ได้เห็นบลูมูนวัลเลย์ในแบบที่เราอยากเห็นแน่ ๆ
ผมจึงพารุ่นน้องนั่งรถเมล์สาย 11 ไปเอ้อระเหย ที่เมืองเก่าซู่เหอ(涑河古镇) แทน (รถเมล์ไม่ถึงซะทีเดียว ลงที่ป้ายทางแยกซู่เหอ แล้วต้องเดินอีกสิบนาที)
สาย 11 ไปเมืองเก่าซู่เหอ หยวนเดียวเท่านั้น
พวกเราเดินสโลว์ไลฟ์ในซู่เหอไปแบบไม่รีบร้อน กะเก็งกันว่า ถ้าฟ้าเกิดเมตตาเปิดให้แสงแดดส่องสว่าง เราสองคนจะรีบดิ่งไปที่บลูมูนวัลเลย์ทันที
ท้องฟ้าช่างงดงามยิ่งนัก(ซะที่ไหน --")
มีคู่หนุ่มสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเยอะเลย
อนาคตเอ็งมืดมนแน่ ๆ ไอ้หนุ่ม --"
รุ่นน้องบอกว่า ชอบเมืองเก่าที่นี่มากกว่าลี่เจียงและต้าหลี่
เดินเหนื่อยแล้ว ก็พักดื่ม
หิวก็พักกิน
เราเดินที่เมืองเก่าซู่เหอราวสองชม. ฟ้าก็ยังหม่นหมองไม่ต่างจากเดิม ผมเลยบอกรุ่นน้องว่า เอางี้ดีกว่า พี่มีที่เที่ยวโนเนมอยู่ที่นึง สามารถมองเห็นภูเขาหิมะมังกรหยกได้เหมือนกัน(ถ้าฟ้าเปิดน่ะนะ)
เราหารถรับจ้างแถวนั้น ถามราคาไปอ่างเก็บน้ำชิงซี ได้ที่ราคา 15 หยวน (75 บาท) ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึง
จริง ๆ ผมก็ไม่คิดหรอกนะ ว่าชิงซีจะสวยงามอะไรหนักหนา แต่มันเที่ยวฟรีนี่ ก็ไม่มีอะไรให้เสีย ดีกว่าเสียตังค์ไปบลูมูนแล้วไม่เห็นอะไรเลยก็แล้วกัน
ดูรูปจากในเน็ต มันก็น่าลุ้นอยู่นะ(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
มีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้ง มันก็ต้องมีดีบ้างล่ะน่า(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
คลิปวีดีโอแนะนำอ่างเก็บน้ำชิงซี (เก็บจากเว็บจีนนะครับ ไม่ได้ถ่ายเอง)
อ่างเก็บน้ำชิงซี เป็นเหมือนกับสวนสาธารณะให้พักผ่อนหย่อนใจธรรมดานี่เอง แต่ถ้าวันที่ฟ้าเปิด แดดดี มองเห็นหิมะมังกรหยกอยู่ไกล ๆ ที่นี่ก็คงจะสวยไม่ใช่น้อย
ป้ายบอกว่า ที่นี่เป็นแหล่งอนุรักษ์น้ำ
ท้องฟ้าแบบนี้ เลิกหวังที่จะเห็นหิมะมังกรหยก
สะพานกลางอ่างเก็บน้ำ
ถ้าจะหนีความวุ่นวายในตัวเมือง มาที่นี่เหมาะที่สุด
ก็เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ดีครับ อย่างน้อยท้องฟ้าที่ชิงซีก็ทำให้เราปล่อยวางได้(ว่าไม่ต้องไปเที่ยวไหนแล้ว หาไรกินดีกว่า 555)
เมื่อเดินจนครบรอบอ่างเก็บน้ำแล้ว พวกเราก็ข้ามมาอีกฝั่งเพื่อนั่งรถเมล์เบอร์ 3 กลัยไปยังเมืองเก่าลี่เจียง
ถึงเมืองเก่าลี่เจียงปุ๊บ ก็หาเข่าโร่ว(เนื้อย่าง)กินปั๊บ
ก็จบกันไปกับทริปนั่งรถเมล์ชมเมือง ยลเมืองเก่าซู่เหอ เดินตากฝนที่อ่างเก็บน้ำชิงซี ชุ่มช่ำกันไปอีกวัน (มาจีนงวดนี้ เจอฝนไป 4 วันเต็ม ๆ --")
ถ้าใครมาลี่เจียง แล้วนึกไม่ออกว่าจะไปไหน ลองมาอ่างเก็บน้ำชิงซีดูนะครับ รถเมล์หยวนเดียวถึง ^^
ของแถม:
เทคนิคการใช้รถเมล์สาย 3 ให้เป็นประโยชน์
พอได้ใช้รถเมล์สาย 3 บ่อย ๆ ถึงรู้ว่า ประโยชน์ของมันคือ มันอ้อมจากหน้าเมืองเก่าลี่เจียงไปหลังเมืองเก่าได้
ดังนั้น ถ้าที่พักของเราอยู่หลังเมืองเก่า ก็ไม่ต้องวุ่นวายเดินแหวกฝูงชนกลางเมืองเก่า ทั้งไกลและเส้นทางสับสนเป็นเขาวงกต โดดขึ้นรถเมล์สาย 3 มาลงด้านหลังเมืองเก่าได้เลย สบายกว่ากันเยอะ
ป.ล. นั่งสาย 2 หรือ 4 ก็ได้เช่นกันเน้อ
อ่างเก็บน้ำชิงซี – สถานที่ท่องเที่ยวในลี่เจียง ที่นักท่องเที่ยวไม่รู้จัก?
ไม่รู้จะส่องภูเขาหิมะมังกรหยกที่ไหน มาลองส่องที่อ่างเก็บน้ำชิงซีสิ(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
เวลาที่พวกเราคนไทยมาเที่ยวที่ลี่เจียง ถ้าต้องนึกถึงสถานที่ ๆ จะถ่ายภูเขาหิมะมังกรหยกที่มีเงาสะท้อนในน้ำเป็นส่วนประกอบด้วยนั้น โดยมากพวกเรามักจะนึกถึงสองสถานที่หลัก ๆ นั่นก็คือ:
1. สระมังกรดำ(黑龙潭)
สระมังกรดำ อยู่ไม่ไกลจากเมืองเก่าลี่เจียง (ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
2. บลูมูนวัลเลย์ (蓝月谷)
บลูมูนวัลเลย์ อยู่ในอุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
ทั้งสองสถานที่นี้ เรียกได้ว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดสำหรับคนไทยที่มาลี่เจียง ก็ว่าได้
แต่จริง ๆ แล้ว นอกจาก 2 ที่นั้นแล้ว ยังมีอีกสถานที่หนึ่ง ที่เราสามารถถ่ายภาพสะท้อนของภูเขาหิมะมังกรหยกได้เช่นกัน โดยเราสามารถไปได้ง่าย ๆ จากแถวเมืองเก่าลี่เจียง แถมยังไม่มีค่าผ่านประตูอีกด้วย
สถานที่ ๆ ว่าก็คือ อ่างเก็บน้ำชิงซี(清溪水库) ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองลี่เจียง โดยที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยรู้จักกัน
อ่างเก็บน้ำชิงซี มองเห็นเงาภูเขาหิมะมังกรหยกได้เช่นกัน(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
เราสามารถไปอ่างเก็บน้ำชิงซีได้อย่างง่ายดายเอามาก ๆ โดยนั่งรถเมล์สาย 3 ต่อเดียว(ค่าโดยสาร 1 หยวน)จากเมืองเก่าลี่เจียง ไม่ถึง 20 นาทีก็ถึง
ห่างจากเมืองเก่าลี่เจียงแค่ห้าป้ายรถเมล์เท่านั้น
วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2017
เพื่อน ๆ กลุ่มผมส่วนใหญ่ (10 คน) ออกจากที่พักในเมืองเก่าลี่เจียงตอน 7 โมงเช้า เพื่อไปเที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก
เหลือเพียงผมกับรุ่นน้องอีกคนที่ไม่ได้ไปด้วย นั่นก็เพราะว่าเราสองคนเคยไปเที่ยวภูเขามังกรหยกกันมาแล้ว พวกเราเลยเลือกที่จะตื่นสายกันชิว ๆ ดีกว่า พอตื่นมาผมก็นั่งเสิรชหาว่า จะไปไหนกันดี
จริง ๆ เราสองคนอยากไปบลูมูนวัลเลย์ แต่ในวันนั้น อากาศไม่ดีเอามาก ๆ ฝนตกโปรยปรายไม่หยุดหย่อน ท้องฟ้ามีเมฆปกคลุมไปทั่ว
ผมบอกรุ่นน้องว่า ไปบลูมูนวัลเลย์น่ะ ไปได้ แต่เชื่อว่า ด้วยสภาพอากาศแบบนี้ เราคงไม่ได้เห็นบลูมูนวัลเลย์ในแบบที่เราอยากเห็นแน่ ๆ
ผมจึงพารุ่นน้องนั่งรถเมล์สาย 11 ไปเอ้อระเหย ที่เมืองเก่าซู่เหอ(涑河古镇) แทน (รถเมล์ไม่ถึงซะทีเดียว ลงที่ป้ายทางแยกซู่เหอ แล้วต้องเดินอีกสิบนาที)
สาย 11 ไปเมืองเก่าซู่เหอ หยวนเดียวเท่านั้น
พวกเราเดินสโลว์ไลฟ์ในซู่เหอไปแบบไม่รีบร้อน กะเก็งกันว่า ถ้าฟ้าเกิดเมตตาเปิดให้แสงแดดส่องสว่าง เราสองคนจะรีบดิ่งไปที่บลูมูนวัลเลย์ทันที
ท้องฟ้าช่างงดงามยิ่งนัก(ซะที่ไหน --")
มีคู่หนุ่มสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเยอะเลย
อนาคตเอ็งมืดมนแน่ ๆ ไอ้หนุ่ม --"
รุ่นน้องบอกว่า ชอบเมืองเก่าที่นี่มากกว่าลี่เจียงและต้าหลี่
เดินเหนื่อยแล้ว ก็พักดื่ม
หิวก็พักกิน
เราเดินที่เมืองเก่าซู่เหอราวสองชม. ฟ้าก็ยังหม่นหมองไม่ต่างจากเดิม ผมเลยบอกรุ่นน้องว่า เอางี้ดีกว่า พี่มีที่เที่ยวโนเนมอยู่ที่นึง สามารถมองเห็นภูเขาหิมะมังกรหยกได้เหมือนกัน(ถ้าฟ้าเปิดน่ะนะ)
เราหารถรับจ้างแถวนั้น ถามราคาไปอ่างเก็บน้ำชิงซี ได้ที่ราคา 15 หยวน (75 บาท) ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึง
จริง ๆ ผมก็ไม่คิดหรอกนะ ว่าชิงซีจะสวยงามอะไรหนักหนา แต่มันเที่ยวฟรีนี่ ก็ไม่มีอะไรให้เสีย ดีกว่าเสียตังค์ไปบลูมูนแล้วไม่เห็นอะไรเลยก็แล้วกัน
ดูรูปจากในเน็ต มันก็น่าลุ้นอยู่นะ(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
มีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้ง มันก็ต้องมีดีบ้างล่ะน่า(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
คลิปวีดีโอแนะนำอ่างเก็บน้ำชิงซี (เก็บจากเว็บจีนนะครับ ไม่ได้ถ่ายเอง)
อ่างเก็บน้ำชิงซี เป็นเหมือนกับสวนสาธารณะให้พักผ่อนหย่อนใจธรรมดานี่เอง แต่ถ้าวันที่ฟ้าเปิด แดดดี มองเห็นหิมะมังกรหยกอยู่ไกล ๆ ที่นี่ก็คงจะสวยไม่ใช่น้อย
ป้ายบอกว่า ที่นี่เป็นแหล่งอนุรักษ์น้ำ
ท้องฟ้าแบบนี้ เลิกหวังที่จะเห็นหิมะมังกรหยก
สะพานกลางอ่างเก็บน้ำ
ถ้าจะหนีความวุ่นวายในตัวเมือง มาที่นี่เหมาะที่สุด
ก็เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ดีครับ อย่างน้อยท้องฟ้าที่ชิงซีก็ทำให้เราปล่อยวางได้(ว่าไม่ต้องไปเที่ยวไหนแล้ว หาไรกินดีกว่า 555)
เมื่อเดินจนครบรอบอ่างเก็บน้ำแล้ว พวกเราก็ข้ามมาอีกฝั่งเพื่อนั่งรถเมล์เบอร์ 3 กลัยไปยังเมืองเก่าลี่เจียง
ถึงเมืองเก่าลี่เจียงปุ๊บ ก็หาเข่าโร่ว(เนื้อย่าง)กินปั๊บ
ก็จบกันไปกับทริปนั่งรถเมล์ชมเมือง ยลเมืองเก่าซู่เหอ เดินตากฝนที่อ่างเก็บน้ำชิงซี ชุ่มช่ำกันไปอีกวัน (มาจีนงวดนี้ เจอฝนไป 4 วันเต็ม ๆ --")
ถ้าใครมาลี่เจียง แล้วนึกไม่ออกว่าจะไปไหน ลองมาอ่างเก็บน้ำชิงซีดูนะครับ รถเมล์หยวนเดียวถึง ^^
ของแถม:
เทคนิคการใช้รถเมล์สาย 3 ให้เป็นประโยชน์
พอได้ใช้รถเมล์สาย 3 บ่อย ๆ ถึงรู้ว่า ประโยชน์ของมันคือ มันอ้อมจากหน้าเมืองเก่าลี่เจียงไปหลังเมืองเก่าได้
ดังนั้น ถ้าที่พักของเราอยู่หลังเมืองเก่า ก็ไม่ต้องวุ่นวายเดินแหวกฝูงชนกลางเมืองเก่า ทั้งไกลและเส้นทางสับสนเป็นเขาวงกต โดดขึ้นรถเมล์สาย 3 มาลงด้านหลังเมืองเก่าได้เลย สบายกว่ากันเยอะ
ป.ล. นั่งสาย 2 หรือ 4 ก็ได้เช่นกันเน้อ