อยากได้ทีวีใหม่ เอาไว้ดู Netflix 4k กับเล่นเกม PS4, Switch

อยากได้ทีวีใหม่ เอาไว้ดู Netflix 4k กับเล่นเกม PS4, Switch ครับ
มีงบ 3 หมื่น (+- ไม่เกิน 2พัน) อยากได้สเปคตามบรรทัดบน
ขนาด 49 หรือ 55 ก็ได้ครับ ยิ่งเป็น Smart TV ไปเลยก็ดี (หรือไม่เป็นก็ได้นะครับ เน้นเล่นเกม กับดูหนัง Netflix มากกว่า)

ปล.พอดีไปที่บ้านญาติ ไปเจอ โซนี่ 49X8000E ลองดู Netflix 4k มีปุ่มลัดที่รีโมท สะดวกมาก
กับลองเล่นเกมจาก PS4 แล้วภาพโอเคมาก ไม่รู้ว่า นอกจากรุ่นนี้แล้ว มีรุ่นไหนแนะนำอีกมั้ยครับ
หรือรอรุ่นใหม่ปีหน้าไปเลยดี หากไม่รีบ

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าคุณมองหาทีวีสำหรับ 4K คุณจะมองหา HDR ด้วยครับ แนะนำตาม คห 9 ครับ

ส่วนตัวผมใช้ TV Sony 4K อยู่ ผมไม่ใช่สาวก NetFlix นะ แต่ผมชอบฟัง Spotify ซึ่งทีวี Sony ทุกตัวรองรับ 2 แอพที่ว่านี้หมด สามารถเปิดเพลงให้ออกทาง Soundbar แล้วสั่ง Picture Off ได้ นอกจากนี้ ตัว TV ซึ่งเป็น Android สามารถรองรับ Chromecast ได้ด้วย จึงทำให้ Cast อะไรก็ตามจากมือถือขึ่นไปบน TV ได้เลยโดยไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มอีก

การเล่นเกมส์ ผมเล่น BF1 บน PS4 ซึ่งรอบรับ HDR โดย Picture Mode : Gaming สามารถผลแสดงภาพได้ดี (อมเหลืองนิดๆ ส่วนตัวผมเปลี่ยนไปใช้ Mode Warm แทน) ส่วนเพื่อนผมใช้ LG ซึ่ง Picture Mode : Gaming นั้นจะออกภาพมืดพอควร ต้องปรับใน Advance Setting ถึงจะมองเห็นชัดได้ ทั้งสองตัว มี Input Lag น้อยมากครับ ไม่มีผลต่อการเล่นเกมส์ แต่ต้องแน่ใจว่าไม่เปิด Picture Interpolation หรือระบบแทรกเฟรม

พูดถึงข้อดีแล้วก็ต้องพูดถึงข้อเสียครับ Sony Bravia ทุกรุ่นมาพร้อม Ethernet 10/100 และ WiFi b/g/n/ac
ซึ่ง Performance ของมันง่อยมากครับ ถึงแม้จะใช้ WiFi Mode AC แล้วก็ตาม ผมไม่สามารถเปิด Kodi แล้วเล่นหนัง 4K จาก NAS ได้ครับ (หนังขนาด 61Gb, Bitrate 59.7 Mb/s) ออกอาการ Buffer ตลอดเวลา เพราะ Throughput ของโหมด 5Ghz AC มันแย่กว่าความถี 2.4 Ghz N ซะอีก ถึงแม้จะเป็นรุ่นท๊อปแบบ A1 ก็ตาม ได้ Network Performance แบบเดียวกันครับ สืบเนื่องมาจาก CPU ง่อยๆ ของมันอย่าง MediaTek และไม่มี ASIC สำหรับ Network Processing แยก

ผมผ่าทางตันโดยการซื้อ Apple TV4K มาใช้แทนครับ ต่อ WiFi 5Ghz AC เปิด App Infuse แล้วเล่นหนัง 4K จาก NAS ได้สบาย

แต่เนื่องจากผมซื้อ ATV มาแล้ว ทำให้ Enhance HDMI Port มีไม่พอครับ (ทีวีรองรับ Enhance HDMI Port หรือ Port ที่รองรับสัญญาณภาพแบบ HDR และ 10Bit Color มาแค่ 2 พอร์ตครับ คือ HDMI 2 และ 3/ARC ) ดังนั้น การซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็น 4K ต้องคำนึงถึง Port ที่รองรับด้วยครับ

ผมใช้ทางแก้โดยการต่อ PS4 เข้ากับ Soundbar --> 3/ARC
และ ATV --> HDMI 2 แทน

เนื่องจาก Soundbar ของผมรองรับ 4K Passtrough จึงทำให้สามารถส่งสัญญาณ HDR ผ่าน Soundbar ออกไปยัง TV ได้ครับ
และยังสามารถใช้ฟีเจอร์ของ Bravia Sync (HDMI CEC) บน PS4 ได้ตามปกติครับ


ปล. หลังจากซื้อทีวีแล้ว คุณจะรู้ว่างานยากทีสุดคือการปรับ Setting ของภาพให้ได้ตรงใจมากที่สุด แยกสำหรับหลายๆ โหมดอย่าง TV, App, PS4, Movie จนกว่าจะได้ภาพที่พอใจใช้เวลานับเดือนครับ และต้องจดด้วยครับ ไม่งั้นลืม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่