สวัสดีค่ะ ติดตามอยู่ในพันทิพย์มานาน เคยตั้งกระทู้นิดหน่อยแต่ทุกอันล้วนเป็น CR วันนี้จะมารีวิว SR เป็นครั้งแรก เพราะได้ไปร่วมสนุกในเพจทางเฟสบุ๊ค ที่ชื่อว่า Enjoy K Food มา และได้รับสินค้าอาหารเกาหลีมาทดลองชิมฟรี ก็เลยอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆได้ชมค่ะ เผื่อใครชื่นชอบอาหารเกาหลีแบบเจ้าของกระทู้ จะได้ไปหาซื้อมาลองทำลองชิมกันดูนะคะ อร่อยได้ง่ายๆ ที่บ้านค่ะ
ปล. ภาพอาจมีการเปลี่ยนสี แสง โทนโดดไปมานะคะ พอดีจขกท. ค่อยๆลองทานวันละเมนูสองเมนู ภาพที่ถ่ายมาเลยอาจไม่ต่อเนื่องค่ะ

หลังจากได้รับเลือกให้เป็นผู้โชคดีได้รับสินค้ามาทดลองชิมฟรี ทางเพจก็ส่งสินค้ากล่องใหญ่มาให้ถึงบ้านเลยค่ะ


สินค้ามีทั้งหมด 5 รายการค่ะ


เดี๋ยวจะมารีวิวกันทีละอย่างนะคะ
.
.
.
เริ่มด้วย อย่างแรก  มาม่าชินรามยอน  ยี่ห้อ Nongshim


ใน  1 แพ๊ค จะมีมาม่าอยู่ทั้งหมด 5 ซองค่ะ



มาม่าเกาหลีซองแดงๆ ยี่ห้อ นองชิม  นี้น่าจะเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาของสาวกเกาหลีรวมถึงคนทั่วไปที่ชอบทานมาม่าเกาหลีค่ะ
เรียกได้ว่ายี่ห้อนี้เป็นมาม่ารุ่นบุกเบิกที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยเลยทีเดียวค่ะ
หน้าซองเค้าเคลมเลยนะคะว่า เป็นสินค้าฮาลาล อิสลามทานได้ ไม่มีการเติมผงชูรส และไม่มีไขมันทรานส์



วิธีการทำก็แสนง่ายค่ะ ทำตามวิธีที่เขียนไว้ด้านหลังซองก็ได้อร่อยกันแล้วค่ะ  เพราะถ้าเราซื้อมาม่านี้ในไทยมันจะเป็นสำหรับที่เกาหลีเค้าส่งออกมาไทยและประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะ ฉลากจึงมีทั้งภาษาอังกฤษและไทย เพราะโดยส่วนตัวเคยซื้อจากที่เกาหลีมาด้วยฉลากเค้าจะเป็นเกาหลีค่ะ แต่รสชาติความอร่อยนั้นไม่แตกต่างกันค่ะ



ปกติแล้ว จขกท. จะซื้อมาม่ายี่ห้อนี้ติดบ้านไว้อยู่แล้วค่ะ หิวๆก็จัดการ ต้มแล้วเติมเครื่องปรุง เติมเนื้อสัตว์หรือผัก ทานคู่กับกิมจิแค่นี้ก็อร่อยลืม แต่วันนี้พิเศษหน่อย เลยลองทำเป็นรามยอนหม้อไฟดูค่ะ  เราทำทานเองก็ใส่ได้ทุกอย่างตามที่เราชอบทาน แถมสะอาดปลอดภัย  วิธีการก็ง่ายๆ แค่มีกระทะไฟฟ้า จัดการเรียงผักและเนื้อสัตว์ที่ชอบลงไปเลยค่ะ คร่าวๆ ในหม้อไฟของ จขกท. ก็จะมี ไส้กรอกไก่ ไส้กรอกชีส เกี๊ยวซ่าหมู เกี๊ยวปลา หมูสามชั้นสไลด์ ไข่ไก่ เต้าหู้ ผักกาดขาว  กะหล่ำปลี แครอท หอมหัวใหญ่ ต้นหอมญี่ปุ่น ผักกวางตุ้ง และขาดไม่ได้คือ กิมจิ ค่ะ จากนั้นก็ใส่รามยอนพร้อมเครื่องปรุงที่มีมาในซอง แล้วถ้าใครชอบทานรสจัดหน่อยแบบจขกท. ก็เติมโกชูจัง (พริกแกงเกาหลี)  เติมน้ำเปล่าหรือน้ำซุป แค่นี้ก็เรียบร้อยได้ รามยอนหม้อไฟ แล้วค่ะ




มาค่ะมาทานรามยอนเส้นเหนียวนุ่มด้วยกันค่ะ  เส้นเค้าดี น้ำซุปก็กลมกล่อม ที่สำคัญทานแล้วไม่หิวน้ำด้วยค่ะเพราะอย่างที่บอกหน้าซองเขียนไว้เลยว่าไม่เติมผงชูรส



สรุปรามยอนรสเผ็ดนี้ชอบมากให้ไปเลย 10/10


แถมนิดหน่อยค่ะ ว่าด้วยความชอบเส้นที่เหนียวนุ่มหนึบ บางครั้งจขกท. ก็จะลวกแต่เส้นเอามาทานกับเมนูอื่นๆ เช่นในภาพนี้  ใช้แทนเส้นขนมจีนทานกับแกงเผ็ดค่ะ


.
.
.
.
.
รายการที่ 2  ต๊อกบกกีสำเร็จรูป ยี่ห้อ  Yopokki
มีมาให้ชิม 2  รสชาติด้วยกันค่ะ คือ รสเผ็ด และรสชีส ได้รับมาอย่างละ 2 ถ้วย


เหมาะสำหรับใครที่ชอบทานต๊อกบกกีค่ะ เราจะได้สามารถทำทานเองได้ง่ายๆ เพราะในไทยจะหาซื้อแป้งต๊อกได้ยากนิดนึงค่ะ ส่วนใหญ่ที่มีขายก็จะเป็นแบบแช่แข็งซึ่งถุงมันค่อนข้างใหญ่ค่ะ อย่างจขกท. อยู่คนเดียวเคยซื้อมาทำทาน 1 จานพอให้หายอยาก ส่วนที่เหลือนะเหรอคะ เก็บลืมในตู้เย็นจนหมดอายุกันไปเลย ดังนั้นต๊อกสำเร็จรูปแบบนี้ตอบโจทย์มากค่ะ ทำก็ง่ายฉลากของผลิตภัณฑ์ก็จะมีภาษาไทยให้เราอ่านได้สบายๆค่ะ

>>>มาลองทำทานกันทีละรสค่ะ
>
>
เริ่มด้วยรสชีส



วิธีการก็ง่ายๆค่ะ จะต้ม หรือจะใช้ไมโครเวฟก็ได้  ใน 1 ถ้วย จะประกอบด้วยแป๊งต๊อกแห้ง 1 ถุง และเครื่องปรุงรสชีสอีก 1 ซอง


งานนี้จขกท. เลือกการต้มเพราะจะได้เติมผักและเนื้อสัตว์อื่นๆได้ตามชอบนะคะ  มาดูส่วนประกอบของเมนูนี้ค่ะ มีกะหล่ำปลี แครอท หอมหัวใหญ่ ต้นหอมญี่ปุ่น  และไส้กรอกชีสค่ะ ขั้นตอนการทำไม่ได้ถ่ายมานะคะ อยู่คนเดียวจะทำไปถ่ายไปมันก็ยากเหลือเกิน


อธิบายขั้นตอนคร่าวๆเอาละกันเนอะ เริ่มแรกเติมน้ำมันลงกระทะนิดหน่อยค่ะ แล้วผัดหอมหัวใหญ่ให้สุก จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไป 100 ml ตามปริมาตรที่ระบุไว้ข้างกล่องค่ะ จากนั้นก็ใส่แป๊งต๊อกและผงรสชีสต้มจนเดือดแล้วเติมผักและไส้กรอก จากนั้นต้มต่อจนต๊อกสุกค่ะ ดูว่าสุกโดยการชิมดูก็ได้ค่ะ ต๊อกจะเหนียวนุ่มทั้งอัน หรือจะเอาตักออกมาแล้วใช้ช้อนผ่าครึ่งดู ถ้าไม่เห็นไตแป้งแข็งๆตรงกลางก็คือสุกแล้วค่ะ พอสุกดีแล้วก็จัดจานค่ะ จะทานอาหารเกาหลีก็ต้องมีเครื่องเคียงกันซักหน่อย ขุดตู้เย็นเจอไก่ทอดที่เหลือก็อุ่นซะหน่อยแล้ววางโปะลงไป และมีหัวไชเท้าดอง และกิมจิก็ใส่ถ้วยเล็กๆมาทานคู่กัน ตัดเลี่ยนได้ดีเลยค่ะ




ชิมรสกันค่ะ ตะลึงๆ ไม่คิดว่านางจะอร่อยกลมกล่อมขนาดนี้ ปกติเป็นคนไม่ชอบชีสเท่าไหร่ค่ะ แต่งานนี้ผ่านๆ ๆ รสชีสไม่แรง คนไม่ชอบก็ทานได้ มีรสชาติเผ็ดด้วยนิดๆ  ถ้าใครชอบเผ็ดมากขึ้น แนะนำให้เติมโกชูจังค่ะ



ราคาถ้วยนี้อยู่ที่ประมาณ 99 บาท ถ้าแค่เติมน้ำแล้วเวฟทานก็คิดว่าแอบแพงไปนิด แต่อย่างที่จขกท. ทำคือนำมาต้มแล้วเติมเครื่องปรุงอีกนิดหน่อยคิดแล้วน่าจะอีกซัก 20 บาท ราคารวมแล้วก็ถูกกว่าเราไปทานที่ร้านอาหารเกาหลี ปริมาณก็เยอะขึ้น แบ่งทานได้ 2 มื้อเลยค่ะ เพราะแป้งต๊อกทำให้ค่อนข้างอยู่ท้อง ก็คุ้มค่าอยู่นะคะ แล้วรสชาติก็ดีด้วย  คงซื้อทานอีกแน่ๆค่ะสำหรับ ต๊อกบกกีรสชีส
...... ให้ไป 9/10 คะแนน


>>>>  ต่อด้วยต๊อกบกกีรสเผ็ด



สำหรับรสเผ็ดเราจะลองทำแบบใช้ไมโครเวฟดูนะคะว่าจะง่ายแบบที่หลังถ้วยเขียนบอกไว้มั้ย



แกะซองแล้วจัดการเติมต๊อกและน้ำเปล่าลงไปพอท่วมต๊อก หรือประมาณ 50 ml ค่ะ แล้วก็ฉีกซองซอสรสเผ็ดใส่ลงไป จากนั้นยัดเข้าไมโครเวฟ 1.5 นาที ค่ะ ง่ายมากๆ เลยค่ะ แป้งต๊อกสุกพอดีด้วย  







กลิ่นหอมน่าทานมากค่ะ แต่ๆ พอลองได้ชิมแล้วนั้น เราผิดหวังกับรสชาติพอควรเลยค่ะ เพราะจากชื่อว่ารสเผ็ด เลยคาดหวังว่าจะรสจัดนิดนึง แต่พอได้ชิมแล้วรสชาติค่อนไปทางหวาน ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่ารับรสได้คล้ายรสซอสมะเขือเทศ อาจจะเพราะส่วนตัวชอบทานเผ็ด สำหรับคนที่ชอบทานหวานอาจจะพอดีก็ได้นะคะ  

และเพื่อเพิ่มความอร่อย เลยเติมไส้กรอกชีสที่เหลือจากการทำต๊อกบกกีรสชีสลงไปค่ะ แล้วเวฟต่ออีกแปบนึง


หาพักมากินคู่กันเพื่อเพิ่มไฟเบอร์อีกสักหน่อย



พอไม่ถูกปากแล้วนั้นความซังกุงก็เข้าสิง  เมื่อทำใหม่อีกครั้งเราก็เลยมาลองทำแบบต้มแล้วเติมส่วนผสมอื่นๆ และปรุงรสด้วยโคชูจังเพิ่มอีกนิดนึง

ได้มาแล้วต๊อกบกกีสูตรดัดแปลงตามรสที่ชอบ ไม่ต้องไปถึงร้านอาหารเกาหลี




หรือถ้าใครทานหลายคน แค่ต๊อกถ้วยเดียวไม่พอแบ่งกันทาน แนะนำให้ทำเป็น รามบกกี  = รามยอน + ต๊อกบกกี
โดยการเติมเส้นรามยอนลงไปต้มพร้อมแป้งต๊อก ก็จะได้เป็นรามบกกีชามโต ทานกับผักและน่องไก่ย่าง ก็เข้ากั๊น เข้ากัน




โดยสรุปสำหรับต๊อกบกกีรสเผ็ด เราให้คะแนนน้อยกว่ารสชีสค่ะ เอาไปแค่ 7/10 เพราะรสชาติติดหวานไปหน่อยไม่เผ็ดแบบชื่อรสค่ะ เลยต้องมาปรุงเพิ่มให้ถูกปากเองค่ะ