เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอึดอัดใจมานาน ที่นับวันๆยิ่วทวีคูณมากขึ้น ระหว่าง แฟนเรากับงานและ เวลาในชีวิต
เรากับแฟนคบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน จนกระทั่ง เราต่างคนต่างทำงาน แฟนเราได้งาน เกี่ยวกับ service mind งาน sale coordinator ประสานงานกับส่วนต่างๆ ทั้งไทยและเทศ
ส่วนเราเองก็ทำงาน ด้าน บัญชี ในบริษัทแห่งนึง เราสองคนต่างทำงาน และรักในงานของตนเอง ช่วงแรกๆเราต่างคนต่างพยายามเข้าใจซึ่งกันและกันมาตลอด
เราทำงานเป็นเวลา คือ ทำงาน จ-ศ 08:00-17:00น. ก็ กลับบ้าน นานๆจะมีโอที บ้าง ช่วงปลายเดือนบ้างประปราย ชีวิตเราดูเป็นระบบระเบียบ แบบนี้ทุกวัน และถึงแม้เราจะอยู่กับแฟนเราก็ตาม แต่เราแทบไม่ค่อย ได้ใช้ชีวิตด้วยกันแม้จะเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดต่างๆ หรือหลังเลิกงานก็ตามแต่ มันเป็นอะไรที่ ทำให้ความรัก ของเราต้องอดทนรอมาเสมอ เนื่องจากงานของแฟน เป็นงานที่ กินเวลาชีวิตส่วนตัวมาก แฟน ออกจากบ้านตั้งแต่ 07:00น. กว่าจะกลับบ้านก็ 4-5 ทุ่ม เกือบทุกวัน พอถึงบ้าน ก็ต้องรับโทรศัพท์ เจ้านาย ลูกน้อง และลูกค้า นั่งทำงานต่อจนตี2-3 บางทีทำถึงเช้า แล้วไปทำงานเลย หรือ วันเสาร์ อาทิตย์ เราตื่นมาก็เห็นแฟนนั่งอยู่น่าคอมทำงาน และคุยงานกับลูกค้า ประสานงาน กับคนอื่นๆ ตลอดเวลา เป็นแบบนี้ มา4-5 ปีได้แล้ว
เวลามีธุระ อะไรก็ตาม คนที่จะคอยจัดการเรื่องในชีวิตเขา หรือเรื่องส่วนตัวของเขาก็จะเป็นเราเสมอ เช่น จ่ายเงินค่าโทรศัพท์ จ่ายประกัน เอารถไปเข้าศูนย์ จิปาถะ คือทุกเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เขาไม่มีเวลาแม้แต่นิดเดียว แม้แต่เวลาเขาป่วย โทรศัพท์ก็ดังมาตลอด เร่งให้ทำงาน เราอยู่กับเขาที่ รพ. เรายังรู้สึกอึดอัดและแย่มาก นี่คนป่วยนะ ทำไมไม่มีมารยาทเลย ต้องโทรตาม เราเคยคุยกับเขาให้ออกจากงานนี้ แต่เขาก็ไม่มีเวลาไปสัมภาษณ์งานหรือสมัครงานใหม่
เนื่องด้วยงานที่เขาต้องทำ มันบีบชีวิตเขา จนคนรอบข้างเขาเครียดไปด้วย พ่อแม่ พี่น้อง ครอบครัว เวลาไปไหนกัน นัดไปทานข้าว นึกบรรยากาศ กำลังนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา สักครั้ง จู่ๆโทรศัพท์ดังขึ้น ต้อง เปิดโน๊ตบุ๊คนั่งทำงาน ตรงนั้นเลย และต้องขอกลับก่อนเป็นทุกที เราทราบว่าเขามีความรับผิดชอบต่องานเขามาก แต่เรามีความรู้สึกว่า ชีวิตเขาเป็นแบบนี้มานานพอสมควรแล้ว เราเห็นเขาเหนื่อย เราเห็นเขาอดนอน เครียด และ หงุดหงิด มาตลอดหลายๆปี
เขาเคยบ่นกับเราว่า เขารู้สึก อึดอัดเหมือนกัน ไม่ได้มีความสุขกับงานที่ทำ แต่เขาต้องทำเพราะเขามีภาระ หนี้สิน ทั้งบ้าน รถ และส่งเสียพ่อแม่ แต่เราบอกเขาเสมอว่า ไม่ไหวก็ออกมา พักก่อนสัก1-2 เดือนแล้วค่อยหางานใหม่ งานที่คุณทำอยู่มันทำลายสุขภาพคุณ สุขภาพจิตก็แย่ ทำลายครอบครัว และ ความสัมพันธ์รอบข้าง และฉันไม่สามารถทนเห็นคุณถูกจองจำแบบนี้ วันหยุดแทนที่จะได้ใช้ชีวิตส่วนตัว แม้แต่จะทานข้าวยังไม่มี เราเอาข้าวมาวางให้ 3-4 ชั่วโมงมาดูอีกที ก็ยังไม่ได้กิน เราต้องทำให้ใหม่ แล้วเอามาวางใหม่ก็ไม่ได้กินสักที ครั้งต่อมาเลยรู้ปล้วว่าไม่มีทางได้กินแน่ๆ หลังๆเลยวางเป็นพวกขนมปังที่กินง่ายๆไว้ให้ กลางค่ำกลางคืนดึกดื่น ก็ต้องมารับผิดชอบงาน เป็นแบบนี้ เรายอมรับนะเราอยากได้เวลาจากเขา อยากได้เวลาครอบครัว อยากมีเวลาทานข้าวด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ตอนเย็นกลับมาจากทำงานก็ได้เจอหน้ากัน ทานข้าว และนอนพร้อมกันก็ยังดี แต่ไม่เคยได้รับมาหลายปีแล้ว เรากลับมาทำกับข้าว ทานข้าว อาบน้ำดูทีวีเสร็จ 4 ทุ่มแฟนเรายังทำงานอยู่ออฟฟิตอยู่เลย (ซึ่งเรารู้จักออฟฟิตและคนในออฟฟิต หลายคนอาจมองว่าแฟนเราอาจมีกิ๊กหรือป่าว ซึ่งไม่ใช่แน่นอน เราเช็คและ ไปดูตลอดงานเขาเยอะจริงๆ) กว่าแฟนเราจะกลับ เราก็หลับแล้ว เช้ามา ได้เจอกันไม่ถึง 10 นาที แฟนเราก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานแล้ว เสาร์อาทิตย์ เรายอมรับว่า เกลียดเสียงโทรศัพท์แฟนมาก โทรกันมาทั้งวี่ทั้งวัน ไม่รู้จักเกรงใจเลย ทั้งเจ้านายลูกน้อง ลูกค้า ปวดประสาทมาก รำคาญ
ครั้งนึง เราตื่นเช้ามาเจอแฟน ฟุบอยู่กับพื้น ตกใจมาก รีบไปเขย่าตัวเรียก ก็ไม่ตื่น แต่ยังหายใจอยู่ จึงโทรเรียกเพื่อนแฟนมารับพาไปโรงพยาบาล เราสงสารเขามาก เขาตัวร้อนมาก ตื่นมาปวดหัว เราเห็นน้ำตาเขาไหล เขาร้องขอยา แก้ปวดหัวตลอดเวลา เราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาเป็นเป็นโรคอะไร เราได้แต่ถ้าหมอ หมอก็บอกว่ามาจากการไม่ได้พักผ่อน
การอดนอน และเครียด แต่โทรศัพท์มา แฟนเราก็ต้องรับ และเอาโน๊ตบุ๊คมาเปิด ทำบนที่นอนเป็นภาพที่แย่มาก และในองค์กรของแฟนเราก็ทำกันแบบนี้ เป็นเรื่องปรกติ แต่สำหรับเรามันไม่ใช่เรื่องปรกติเลย เรารู้สึกว่าไม่แฟร์ ไม่โอเคร ไร้มารยาท ที่มาตามคนป่วยทำงาน
ที่เราเขียนมา เราอยากทราบว่ามีคนตกในสภาพนี้อีกไหม?
ถ้าทำงานแบบนี้ สุขภาพเป็นยังไง ในระยะยาว ?
งานแบบนี้คุ้มหรือไม่กับชีวิตคนๆนึง?
มีคนทำงานแบบนี้และทำได้กี่ปีคะ ?
เราผิดปรกติไหมที่เกลียดเสียงโทรศัพท์ของแฟนที่ดังบ่อยๆ ?
และตัวเราเห็นแกตัวไหมที่พยายามขอให้แฟน ออกจากงานนี้
เพื่ออยากได้เวลาจากเขา อยากให้เขามีชีวิตปรกติ อยากให้เขาได้งานใหม่ที่เป็นเวลา
วันหยุดมีชีวิตส่วนตัว ปีนึงพากันไปพักผ่อนเที่ยวบ้าง ปีละ2-3 ครั้ง
มีเวลาไปเยี่ยมพ่อแม่ ดูแลพ่อแม่ และพากันไปทำบุญ
มันคงเป็นความฝันแค่ของเรา เราผิดมากไหม ที่อยากให้เป็นแบบนี้
สุดท้าย เราแค่อยากให้เขามีชีวิตปรกติ
ในโลกนี้ยังมีงานที่บั่นทอนความรัก และสุขภาพอยู่บนโลกนี้จริงๆ ?
เรากับแฟนคบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน จนกระทั่ง เราต่างคนต่างทำงาน แฟนเราได้งาน เกี่ยวกับ service mind งาน sale coordinator ประสานงานกับส่วนต่างๆ ทั้งไทยและเทศ
ส่วนเราเองก็ทำงาน ด้าน บัญชี ในบริษัทแห่งนึง เราสองคนต่างทำงาน และรักในงานของตนเอง ช่วงแรกๆเราต่างคนต่างพยายามเข้าใจซึ่งกันและกันมาตลอด
เราทำงานเป็นเวลา คือ ทำงาน จ-ศ 08:00-17:00น. ก็ กลับบ้าน นานๆจะมีโอที บ้าง ช่วงปลายเดือนบ้างประปราย ชีวิตเราดูเป็นระบบระเบียบ แบบนี้ทุกวัน และถึงแม้เราจะอยู่กับแฟนเราก็ตาม แต่เราแทบไม่ค่อย ได้ใช้ชีวิตด้วยกันแม้จะเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดต่างๆ หรือหลังเลิกงานก็ตามแต่ มันเป็นอะไรที่ ทำให้ความรัก ของเราต้องอดทนรอมาเสมอ เนื่องจากงานของแฟน เป็นงานที่ กินเวลาชีวิตส่วนตัวมาก แฟน ออกจากบ้านตั้งแต่ 07:00น. กว่าจะกลับบ้านก็ 4-5 ทุ่ม เกือบทุกวัน พอถึงบ้าน ก็ต้องรับโทรศัพท์ เจ้านาย ลูกน้อง และลูกค้า นั่งทำงานต่อจนตี2-3 บางทีทำถึงเช้า แล้วไปทำงานเลย หรือ วันเสาร์ อาทิตย์ เราตื่นมาก็เห็นแฟนนั่งอยู่น่าคอมทำงาน และคุยงานกับลูกค้า ประสานงาน กับคนอื่นๆ ตลอดเวลา เป็นแบบนี้ มา4-5 ปีได้แล้ว
เวลามีธุระ อะไรก็ตาม คนที่จะคอยจัดการเรื่องในชีวิตเขา หรือเรื่องส่วนตัวของเขาก็จะเป็นเราเสมอ เช่น จ่ายเงินค่าโทรศัพท์ จ่ายประกัน เอารถไปเข้าศูนย์ จิปาถะ คือทุกเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เขาไม่มีเวลาแม้แต่นิดเดียว แม้แต่เวลาเขาป่วย โทรศัพท์ก็ดังมาตลอด เร่งให้ทำงาน เราอยู่กับเขาที่ รพ. เรายังรู้สึกอึดอัดและแย่มาก นี่คนป่วยนะ ทำไมไม่มีมารยาทเลย ต้องโทรตาม เราเคยคุยกับเขาให้ออกจากงานนี้ แต่เขาก็ไม่มีเวลาไปสัมภาษณ์งานหรือสมัครงานใหม่
เนื่องด้วยงานที่เขาต้องทำ มันบีบชีวิตเขา จนคนรอบข้างเขาเครียดไปด้วย พ่อแม่ พี่น้อง ครอบครัว เวลาไปไหนกัน นัดไปทานข้าว นึกบรรยากาศ กำลังนั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา สักครั้ง จู่ๆโทรศัพท์ดังขึ้น ต้อง เปิดโน๊ตบุ๊คนั่งทำงาน ตรงนั้นเลย และต้องขอกลับก่อนเป็นทุกที เราทราบว่าเขามีความรับผิดชอบต่องานเขามาก แต่เรามีความรู้สึกว่า ชีวิตเขาเป็นแบบนี้มานานพอสมควรแล้ว เราเห็นเขาเหนื่อย เราเห็นเขาอดนอน เครียด และ หงุดหงิด มาตลอดหลายๆปี
เขาเคยบ่นกับเราว่า เขารู้สึก อึดอัดเหมือนกัน ไม่ได้มีความสุขกับงานที่ทำ แต่เขาต้องทำเพราะเขามีภาระ หนี้สิน ทั้งบ้าน รถ และส่งเสียพ่อแม่ แต่เราบอกเขาเสมอว่า ไม่ไหวก็ออกมา พักก่อนสัก1-2 เดือนแล้วค่อยหางานใหม่ งานที่คุณทำอยู่มันทำลายสุขภาพคุณ สุขภาพจิตก็แย่ ทำลายครอบครัว และ ความสัมพันธ์รอบข้าง และฉันไม่สามารถทนเห็นคุณถูกจองจำแบบนี้ วันหยุดแทนที่จะได้ใช้ชีวิตส่วนตัว แม้แต่จะทานข้าวยังไม่มี เราเอาข้าวมาวางให้ 3-4 ชั่วโมงมาดูอีกที ก็ยังไม่ได้กิน เราต้องทำให้ใหม่ แล้วเอามาวางใหม่ก็ไม่ได้กินสักที ครั้งต่อมาเลยรู้ปล้วว่าไม่มีทางได้กินแน่ๆ หลังๆเลยวางเป็นพวกขนมปังที่กินง่ายๆไว้ให้ กลางค่ำกลางคืนดึกดื่น ก็ต้องมารับผิดชอบงาน เป็นแบบนี้ เรายอมรับนะเราอยากได้เวลาจากเขา อยากได้เวลาครอบครัว อยากมีเวลาทานข้าวด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ตอนเย็นกลับมาจากทำงานก็ได้เจอหน้ากัน ทานข้าว และนอนพร้อมกันก็ยังดี แต่ไม่เคยได้รับมาหลายปีแล้ว เรากลับมาทำกับข้าว ทานข้าว อาบน้ำดูทีวีเสร็จ 4 ทุ่มแฟนเรายังทำงานอยู่ออฟฟิตอยู่เลย (ซึ่งเรารู้จักออฟฟิตและคนในออฟฟิต หลายคนอาจมองว่าแฟนเราอาจมีกิ๊กหรือป่าว ซึ่งไม่ใช่แน่นอน เราเช็คและ ไปดูตลอดงานเขาเยอะจริงๆ) กว่าแฟนเราจะกลับ เราก็หลับแล้ว เช้ามา ได้เจอกันไม่ถึง 10 นาที แฟนเราก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานแล้ว เสาร์อาทิตย์ เรายอมรับว่า เกลียดเสียงโทรศัพท์แฟนมาก โทรกันมาทั้งวี่ทั้งวัน ไม่รู้จักเกรงใจเลย ทั้งเจ้านายลูกน้อง ลูกค้า ปวดประสาทมาก รำคาญ
ครั้งนึง เราตื่นเช้ามาเจอแฟน ฟุบอยู่กับพื้น ตกใจมาก รีบไปเขย่าตัวเรียก ก็ไม่ตื่น แต่ยังหายใจอยู่ จึงโทรเรียกเพื่อนแฟนมารับพาไปโรงพยาบาล เราสงสารเขามาก เขาตัวร้อนมาก ตื่นมาปวดหัว เราเห็นน้ำตาเขาไหล เขาร้องขอยา แก้ปวดหัวตลอดเวลา เราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาเป็นเป็นโรคอะไร เราได้แต่ถ้าหมอ หมอก็บอกว่ามาจากการไม่ได้พักผ่อน
การอดนอน และเครียด แต่โทรศัพท์มา แฟนเราก็ต้องรับ และเอาโน๊ตบุ๊คมาเปิด ทำบนที่นอนเป็นภาพที่แย่มาก และในองค์กรของแฟนเราก็ทำกันแบบนี้ เป็นเรื่องปรกติ แต่สำหรับเรามันไม่ใช่เรื่องปรกติเลย เรารู้สึกว่าไม่แฟร์ ไม่โอเคร ไร้มารยาท ที่มาตามคนป่วยทำงาน
ที่เราเขียนมา เราอยากทราบว่ามีคนตกในสภาพนี้อีกไหม?
ถ้าทำงานแบบนี้ สุขภาพเป็นยังไง ในระยะยาว ?
งานแบบนี้คุ้มหรือไม่กับชีวิตคนๆนึง?
มีคนทำงานแบบนี้และทำได้กี่ปีคะ ?
เราผิดปรกติไหมที่เกลียดเสียงโทรศัพท์ของแฟนที่ดังบ่อยๆ ?
และตัวเราเห็นแกตัวไหมที่พยายามขอให้แฟน ออกจากงานนี้
เพื่ออยากได้เวลาจากเขา อยากให้เขามีชีวิตปรกติ อยากให้เขาได้งานใหม่ที่เป็นเวลา
วันหยุดมีชีวิตส่วนตัว ปีนึงพากันไปพักผ่อนเที่ยวบ้าง ปีละ2-3 ครั้ง
มีเวลาไปเยี่ยมพ่อแม่ ดูแลพ่อแม่ และพากันไปทำบุญ
มันคงเป็นความฝันแค่ของเรา เราผิดมากไหม ที่อยากให้เป็นแบบนี้
สุดท้าย เราแค่อยากให้เขามีชีวิตปรกติ