สวัสดีชาวพันทิปทุกๆท่านค่ะ
อันนี้ก็เป็นกระทู้แรก หากผิดพลาดอย่างไรก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
จากที่เห็นในโลกโซเชียลบ้านเราเนอะ ที่ถกเถียงเรื่องการเรียนการสอนเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา ที่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และโต้แย้งกันอยู่เป็นพักๆ
วันนี้เลยจะมาขอเล่า ขอแชร์ประสบการณ์หน่อยเนอะ ว่าเรื่องการเรียนการสอยเรื่องเพศศึกษาที่อเมริกาเนี่ยเป็นยังไง แบบคร่าวๆนะคะ
ขอเกริ่นก่อนนิดนึงเนอะ จขกท ได้รับโอกาสมาศึกษาที่อเมริกาใน เกรด13 ของที่นี่ ( เรียก Post Graduate ค่ะ) และด้วยเราเองก็เรียนที่ไทยมา เลยทำให้มีโอกาสเรียนรู้อะไรมากขึ้นด้วย
โรงเรียนที่ จขกท เรียนไม่มีคาบสุขศึกษาที่ชัดเจนค่ะ แต่เรียกเป็นคาบ SEL ( Self Emotional learning) ซึ่งตอนแรก ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ว่ามันคืออะไร
เปิดประตูเข้าไป ผ่ามมมม เจอเพื่อนฝรั่ง ทั้งชายหญิงนั่งกันเป็นกลุ่มๆ รวมแล้วประมาณสิบคนได้ เลยขอเข้าไปนั่งด้วย เมื่ออาจารย์เข้ามาปุ๊บ ( อ.เป็นผช หล่อด้วย แค่กๆ ไม่ใช่ๆ555) ก็เกริ่นเลย
อจ: วันนี้เราจะมาพูดกันเรื่อง SEX และ Consent กันนะ
จากนั้นอ.ก็เปิดคลิปวิดีโอเรื่อง Tea Consent ให้ดูจากนั้นก็คุย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.youtube.com/watch?v=fGoWLWS4-kU
อจ: รู้หรือเปล่าว่า อายุเท่าไหร่ถึงจะมี SEX ได้โดยไม่ผิดกฏหมาย
หืมมมมมม ได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย เมื่อกี้อาจารย์ถามว่าอะไรนะ ถามว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะมีเซ็กส์ได้เหรอ เดี่ยวนี่มันวิชาอะไรเนี่ย
อจ: ตามกฎหมาย แล้วนะ รัฐนี้ มีเซ็กส์ได้ก็ต่อเมื่อ คู่เดต ของเธอมีอายุ....ขึ้นไปนะ ถึงจะเรียกว่า ไม่พรากผู้เยาว์ เพราะฉะนั้น make sure ด้วยถ้าแฟนเราอายุยังไม่ถึงตามกฎหมาย
อมกกกกก (ขณะนั้น จขกท ปาดเหงื่อเลยฮะ)
อจ: ส่วนเรื่องของ Consent คือการอนุญาต ถ้าคู่ของเราไม่ยินยอม ก็ไม่ควรมีอะไรด้วย หรือถ้าเราไม่อยากมี ก็ต้องรู้จักปฏิเสธ
จากนั้น อาจารย์ก็ยกสถานการณ์ตัวอย่างขึ้นมา แล้วก็ถามเพื่อนในห้อง ซึ่งแต่ละคำถาม อหหห ทำเอา จขกท อายม้วน พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน
ตัวอย่างเช่น มาเรียกำลังคบหากับแซมซึ่งเป็นรุ่นน้อง ทั้งคู่เคยมีความสัมพันธ์กัน (เขาใช้คำว่า hook up ซึ่ง ถามเพื่อนในคลาสเขาบอกว่า มีอะไรกัน แต่บางคนก็บอกจูบก็รวมอยู่ในนี้) แต่นั่นก็ผ่านมาประมาณเดือนหนึ่งแล้ว ต่อมา มาเรียอยากจะมีอะไรกับแซมอีก แต่แซมคิดว่า มันเร็วเกินไปและยังไม่ถึงเวลา มาเรียจึงอ้างว่า แซมไม่รักเธอ ถ้าเธอเป็นเเซมจะว่ายังไง
เพื่อนฝรั่งก็ถกกันอย่างเมามันเลยค่ะ ว่า เเซมถ้าไม่อยากมีก็ต้องบอกไปเลย ความเห็นที่ถูกใจสุด คือ ถ้ามาเรียรักแซมมาเรียต้องเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของแซมด้วย ปรบมือออออออค่าาาาา
อีกอันหนึ่งค่ะที่ จขกท ว่าพีคสุดๆละ เจนนี่คบกันกับไบรอัน ทั้งคู่เคยลึกซึ้งกันที่สุดคือจูบ วันหนึ่งเจนนี่ชวนไบรอันมานอนค้างที่บ้านและนอนเตียงเดียวกันกับเธอ (และด้วยบรรยากาศเป็นใจ) ทั้งคู่เริ่มกอดกัน และจูบกัน และเริ่มถอดเสื้อผ้าของกันและกัน ( เห้ยยยยย) เมื่อถอดท่อนบนแล้ว จู่ๆเจนนี่ก็บอกกับไบรอันว่า เธออยากรักษาความบริสุทธิ์ไว้จนถึงวันแต่งงาน
ไบรอันก็บอกแบบไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้วนะ เจนนี่ก็ย้ำว่า เธออยากเก็บเวอร์จิ้นของหล่อนไว้จริงๆ ไบรอันก็บอกว่า อ่ะๆ ถ้างั้น ใช้ลิ้นแทนมั้ยล่ะ เธอก็ยังบริสุทธิ์อยู่ เจนนี่ก็ลังเล แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง
อื้อหือ เจนนี่ ทำไมหนูสตอเบอรรี่ขั้นนี้คะลูกกกก หนูอยากเวอร์จิ้น หนูยังชวนเขามานอนเตียงเดียวกันอีก
ตอนนี้เพื่อนฝรั่งถกใหญ่เลยค่ะ เพื่อนผชก็พูดว่าเจนนี่ เล่นตัวอ่ะ ถ้าอยากเวอร์จิ้นจริงๆ ก็ไม่น่าชวนมานอนที่เตียงเดียวกัน แล้วแบบใช้ลิ้นได้ด้วยนะ55555
เพื่อนผู้หญิงก็บอกเลย ว่าจริงๆแล้วเจนนี่ก็คงอยากมีแหละ แต่คงยังกล้าๆกลัวอยู่ๆ เพราะถ้าไม่อยากจริงๆก้ต้อง เซย์โนว ตั้งแต่เเรกๆแล้ว
พอเวลาใกล้หมดคาบ ก็สรุปกันว่า เราคุยเรื่องอะไรกันบ้าง แล้วอาจารย์ก็ย้ำว่า การมีเซ็กส์ต้องอายุเท่าไหร่ขึ้นไป แล้วถ้าจะมีต้องใช้ถุงยางนะ แล้วรู้มั้ยว่า Campus ของเราเนี่ย จะเอาถุงยางฟรีที่ไหน
นร: Health Center !!
จากนั้น อาจารย์ก็บอกอืมดีมาก พอตอนจะออกจากห้อง ได้ยินเพื่อนผญ คนนึงพูด เอาจริงๆ เราว่า ต้องดูดีๆด้วยนะ เพราะถุงยางบางอันที่ Health Center ก็หมดอายุ
จขกท นี่ หาาาาา นี่เธอรู้ลึกรู้จริงเบอร์นี้เลยเหรอ55555
คือที่นี่ดูเป็นการพูดที่ ค่อนข้างเปิดอกคุยกันที่จริงจังกว่า บ้านเราเยอะ ตามประสบการณ์แล้วที่คุยจริงจังจริงๆ จขกท ก็จะคุยกับแม่ อย่างเดียว จำได้ว่า เคยคุยกับพ่อครั้งนึง พ่อก็อายและไม่คุยด้วยเลย5555 ตอนแรกเคยมีความคิดอยู่ว่าถ้ามีการสอนเรื่องเพศ แยกสอน แล้วเอาครูที่เพศเดียวกันสอนดีกว่ามั้ย นร จะได้ไม่อาย พอเอาเข้าจริง มันกลายเป็นว่า การที่เรียนรวมๆกัน มันทำให้เราเรียนรู้ทัศนคติของเพื่อนต่างเพศด้วยนะว่าเขาคิดยังไง
แต่ถ้าถาม จขกท ที่ได้ไปเรียนแบบนี้ ตอนแรกก็รู้สึกกระดากอายมากๆ แต่มันทำให้เรารู้ตัวเหมือนกันว่า ที่จริงแล้วนั้น เรายังมีความรู้น้อยอยู่
ซึ่งคาบต่อๆมา ก็มีพวกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ SDD อันนี้ จขกท จะมาเล่าในโอกาสต่อไป เพราะคิดว่า ที่บ้านเรายังคุยถึงเรื่องนี้กันน้อยมากๆ
จนบางทีก็เกิดความเข้าใจผิดอีก
จขกท เลยมาคิดเกี่ยวกับปัญหาที่บ้านเรา ที่ผู้ใหญ่บางคนบอกว่า เหมือนชี้โพรงให้กระรอก อันนี้ก็ไม่กล้าปฏิเสธค่ะ เพราะ จขกท ก็เหมือนเปิดโลกเลยเหมือนกัน แต่เราก็อย่าลืมว่า การที่เราระวัง ไม่พูดเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง มันเกิดผลอะไรบ้าง ปัญหาเรื่องของคุณแม่วัยใส เรื่องท้องไม่พร้อม ยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า เท่าที่ผ่านมา ค่อนข้างจะพิสูจน์ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
จขกท ขอเป็นคนนึงที่ออกความคิดเห็นนะคะ ว่า เรื่องเพศศึกษาเราควรจะมีการเรียนรู้กันอย่างจริงจัง แต่ในขณะเดียวกัน จขกท เองก็อยากให้มีการปลูกฝัง ให้เด็กๆเราเอง รู้คุณค่าของตัวเองด้วย ไม่ใช่เห็นผิดเป็นชอบ เข้าใจอะไรผิดๆ ที่คิดว่าทำแล้วเท่ หรือ เจ๋ง หรือค่านิยมแปลกๆต่างๆ
จขกท เชื่อว่า ปัญหาบ้านเราที่เกิดอยู่ ถ้าเราหันหน้าเข้ามาคุยกันจริงจัง เราก็จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ และทรัพยากรบุคคลของประเทศเราก็จะมีคุณภาพมากขึ้นด้วยค่ะ
[:อมยิ้ม17:]
[:นานาขอบคุณ:]
**แชร์ประสบการณ์** ครั้งแรกที่ได้เรียนเพศศึกษาที่อเมริกา 18+
อันนี้ก็เป็นกระทู้แรก หากผิดพลาดอย่างไรก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
จากที่เห็นในโลกโซเชียลบ้านเราเนอะ ที่ถกเถียงเรื่องการเรียนการสอนเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา ที่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และโต้แย้งกันอยู่เป็นพักๆ
วันนี้เลยจะมาขอเล่า ขอแชร์ประสบการณ์หน่อยเนอะ ว่าเรื่องการเรียนการสอยเรื่องเพศศึกษาที่อเมริกาเนี่ยเป็นยังไง แบบคร่าวๆนะคะ
ขอเกริ่นก่อนนิดนึงเนอะ จขกท ได้รับโอกาสมาศึกษาที่อเมริกาใน เกรด13 ของที่นี่ ( เรียก Post Graduate ค่ะ) และด้วยเราเองก็เรียนที่ไทยมา เลยทำให้มีโอกาสเรียนรู้อะไรมากขึ้นด้วย
โรงเรียนที่ จขกท เรียนไม่มีคาบสุขศึกษาที่ชัดเจนค่ะ แต่เรียกเป็นคาบ SEL ( Self Emotional learning) ซึ่งตอนแรก ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ว่ามันคืออะไร
เปิดประตูเข้าไป ผ่ามมมม เจอเพื่อนฝรั่ง ทั้งชายหญิงนั่งกันเป็นกลุ่มๆ รวมแล้วประมาณสิบคนได้ เลยขอเข้าไปนั่งด้วย เมื่ออาจารย์เข้ามาปุ๊บ ( อ.เป็นผช หล่อด้วย แค่กๆ ไม่ใช่ๆ555) ก็เกริ่นเลย
อจ: วันนี้เราจะมาพูดกันเรื่อง SEX และ Consent กันนะ
จากนั้นอ.ก็เปิดคลิปวิดีโอเรื่อง Tea Consent ให้ดูจากนั้นก็คุย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อจ: รู้หรือเปล่าว่า อายุเท่าไหร่ถึงจะมี SEX ได้โดยไม่ผิดกฏหมาย
หืมมมมมม ได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย เมื่อกี้อาจารย์ถามว่าอะไรนะ ถามว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะมีเซ็กส์ได้เหรอ เดี่ยวนี่มันวิชาอะไรเนี่ย
อจ: ตามกฎหมาย แล้วนะ รัฐนี้ มีเซ็กส์ได้ก็ต่อเมื่อ คู่เดต ของเธอมีอายุ....ขึ้นไปนะ ถึงจะเรียกว่า ไม่พรากผู้เยาว์ เพราะฉะนั้น make sure ด้วยถ้าแฟนเราอายุยังไม่ถึงตามกฎหมาย
อมกกกกก (ขณะนั้น จขกท ปาดเหงื่อเลยฮะ)
อจ: ส่วนเรื่องของ Consent คือการอนุญาต ถ้าคู่ของเราไม่ยินยอม ก็ไม่ควรมีอะไรด้วย หรือถ้าเราไม่อยากมี ก็ต้องรู้จักปฏิเสธ
จากนั้น อาจารย์ก็ยกสถานการณ์ตัวอย่างขึ้นมา แล้วก็ถามเพื่อนในห้อง ซึ่งแต่ละคำถาม อหหห ทำเอา จขกท อายม้วน พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน
ตัวอย่างเช่น มาเรียกำลังคบหากับแซมซึ่งเป็นรุ่นน้อง ทั้งคู่เคยมีความสัมพันธ์กัน (เขาใช้คำว่า hook up ซึ่ง ถามเพื่อนในคลาสเขาบอกว่า มีอะไรกัน แต่บางคนก็บอกจูบก็รวมอยู่ในนี้) แต่นั่นก็ผ่านมาประมาณเดือนหนึ่งแล้ว ต่อมา มาเรียอยากจะมีอะไรกับแซมอีก แต่แซมคิดว่า มันเร็วเกินไปและยังไม่ถึงเวลา มาเรียจึงอ้างว่า แซมไม่รักเธอ ถ้าเธอเป็นเเซมจะว่ายังไง
เพื่อนฝรั่งก็ถกกันอย่างเมามันเลยค่ะ ว่า เเซมถ้าไม่อยากมีก็ต้องบอกไปเลย ความเห็นที่ถูกใจสุด คือ ถ้ามาเรียรักแซมมาเรียต้องเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของแซมด้วย ปรบมือออออออค่าาาาา
อีกอันหนึ่งค่ะที่ จขกท ว่าพีคสุดๆละ เจนนี่คบกันกับไบรอัน ทั้งคู่เคยลึกซึ้งกันที่สุดคือจูบ วันหนึ่งเจนนี่ชวนไบรอันมานอนค้างที่บ้านและนอนเตียงเดียวกันกับเธอ (และด้วยบรรยากาศเป็นใจ) ทั้งคู่เริ่มกอดกัน และจูบกัน และเริ่มถอดเสื้อผ้าของกันและกัน ( เห้ยยยยย) เมื่อถอดท่อนบนแล้ว จู่ๆเจนนี่ก็บอกกับไบรอันว่า เธออยากรักษาความบริสุทธิ์ไว้จนถึงวันแต่งงาน
ไบรอันก็บอกแบบไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้วนะ เจนนี่ก็ย้ำว่า เธออยากเก็บเวอร์จิ้นของหล่อนไว้จริงๆ ไบรอันก็บอกว่า อ่ะๆ ถ้างั้น ใช้ลิ้นแทนมั้ยล่ะ เธอก็ยังบริสุทธิ์อยู่ เจนนี่ก็ลังเล แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง
อื้อหือ เจนนี่ ทำไมหนูสตอเบอรรี่ขั้นนี้คะลูกกกก หนูอยากเวอร์จิ้น หนูยังชวนเขามานอนเตียงเดียวกันอีก
ตอนนี้เพื่อนฝรั่งถกใหญ่เลยค่ะ เพื่อนผชก็พูดว่าเจนนี่ เล่นตัวอ่ะ ถ้าอยากเวอร์จิ้นจริงๆ ก็ไม่น่าชวนมานอนที่เตียงเดียวกัน แล้วแบบใช้ลิ้นได้ด้วยนะ55555
เพื่อนผู้หญิงก็บอกเลย ว่าจริงๆแล้วเจนนี่ก็คงอยากมีแหละ แต่คงยังกล้าๆกลัวอยู่ๆ เพราะถ้าไม่อยากจริงๆก้ต้อง เซย์โนว ตั้งแต่เเรกๆแล้ว
พอเวลาใกล้หมดคาบ ก็สรุปกันว่า เราคุยเรื่องอะไรกันบ้าง แล้วอาจารย์ก็ย้ำว่า การมีเซ็กส์ต้องอายุเท่าไหร่ขึ้นไป แล้วถ้าจะมีต้องใช้ถุงยางนะ แล้วรู้มั้ยว่า Campus ของเราเนี่ย จะเอาถุงยางฟรีที่ไหน
นร: Health Center !!
จากนั้น อาจารย์ก็บอกอืมดีมาก พอตอนจะออกจากห้อง ได้ยินเพื่อนผญ คนนึงพูด เอาจริงๆ เราว่า ต้องดูดีๆด้วยนะ เพราะถุงยางบางอันที่ Health Center ก็หมดอายุ
จขกท นี่ หาาาาา นี่เธอรู้ลึกรู้จริงเบอร์นี้เลยเหรอ55555
คือที่นี่ดูเป็นการพูดที่ ค่อนข้างเปิดอกคุยกันที่จริงจังกว่า บ้านเราเยอะ ตามประสบการณ์แล้วที่คุยจริงจังจริงๆ จขกท ก็จะคุยกับแม่ อย่างเดียว จำได้ว่า เคยคุยกับพ่อครั้งนึง พ่อก็อายและไม่คุยด้วยเลย5555 ตอนแรกเคยมีความคิดอยู่ว่าถ้ามีการสอนเรื่องเพศ แยกสอน แล้วเอาครูที่เพศเดียวกันสอนดีกว่ามั้ย นร จะได้ไม่อาย พอเอาเข้าจริง มันกลายเป็นว่า การที่เรียนรวมๆกัน มันทำให้เราเรียนรู้ทัศนคติของเพื่อนต่างเพศด้วยนะว่าเขาคิดยังไง
แต่ถ้าถาม จขกท ที่ได้ไปเรียนแบบนี้ ตอนแรกก็รู้สึกกระดากอายมากๆ แต่มันทำให้เรารู้ตัวเหมือนกันว่า ที่จริงแล้วนั้น เรายังมีความรู้น้อยอยู่
ซึ่งคาบต่อๆมา ก็มีพวกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ SDD อันนี้ จขกท จะมาเล่าในโอกาสต่อไป เพราะคิดว่า ที่บ้านเรายังคุยถึงเรื่องนี้กันน้อยมากๆ
จนบางทีก็เกิดความเข้าใจผิดอีก
จขกท เลยมาคิดเกี่ยวกับปัญหาที่บ้านเรา ที่ผู้ใหญ่บางคนบอกว่า เหมือนชี้โพรงให้กระรอก อันนี้ก็ไม่กล้าปฏิเสธค่ะ เพราะ จขกท ก็เหมือนเปิดโลกเลยเหมือนกัน แต่เราก็อย่าลืมว่า การที่เราระวัง ไม่พูดเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง มันเกิดผลอะไรบ้าง ปัญหาเรื่องของคุณแม่วัยใส เรื่องท้องไม่พร้อม ยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า เท่าที่ผ่านมา ค่อนข้างจะพิสูจน์ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
จขกท ขอเป็นคนนึงที่ออกความคิดเห็นนะคะ ว่า เรื่องเพศศึกษาเราควรจะมีการเรียนรู้กันอย่างจริงจัง แต่ในขณะเดียวกัน จขกท เองก็อยากให้มีการปลูกฝัง ให้เด็กๆเราเอง รู้คุณค่าของตัวเองด้วย ไม่ใช่เห็นผิดเป็นชอบ เข้าใจอะไรผิดๆ ที่คิดว่าทำแล้วเท่ หรือ เจ๋ง หรือค่านิยมแปลกๆต่างๆ
จขกท เชื่อว่า ปัญหาบ้านเราที่เกิดอยู่ ถ้าเราหันหน้าเข้ามาคุยกันจริงจัง เราก็จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ และทรัพยากรบุคคลของประเทศเราก็จะมีคุณภาพมากขึ้นด้วยค่ะ
[:อมยิ้ม17:]
[:นานาขอบคุณ:]