ทริปใหญ่ทุกสิ้นปี 1 ปี ออกทริป 1 ครั้ง นี่คือแพลนที่วางไว้..
ดองรูปไว้เกือบครบปี วันนี้ว่างเลยถือโอกาสมาเล่าเรื่องการเดินทางที่แสนพิเศษ พร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่าาาา
นี่คือแพลนที่เราช่วยกันคิด
แพร่ น่าน ภูชี้ฟ้า ดอยอ่างขาง ปาย แม่สอด
29/12/59 กทม. - บ้านไทรพร้าว จ.แพร่
30/12/59 บ้านไทรพร้าว - พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน - ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย
31/12/59 ภูชีฟ้า - วัดร่องขุ่น - ดอยอ่างขาง
01/01/60 ดอยอ่างขาง - อช.ห้วยน้ำดัง - ปาย
02/01/60 ปาย - แม่สอด
03/01/60 แม่สอด - กทม.
ทริปนี้เราไปกัน 3 คัน 5 คน (จริงๆไปกัน 4 คัน 7 คน แต่อีก 1 คันแยกกันตรงที่ จ.แพร่)
วันที่ 1 (29/12/2559)
เรานัดกันที่ปั๊ม ปตท. ตรง ม.กรุงเทพ ล้อหมุนเวลา 04.30 น.
ขี่มาได้ซักพักก็แวะปั๊มแรกที่ จ.ชัยนาท เพื่อเติมน้ำมัน และเข้าห้องน้ำกัน จากนั้นเราก็แวะพักทานมื้อเช้าที่ อ.พยุหคีรี (จขกท. จะบอกว่าก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เด็ดมาก แต่จำชื่อร้านไม่ได้พิกัดร้านจะอยู่ตรงสี่แยกไฟแดงพยุหคีรี แล้วเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 50 เมตร ร้านจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ)
จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.นครสวรรค์ แต่ลูกชายของ จขกท. เกิดงอแงนิดหน่อยน้ำมันเฟืองท้ายรั่วเลยต้องหาร้านซ่อมในตัวเมืองนครสวรรค์ ซ่อมเสร็จค่าเสียหาย 250 บ.
หลังจากแก้ไขเสร็จเราก็เดินทางกันต่อค่ะ โดยที่พักคืนแรกของเราจะอยู่ที่ บ้านไทรพร้าว จ.แพร่ ซึ่งเป็นบ้านของ จขกท. เองค่ะ ก่อนการเดินทาง เราปรึกษากันวิ่งไม่เกิน 120 กม./ชม. และจะพักทุกๆ 100 กม.
และเราก็มาถึง จ.แพร่ ประมาณ 14.30 น. (สร้างแลนด์มาร์คกันหน่อย)
แวะถ่ายรูปประมาณ 15-20 นาที เราก็ขึ้นดอยกันค่ะ เพราะบ้าน จขกท อยู่บนดอยห่างจากตัวเมืองประมาณ 50 กม. (แต่ไฟฟ้าเข้าถึงนะ แถมมีสัญญาณโทรศัพท์แล้วด้วย😁) ก่อนขึ้นบ้าน พวกเราแวะซื้อของกินที่ อ.ร้องกวาง กันก่อนจากนั้นไปค่ะ ขึ้นดอยกัน พวกเราถึงบ้านประมาณ 16.30 น. อากาศกำลังดี ประมาณ 20 องศา แต่แม่ จขกท. บอกว่าให้รีบอาบน้ำก่อน 6 โมงเย็น ไม่งั้นจะอาบน้ำไม่ได้เพราะหนาวมากกก
ในรูปตอนนั้นเวลาประมาณ 4 ทุ่มค่ะ ประมาณ 12 องศา หนาวกำลังดีเลยค่ะ ❄️❄️
วันที่ 2 (30/12/2559)
ตื่นกันแต่เช้าค่ะ อากาศตอนเช้าประมาณ 10 องศา หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ พวกเราก็เก็บของเตรียมเดินทาง วันนี้แพลนทริปคือไปไหว้วัดพระธาตุแช่แห้ง และไปพักที่ภูชี้ฟ้าค่ะ
10.30 น. ล้อหมุนสู่ จ.น่าน
คันนี้รถแรง ต้องพกน้ำมันเครื่องส่วนตัวไปด้วย 🤣🤣
ถึง จ.น่าน ประมาณ 11.45 น. จุดหมายแรก วัดพระธาตุแช่แห้ง แวะทำบุญเป็นสิริมงคล รวยๆ เฮงๆ เดินทางปลอดภัยตลอดทั้งทริปค่าาาา
บ่ายคล้อย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เติมพลังก่อนล้อหมุนสู่ภูชี้ฟ้า (ร้านนึ้อยู่ตรงสี่แยกไฟแดงก่อนถึงพระธาตุแช่แห้งค่ะ)
13.30 น. เริ่มเดินทางกันต่อค่ะ แต่ระหว่างทางคือต้องแวะกันข้างทางเพราะหลับในกันเหตุจากกินอิ่มเกินนนนน 5555555
เค้าว่ากันว่า "คิดถึงเขา ก็ไปหาเขา" เขาจ๋าาา รอพี่แปป พี่กำลังไป 😍😍
พวกเราจะแวะพักทุกๆ 100 กม. ถึงภูชี้ฟ้าประมาณ 17.00 น.
คืนนี้ จขกท พักที่ ภูหมอก แคมป์ ได้จองล่วงหน้าไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ ที่พักที่นี้คือ มีอาหารเย็นและอาหารเช้าให้ โดยคิดเป็นหัว หัวละ 450 บ. แต่พวกเรานอนเต้นท์กันนะคะ ได้บรรยากาศอีกอีกแบบนึง
*ทริปนี้เป็นที่ขี่รถกันทรหดที่สุดขี่ข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว เพราะวันนึงพวกเราขี่รถกันอยู่ที่ประมาณ 200-300 กม.
วันที่ 3 (31/12/2559)
ลุงแดง เจ้าของภูหมอก แคมป์ ปลุกพวกเราตั้งแต่ 04.30 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดภูชี้ฟ้า สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ไปได้ค่ะ แต่ต้องจอดไว้ด้านล่างจากนั้นก็นั่งรถกะบะขึ้นไป (ขึ้น-ลง เที่ยวละ 10-15 บ. อันนี้ จขกท. ลืม ไม่ค่อยแน่ใจ) พอลงจากรถต้องเดินเท้าระยะทาง 750 เมตร เพื่อไปยอดภูชี้ฟ้า แต่ จขกท. ห่างหายจากการออกกำลังกายมานาน เลยหยุดอยู่ตรงแค่ตีนภูค่ะ
มันก็จะหวานๆหน่อย 😊
พวกเราใช้เวลาบนภูชี้ฟ้าประมาณ 30-45 นาที ก็ลงมาเพื่อจะกลับไปที่พัก และกินข้าวเช้าเพื่อเดินทางต่อค่ะ
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ก็เก็บของและเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปของเราคือ วัดร่องขุ่น (ทีแรกจะไปไร่บุญรอดด้วย แต่ดูเวลาแล้วไม่น่าจะทันเลยต้องตัดออกไป คราวหน้าค่อยมาเก็บ) บ๊ายบายยย ภูชี้ฟ้า & ภูหมอก แคมป์
ก่อนลงดอยขอซักรูปเน๊าะ
10.00 น. เราลงจากภูชี้ฟ้า สถานีต่อไปคือวัดร่องขุ่น
ถึงวัดก็เกือบๆบ่ายโมง คนเยอะมากเพราะเป็นช่วงหยุดยาว เราอยู่ที่วัดประมาณ 30-45 นาที จุดหมายต่อไปคือ ดอยอ่างขาง
(จขกท. เก็บเอาดอกหญ้าข้างทางติดรถมาด้วย มันดูมุ้งมิ้งดีนะคะ 😁😁)
ปีนี้รถของ จขกท. บรรทุกหนักมากค่ะเพราะหอบเต้นท์ใหญ่ เบาะรองนอน 2 อัน หมอน 2 ใบ ผ้าห่ม 1 ผืน ถุงนอน 1 อัน เตาแก๊สแบบพกพา ทำเอาเกือบขึ้นดอยอ่างขางไม่รอด ช่วงที่ชันมากๆ จขกท. ดูไมล์บิดได้แค่ 20 เองค่ะ จนต้องบอกแฟนว่า ให้ลงก่อนมั้ยคุณเอาของขึ้นไปเก็บก่อนแล้วค่อยลงมารับ แต่พี่อีกคนช่วยมาแบ่งสัมภาระไป ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงดอยอ่างขางค่ะ
(ดอยอ่างขางเป็นสถานที่ที่ จขกท. ประทับใจมากที่สุด เพราะขึ้นยากและไม่คิดว่ารถของเราจะขึ้นมาได้)
เรามาถึงดอยอ่างขางเวลาประมาณ 17.00 น. อากาศเย็นสบายค่ะ และคนก็เยอะมาก สถานที่กางเต้นท์เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
พวกเราหาที่พักกันประมาณ 30-45 นาที สุดท้ายได้มาพักที่ฐานปฏิบัติบ้านนอแล แต่ก่อนจะได้ขึ้นไปบนฐาน ต้องใช้เวลาเจรจากับ จนท. ประมาณ 15 นาที เพราะทาง จนท บอกกับกลุ่มเราว่า ไม่สามารถขึ้นไปบนฐานได้เพราะข้างบนที่จอดเต็มจอดไม่ได้ แต่เราก็ขอว่าเรามากันแค่ 3 คัน และเอาเต้นท์มาเอง ในที่สุดเราก็ได้ขึ้นไปข้างบนและหาที่กางเต้นท์กันค่ะ ซึ่งตอนนั้นฟ้าก็มืดแล้ว หาที่กางเต้นท์ค่อนข้างยาก เพราะคนเยอะมาก และกว่าจะกางเต้นท์เสร็จก็ลำบากพอควรค่ะเพราะมืด และลมแรงมากอากาศค่อนข้างหนาว
คืนนี้ขอลาไปก่อนฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะ
วันที่ 4 (01/01/2560)
ตอนเช้าพวกเราตื่นกันแต่เช้า เดินดูรอบๆคนเยอะมากค่ะ เพราะเป็นช่วงเทศกาล อากาศค่อนข้างหนาวค่ะน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10-11 องศาและลมค่อนข้างแรง
กินข้าวเช้ากันในเต้นท์ เสบียงที่แวะซื้อจากเซเว่นก่อนขึ้นดอย
หลังจากทานอาหารเสร็จก็เก็บของ เตรียมเดินทางต่อ เราคุยกันว่าจะแวะเที่ยวที่สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง
ขาลงจากดอยอ่างขางประมาณ 11.00 น. พวกเราลงทาง อ.เชียงดาว ระหว่างทางมีหมอกฟรุ้งฟริ้งตลอดทาง
สถานีต่อไปคือ อช.ห้วยน้ำดัง
ระหว่างมีฝนปรอยๆสลับหมอก
ถึง อช.ห้วยน้ำดัง ประมาณ 15.00 น. ตอนแรกว่าจะนอนใน อช. ค่ะ แต่พวกพี่ๆเปลี่ยนใจเลยต้องเข้ามานอนใน อ.ปาย แทน
จขกท. สายหอบค่ะไม่หอบก็ไม่ได้เด้อออ 😁🤣
วันนี้เรานอนที่ อ.ปาย แต่วันนี้เช่าห้องพัก คืนละ 600 บ. ราคาน่าคบหา เจ้าของน่ารัก (โรงแรมซันซายด์ ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
มาถึงปายที่พลาดไม่ได้คือ ถนนคนเดิน แต่จขกท.มา 2 ครั้งแล้ว เลยเดินหาแค่ของกิน อันนี้ของโปรดเลย นานแค่ไหนก็ยืนรอ แท่น แท้น แท๊นนนนนนนนนน มันคือ ไข่ป่ามค่ะ หอม อร่อย
[CR] ทริปตะลุยเมืองเหนือ 5 คืน 6 วัน ระยะทางสู่ขุนเขา 2,331 กม. (29 ธ.ค. 59 - 3 ธ.ค. 60)
ดองรูปไว้เกือบครบปี วันนี้ว่างเลยถือโอกาสมาเล่าเรื่องการเดินทางที่แสนพิเศษ พร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่าาาา
นี่คือแพลนที่เราช่วยกันคิด
แพร่ น่าน ภูชี้ฟ้า ดอยอ่างขาง ปาย แม่สอด
29/12/59 กทม. - บ้านไทรพร้าว จ.แพร่
30/12/59 บ้านไทรพร้าว - พระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน - ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย
31/12/59 ภูชีฟ้า - วัดร่องขุ่น - ดอยอ่างขาง
01/01/60 ดอยอ่างขาง - อช.ห้วยน้ำดัง - ปาย
02/01/60 ปาย - แม่สอด
03/01/60 แม่สอด - กทม.
ทริปนี้เราไปกัน 3 คัน 5 คน (จริงๆไปกัน 4 คัน 7 คน แต่อีก 1 คันแยกกันตรงที่ จ.แพร่)
วันที่ 1 (29/12/2559)
เรานัดกันที่ปั๊ม ปตท. ตรง ม.กรุงเทพ ล้อหมุนเวลา 04.30 น.
ขี่มาได้ซักพักก็แวะปั๊มแรกที่ จ.ชัยนาท เพื่อเติมน้ำมัน และเข้าห้องน้ำกัน จากนั้นเราก็แวะพักทานมื้อเช้าที่ อ.พยุหคีรี (จขกท. จะบอกว่าก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เด็ดมาก แต่จำชื่อร้านไม่ได้พิกัดร้านจะอยู่ตรงสี่แยกไฟแดงพยุหคีรี แล้วเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 50 เมตร ร้านจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ)
จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.นครสวรรค์ แต่ลูกชายของ จขกท. เกิดงอแงนิดหน่อยน้ำมันเฟืองท้ายรั่วเลยต้องหาร้านซ่อมในตัวเมืองนครสวรรค์ ซ่อมเสร็จค่าเสียหาย 250 บ.
หลังจากแก้ไขเสร็จเราก็เดินทางกันต่อค่ะ โดยที่พักคืนแรกของเราจะอยู่ที่ บ้านไทรพร้าว จ.แพร่ ซึ่งเป็นบ้านของ จขกท. เองค่ะ ก่อนการเดินทาง เราปรึกษากันวิ่งไม่เกิน 120 กม./ชม. และจะพักทุกๆ 100 กม.
และเราก็มาถึง จ.แพร่ ประมาณ 14.30 น. (สร้างแลนด์มาร์คกันหน่อย)
แวะถ่ายรูปประมาณ 15-20 นาที เราก็ขึ้นดอยกันค่ะ เพราะบ้าน จขกท อยู่บนดอยห่างจากตัวเมืองประมาณ 50 กม. (แต่ไฟฟ้าเข้าถึงนะ แถมมีสัญญาณโทรศัพท์แล้วด้วย😁) ก่อนขึ้นบ้าน พวกเราแวะซื้อของกินที่ อ.ร้องกวาง กันก่อนจากนั้นไปค่ะ ขึ้นดอยกัน พวกเราถึงบ้านประมาณ 16.30 น. อากาศกำลังดี ประมาณ 20 องศา แต่แม่ จขกท. บอกว่าให้รีบอาบน้ำก่อน 6 โมงเย็น ไม่งั้นจะอาบน้ำไม่ได้เพราะหนาวมากกก
ในรูปตอนนั้นเวลาประมาณ 4 ทุ่มค่ะ ประมาณ 12 องศา หนาวกำลังดีเลยค่ะ ❄️❄️
วันที่ 2 (30/12/2559)
ตื่นกันแต่เช้าค่ะ อากาศตอนเช้าประมาณ 10 องศา หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ พวกเราก็เก็บของเตรียมเดินทาง วันนี้แพลนทริปคือไปไหว้วัดพระธาตุแช่แห้ง และไปพักที่ภูชี้ฟ้าค่ะ
10.30 น. ล้อหมุนสู่ จ.น่าน
คันนี้รถแรง ต้องพกน้ำมันเครื่องส่วนตัวไปด้วย 🤣🤣
ถึง จ.น่าน ประมาณ 11.45 น. จุดหมายแรก วัดพระธาตุแช่แห้ง แวะทำบุญเป็นสิริมงคล รวยๆ เฮงๆ เดินทางปลอดภัยตลอดทั้งทริปค่าาาา
บ่ายคล้อย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เติมพลังก่อนล้อหมุนสู่ภูชี้ฟ้า (ร้านนึ้อยู่ตรงสี่แยกไฟแดงก่อนถึงพระธาตุแช่แห้งค่ะ)
13.30 น. เริ่มเดินทางกันต่อค่ะ แต่ระหว่างทางคือต้องแวะกันข้างทางเพราะหลับในกันเหตุจากกินอิ่มเกินนนนน 5555555
เค้าว่ากันว่า "คิดถึงเขา ก็ไปหาเขา" เขาจ๋าาา รอพี่แปป พี่กำลังไป 😍😍
พวกเราจะแวะพักทุกๆ 100 กม. ถึงภูชี้ฟ้าประมาณ 17.00 น.
คืนนี้ จขกท พักที่ ภูหมอก แคมป์ ได้จองล่วงหน้าไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ ที่พักที่นี้คือ มีอาหารเย็นและอาหารเช้าให้ โดยคิดเป็นหัว หัวละ 450 บ. แต่พวกเรานอนเต้นท์กันนะคะ ได้บรรยากาศอีกอีกแบบนึง
*ทริปนี้เป็นที่ขี่รถกันทรหดที่สุดขี่ข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว เพราะวันนึงพวกเราขี่รถกันอยู่ที่ประมาณ 200-300 กม.
วันที่ 3 (31/12/2559)
ลุงแดง เจ้าของภูหมอก แคมป์ ปลุกพวกเราตั้งแต่ 04.30 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดภูชี้ฟ้า สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ไปได้ค่ะ แต่ต้องจอดไว้ด้านล่างจากนั้นก็นั่งรถกะบะขึ้นไป (ขึ้น-ลง เที่ยวละ 10-15 บ. อันนี้ จขกท. ลืม ไม่ค่อยแน่ใจ) พอลงจากรถต้องเดินเท้าระยะทาง 750 เมตร เพื่อไปยอดภูชี้ฟ้า แต่ จขกท. ห่างหายจากการออกกำลังกายมานาน เลยหยุดอยู่ตรงแค่ตีนภูค่ะ
มันก็จะหวานๆหน่อย 😊
พวกเราใช้เวลาบนภูชี้ฟ้าประมาณ 30-45 นาที ก็ลงมาเพื่อจะกลับไปที่พัก และกินข้าวเช้าเพื่อเดินทางต่อค่ะ
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ ก็เก็บของและเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปของเราคือ วัดร่องขุ่น (ทีแรกจะไปไร่บุญรอดด้วย แต่ดูเวลาแล้วไม่น่าจะทันเลยต้องตัดออกไป คราวหน้าค่อยมาเก็บ) บ๊ายบายยย ภูชี้ฟ้า & ภูหมอก แคมป์
ก่อนลงดอยขอซักรูปเน๊าะ
10.00 น. เราลงจากภูชี้ฟ้า สถานีต่อไปคือวัดร่องขุ่น
ถึงวัดก็เกือบๆบ่ายโมง คนเยอะมากเพราะเป็นช่วงหยุดยาว เราอยู่ที่วัดประมาณ 30-45 นาที จุดหมายต่อไปคือ ดอยอ่างขาง
(จขกท. เก็บเอาดอกหญ้าข้างทางติดรถมาด้วย มันดูมุ้งมิ้งดีนะคะ 😁😁)
ปีนี้รถของ จขกท. บรรทุกหนักมากค่ะเพราะหอบเต้นท์ใหญ่ เบาะรองนอน 2 อัน หมอน 2 ใบ ผ้าห่ม 1 ผืน ถุงนอน 1 อัน เตาแก๊สแบบพกพา ทำเอาเกือบขึ้นดอยอ่างขางไม่รอด ช่วงที่ชันมากๆ จขกท. ดูไมล์บิดได้แค่ 20 เองค่ะ จนต้องบอกแฟนว่า ให้ลงก่อนมั้ยคุณเอาของขึ้นไปเก็บก่อนแล้วค่อยลงมารับ แต่พี่อีกคนช่วยมาแบ่งสัมภาระไป ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงดอยอ่างขางค่ะ
(ดอยอ่างขางเป็นสถานที่ที่ จขกท. ประทับใจมากที่สุด เพราะขึ้นยากและไม่คิดว่ารถของเราจะขึ้นมาได้)
เรามาถึงดอยอ่างขางเวลาประมาณ 17.00 น. อากาศเย็นสบายค่ะ และคนก็เยอะมาก สถานที่กางเต้นท์เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
พวกเราหาที่พักกันประมาณ 30-45 นาที สุดท้ายได้มาพักที่ฐานปฏิบัติบ้านนอแล แต่ก่อนจะได้ขึ้นไปบนฐาน ต้องใช้เวลาเจรจากับ จนท. ประมาณ 15 นาที เพราะทาง จนท บอกกับกลุ่มเราว่า ไม่สามารถขึ้นไปบนฐานได้เพราะข้างบนที่จอดเต็มจอดไม่ได้ แต่เราก็ขอว่าเรามากันแค่ 3 คัน และเอาเต้นท์มาเอง ในที่สุดเราก็ได้ขึ้นไปข้างบนและหาที่กางเต้นท์กันค่ะ ซึ่งตอนนั้นฟ้าก็มืดแล้ว หาที่กางเต้นท์ค่อนข้างยาก เพราะคนเยอะมาก และกว่าจะกางเต้นท์เสร็จก็ลำบากพอควรค่ะเพราะมืด และลมแรงมากอากาศค่อนข้างหนาว
คืนนี้ขอลาไปก่อนฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะ
วันที่ 4 (01/01/2560)
ตอนเช้าพวกเราตื่นกันแต่เช้า เดินดูรอบๆคนเยอะมากค่ะ เพราะเป็นช่วงเทศกาล อากาศค่อนข้างหนาวค่ะน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10-11 องศาและลมค่อนข้างแรง
กินข้าวเช้ากันในเต้นท์ เสบียงที่แวะซื้อจากเซเว่นก่อนขึ้นดอย
หลังจากทานอาหารเสร็จก็เก็บของ เตรียมเดินทางต่อ เราคุยกันว่าจะแวะเที่ยวที่สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง
ขาลงจากดอยอ่างขางประมาณ 11.00 น. พวกเราลงทาง อ.เชียงดาว ระหว่างทางมีหมอกฟรุ้งฟริ้งตลอดทาง
สถานีต่อไปคือ อช.ห้วยน้ำดัง
ระหว่างมีฝนปรอยๆสลับหมอก
ถึง อช.ห้วยน้ำดัง ประมาณ 15.00 น. ตอนแรกว่าจะนอนใน อช. ค่ะ แต่พวกพี่ๆเปลี่ยนใจเลยต้องเข้ามานอนใน อ.ปาย แทน
จขกท. สายหอบค่ะไม่หอบก็ไม่ได้เด้อออ 😁🤣
วันนี้เรานอนที่ อ.ปาย แต่วันนี้เช่าห้องพัก คืนละ 600 บ. ราคาน่าคบหา เจ้าของน่ารัก (โรงแรมซันซายด์ ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
มาถึงปายที่พลาดไม่ได้คือ ถนนคนเดิน แต่จขกท.มา 2 ครั้งแล้ว เลยเดินหาแค่ของกิน อันนี้ของโปรดเลย นานแค่ไหนก็ยืนรอ แท่น แท้น แท๊นนนนนนนนนน มันคือ ไข่ป่ามค่ะ หอม อร่อย