มาร์ติน่า ฮินกิส ตำนานนักเทนนิสหญิงชาวสวิส อดีตมือ 1 ของโลกประเภทเดี่ยวและมือ 1 โลกประเภทคู่ในปัจจุบัน ประกาศอำลาวงการสักหลาดโลกเป็นรอบที่ 3 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยฮินกิสวัย 37 ปี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการแข่งขันรายการส่งท้ายปี “ดับเบิลยูทีเอ ไฟนัลส์” ที่ประเทศสิงคโปร์อยู่ในขณะนี้ ยืนยันว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว จะไม่กลับมาร่วมแข่งขันอีกอย่างแน่นอน เพราะมองว่าหลังจากผ่านฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมมาแล้ว น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะจะได้ลาวงการไปในตอนที่ยังอยู่ในจุดสูงสุด

ฮินกิสโพสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า เมื่อมองย้อนกลับไป ไม่อยากจะเชื่อว่าตั้งแต่เริ่มต้นเล่นเทนนิสอาชีพจนถึงตอนนี้จะนานถึง 23 ปีแล้ว แต่ละปีที่ผ่านไปเป็นช่วงเวลาล้ำค่าของตนทั้งในฐานะนักกีฬาอาชีพและคนคนหนึ่ง แต่คิดว่าถึงเวลาต้องหยุดอยู่แค่นี้ โดยจบการแข่งขันรายการดับเบิลยูทีเอ ไฟนัลส์ เมื่อไรก็จะอำลาวงการในฐานะนักกีฬา แต่ยืนยันว่าจะยังคงอยู่ในวงการเทนนิสต่อไป อาจจะในฐานะโค้ช

สำหรับเจ้าของฉายา “สวิส มิส” แจ้งเกิดตั้งแต่สมัยเป็นนักหวดวัยรุ่น ก้าวขึ้นไปสู่บัลลังก์มือ 1 ของโลก และคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ 5 สมัย ก่อนจะอำลาวงการอย่างกะทันหันในปี 2003 ขณะอายุเพียง 22 ปี เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บเรื้อหลัง หลังจากนั้นอีก 2 ปีก็กลับมาแข่งขันอีกครั้ง แต่ก็ต้องลาวงการอีกรอบหลังจากไม่ผ่านการตรวจสารต้องห้ามในศึก “วิมเบิลดัน” เมื่อปี 2007

ฮินกิสกลับสู่ดับเบิลยูทีเอทัวร์รอบใหม่ในปี 2012 โดยหันไปเอาดีในประเภทคู่ และจับคู่กับนักเทนนิสหลายคนทั้งชายหญิง สามารถคว้าแชมป์ระดับแกรนด์สแลมทั้งหญิงคู่และคู่ผสมได้ถึง 20 รายการ

ด้านโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อีกหนึ่งตำนานนักหวดสวิส ให้เครดิตฮินกิสว่ามีส่วนช่วยให้เขาก้าวมาประสบความสำเร็จเป็นแชมป์แกรนด์สแลมถึง 19 สมัย เพราะเป็นรุ่นพี่ที่แสดงให้เห็นเส้นทางในวงการเทนนิส สวิตเซอร์แลนด์โชคดีที่มีนักกีฬายอดเยี่ยมอย่างฮินกิส หลังจากทราบข่าวนี้ ตนไม่รู้สึกเสียใจที่ฮินกิสอำลาวงการ เพราะคิดว่าเจ้าตัวคงตัดสินใจเป็นอย่างดีแล้ว และไม่ว่าเมื่อไร ตนก็เป็นแฟนตัวยงของเธอเสมอ


cr.https://www.matichon.co.th/news/711194

---------------------------------------------------------------------------

จาก ig https://www.instagram.com/p/Bat1VKqB2wB/