"เฟี้ยววว......."
เสียงเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่านเหนือศีรษะของทุกคนซึ่งกำลังหลบอยู่ในหลุมหลังบังเกอร์ ในเวลาเดียวกันกับที่พลทหารซึ่งกัปตันวันชนะจำหน้าได้ว่าคือ อดอล์ฟ อิตเลอร์ กำลังวิ่งถือสาสน์มาใกล้จะผ่านบังเกอร์ตรงนั้นพอดี กัปตันหนุ่มแหงนมองดูเครื่องบินลำนั้นแล้วก็ต้องร้องตะโกนเตือนภัยบอกลูกทีม
"หมอบลง ระเบิด!!"
"ฟิ้วว..."
"บึมมม !!!"
ระเบิดลูกหนึ่งถูกปล่อยลงที่พื้นห่างจากบังเกอร์นั้นราวสองร้อยเมตร กรวดหินดินทรายและฝุ่นกระจาย ทุกคนหมอบราบลงกับพื้น ควันไฟตลบฟุ้ง จนครู่หนึ่งจึงค่อยจางหายไป
กัปตันวันชนะค่อยๆโงหัวขึ้นมาจนพ้นจากขอบบังเกอร์ สอดส่ายสายตามองหาบุคคลผู้เป็นอนาคตผู้นำนาซีไปทั่ว
เขาหายไปแล้ว !!!
เสียงปืน เสียงระเบิด ยังมีมาให้ได้ยินจากที่ไกล เป็นระยะๆ
"ทุกคนไม่เป็นไรนะ ?" กัปตันหนุ่มหันไปทั้งซ้ายและขวาสอบถามลูกทีม
"ไม่เป็นไรครับ"/"ไม่เป็นไรค่ะกัปตัน"
"โอเค...." เขาพยักหน้า แล้วมองไปทางทิศตะวันออก ตามรอยเท้าซึ่งมองเห็นปรากฏวิ่งผ่านไปไกล
"ฮิตเลอร์คงวิ่งไปไกลแล้วละครับ.." แซมเอ่ยขึ้นมา
"ผมตั้งตัวไม่ติด คิดไม่ทัน" กัปตันมองหน้าลูกน้องหนุ่ม "แค่เห็นเขาทีแรกก็ตกใจแล้ว แถมเครื่องบินทิ้งระเบิดลงมากระทันหันอีก ดีที่ไม่ลงมาที่เราหลบกันอยู่นี่ ไม่งั้นคงเละกันหมด"
"กัปตัน คิดอะไรหรือคะ ที่ว่าคิดไม่ทัน ?" สาวเล็กเอ่ยถาม
"คือถ้าผมคิดทัน ผมก็ต้องยิงเขา!" กัปตันขบกรามกรอด "นั่นคืออนาคตอาชญากรสงคราม ผู้นำกองทัพนาซีซึ่งสุดจะโหดร้ายทารุน เขาจะสังหารชาวยิวนับไม่ถ้วน เขาจะก่อสงครามโลกครั้งที่สอง ปล่อยไว้ไม่ได้ เมื่อเรามีโอกาส ต้องกำจัดเขา!"
"แล้ว...กัปตัน จะเอาไงต่อครับ เขาหนีไปแล้ว ? พวกเราต้องตามเขาไหมครับ ?" เอกเป็นฝ่ายถามบ้าง
"ต้องตาม!!!" เขาคำราม "รอยเท้าของเขาปรากฏให้เห็นอยู่ เขาวิ่งผ่านบังเกอร์ที่เราหลบกันอยู่ไปทางตะวันออก ถึงจะไปไกลแล้วเราก็ต้องตามไป จัดการเขาให้ได้ ก่อนจะ 'จั๊มพ์' ไปที่อื่นกันต่อ เราคงไม่เสียเวลาอยู่ที่นี่ในช่วงเวลานี้นานนัก...ไปกันเถอะ!"
พูดจบแล้ว กัปตันวันชนะก็รีบลุกขึ้นและออกวิ่งนำหน้า สะกดรอยเท้าอดอล์ฟ อิตเลอร์ไปทันที ลูกทีมทั้ง 4 คนจึงรีบวิ่งตาม
ผู้มาจากอนาคตทั้ง 5 คน วิ่งไปประมาณครึ่งไมล์ จึงได้เห็นเต็นท์หลังใหญ่หลังหนึ่งกางอยู่ข้างหน้าไกลลิบๆ
กัปตันวันชนะชะลอฝีเท้าลงแล้วหยุด กางแขนขวาออกห้ามมิให้ใครไปต่อ
"มีเต็นท์หลังหนึ่งอยู่ข้างหน้า ฮิตเลอร์อาจไปพักอยู่ในนั้น" เขาบอกกับทุกคน "เราต้องค่อยๆแอบคืบคลานเข้าไป อยู่ในที่โล่งไม่ได้แล้ว หลบเข้าข้างทางซ้ายมือ พอมีพุ่มไม้ โขดหิน และบังเกอร์ให้กำบังตัวได้บ้าง...ไป!"
เขาโดดเข้าข้างทางด้านซ้ายซึ่งมีพุ่มไม้พงหญ้าเป็นหย่อมๆ และอีก 4 คนก็ตามมา
จากจุดนั้น ทุกคนก็ค่อยๆคืบคลานไปข้างหน้า อาศัยต้นไม้หรือพุ่มไม้บ้าง แนวโขดหินบ้าง หลุมหลบภัยบ้าง บังเกอร์บ้างเป็นเครื่องกำบัง...จนเข้าใกล้เต็นท์หลังนั้นในระยะห่างเพียงร้อยเมตร กัปตันจึงยกมือเป็นสัญญาณให้หยุด แล้วหันมาถามลูกน้องหญิงผมบ๊อบ
"คุณจอย รู้ภาษาเยอรมันใช่ไหม ?"
"พอได้ค่ะ กัปตัน" หล่อนพยักหน้า
"ผมเองก็พอถูๆไถๆได้อยู่ครับ" แซมเสนอตัวบ้าง
"ดีละ!" กัปตันกล่าวกับหนุ่มสาวทั้งสอง " งั้นคุณสองคน เข้าไปใกล้เต็นท์อีกสักหน่อย พยายามฟังคำพูดคนในเต็นท์ ได้เรื่องยังไงรีบกลับมา"
"ครับ/ค่ะ!"
สองหนุ่มสาวรับคำสั่ง แล้วพากันเดินเลียบข้างทาง มีบังเกอร์อีกที่หนึ่งให้กำบังตัวข้างหน้าประมาณ 20 เมตร ทั้งคู่รีบกระโจนไปหลังบังเกอร์นั้นทันที ก้าวไปข้างหน้า เข้าใกล้อีกสามสี่ก้าว แล้วจึงหยุด พยายามเงี่ยหูฟังเสียงจากภายในเต็นท์
ครู่หนึ่ง ทั้งสองก็ได้ยินเสียงการสนทนาภาษาเยอรมันของคนในเต็นท์
"ขอบใจนายอีกครั้งนะ พลทหารฮิตเลอร์ ที่เสี่ยงตายช่วยชีวิตฉันไว้ในวันนี้ ฉันจะทำเรื่องเสนอขอเหรียญกล้าหาญให้นายแน่นอน หลังจากพวกเรากลับไปถึงหน่วยแล้ว"
"ไม่เป็นไรครับผม ผู้พัน กระผมยินดีเสมอ มันเป็นหน้าที่อยู่แล้วครับผม"
"ดีมาก! นายเป็นทหารที่ดี"
"กระผมยินดีรับใช้เยอรมนีด้วยชีวิต ครับผม!"
"ดี...ดีมาก! เอาละ ตอนนี้คงจะไม่มีการสู้รบอะไรแล้ว พวกเราสมควรพักผ่อนกันสักหน่อย"
"ผู้พันพักผ่อนก่อนเถอะครับ กระผมจะอยู่เฝ้าเวรยามให้เองครับผม"
"นายก็พักผ่อนกับท่านผู้พันเถอะ อดอล์ฟ เพราะนายก็เหนื่อยมากแล้วเหมือนกัน ฉันเฝ้ายามให้เอง"
"ฉันเห็นด้วยกับเออซิลนะ เราพักผ่อนนอนกันสักงีบเถอะ"
"เอ่อ...ครับผม ผู้พัน ขอบคุณมากครับ......ขอบคุณนายมากนะ เออซิล!"
"ไม่เป็นไรเพื่อน พักผ่อนเถอะ..."
แล้วการสนทนาก็จบลง ความเงียบเข้ามาแทนที่
แซมและจอยพยักหน้าให้กันและกัน แล้วถอยกลับมาหากัปตันกับเพื่อนอีกสองคน
"ได้ความว่าไงบ้าง ?" กัปตันกระซิบถาม
"ดูเหมือนมีทหาร 3 นายอยู่ในเต็นท์ค่ะกัปตัน เพราะได้ยินเสียงคน 3 คน และหนึ่งในนั้นคือฮิตเลอร์!"
"อาจจะมีมากกว่านั้นก็ได้ครับกัปตัน" แซมกล่าวเสริมหลังจากสาวจอยรายงาน "และที่แน่ๆตอนนี้ ฮิตเลอร์และผู้พันคนหนึ่งกำลังนอนพักผ่อน โดยมีพลทหารอีกคนเฝ้ายามอยู่ครับ"
"ผู้พัน..งั้นเหรอ ?"
"ค่ะ กัปตัน ฮิตเลอร์เรียกเขาอย่างนั้น และเขาก็เรียกชื่อฮิตเลอร์ด้วย ชัดเจนค่ะ"
"พวกเขาพูดคุยเรื่องอะไรกัน ?"
"คนที่เป็นผู้พัน กล่าวขอบคุณฮิตเลอร์ที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ในวันนี้ค่ะ และบอกว่าจะทำเรื่องเสนอขอเหรียญกล้าหาญให้ฮิตเลอร์หลังจากกลับถึงหน่วยแล้ว"
"งั้นเหรอ ?" กัปตันถามย้ำ
"ค่ะ กัปตัน"
"อืม..." เขาเริ่มใช้ความคิด นึกทบทวนเรื่องราวของอนาคตผู้นำพรรคนาซี "ผมสงสัยว่า ผู้พันนั่น น่าจะเป็น พันเอก เองเกล ฮาร์ดท์ ซึ่งฮิตเลอร์ได้ช่วยชีวิตไว้ ในขณะที่เขากำลังพาออกลาดตระเวณใกล้กับแนวรบข้าศึก เมื่อครั้งที่เขาถูกส่งไปแนวหน้าใกล้กับเมืองยิพเพรส ชายแดนประเทศเบลเยี่ยม และทันทีที่มีเสียงห่ากระสุนสาดกระหน่ำเข้ามา เขาและเพื่อนพลทหารอีกคนหนึ่งรีบกระโดดผลักนายให้ล้มลงนอนในคูสนามเพลาะอย่างทันท่วงที ทำให้นายคือผู้พันเองเกล ฮาร์ดท์ รอดตายอย่างหวุดหวิด"
"เหตุการณ์อยู่ในปีไหนคะ ?" สาวเล็กเอ่ยถามบ้าง
"1914" เขาตอบอย่างมั่นใจ
"และจะมีเหตุการณ์สำคัญต่อจากนั้น ซึ่งพวกเราจะได้เห็นกันอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้!"
"จะเกิดอะไรขึ้นครับ ?"/"อะไรคะ ?" ลูกน้องทั้ง 4 ถามเกือบจะพร้อมกัน
"ระเบิดลูกหนึ่งจะลงที่เต็นท์นั่น! หลังจากฮิตเลอร์สะดุ้งตื่นด้วยเสียงกระซิบปลุกจากใครหรืออะไรก็ไม่รู้แล้วเขารีบเดินออกไปทัน!"
"งั้นก็แปลว่าตอนนี้เราอยู่ในสมรภูมิชายแดนของประเทศเบลเยี่ยม ในปี 1914 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง!" สาวจอยกล่าวสรุป
"เดี๋ยวถ้าเห็นฮิตเลอร์เดินออกจากเต็นท์ แล้วระเบิดลงเต็นท์นั่น ก็จะเป็นการยืนยันข้อสรุปของคุณจอย!" กัปตันพูดพลางพยักหน้า
"ถ้างั้นเรารอดูกันครับ" แซมกล่าวเป็นคนสุดท้าย จากนั้นทุกคนจึงเงียบ จับตาดูที่เต็นท์
กัปตันวันชนะ ถือปืนเลเซอร์ไว้มั่นในมือ เตรียมพร้อม หากเห็นอนาคตผู้นำพรรคนาซีเดินออกจากเต็นท์เมื่อไร เขาจะยิงทันที!
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ในที่สุด ทุกคนก็มองเห็นทหารนายหนึ่งแหวกผ้าประตูเต็นท์เดินออกมา และทำท่ากำลังจะออกวิ่ง !
วินาทีนั้น กัปตันวันชนะรีบยืนขึ้นและเล็งปืนเลเซอร์ขนาดพอๆกับปืนพกรีวอลเวอร์ไปยังร่างนั้น!
แต่ยังไม่ทันได้กดไกปืนปล่อยลำแสงเลเซอร์ ทุกคนก็ต้องชะงักและใจหายวาบ เมื่อได้ยินเสียงนกปืนดัง "กริ๊ก" ตามด้วยเสียงจากคนๆหนึ่งตะคอกถามมาจากข้างหลังเป็นภาษาเยอรมันอย่างดุดัน
"Einfrieren! Beweg dich nicht! Lass die Waffe fallen! Wer zum Teufel bist du ? "
ผู้มาจากอนาคตทั้ง 5 พากันยืนตัวแข็งด้วยความตื่นตระหนก กัปตันวันชนะกำลังจะปล่อยปืนพกเลเซอร์ให้ร่วงลงกับพื้น ในขณะเดียวกันกับที่เขาเห็น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ วิ่งหนีไปต่อหน้าต่อตา...
แต่แล้วทุกคน ณ ที่ตรงนั้นก็ต้องเซถลาไปคนละทิศคนละทาง เมื่อมีระเบิดลูกหนึ่งลงมาจากอากาศตกลงที่เต็นท์นั้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"บึ้มมมมมมมม !!!!!!"
เต็นท์เละกระจุยพร้อมกับความตายของทหารเยอรมันในเต็นท์ แรงระเบิดอันมหาศาลทำให้นายทหารเยอรมันคนนั้นหงายหลังล้มตึง ปืนหลุดจากมือไปพร้อมๆกับการล้มระเนระนาดของกัปตันวันชนะและลูกน้อง แต่เขายังมีสติพอที่จะรีบคว้าปืนพกเลเซอร์ซึ่งตกอยู่ใกล้ตัวขึ้นมาแล้วนอนคว่ำ เล็งปืนยิงไปยังนายทหารเยอรมันคนนั้น
"ปืดดดดดดดดด......"
"อ๊าาาาากกกกกก....."
ลำแสงเลเซอร์ลำเท่าปลายนิ้วก้อยพุ่งเจาะโหนกแก้มพอดิบพอดี! เปิดแผลเลือดพุ่งกระฉูด !!
กัปตันวันชนะ ถือปืนกดไกค้างไว้เพื่อมิให้ลำแสงเลเซอร์ขาดหาย แล้วสะบัดมือครั้งหนึ่ง เป้าหมายปลายลำแสงคือลำคอ สะบัดแล้วปล่อยไกปืน
"ปืดดดดดด ฟั่บบ"
นายทหารเยอรมันคนนั้นกลายเป็นผีหัวขาดในบัดดล! และลำแสงเลเซอร์ก็ดับวูบไป!
"รีบไปกันเถอะ อยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว!" กัปตันบอกกับทุกคน
"ต้องตามฮิตเลอร์ต่อไหมคะ ?" สาวจอยร้องถาม
"เขาไปไหนแล้วก็ไม่รู้! สงสัยจะไปทางตะวันออกต่อมั้ง ไปกันต่อทางนั้นก็แล้วกัน
ถ้าเห็นเขา ยิงเลยไม่ต้องรอให้ผมสั่ง!!"
"ครับ!/ค่ะ!"
ทุกคนรีบลุกขึ้นและออกวิ่งไปทางทิศตะวันออก โดยมีกัปตันวิ่งนำหน้า
ผู้มาจากอนาคตทั้ง 5 พากันวิ่งไปเรื่อยๆ เนิ่นนาน ขณะที่วิ่งไปก็พยายามมองหาตัว อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แต่ก็ไร้วี่แวว...
จนกระทั่งวิ่งไปได้เกือบจะครบ 1 ไมล์ ทั้งหมดจึงหยุดวิ่ง
"ตามเขาไม่ทันแน่แล้วครับ กัปตัน" เอกพูดด้วยเสียงเหนื่อยหอบ
"ฮึ่ม...หรือว่า เขาดวงแข็ง ฟ้าส่งมาให้ก่อสงครามจริงๆ ??" กัปตันขบกรามกรอด
"กับตันคะ ดูโน่นค่ะ" สาวจอยร้องเรียกพร้อมกับชี้มือไปข้างหน้า มองเห็นเขตชายแดนมีรั้วหนามกั้นสูง และที่ฝั่งโน้นมีทหารเยอรมัน ยืนถือปืนรักษาการณ์อยู่ และด้านหลังของพวกเขามีธงชาติซึ่งถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาแล้ว สะบัดพริ้วไหวไปตามแรงลม
ธงชาติเยอรมนี !!
"เรามาถึงชายแดนกันแล้ว.." กับตันทอดถอนใจ "จะเอาไงกันต่อดีเนี่ย ? จะอยู่ในเบลเยี่ยมต่อ หรือจะข้ามแดนไปเยอรมนีดี ?"
"ผมว่า ไปเยอรมนีอันตรายนะครับ เราคงจะอธิบายกับพวกเขาได้ยากทีเดียว" แซมออกความเห็น
"เล็กก็ว่างั้น" สาวผมยาวเห็นด้วย "เราอยู่ในเบลเยี่ยมต่อดีกว่ามั้งคะ ?"
"หรือไม่ก็ 'จั๊มพ์' กันอีกครั้ง!" เอกเสนออีกแนวทางหนึ่ง
"อืม....." กัปตันยกมือปิดปาก ทำท่าครุ่นคิด "การ 'จั๊มพ์' ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพียงแต่ผมเสียดายโอกาสตามล่าตัวฮิตเลอร์เท่านั้น"
"ไม่แน่นะคะ การจั๊มพ์ในระยะเวลาไม่ห่างกันมาก อาจส่งเราเข้าสู่เวลาและสถานที่ใกล้เคียงกับครั้งแรก เราอาจจะได้เจอเขาอีกก็ได้!" สาวจอยให้ความเห็น
"แต่ถ้าไปเจอเขาอีกครั้งตอนเป็นผู้นำนาซีแล้วนี่ ยากสุดๆเลยนะที่จะเข้าถึงตัวเขาได้!" เล็กกล่าวถึงอีกกรณีหนึ่ง
"เอาละ ลองเช็คดูพลังงาน และความพร้อมในการจั๊มพ์ที่นาฬิกาแต่ละคนดูซิ!" กัปตันสั่งทุกคน
"ของผม พลังงานไม่เต็มร้อยนะครับ มีอยู่ 67% ความพร้อมก็พอๆกัน" แซมยกนาฬิกาขึ้นมาเช็คดูแล้วบอก
"ของผมก็เท่ากับของแซมครับ" เอกรายงานเป็นคนที่สอง
"ของเล็กกับจอยก็เหมือนกันค่ะ กัปตัน" สาวจอยบอกเป็นคนที่สาม "ของกัปตันก็ไม่น่าจะต่างไปจากของพวกเรานะคะ เพราะตอนตั้งเวลาก็ตั้งพร้อมกัน จั๊มพ์ก็จั๊มพ์พร้อมกัน"
"ใช่แล้วหละ คุณจอย" กัปตันบอก หลังจากเช็คดูนาฬิกาของตัวเอง "ท่านผู้นำของพวกเราบอกไว้ในคลิปวีดิโอด้วย ว่าถ้าพลังงานไม่เต็มร้อย อย่าจั๊มพ์ นี่แปลว่า เราต้องอดทนอยู่ในกาลนี้ไปก่อน รอจนกว่าพลังงานและความพร้อมได้ 100% แล้วจึงค่อยจั๊มพ์ไปที่อื่นเวลาอื่นต่อไป"
"แต่เมื่อกี้ จอยบอกว่า ถ้าเราจั๊มพ์ในเวลาไม่ห่างกันจากครั้งล่าสุด เราก็อาจได้เข้าสู่กาลเวลาและสถานที่ที่ใกล้เคียงกับที่เราอยู่หลังจาการจั๊มพ์ครั้งก่อนหน้า และยิ่งพลังงานกับความพร้อมไม่ถึง 100% แต่ก็เกิน 50% เล็กว่าน่าลองจั๊มพ์ดูเหมือนกันนะคะ"
"แปลว่า มีคนอยากจั๊มพ์ โดยไม่ต้องรอ..." กัปตันครุ่นคิด แล้วจึงตัดสินใจหาทางออก
"ถ้าอย่างนั้น เรามาโหวดกัน ว่า จะจั๊มพ์ หรือจะอยู่กันต่อ!"
(มีต่อครับ)
⚡️💦⚡️ หลงกาล Episode-3 "ขัดขวางอนาคตท่านผู้นำ" ตอนที่ 1⚡️💦⚡️
"เฟี้ยววว......."
เสียงเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่านเหนือศีรษะของทุกคนซึ่งกำลังหลบอยู่ในหลุมหลังบังเกอร์ ในเวลาเดียวกันกับที่พลทหารซึ่งกัปตันวันชนะจำหน้าได้ว่าคือ อดอล์ฟ อิตเลอร์ กำลังวิ่งถือสาสน์มาใกล้จะผ่านบังเกอร์ตรงนั้นพอดี กัปตันหนุ่มแหงนมองดูเครื่องบินลำนั้นแล้วก็ต้องร้องตะโกนเตือนภัยบอกลูกทีม
"หมอบลง ระเบิด!!"
"ฟิ้วว..."
"บึมมม !!!"
ระเบิดลูกหนึ่งถูกปล่อยลงที่พื้นห่างจากบังเกอร์นั้นราวสองร้อยเมตร กรวดหินดินทรายและฝุ่นกระจาย ทุกคนหมอบราบลงกับพื้น ควันไฟตลบฟุ้ง จนครู่หนึ่งจึงค่อยจางหายไป
กัปตันวันชนะค่อยๆโงหัวขึ้นมาจนพ้นจากขอบบังเกอร์ สอดส่ายสายตามองหาบุคคลผู้เป็นอนาคตผู้นำนาซีไปทั่ว
เขาหายไปแล้ว !!!
เสียงปืน เสียงระเบิด ยังมีมาให้ได้ยินจากที่ไกล เป็นระยะๆ
"ทุกคนไม่เป็นไรนะ ?" กัปตันหนุ่มหันไปทั้งซ้ายและขวาสอบถามลูกทีม
"ไม่เป็นไรครับ"/"ไม่เป็นไรค่ะกัปตัน"
"โอเค...." เขาพยักหน้า แล้วมองไปทางทิศตะวันออก ตามรอยเท้าซึ่งมองเห็นปรากฏวิ่งผ่านไปไกล
"ฮิตเลอร์คงวิ่งไปไกลแล้วละครับ.." แซมเอ่ยขึ้นมา
"ผมตั้งตัวไม่ติด คิดไม่ทัน" กัปตันมองหน้าลูกน้องหนุ่ม "แค่เห็นเขาทีแรกก็ตกใจแล้ว แถมเครื่องบินทิ้งระเบิดลงมากระทันหันอีก ดีที่ไม่ลงมาที่เราหลบกันอยู่นี่ ไม่งั้นคงเละกันหมด"
"กัปตัน คิดอะไรหรือคะ ที่ว่าคิดไม่ทัน ?" สาวเล็กเอ่ยถาม
"คือถ้าผมคิดทัน ผมก็ต้องยิงเขา!" กัปตันขบกรามกรอด "นั่นคืออนาคตอาชญากรสงคราม ผู้นำกองทัพนาซีซึ่งสุดจะโหดร้ายทารุน เขาจะสังหารชาวยิวนับไม่ถ้วน เขาจะก่อสงครามโลกครั้งที่สอง ปล่อยไว้ไม่ได้ เมื่อเรามีโอกาส ต้องกำจัดเขา!"
"แล้ว...กัปตัน จะเอาไงต่อครับ เขาหนีไปแล้ว ? พวกเราต้องตามเขาไหมครับ ?" เอกเป็นฝ่ายถามบ้าง
"ต้องตาม!!!" เขาคำราม "รอยเท้าของเขาปรากฏให้เห็นอยู่ เขาวิ่งผ่านบังเกอร์ที่เราหลบกันอยู่ไปทางตะวันออก ถึงจะไปไกลแล้วเราก็ต้องตามไป จัดการเขาให้ได้ ก่อนจะ 'จั๊มพ์' ไปที่อื่นกันต่อ เราคงไม่เสียเวลาอยู่ที่นี่ในช่วงเวลานี้นานนัก...ไปกันเถอะ!"
พูดจบแล้ว กัปตันวันชนะก็รีบลุกขึ้นและออกวิ่งนำหน้า สะกดรอยเท้าอดอล์ฟ อิตเลอร์ไปทันที ลูกทีมทั้ง 4 คนจึงรีบวิ่งตาม
ผู้มาจากอนาคตทั้ง 5 คน วิ่งไปประมาณครึ่งไมล์ จึงได้เห็นเต็นท์หลังใหญ่หลังหนึ่งกางอยู่ข้างหน้าไกลลิบๆ
กัปตันวันชนะชะลอฝีเท้าลงแล้วหยุด กางแขนขวาออกห้ามมิให้ใครไปต่อ
"มีเต็นท์หลังหนึ่งอยู่ข้างหน้า ฮิตเลอร์อาจไปพักอยู่ในนั้น" เขาบอกกับทุกคน "เราต้องค่อยๆแอบคืบคลานเข้าไป อยู่ในที่โล่งไม่ได้แล้ว หลบเข้าข้างทางซ้ายมือ พอมีพุ่มไม้ โขดหิน และบังเกอร์ให้กำบังตัวได้บ้าง...ไป!"
เขาโดดเข้าข้างทางด้านซ้ายซึ่งมีพุ่มไม้พงหญ้าเป็นหย่อมๆ และอีก 4 คนก็ตามมา
จากจุดนั้น ทุกคนก็ค่อยๆคืบคลานไปข้างหน้า อาศัยต้นไม้หรือพุ่มไม้บ้าง แนวโขดหินบ้าง หลุมหลบภัยบ้าง บังเกอร์บ้างเป็นเครื่องกำบัง...จนเข้าใกล้เต็นท์หลังนั้นในระยะห่างเพียงร้อยเมตร กัปตันจึงยกมือเป็นสัญญาณให้หยุด แล้วหันมาถามลูกน้องหญิงผมบ๊อบ
"คุณจอย รู้ภาษาเยอรมันใช่ไหม ?"
"พอได้ค่ะ กัปตัน" หล่อนพยักหน้า
"ผมเองก็พอถูๆไถๆได้อยู่ครับ" แซมเสนอตัวบ้าง
"ดีละ!" กัปตันกล่าวกับหนุ่มสาวทั้งสอง " งั้นคุณสองคน เข้าไปใกล้เต็นท์อีกสักหน่อย พยายามฟังคำพูดคนในเต็นท์ ได้เรื่องยังไงรีบกลับมา"
"ครับ/ค่ะ!"
สองหนุ่มสาวรับคำสั่ง แล้วพากันเดินเลียบข้างทาง มีบังเกอร์อีกที่หนึ่งให้กำบังตัวข้างหน้าประมาณ 20 เมตร ทั้งคู่รีบกระโจนไปหลังบังเกอร์นั้นทันที ก้าวไปข้างหน้า เข้าใกล้อีกสามสี่ก้าว แล้วจึงหยุด พยายามเงี่ยหูฟังเสียงจากภายในเต็นท์
ครู่หนึ่ง ทั้งสองก็ได้ยินเสียงการสนทนาภาษาเยอรมันของคนในเต็นท์
"ขอบใจนายอีกครั้งนะ พลทหารฮิตเลอร์ ที่เสี่ยงตายช่วยชีวิตฉันไว้ในวันนี้ ฉันจะทำเรื่องเสนอขอเหรียญกล้าหาญให้นายแน่นอน หลังจากพวกเรากลับไปถึงหน่วยแล้ว"
"ไม่เป็นไรครับผม ผู้พัน กระผมยินดีเสมอ มันเป็นหน้าที่อยู่แล้วครับผม"
"ดีมาก! นายเป็นทหารที่ดี"
"กระผมยินดีรับใช้เยอรมนีด้วยชีวิต ครับผม!"
"ดี...ดีมาก! เอาละ ตอนนี้คงจะไม่มีการสู้รบอะไรแล้ว พวกเราสมควรพักผ่อนกันสักหน่อย"
"ผู้พันพักผ่อนก่อนเถอะครับ กระผมจะอยู่เฝ้าเวรยามให้เองครับผม"
"นายก็พักผ่อนกับท่านผู้พันเถอะ อดอล์ฟ เพราะนายก็เหนื่อยมากแล้วเหมือนกัน ฉันเฝ้ายามให้เอง"
"ฉันเห็นด้วยกับเออซิลนะ เราพักผ่อนนอนกันสักงีบเถอะ"
"เอ่อ...ครับผม ผู้พัน ขอบคุณมากครับ......ขอบคุณนายมากนะ เออซิล!"
"ไม่เป็นไรเพื่อน พักผ่อนเถอะ..."
แล้วการสนทนาก็จบลง ความเงียบเข้ามาแทนที่
แซมและจอยพยักหน้าให้กันและกัน แล้วถอยกลับมาหากัปตันกับเพื่อนอีกสองคน
"ได้ความว่าไงบ้าง ?" กัปตันกระซิบถาม
"ดูเหมือนมีทหาร 3 นายอยู่ในเต็นท์ค่ะกัปตัน เพราะได้ยินเสียงคน 3 คน และหนึ่งในนั้นคือฮิตเลอร์!"
"อาจจะมีมากกว่านั้นก็ได้ครับกัปตัน" แซมกล่าวเสริมหลังจากสาวจอยรายงาน "และที่แน่ๆตอนนี้ ฮิตเลอร์และผู้พันคนหนึ่งกำลังนอนพักผ่อน โดยมีพลทหารอีกคนเฝ้ายามอยู่ครับ"
"ผู้พัน..งั้นเหรอ ?"
"ค่ะ กัปตัน ฮิตเลอร์เรียกเขาอย่างนั้น และเขาก็เรียกชื่อฮิตเลอร์ด้วย ชัดเจนค่ะ"
"พวกเขาพูดคุยเรื่องอะไรกัน ?"
"คนที่เป็นผู้พัน กล่าวขอบคุณฮิตเลอร์ที่ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ในวันนี้ค่ะ และบอกว่าจะทำเรื่องเสนอขอเหรียญกล้าหาญให้ฮิตเลอร์หลังจากกลับถึงหน่วยแล้ว"
"งั้นเหรอ ?" กัปตันถามย้ำ
"ค่ะ กัปตัน"
"อืม..." เขาเริ่มใช้ความคิด นึกทบทวนเรื่องราวของอนาคตผู้นำพรรคนาซี "ผมสงสัยว่า ผู้พันนั่น น่าจะเป็น พันเอก เองเกล ฮาร์ดท์ ซึ่งฮิตเลอร์ได้ช่วยชีวิตไว้ ในขณะที่เขากำลังพาออกลาดตระเวณใกล้กับแนวรบข้าศึก เมื่อครั้งที่เขาถูกส่งไปแนวหน้าใกล้กับเมืองยิพเพรส ชายแดนประเทศเบลเยี่ยม และทันทีที่มีเสียงห่ากระสุนสาดกระหน่ำเข้ามา เขาและเพื่อนพลทหารอีกคนหนึ่งรีบกระโดดผลักนายให้ล้มลงนอนในคูสนามเพลาะอย่างทันท่วงที ทำให้นายคือผู้พันเองเกล ฮาร์ดท์ รอดตายอย่างหวุดหวิด"
"เหตุการณ์อยู่ในปีไหนคะ ?" สาวเล็กเอ่ยถามบ้าง
"1914" เขาตอบอย่างมั่นใจ "และจะมีเหตุการณ์สำคัญต่อจากนั้น ซึ่งพวกเราจะได้เห็นกันอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้!"
"จะเกิดอะไรขึ้นครับ ?"/"อะไรคะ ?" ลูกน้องทั้ง 4 ถามเกือบจะพร้อมกัน
"ระเบิดลูกหนึ่งจะลงที่เต็นท์นั่น! หลังจากฮิตเลอร์สะดุ้งตื่นด้วยเสียงกระซิบปลุกจากใครหรืออะไรก็ไม่รู้แล้วเขารีบเดินออกไปทัน!"
"งั้นก็แปลว่าตอนนี้เราอยู่ในสมรภูมิชายแดนของประเทศเบลเยี่ยม ในปี 1914 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง!" สาวจอยกล่าวสรุป
"เดี๋ยวถ้าเห็นฮิตเลอร์เดินออกจากเต็นท์ แล้วระเบิดลงเต็นท์นั่น ก็จะเป็นการยืนยันข้อสรุปของคุณจอย!" กัปตันพูดพลางพยักหน้า
"ถ้างั้นเรารอดูกันครับ" แซมกล่าวเป็นคนสุดท้าย จากนั้นทุกคนจึงเงียบ จับตาดูที่เต็นท์
กัปตันวันชนะ ถือปืนเลเซอร์ไว้มั่นในมือ เตรียมพร้อม หากเห็นอนาคตผู้นำพรรคนาซีเดินออกจากเต็นท์เมื่อไร เขาจะยิงทันที!
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ในที่สุด ทุกคนก็มองเห็นทหารนายหนึ่งแหวกผ้าประตูเต็นท์เดินออกมา และทำท่ากำลังจะออกวิ่ง !
วินาทีนั้น กัปตันวันชนะรีบยืนขึ้นและเล็งปืนเลเซอร์ขนาดพอๆกับปืนพกรีวอลเวอร์ไปยังร่างนั้น!
แต่ยังไม่ทันได้กดไกปืนปล่อยลำแสงเลเซอร์ ทุกคนก็ต้องชะงักและใจหายวาบ เมื่อได้ยินเสียงนกปืนดัง "กริ๊ก" ตามด้วยเสียงจากคนๆหนึ่งตะคอกถามมาจากข้างหลังเป็นภาษาเยอรมันอย่างดุดัน
"Einfrieren! Beweg dich nicht! Lass die Waffe fallen! Wer zum Teufel bist du ? "
ผู้มาจากอนาคตทั้ง 5 พากันยืนตัวแข็งด้วยความตื่นตระหนก กัปตันวันชนะกำลังจะปล่อยปืนพกเลเซอร์ให้ร่วงลงกับพื้น ในขณะเดียวกันกับที่เขาเห็น อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ วิ่งหนีไปต่อหน้าต่อตา...
แต่แล้วทุกคน ณ ที่ตรงนั้นก็ต้องเซถลาไปคนละทิศคนละทาง เมื่อมีระเบิดลูกหนึ่งลงมาจากอากาศตกลงที่เต็นท์นั้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"บึ้มมมมมมมม !!!!!!"
เต็นท์เละกระจุยพร้อมกับความตายของทหารเยอรมันในเต็นท์ แรงระเบิดอันมหาศาลทำให้นายทหารเยอรมันคนนั้นหงายหลังล้มตึง ปืนหลุดจากมือไปพร้อมๆกับการล้มระเนระนาดของกัปตันวันชนะและลูกน้อง แต่เขายังมีสติพอที่จะรีบคว้าปืนพกเลเซอร์ซึ่งตกอยู่ใกล้ตัวขึ้นมาแล้วนอนคว่ำ เล็งปืนยิงไปยังนายทหารเยอรมันคนนั้น
"ปืดดดดดดดดด......"
"อ๊าาาาากกกกกก....."
ลำแสงเลเซอร์ลำเท่าปลายนิ้วก้อยพุ่งเจาะโหนกแก้มพอดิบพอดี! เปิดแผลเลือดพุ่งกระฉูด !!
กัปตันวันชนะ ถือปืนกดไกค้างไว้เพื่อมิให้ลำแสงเลเซอร์ขาดหาย แล้วสะบัดมือครั้งหนึ่ง เป้าหมายปลายลำแสงคือลำคอ สะบัดแล้วปล่อยไกปืน
"ปืดดดดดด ฟั่บบ"
นายทหารเยอรมันคนนั้นกลายเป็นผีหัวขาดในบัดดล! และลำแสงเลเซอร์ก็ดับวูบไป!
"รีบไปกันเถอะ อยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว!" กัปตันบอกกับทุกคน
"ต้องตามฮิตเลอร์ต่อไหมคะ ?" สาวจอยร้องถาม
"เขาไปไหนแล้วก็ไม่รู้! สงสัยจะไปทางตะวันออกต่อมั้ง ไปกันต่อทางนั้นก็แล้วกัน ถ้าเห็นเขา ยิงเลยไม่ต้องรอให้ผมสั่ง!!"
"ครับ!/ค่ะ!"
ทุกคนรีบลุกขึ้นและออกวิ่งไปทางทิศตะวันออก โดยมีกัปตันวิ่งนำหน้า
ผู้มาจากอนาคตทั้ง 5 พากันวิ่งไปเรื่อยๆ เนิ่นนาน ขณะที่วิ่งไปก็พยายามมองหาตัว อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แต่ก็ไร้วี่แวว...
จนกระทั่งวิ่งไปได้เกือบจะครบ 1 ไมล์ ทั้งหมดจึงหยุดวิ่ง
"ตามเขาไม่ทันแน่แล้วครับ กัปตัน" เอกพูดด้วยเสียงเหนื่อยหอบ
"ฮึ่ม...หรือว่า เขาดวงแข็ง ฟ้าส่งมาให้ก่อสงครามจริงๆ ??" กัปตันขบกรามกรอด
"กับตันคะ ดูโน่นค่ะ" สาวจอยร้องเรียกพร้อมกับชี้มือไปข้างหน้า มองเห็นเขตชายแดนมีรั้วหนามกั้นสูง และที่ฝั่งโน้นมีทหารเยอรมัน ยืนถือปืนรักษาการณ์อยู่ และด้านหลังของพวกเขามีธงชาติซึ่งถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาแล้ว สะบัดพริ้วไหวไปตามแรงลม
ธงชาติเยอรมนี !!
"เรามาถึงชายแดนกันแล้ว.." กับตันทอดถอนใจ "จะเอาไงกันต่อดีเนี่ย ? จะอยู่ในเบลเยี่ยมต่อ หรือจะข้ามแดนไปเยอรมนีดี ?"
"ผมว่า ไปเยอรมนีอันตรายนะครับ เราคงจะอธิบายกับพวกเขาได้ยากทีเดียว" แซมออกความเห็น
"เล็กก็ว่างั้น" สาวผมยาวเห็นด้วย "เราอยู่ในเบลเยี่ยมต่อดีกว่ามั้งคะ ?"
"หรือไม่ก็ 'จั๊มพ์' กันอีกครั้ง!" เอกเสนออีกแนวทางหนึ่ง
"อืม....." กัปตันยกมือปิดปาก ทำท่าครุ่นคิด "การ 'จั๊มพ์' ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพียงแต่ผมเสียดายโอกาสตามล่าตัวฮิตเลอร์เท่านั้น"
"ไม่แน่นะคะ การจั๊มพ์ในระยะเวลาไม่ห่างกันมาก อาจส่งเราเข้าสู่เวลาและสถานที่ใกล้เคียงกับครั้งแรก เราอาจจะได้เจอเขาอีกก็ได้!" สาวจอยให้ความเห็น
"แต่ถ้าไปเจอเขาอีกครั้งตอนเป็นผู้นำนาซีแล้วนี่ ยากสุดๆเลยนะที่จะเข้าถึงตัวเขาได้!" เล็กกล่าวถึงอีกกรณีหนึ่ง
"เอาละ ลองเช็คดูพลังงาน และความพร้อมในการจั๊มพ์ที่นาฬิกาแต่ละคนดูซิ!" กัปตันสั่งทุกคน
"ของผม พลังงานไม่เต็มร้อยนะครับ มีอยู่ 67% ความพร้อมก็พอๆกัน" แซมยกนาฬิกาขึ้นมาเช็คดูแล้วบอก
"ของผมก็เท่ากับของแซมครับ" เอกรายงานเป็นคนที่สอง
"ของเล็กกับจอยก็เหมือนกันค่ะ กัปตัน" สาวจอยบอกเป็นคนที่สาม "ของกัปตันก็ไม่น่าจะต่างไปจากของพวกเรานะคะ เพราะตอนตั้งเวลาก็ตั้งพร้อมกัน จั๊มพ์ก็จั๊มพ์พร้อมกัน"
"ใช่แล้วหละ คุณจอย" กัปตันบอก หลังจากเช็คดูนาฬิกาของตัวเอง "ท่านผู้นำของพวกเราบอกไว้ในคลิปวีดิโอด้วย ว่าถ้าพลังงานไม่เต็มร้อย อย่าจั๊มพ์ นี่แปลว่า เราต้องอดทนอยู่ในกาลนี้ไปก่อน รอจนกว่าพลังงานและความพร้อมได้ 100% แล้วจึงค่อยจั๊มพ์ไปที่อื่นเวลาอื่นต่อไป"
"แต่เมื่อกี้ จอยบอกว่า ถ้าเราจั๊มพ์ในเวลาไม่ห่างกันจากครั้งล่าสุด เราก็อาจได้เข้าสู่กาลเวลาและสถานที่ที่ใกล้เคียงกับที่เราอยู่หลังจาการจั๊มพ์ครั้งก่อนหน้า และยิ่งพลังงานกับความพร้อมไม่ถึง 100% แต่ก็เกิน 50% เล็กว่าน่าลองจั๊มพ์ดูเหมือนกันนะคะ"
"แปลว่า มีคนอยากจั๊มพ์ โดยไม่ต้องรอ..." กัปตันครุ่นคิด แล้วจึงตัดสินใจหาทางออก
"ถ้าอย่างนั้น เรามาโหวดกัน ว่า จะจั๊มพ์ หรือจะอยู่กันต่อ!"
(มีต่อครับ)