“แอน ทองประสม” หลั่งน้ำตา ถวายดอกไม้จันทน์ที่ทำด้วยตัวเอง ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง ร.๙ รับคุยกับพ่อหลวงทุกวันเป็นเวลา 1 ปีริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง แต่วันนี้กลับนึกคำพูดไม่ออก ตั้งปณิธานจะเป็นลูกที่ดีของพ่อ จะไม่เอาเปรียบ ไม่ทำร้ายใคร
เมื่อเวลา 07.00 น. นักแสดงสาว “แอน ทองประสม” ได้เดินทางมายังบริเวณที่ตั้งพระเมรุมาศจำลอง ที่ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา หลังจากนั้นนักแสดงสาวก็ได้เดินทางไปต่อแถว ณ จุดคัดกรอง เพื่อถวายดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจุดพักคอยสามารถจุประชาชนได้จำนวน 8,400 ที่นั่ง แต่ทั้งภายในฮอลล์สามารถจุคนได้จำนวนหลายหมื่น และสามารถหมุนเวียนวางดอกไม้จันทน์ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา โดยช่วงที่ 1 เริ่มตั้งแต่ 9.00-16.30 น. และในช่วงที่ 2 เริ่ม 18.00-22.00 น.
โดยในเวลา 09.00 น. ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที และหลังจากนั้นได้เริ่มเปิดให้ประชาชนถวายดอกไม้จันทน์หน้าพระเมรุมาศจำลอง ซึ่งนักแสดงสาวได้สัมภาษณ์ว่าวันนี้ได้เตรียมดอกไม้จันทน์ที่ตั้งใจทำเองมาจากบ้านเพื่อนำมาถวาย ก่อนร่ำไห้เผยว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาตนได้ไปกราบที่บริเวณริมรั้วพระบรมมหาราชวัง และได้พูดคุยกับพระองค์ตลอด อยากจะมองพระองค์ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมให้สัญญาจะเป็นลูกที่ดีของพ่อตลอดไป
“จริงๆ แอนไปกราบท่านที่สนามหลวงมาเมื่อวาน วันนี้ตั้งใจมาที่พระเมรุมาศจำลองที่ไบเทค บางนา ซึ่งถือว่าใกล้บ้านแอนที่สุด แอนตั้งใจตั้งแต่การทำดอกไม้จันทน์เอง นำมาจากที่บ้าน และตื่นแต่เช้า แต่งกายให้สุภาพที่สุด เพื่อมาส่งพ่อขึ้นสวรรค์ ตื่นเช้ามาวันนี้ถึงเรานอนดึกแต่เราไม่รู้สึกง่วง ไม่รู้สึกเพลีย มาวันนี้ได้เห็นว่าประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย ไม่มีใครเอาเปรียบใคร ไม่มีใครแย่งอะไรกัน ต่อคิวกันอย่างสุภาพ แอนว่าถ้าพ่อเห็นพ่อคงจะชื่นใจที่คนไทยสามัคคีกัน”
ร่ำไห้อาลัย บอกคุยกับพ่อทุกวันเป็นเวลา 1 ปี แต่วันนี้กลับนึกเรื่องที่จะพูดไม่ออก
“ช่วงที่เพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้น แอนก็ร้องไห้ไป 1 รอบ เราฟังแล้วรู้สึกอยากร้องไห้ เหมือนเราร้องให้ท่านเป็นครั้งสุดท้าย ถามว่าแอนอธิษฐานอะไร (นิ่งเงียบ น้ำตาคลอ) ไม่ได้คิดอะไรเลย ตั้งใจแค่จะมาวางดอกไม้จันทน์เท่านั้น ระหว่าง 1 ปีที่ผ่านมา แอนได้พูดกับพระองค์ท่านตลอดอยู่แล้ว พอมาวันนี้กลับไม่มีเรื่องพูด ความรู้สึกของเราคือเราอยากมองพระองค์ท่านให้นานที่สุด ถึงจะเป็นเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ที่อยู่ตรงพระเมรุมาศจำลอง บวกกับความรู้สึกที่เราอยู่ท่ามกลางคนไทยทุกคนที่ตั้งใจจะมา เมื่อคืนแอนไปแต่แอนอยู่ได้แค่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ได้อยู่แค่นั้นแอนก็ชื่นใจแล้ว เพราะแอนรู้สึกว่าแอนอยู่ใกล้ท่านมาตลอด แอนว่าหากเราศรัทธา แรงใจเราอยู่ที่พระองค์ท่าน ถึงตัวเราจะอยู่ไกล หรืออยู่ตรงไหนก็ได้ แต่จิตใจเราถึงกันหมด บรรยากาศประชาชนที่ไป ทุกคนรู้ว่าตัวเองมาเพื่ออะไร ทุกคนอยู่กันอย่างเป็นระเบียบและเป็นลูกที่น่ารักกันทุกคน ทางหน่วยราชการต่างๆ ก็เตรียมตัวไว้ดีมาก”
ตั้งปณิธานจะเป็นลูกที่ดี ไม่เอาเปรียบ ไม่ทำร้ายใคร ขอเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ต่อยอดคำสอนของพ่อ
“เป็นลูกที่ดีของพ่อต่อไป ตั้งใจทำงาน เป็นคนดี ไม่เอาเปรียบหรือทำร้ายใคร อยู่ในประเทศไทยโดยเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่ทำให้ประเทศเราอยู่ได้อย่างสง่างาม ถึงเราจะไม่ใช่คนยิ่งใหญ่ที่สามารถช่วยประเทศชาติได้มาก แต่เป็นประชาชนที่ดี แค่นี้ก็พอแล้ว พระองค์ก็ยังคงอยู่กับเรา คำสอนของพระองค์เป็นสิ่งที่เราสามารถนำไปแตกหน่อต่อยอดทำอะไรได้อีกเยอะ เรายังสามารถคงอยู่ได้โดยที่ไม่ใช่การเอาหลังพิงพระองค์ท่านอย่างเดียว เพราะคำสอนของพระองค์เยอะมาก อยู่แทบทุกอณูของอากาศ แอนว่าพวกเราอยู่กันได้ ขอแค่เรารักกัน”
ที่สุดแห่งความเสียใจ “แอน ทอง” หลั่งน้ำตาอาลัย ขณะถวายดอกไม้จันทน์ที่ทำด้วยตัวเอง
“แอน ทองประสม” หลั่งน้ำตา ถวายดอกไม้จันทน์ที่ทำด้วยตัวเอง ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง ร.๙ รับคุยกับพ่อหลวงทุกวันเป็นเวลา 1 ปีริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง แต่วันนี้กลับนึกคำพูดไม่ออก ตั้งปณิธานจะเป็นลูกที่ดีของพ่อ จะไม่เอาเปรียบ ไม่ทำร้ายใคร
เมื่อเวลา 07.00 น. นักแสดงสาว “แอน ทองประสม” ได้เดินทางมายังบริเวณที่ตั้งพระเมรุมาศจำลอง ที่ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา หลังจากนั้นนักแสดงสาวก็ได้เดินทางไปต่อแถว ณ จุดคัดกรอง เพื่อถวายดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจุดพักคอยสามารถจุประชาชนได้จำนวน 8,400 ที่นั่ง แต่ทั้งภายในฮอลล์สามารถจุคนได้จำนวนหลายหมื่น และสามารถหมุนเวียนวางดอกไม้จันทน์ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา โดยช่วงที่ 1 เริ่มตั้งแต่ 9.00-16.30 น. และในช่วงที่ 2 เริ่ม 18.00-22.00 น.
โดยในเวลา 09.00 น. ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที และหลังจากนั้นได้เริ่มเปิดให้ประชาชนถวายดอกไม้จันทน์หน้าพระเมรุมาศจำลอง ซึ่งนักแสดงสาวได้สัมภาษณ์ว่าวันนี้ได้เตรียมดอกไม้จันทน์ที่ตั้งใจทำเองมาจากบ้านเพื่อนำมาถวาย ก่อนร่ำไห้เผยว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาตนได้ไปกราบที่บริเวณริมรั้วพระบรมมหาราชวัง และได้พูดคุยกับพระองค์ตลอด อยากจะมองพระองค์ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมให้สัญญาจะเป็นลูกที่ดีของพ่อตลอดไป
“จริงๆ แอนไปกราบท่านที่สนามหลวงมาเมื่อวาน วันนี้ตั้งใจมาที่พระเมรุมาศจำลองที่ไบเทค บางนา ซึ่งถือว่าใกล้บ้านแอนที่สุด แอนตั้งใจตั้งแต่การทำดอกไม้จันทน์เอง นำมาจากที่บ้าน และตื่นแต่เช้า แต่งกายให้สุภาพที่สุด เพื่อมาส่งพ่อขึ้นสวรรค์ ตื่นเช้ามาวันนี้ถึงเรานอนดึกแต่เราไม่รู้สึกง่วง ไม่รู้สึกเพลีย มาวันนี้ได้เห็นว่าประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย ไม่มีใครเอาเปรียบใคร ไม่มีใครแย่งอะไรกัน ต่อคิวกันอย่างสุภาพ แอนว่าถ้าพ่อเห็นพ่อคงจะชื่นใจที่คนไทยสามัคคีกัน”
ร่ำไห้อาลัย บอกคุยกับพ่อทุกวันเป็นเวลา 1 ปี แต่วันนี้กลับนึกเรื่องที่จะพูดไม่ออก
“ช่วงที่เพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้น แอนก็ร้องไห้ไป 1 รอบ เราฟังแล้วรู้สึกอยากร้องไห้ เหมือนเราร้องให้ท่านเป็นครั้งสุดท้าย ถามว่าแอนอธิษฐานอะไร (นิ่งเงียบ น้ำตาคลอ) ไม่ได้คิดอะไรเลย ตั้งใจแค่จะมาวางดอกไม้จันทน์เท่านั้น ระหว่าง 1 ปีที่ผ่านมา แอนได้พูดกับพระองค์ท่านตลอดอยู่แล้ว พอมาวันนี้กลับไม่มีเรื่องพูด ความรู้สึกของเราคือเราอยากมองพระองค์ท่านให้นานที่สุด ถึงจะเป็นเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ที่อยู่ตรงพระเมรุมาศจำลอง บวกกับความรู้สึกที่เราอยู่ท่ามกลางคนไทยทุกคนที่ตั้งใจจะมา เมื่อคืนแอนไปแต่แอนอยู่ได้แค่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ได้อยู่แค่นั้นแอนก็ชื่นใจแล้ว เพราะแอนรู้สึกว่าแอนอยู่ใกล้ท่านมาตลอด แอนว่าหากเราศรัทธา แรงใจเราอยู่ที่พระองค์ท่าน ถึงตัวเราจะอยู่ไกล หรืออยู่ตรงไหนก็ได้ แต่จิตใจเราถึงกันหมด บรรยากาศประชาชนที่ไป ทุกคนรู้ว่าตัวเองมาเพื่ออะไร ทุกคนอยู่กันอย่างเป็นระเบียบและเป็นลูกที่น่ารักกันทุกคน ทางหน่วยราชการต่างๆ ก็เตรียมตัวไว้ดีมาก”
ตั้งปณิธานจะเป็นลูกที่ดี ไม่เอาเปรียบ ไม่ทำร้ายใคร ขอเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ต่อยอดคำสอนของพ่อ
“เป็นลูกที่ดีของพ่อต่อไป ตั้งใจทำงาน เป็นคนดี ไม่เอาเปรียบหรือทำร้ายใคร อยู่ในประเทศไทยโดยเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่ทำให้ประเทศเราอยู่ได้อย่างสง่างาม ถึงเราจะไม่ใช่คนยิ่งใหญ่ที่สามารถช่วยประเทศชาติได้มาก แต่เป็นประชาชนที่ดี แค่นี้ก็พอแล้ว พระองค์ก็ยังคงอยู่กับเรา คำสอนของพระองค์เป็นสิ่งที่เราสามารถนำไปแตกหน่อต่อยอดทำอะไรได้อีกเยอะ เรายังสามารถคงอยู่ได้โดยที่ไม่ใช่การเอาหลังพิงพระองค์ท่านอย่างเดียว เพราะคำสอนของพระองค์เยอะมาก อยู่แทบทุกอณูของอากาศ แอนว่าพวกเราอยู่กันได้ ขอแค่เรารักกัน”