C h a p t e r : f i v e
_______________________________________________________
G'day Mate!
สวัสดีค่ะทุกคน เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนที่กำลังจะไปเรียนภาษาอังกฤษในประเทศออสเตรเลียในอนาคต
วันนี้เลยเป็นฤกษ์งามยามดีจะมารีวิวโรงเรียนสอนภาษาในนครเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลียที่เราได้เคยไปเรียน
เมื่อปี2015 และปี2017 รวมทั้งสองโรงเรียน ครั้งแรกเรียน2เดือนกว่าและครั้งที่สองเดือนกว่า
รวมเป็นเวลาทั้งหมดประมาณ4เดือนกว่าๆนะคะ
โรงเรียนที่เราเรียนได้แก่ Embassy English Melbourne และ Kaplan International Englishค่ะ
Kaplan International English
พิกัด : 370 Docklands Dr, Melbourne VIC 3008 (ใกล้ท่าเรือ สวยมากกกกก)
ขออนุญาตยืมรูปจากอากู๋นะคะ
เรามาเริ่มโรงเรียนแรกกันเลยนะคะ ขอรีวิวโรงเรียนที่สองก่อน เพราะจำอะไรได้เยอะกว่า55
เป็นโรงเรียนที่เราได้เรียนล่าสุดในต้นปี2017 เป็นเวลา7weeksด้วยกันค่ะ
โดยโรงเรียนนี้สมัครเองไม่ผ่านเอเจ้นใดๆ เพราะเป็นครั้งที่สองที่เรามาMelbourneแล้วค่ะ
ขอบอกก่อนว่าเรามาวีซ่าท่องเที่ยว ได้วีซ่ามา1ปีเข้า-ออกออสเตรเลียได้ครั้งละ3เดือนค่ะ
มาถึงปุ้บเราไปเที่ยวก่อน เพราะช่วงนั้นโรงเรียนจะติดหยุดช่วงChristmasและปีใหม่ เราจึงเริ่มเรียนหลังปีใหม่
ก่อนหน้านั้นเราหาข้อมูลโรงเรียนมาพอสมควร ว่าจะเรียนโรงเรียนไหน แต่ไม่เอาโรงเรียนเดิมคือ Embassy English Melbourne
ไม่ใช่เพราะไม่ดี แต่เราอยากเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ เราWalk inไปถามข้อมูลประมาณ2-3โรงเรียนที่เราสนใจ
" ดูบรรยากาศภายในโรงเรียน เด็กนักเรียนมีชาติอะไรบ้าง ราคาเรียนเท่าไหร่ มีโปรโมชั่นมั้ย กฎของโรงเรียนเป็นอย่างไร "
แล้วหวยก็มาตกที่Kaplanค่ะ ค่าเรียนไม่ถูก แต่ชอบบรรยากาศโรงเรียนนี้ บวกกับโรงเรียนมีชื่อเสียงค่ะ
นี้เป็นบรรยากาศใกล้ๆกับโรงเรียนนะคะ แถวนี้เรียกDocklandsค่าาา เวลานั่งTramมาก็จะมาลงที่นี่
แล้วเดินเข้าไปนิดหน่อย ถ้าไม่มาโรงเรียนสายนะ555
ถ้าวันไหนมาสายก็จะลงอีกสถานีหนึ่งคือสถานีถัดไปจะใกล้กว่า คือลงหน้าโรงเรียนเลยค่า
ขั้นตอนการสมัคร
1. Walk inเข้าไปเลยค่ะ พร้อมกับ PassportและVisa ถ้าใครมีประกันสุขภาพก็ยื่นไปด้วย
2. ค่าเรียนIntensive English 425AUD/week (ตกเดือนละประมาณ44,200บาท เรทคูณ26บาท) + ค่าสมัคร 250AUD + ค่าหนังสือและอุปกรณ์ต่างๆ 84AUD แต่ตอนไปสมัครมีส่วนลดสำหรับเด็กไทยอยู่ค่ะ เลยเหลือสัปดาห์ละ300นิดๆ ลดไปเยอะเหมือนกัน
**ขอแก้ไขราคาจากเดิมค่า
มีหลายคอร์สมาก จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งเราเลือกเรียนแบบIntensive น่าจะมีถูกกว่านี้ค่ะ
แต่รู้สึกว่าถ้าสมัครผ่านเอเจ้นจะถูกกว่านะคะ เพราะเราเคยถามจากเอเจ้นให้เขาทำใบราคามาให้ของแต่ละโรงเรียนค่ะ
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราลงเรียนด้วยค่ะ ลงเรียนระยะยาวก็จะมีโปรโมชั่นถูกลงอีกค่ะ
3. จ่ายค่าสมัคร ตกลงวันเรียนว่าเราจะเริ่มสัปดาห์ไหน (เริ่มเรียนทุกวันจันทร์)
พอถึงวันจันทร์ปุ๊บ มาโรงเรียนตามเวลานัดหมายวันแรก คือมาสอบวัดระดับและปฐมนิเทศพาชมรอบโรงเรียนค่ะ
สอบวัดระดับภาษาสอบอะไรบ้าง?
1. Grammar ทำในคอมพิวเตอร์
2. Listening ทำในคอมพิวเตอร์
3. Writing ทำในกระดาษ มีมาให้สองหัวข้อ เลือกเขียนหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ต้องเขียนให้ครบจำนวนคำที่ข้อสอบบอก
4. Speaking พูดคุยกับอาจารย์ระดับหัวหน้าเรื่องทั่วไป (ของเราสัมภาษณ์กับเพื่อนชาวฝรั่งเศษอีกคนพร้อมกันค่ะ พลัดกันตอบ)
ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่ได้นะคะ ไม่ต้องไปเครียด เราเริ่มเรียนจากระดับที่ง่ายจะดีกว่า ดีกว่าเราได้ระดับยากๆแต่เรียนไม่รู้เรื่องแล้วจะท้อเนาะ ตอนเราทำไม่ยากไม่ง่าย เราก็ทำเท่าที่เราทำได้5555 ตอนสอบพูดก็กล้าพูดกล้าตอบค่ะ อาจารย์เขาจะได้รู้ว่าเราควรเรียนระดับไหน
สอบตอนเช้าเสร็จก็พักเบรคค่ะ พอมาถึงตอนบ่ายเขาก็จะบอกว่าเราอยู่ระดับไหน แจกหนังสือ และตารางเรียนเช้าหรือบ่ายเวลาไหนบ้าง
พอพรุ่งนี้ก็มาเรียนตามตารางได้เลยค่ะ
โรงเรียนKaplanจะมีระดับภาษา 6 ระดับ
1. Elementary
2. Lower Intermediate
3. Intermediate
4. Higher Intermediate
5. Advance
6. Proficient
ปล. เห็นมีคอร์สเรียนIELTSด้วยนะคะ ต้องเรียนระดับHigher Intermediateขึ้นไปถึงจะเรียนได้
เราเรียน5วันต่อสัปดาห์หยุดเสาร์อาทิตย์ เริ่มเรียน8โมงเช้า-บ่ายสาม เรียนเช้า2-3วัน
(เวลาไม่แน่ใจ เดี๋ยวมาอัพเดตเวลาเรียนนะคะ) **อัพเดตไว้ในคอมเม้นที่2แล้วนะคะ
ถ้าขาดไม่มาเรียนจะมาเรียนย้อนหลังไม่ได้ ถ้ามาวีซ่านักเรียนต้องห้ามขาดเรียนไม่เกิน20% ถ้าขาดเกินอาจารย์จะเรียกเข้าไปคุย
ว่าทำไมถึงขาดเรียนบ่อย มีปัญหาอะไรมั้ย และอาจจะถูกตัดสิทธิ์วีซ่าแล้วถูกส่งกลับบ้านได้เลยน้ออ
ข้อดีและข้อควรรู้
- จะมีกิจกรรมภายในโรงเรียนให้ทำกับเพื่อนๆแทบจะทุกวัน เช่น ตีแบด, เตะบอล, ไปBarเพื่อHang Out, นั่งเรือชมวิว, ปั่นจักรยานชมเมือง, ทำBBQกินที่สวนสาธารณะ, ไปอุทยานแห่งชาติ, Thai Food Fest, Beach Festival และอีกเยอะแยะมาก มีทั้งเสียเงินและฟรีค่า *ตามรูปเลยค่ะ
- ถ้าคิดว่าระดับที่เราเรียนง่ายไป สามารถบอกอาจารย์ขอสอบอัพระดับขึ้นไปได้ก่อน แต่ทั้งนี้ต้องให้อาจารย์เห็นด้วยนะคะว่าเรามีความสามารถพอ ถ้าเขาไม่เห็นด้วย เห็นว่าเรายังไม่เก่งพอก็ไม่สามารถสอบอัพขึ้นไปได้ค่ะ
- จะมีสอบUp Levelทุกๆ5สัปดาห์ค่ะ สอบจริงจังมาก ผลจะออกหลังสอบของอีกวันว่าเราได้คะแนนเท่าไหร่บ้าง ผ่านไประดับต่อไปหรือไม่ อาจารย์ประจำคลาสจะเป็นคนมาบอกคะแนนเราค่ะ
- เรื่องคนไทยในโรงเรียน เราว่าทุกโรงเรียนมีคนไทยหมดแหละ อยู่ที่ว่าน้อยหรือมาก ตอนไปเรียนเป็นช่วงปิดเทอมหรือเปิดเทอม ถ้าปิดเทอมส่วนใหญ่คนไทยก็อาจจะมาเรียนภาษาเยอะหน่อย พอเปิดเทอมคนไทยก็กลับไปเรียนที่ไทยกันหมดแล้วค่า มันอยู่ที่ช่วงเวลาที่เราเรียนจริงๆ (ส่วนตัวเราก็มีเพื่อนคนไทยน่ารักๆ ก็คบไว้บ้างเราว่าได้สังคมได้เพื่อนด้วย) มีคนบอกอย่าคบคนไทยเยอะ เพราะจะได้พูดแต่ภาษาไทย เราว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรานะคะ จะพูดไม่พูด เราว่าถ้าเราพยายามพูดภาษาอังกฤษกันเยอะๆ เราก็จะได้ภาษาเองแหละ
- ตอนเราไปเรียนKaplan นักเรียนส่วนใหญ่มาจากยุโรปค่ะ ฝรั่งเศษ อิตาลี สเปน เยอรมัน งานดีมากกก น่ารักไปหมดดดดด5555
อีกอย่างโรงเรียนใกล้กับชิงช้าสวรรค์ด้วยค่ะ เดินไปแป๊บเดียวถึงเลย
- โรงเรียนตั้งอยู่ในเมือง เลยมีTramฟรีค่ะ ไม่ต้องเสียค่ารถขนส่งสาธารณะประเภทTram(ถ้ามาจากนอกเมือง รถไฟหรือรถเมล์ต้องเสียเงินนะคะ) ถ้าขึ้นจากFlinders Street Stationจะมี2สาย คือ 35และ70ค่ะ
- บรรยากาศดี ห้องเรียนกว้าง(ขึ้นอยู่กับขนาดห้องที่ได้เรียน)
- มีร้านอาหาร-คาเฟ่อยู่ในโรงเรียนเลยค่ะ แล้วเรื่องเซอไพรคือเจ้าของร้านเป็นคนไทยจ้า55555 คือมันดีมากกก ก็จะมีเมนูอาหารไทยรสชาตฝรั่งอยู่เกือบทุกวัน
- กฎของโรงเรียนห้ามพูดภาษาบ้านเกิดค่ะ ต้องพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น
- ห้ามมาสายเด็ดขาด!! ถ้ามาสาย1นาที อาจารย์ไม่ให้เข้าเรียนเลยค่ะ ดุมาก ทั้งนี้แล้วแต่ครูว่าใจดีหรือไม่ด้วย ถ้าใจดีเขาก็จะให้เข้า(บางที)
- เพื่อนๆในห้องNiceมากๆ คลาสแรกๆได้เพื่อนอายุใกล้ๆกันตั้งแต่ 16-30 ส่วนใหญ่จะอายุ 18-25 ยังวัยรุ่นๆอยู่ เรียนสนุก
- ตอนพักกลางวัน เด็กที่นี่ส่วนใหญ่จะทำอาหารมาทานเองค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องต่อสู้แย่งชิ่งไวโครเวฟกัน555 เพราะคนเยอะต้องต่อแถวรออุ่นอาหาร มีบ้างที่ซื้อกิน แต่มื้อหนึ่งก็เกือบ300บาทแล้ว ทำเองดีกว่า
นี้เป็นภาพกิจกรรมที่เราไม่ได้ตั้งใจถ่ายแต่เจอรูปพอดีเลยเอามาแบ่งให้เพื่อนๆได้ดูกัน
ขออภัยถ้ารูปไม่ชัดหรือเอียงๆนะคะ
เรื่องการเรียนการสอน
- อาจารย์มีหลากหลายเชื้อชาติค่ะ ทั้งมาจากอเมริกา, อังกฤษ และออสเตรเลียค่ะ (ส่วนตัวเราว่าเราจะได้สำเนียงจากครูผู้สอน)
- หนังสือใช้ของKaplan ชื่อ K+ Notes
- แต่ละระดับจะมีหนังสือเยอะมากประมาณ8 เล่ม หนังสือจะแบ่งเป็นสีต่างๆ ส้ม แดง เขียว..ประมาณ4สี
- แจกSheetเยอะมาก หนามาก ตอนเอากลับไทยหนักด้วย5555
- อาจารย์สอน2ท่านต่อระดับ (แต่เราเจออาจารย์หลายท่าน เพราะอาจารย์ลาหยุดค่ะ เขาให้คนอื่นมาสอนแทน)
- อยู่ในห้องต้องพูดแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น!
- อาจารย์จะถามว่าเราอยากเรียนเน้นตรงไหนมากที่สุด อยากมีกิจกรรมในห้องอะไร เขาก็จะปรับให้เข้ากับคลาสเรียนนั้นๆค่ะ
- เวลามีคนไทยในห้อง นั่งแยกกันจะดีที่สุด ส่วนใหญ่อาจารย์จะไม่ให้จับคู่กับคนชาติเดียวกันค่ะ
- อาจารย์จะให้เราได้พูดแสดงความคิดเห็น สุ่มถามหรือถามวนทั้งห้อง และให้จับกลุ่มปรึกษากันและแสดงความคิดเห็นของแต่ละกลุ่ม
- แต่ละคลาสก็จะมีเพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ ปนๆกันไป ของเราส่วนใหญ่มาจากยุโรปเยอะ เกือบครึ่งห้อง
- ใครมีคำถาม ถามได้ตลอด ยกมือถามได้เลยค่ะ อาจารย์จะอธิบายจนกว่าเราจะเข้าใจ
- กิจกรรมในห้อง เช่น ฟังเพลงและแปลเนื้อเพลง, ดูหนังและจับใจความว่าเขาพูดว่าอะไร, โตวาที เป็นต้น
สรุป
ไปเรียนภาษาเดือนกว่าๆได้อะไรบ้าง.. สำหรับเรา ได้เพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ ได้ความรู้ใหม่จากในตำราเรียน
และแน่นอนได้ภาษาค่ะ ถ้าเราฝึกพูดเยอะๆ ขยันหาความรู้เอง ตั้งใจเรียน ไม่เข้าใจก็ถาม
มีคนมาถามเราว่าไปเรียนแค่3เดือนจะได้อะไรมั้ย?
เราแนะนำให้ไปเถอะค่ะ อย่างน้อยเราก็ได้ประสบการณ์ ได้เพื่อน ได้สังคม
การไปต่างประเทศครั้งนี้ของคุณอาจจะเปลี่ยนความคิดคุณไปตลอดกาลก็ได้นะคะ
สุดท้ายฝากภาพเนื้อจิงโจ้ไว้ด้วยค่ะ เผื่อใครหิว
ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ฝากเพจด้วยนะคะ (มีคำถาม ถามได้ผ่านทางเพจเลยนะคะ ตอบเร็วกว่าค่า)
https://www.facebook.com/pekapeak/
กระทู้อื่นๆ
Chapter : one หนี ' summer BKK ' มา ' winter Melbourne ' (Australia)
[CR] แวะมาเล่า >> เรียนภาษาที่เมลเบิร์น,ออสเตรเลีย at Kaplan International English และ Embassy English Melbourne
_______________________________________________________
1. Walk inเข้าไปเลยค่ะ พร้อมกับ PassportและVisa ถ้าใครมีประกันสุขภาพก็ยื่นไปด้วย
2. ค่าเรียนIntensive English 425AUD/week (ตกเดือนละประมาณ44,200บาท เรทคูณ26บาท) + ค่าสมัคร 250AUD + ค่าหนังสือและอุปกรณ์ต่างๆ 84AUD แต่ตอนไปสมัครมีส่วนลดสำหรับเด็กไทยอยู่ค่ะ เลยเหลือสัปดาห์ละ300นิดๆ ลดไปเยอะเหมือนกัน
**ขอแก้ไขราคาจากเดิมค่า
มีหลายคอร์สมาก จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งเราเลือกเรียนแบบIntensive น่าจะมีถูกกว่านี้ค่ะ
แต่รู้สึกว่าถ้าสมัครผ่านเอเจ้นจะถูกกว่านะคะ เพราะเราเคยถามจากเอเจ้นให้เขาทำใบราคามาให้ของแต่ละโรงเรียนค่ะ
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราลงเรียนด้วยค่ะ ลงเรียนระยะยาวก็จะมีโปรโมชั่นถูกลงอีกค่ะ
3. จ่ายค่าสมัคร ตกลงวันเรียนว่าเราจะเริ่มสัปดาห์ไหน (เริ่มเรียนทุกวันจันทร์)
พอถึงวันจันทร์ปุ๊บ มาโรงเรียนตามเวลานัดหมายวันแรก คือมาสอบวัดระดับและปฐมนิเทศพาชมรอบโรงเรียนค่ะ
สอบวัดระดับภาษาสอบอะไรบ้าง?
1. Grammar ทำในคอมพิวเตอร์
2. Listening ทำในคอมพิวเตอร์
3. Writing ทำในกระดาษ มีมาให้สองหัวข้อ เลือกเขียนหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ต้องเขียนให้ครบจำนวนคำที่ข้อสอบบอก
4. Speaking พูดคุยกับอาจารย์ระดับหัวหน้าเรื่องทั่วไป (ของเราสัมภาษณ์กับเพื่อนชาวฝรั่งเศษอีกคนพร้อมกันค่ะ พลัดกันตอบ)
ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่ได้นะคะ ไม่ต้องไปเครียด เราเริ่มเรียนจากระดับที่ง่ายจะดีกว่า ดีกว่าเราได้ระดับยากๆแต่เรียนไม่รู้เรื่องแล้วจะท้อเนาะ ตอนเราทำไม่ยากไม่ง่าย เราก็ทำเท่าที่เราทำได้5555 ตอนสอบพูดก็กล้าพูดกล้าตอบค่ะ อาจารย์เขาจะได้รู้ว่าเราควรเรียนระดับไหน
สอบตอนเช้าเสร็จก็พักเบรคค่ะ พอมาถึงตอนบ่ายเขาก็จะบอกว่าเราอยู่ระดับไหน แจกหนังสือ และตารางเรียนเช้าหรือบ่ายเวลาไหนบ้าง
พอพรุ่งนี้ก็มาเรียนตามตารางได้เลยค่ะ
โรงเรียนKaplanจะมีระดับภาษา 6 ระดับ
1. Elementary
2. Lower Intermediate
3. Intermediate
4. Higher Intermediate
5. Advance
6. Proficient
ปล. เห็นมีคอร์สเรียนIELTSด้วยนะคะ ต้องเรียนระดับHigher Intermediateขึ้นไปถึงจะเรียนได้
- จะมีกิจกรรมภายในโรงเรียนให้ทำกับเพื่อนๆแทบจะทุกวัน เช่น ตีแบด, เตะบอล, ไปBarเพื่อHang Out, นั่งเรือชมวิว, ปั่นจักรยานชมเมือง, ทำBBQกินที่สวนสาธารณะ, ไปอุทยานแห่งชาติ, Thai Food Fest, Beach Festival และอีกเยอะแยะมาก มีทั้งเสียเงินและฟรีค่า *ตามรูปเลยค่ะ
- ถ้าคิดว่าระดับที่เราเรียนง่ายไป สามารถบอกอาจารย์ขอสอบอัพระดับขึ้นไปได้ก่อน แต่ทั้งนี้ต้องให้อาจารย์เห็นด้วยนะคะว่าเรามีความสามารถพอ ถ้าเขาไม่เห็นด้วย เห็นว่าเรายังไม่เก่งพอก็ไม่สามารถสอบอัพขึ้นไปได้ค่ะ
- จะมีสอบUp Levelทุกๆ5สัปดาห์ค่ะ สอบจริงจังมาก ผลจะออกหลังสอบของอีกวันว่าเราได้คะแนนเท่าไหร่บ้าง ผ่านไประดับต่อไปหรือไม่ อาจารย์ประจำคลาสจะเป็นคนมาบอกคะแนนเราค่ะ
- เรื่องคนไทยในโรงเรียน เราว่าทุกโรงเรียนมีคนไทยหมดแหละ อยู่ที่ว่าน้อยหรือมาก ตอนไปเรียนเป็นช่วงปิดเทอมหรือเปิดเทอม ถ้าปิดเทอมส่วนใหญ่คนไทยก็อาจจะมาเรียนภาษาเยอะหน่อย พอเปิดเทอมคนไทยก็กลับไปเรียนที่ไทยกันหมดแล้วค่า มันอยู่ที่ช่วงเวลาที่เราเรียนจริงๆ (ส่วนตัวเราก็มีเพื่อนคนไทยน่ารักๆ ก็คบไว้บ้างเราว่าได้สังคมได้เพื่อนด้วย) มีคนบอกอย่าคบคนไทยเยอะ เพราะจะได้พูดแต่ภาษาไทย เราว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรานะคะ จะพูดไม่พูด เราว่าถ้าเราพยายามพูดภาษาอังกฤษกันเยอะๆ เราก็จะได้ภาษาเองแหละ
- ตอนเราไปเรียนKaplan นักเรียนส่วนใหญ่มาจากยุโรปค่ะ ฝรั่งเศษ อิตาลี สเปน เยอรมัน งานดีมากกก น่ารักไปหมดดดดด5555
- บรรยากาศดี ห้องเรียนกว้าง(ขึ้นอยู่กับขนาดห้องที่ได้เรียน)
- มีร้านอาหาร-คาเฟ่อยู่ในโรงเรียนเลยค่ะ แล้วเรื่องเซอไพรคือเจ้าของร้านเป็นคนไทยจ้า55555 คือมันดีมากกก ก็จะมีเมนูอาหารไทยรสชาตฝรั่งอยู่เกือบทุกวัน
- กฎของโรงเรียนห้ามพูดภาษาบ้านเกิดค่ะ ต้องพูดภาษาอังกฤษเท่านั้น
- ห้ามมาสายเด็ดขาด!! ถ้ามาสาย1นาที อาจารย์ไม่ให้เข้าเรียนเลยค่ะ ดุมาก ทั้งนี้แล้วแต่ครูว่าใจดีหรือไม่ด้วย ถ้าใจดีเขาก็จะให้เข้า(บางที)
- เพื่อนๆในห้องNiceมากๆ คลาสแรกๆได้เพื่อนอายุใกล้ๆกันตั้งแต่ 16-30 ส่วนใหญ่จะอายุ 18-25 ยังวัยรุ่นๆอยู่ เรียนสนุก
- ตอนพักกลางวัน เด็กที่นี่ส่วนใหญ่จะทำอาหารมาทานเองค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องต่อสู้แย่งชิ่งไวโครเวฟกัน555 เพราะคนเยอะต้องต่อแถวรออุ่นอาหาร มีบ้างที่ซื้อกิน แต่มื้อหนึ่งก็เกือบ300บาทแล้ว ทำเองดีกว่า
- อาจารย์มีหลากหลายเชื้อชาติค่ะ ทั้งมาจากอเมริกา, อังกฤษ และออสเตรเลียค่ะ (ส่วนตัวเราว่าเราจะได้สำเนียงจากครูผู้สอน)
- หนังสือใช้ของKaplan ชื่อ K+ Notes
- แต่ละระดับจะมีหนังสือเยอะมากประมาณ8 เล่ม หนังสือจะแบ่งเป็นสีต่างๆ ส้ม แดง เขียว..ประมาณ4สี
- แจกSheetเยอะมาก หนามาก ตอนเอากลับไทยหนักด้วย5555
- อาจารย์สอน2ท่านต่อระดับ (แต่เราเจออาจารย์หลายท่าน เพราะอาจารย์ลาหยุดค่ะ เขาให้คนอื่นมาสอนแทน)
- อยู่ในห้องต้องพูดแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น!
- อาจารย์จะถามว่าเราอยากเรียนเน้นตรงไหนมากที่สุด อยากมีกิจกรรมในห้องอะไร เขาก็จะปรับให้เข้ากับคลาสเรียนนั้นๆค่ะ
- เวลามีคนไทยในห้อง นั่งแยกกันจะดีที่สุด ส่วนใหญ่อาจารย์จะไม่ให้จับคู่กับคนชาติเดียวกันค่ะ
- อาจารย์จะให้เราได้พูดแสดงความคิดเห็น สุ่มถามหรือถามวนทั้งห้อง และให้จับกลุ่มปรึกษากันและแสดงความคิดเห็นของแต่ละกลุ่ม
- แต่ละคลาสก็จะมีเพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ ปนๆกันไป ของเราส่วนใหญ่มาจากยุโรปเยอะ เกือบครึ่งห้อง
- ใครมีคำถาม ถามได้ตลอด ยกมือถามได้เลยค่ะ อาจารย์จะอธิบายจนกว่าเราจะเข้าใจ
- กิจกรรมในห้อง เช่น ฟังเพลงและแปลเนื้อเพลง, ดูหนังและจับใจความว่าเขาพูดว่าอะไร, โตวาที เป็นต้น
ฝากเพจด้วยนะคะ (มีคำถาม ถามได้ผ่านทางเพจเลยนะคะ ตอบเร็วกว่าค่า)
https://www.facebook.com/pekapeak/
กระทู้อื่นๆ
Chapter : one หนี ' summer BKK ' มา ' winter Melbourne ' (Australia)
Click >> http://ppantip.com/topic/34130859
Chapter : two Have lunch with me free dessert. ณ นครเมลเบิร์น ออสเตรเลีย (21 ร้าน++)
Click >> http://ppantip.com/topic/34466913
Chapter : threeThe Australian bush. ฟินไปกับธรรมชาติ Great Ocean
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น