ในเดือนนี้ได้มีการแบ่งงานให้นานามิกับมิยุไปออกรายการวาไรตี้ทอล์คโชว์ของอิวาชิ
ส่วนโยชิโนะได้ไปถ่ายแบบกับนิตยสาร fanfan
ดูเหมือนว่าทั้งสองงานนี้จะค่อนข้างเป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไปมากพอดู ทั้งนี้เป็นเพราะคอนเนคชันของทังเกะที่ไปช่วยติดต่อหางานมาให้
เพราะรู้จักกับทั้งอิวาชิที่เป็นพิธีกรรายการ และ บก.นิตยสาร fanfan ด้วย
(คงรู้จักกันตั้งแต่สมัยทังเกะอยู่ Saint 40 นั่นแหละ)
นอกจากนี้มัตสึดะยังหางานมาเพิ่มให้อีกชิ้นคือเป็นช่วงรายงานข่าวสั้นๆในรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์เซนไดตอน 4 โมงเย็น
งานนี้ทังเกะเลยมอบหมายให้ไอริไปทำ
ทุกคนได้มีงานเป็นของตัวเองหมดยกเว้นมายุทำให้มัตสึดะกับทังเกะปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี
นั่นก็เพราะมายุเคยเป็นสมาชิก I-1 มาก่อน และโดนปล่อยข่าวทำให้ความนิยมตกลง
เลยทำให้ทั้งคู่ไม่รู้ว่าถ้าให้มายุได้ออกงานเดี่ยวจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง
ทางรันกะทั้ง 3 คน เมื่อทราบข่าวการรับสมัครผู้ชมรายการทอล์คโชว์ที่นานามิกับมิยุไปก็สนใจ แต่เนื่องจากอยู่ไกลถึงโตเกียวทำให้ไม่สามารถเดินทางไปได้
เรียกว่าตลอด 1 ปีมานี้ทั้ง 3 ยังไม่เคยเจอ WUG ตัวเป็นๆสักที ถึงจะอยู่เซนไดเหมือนกันก็ตาม
แล้วก็บ่นๆกันว่าถ้าได้รู้จัก WUG เร็วกว่านี้ก็คงดีเพราะหลังจากชนะงานเทศกาลไอดอลแล้วทุกคนก็เริ่มไปทำงานที่โตเกียวบ่อยขึ้น
ในรายการทอล์คโชว์ นานามิกับมิยุได้เจอนาโนะคาสุจาก I-1 ที่มาออกรายการเหมือนกันก็ทักทายอย่างมีมารยาท
อันนี้ถ้าเป็นภาคก่อนๆที่ยามะคันกำกับจะไม่มีการได้เห็นปฏิสัมพันธ์ของ WUG และ I-1 แบบนี้ ยกเว้นมายุกับเมมเบอร์ I-1 รุ่นแรกเท่านั้น
ในรายการ ทั้งคู่พูดจาติดๆขัดๆ รับมุกพิธีกรอิวาชิไม่ทัน ต่างจากนาโนะคาสุที่เล่นมุกได้อย่างลื่นไหลมาก
ตรงนี้ผมว่าทำออกมาให้สองคนนี้ดูเป็นมือใหม่เกินไปหน่อย เพราะที่ผ่านมา 1 ปี WUG ก็ได้ไปออกรายการต่างๆมากมาย ไม่ควรจะยังมาประหม่าเวลาออกรายการทีวีแล้ว คงไว้แค่เรื่องที่รับมุกไม่ทันก็น่าจะพอ
ทางด้านโยชิโนะถึงจะเคยเป็นโมเดลมาก่อนที่จะเป็นไอดอล แต่ก็ยังห่างชั้นจากมืออาชีพเยอะ
พอถูกบอกให้ทำตัวให้ดูเหมือนเป็นไอดอลมากกว่านี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง กลายเป็นว่าเกร็งจนยิ้มไม่สวยอีก
ทางด้านไอริถือว่าทำได้ดี สามารถรายงานข่าวได้โดยไม่ต้องอ่านบท
แต่โปรดิวเซอร์รายการบอกอยากให้ดูสนุกสนานมากกว่านี้ เพราะงั้นถึงได้ต้องการไอดอลมาทำหน้าที่ช่วงนี้
หลังจากนิตยสาร fanfan ออกวางจำหน่าย ขณะที่พวกรันกะ 3 คนก็ดูไปคุยไปกันตามประสาติ่งอยู่ เพื่อนในห้องก็บอกว่าอิมเมจของโยชิโนะไม่เหมาะกับ fanfan เท่าไหร่
มจจี้ก็บอกว่าโยชิโนะออกจะมีสไตล์ แต่พอมานึกๆดูที่โยชิโนะเป็นคนเดียวที่ใส่ส้นตึกถ่ายแบบแล้วก็ทำเอาพูดไม่ออก
(คือรูปร่าง ส่วนสูงอะไรพวกนี้ยังห่างชั้นจากมืออาชีพที่ถ่ายแบบแนวนี้กัน)
รายการทอล์คโชว์ที่มิยุกับนานามิไปออกได้ออกอากาศแล้วแต่ช่วงที่ทั้ง 2 คนพูดกลับถูกตัดออกไปหมดเลย
พวกวะกุเนอร์กลุ่มของโอตะก็มานั่งโวยวายในร้านด้วยเรื่องนี้กันอีก
ดูเหมือนรายการทอล์คโชว์จะยังเร็วไปสำหรับทั้งคู่ ทังเกะเลยบอกว่าสิ่งสำคัญคือต้องรู้จุดแข็งของตัวเองและพยายามนำเสนอมันออกมา
หลังจากที่นำคำพูดของทังเกะไปประชุมกันแล้วคายะก็เลยลองเขียนบล็อกจากบันทึกที่ตัวเองทำการลดน้ำหนัก
พร้อมเมนูอาหารไขมันต่ำดู
มิยุเห็นดังนั้นก็ลองจัดรายการทางเน็ตดูบ้าง
เป็นรายการแนวๆพูดคุยและแนะนำอนิเมกับมังงะที่ตัวเองชอบ
(มีพูดถึง 7 แฝดด้วยนะ avex เหมือนกัน ล้อได้ตามสบาย)
ตัดมาทางฝั่ง I-1 ทางนี้ยอกขายแต่ละซิงเกิลลดลงเรื่อยๆ
แสดงให้เห็นถึงภาวะถดถอยของวงการไอดอลที่ขนาดยักษ์ใหญ่อย่าง I-1 ยังต้องเผชิญกับวิกฤต
โยชิโนะได้รับการเสนอให้ถ่ายแบบกราเวียร์ชุดว่ายน้ำแต่ตัวเองไม่มั่นใจในสไตล์และรูปร่างสักเท่าไหร่
พอทังเกะบอกว่าถ้าไม่เอาเดี๋ยวทางนั้นเขาจะไปติดต่อเมมเบอร์ I-1 มาแทนทำให้โยชิโนะรับงานเพราะไม่อยากเสียโอกาสนี้ไป
ในวันถ่ายแบบโยชิโนะพลาดท่าล้มแต่ทางช่างภาพบอกว่าแบบนี้ดูน่าสนใจดีแล้วก็ให้วิ่งไปรอบๆพร้อมกับถ่ายภาพไปด้วย
ทำให้ภาพที่ออกมาดูสดใสมีความเป็นไอดอล และดูเป็นตัวของโยชิโนะเองมากกว่า
เมื่อไอริกับมินามิเห็นดังนั้นก็เลยไปเตรียมการอะไรบางอย่าง
ในรายการข่าวคราวนัไอริมาในโหมดของชาร์คฮายาชิดะด้วยการสวมหัวฉลาม อิมเมจสัตว์ประจำตัวของตัวเองเอาไว้
และก็ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด
พวกเพื่อนๆของกลุ่มมจจี้เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น
มินามิก็เช่นกัน นำเอาสไตล์การร้องเพลงพื้นบ้านที่ตัวเองสถนัดมาผสมผสานกับอุมเม้เนี้ย
ทำให้ได้รีแอคชั่นการกินอาหารแบบใหม่ในสไตล์ของตัวเอง
ทางด้านนานามิอยากทำงานที่สามารถร้องเพลงได้ ทังเกะเลยให้ไปสมัครออดิชันละครเพลง
ตอนแรกนานามิก็ลังเล ถึงจะเป็นสิ่งที่ตัวเองฝึกมาตลอดเพื่อสอบเข้าฮิคาริสุกะ แต่เจ้าตัวก็ได้เลือกที่เป็นไอดอลแทนแล้ว
ทังเกะถามว่ายังทำใจเรื่องฮิคาริสุกะไม่ได้หรือเปล่า แต่นานามิบอกว่าไม่ใช่และจพลองสมัครดู
หลังจากออดิชันเสร็จนานามิบอกว่าตัวเองสู้พวกมืออาชีพไม่ได้เลยจริงๆแต่ก็ตั้งเป้าว่าสักวันจะต้องไปแสดงละครเพลงให้ได้
และในที่สุดก็มีงานติดต่อเข้ามาเพื่อขอตัวมายุไปทำโดยเฉพาะนั่นก็คืองานแสดงละคร
และที่สำคัญมายุจะได้เข้าฉากร่วมกับชิโฮะด้วย สร้างความตกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก
เพราะว่าสองคนนี้เป็นคู่แข่งกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ I-1 แล้ว
(จบตอน)
[Spoil] Wake Up, Girls! 3 Shin Shou ตอนที่ 3 - โพนี่เทลคือร่างที่แท้จริง
ส่วนโยชิโนะได้ไปถ่ายแบบกับนิตยสาร fanfan
ดูเหมือนว่าทั้งสองงานนี้จะค่อนข้างเป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไปมากพอดู ทั้งนี้เป็นเพราะคอนเนคชันของทังเกะที่ไปช่วยติดต่อหางานมาให้
เพราะรู้จักกับทั้งอิวาชิที่เป็นพิธีกรรายการ และ บก.นิตยสาร fanfan ด้วย
(คงรู้จักกันตั้งแต่สมัยทังเกะอยู่ Saint 40 นั่นแหละ)
นอกจากนี้มัตสึดะยังหางานมาเพิ่มให้อีกชิ้นคือเป็นช่วงรายงานข่าวสั้นๆในรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์เซนไดตอน 4 โมงเย็น
งานนี้ทังเกะเลยมอบหมายให้ไอริไปทำ
ทุกคนได้มีงานเป็นของตัวเองหมดยกเว้นมายุทำให้มัตสึดะกับทังเกะปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี
นั่นก็เพราะมายุเคยเป็นสมาชิก I-1 มาก่อน และโดนปล่อยข่าวทำให้ความนิยมตกลง
เลยทำให้ทั้งคู่ไม่รู้ว่าถ้าให้มายุได้ออกงานเดี่ยวจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง
ทางรันกะทั้ง 3 คน เมื่อทราบข่าวการรับสมัครผู้ชมรายการทอล์คโชว์ที่นานามิกับมิยุไปก็สนใจ แต่เนื่องจากอยู่ไกลถึงโตเกียวทำให้ไม่สามารถเดินทางไปได้
เรียกว่าตลอด 1 ปีมานี้ทั้ง 3 ยังไม่เคยเจอ WUG ตัวเป็นๆสักที ถึงจะอยู่เซนไดเหมือนกันก็ตาม
แล้วก็บ่นๆกันว่าถ้าได้รู้จัก WUG เร็วกว่านี้ก็คงดีเพราะหลังจากชนะงานเทศกาลไอดอลแล้วทุกคนก็เริ่มไปทำงานที่โตเกียวบ่อยขึ้น
ในรายการทอล์คโชว์ นานามิกับมิยุได้เจอนาโนะคาสุจาก I-1 ที่มาออกรายการเหมือนกันก็ทักทายอย่างมีมารยาท
อันนี้ถ้าเป็นภาคก่อนๆที่ยามะคันกำกับจะไม่มีการได้เห็นปฏิสัมพันธ์ของ WUG และ I-1 แบบนี้ ยกเว้นมายุกับเมมเบอร์ I-1 รุ่นแรกเท่านั้น
ในรายการ ทั้งคู่พูดจาติดๆขัดๆ รับมุกพิธีกรอิวาชิไม่ทัน ต่างจากนาโนะคาสุที่เล่นมุกได้อย่างลื่นไหลมาก
ตรงนี้ผมว่าทำออกมาให้สองคนนี้ดูเป็นมือใหม่เกินไปหน่อย เพราะที่ผ่านมา 1 ปี WUG ก็ได้ไปออกรายการต่างๆมากมาย ไม่ควรจะยังมาประหม่าเวลาออกรายการทีวีแล้ว คงไว้แค่เรื่องที่รับมุกไม่ทันก็น่าจะพอ
ทางด้านโยชิโนะถึงจะเคยเป็นโมเดลมาก่อนที่จะเป็นไอดอล แต่ก็ยังห่างชั้นจากมืออาชีพเยอะ
พอถูกบอกให้ทำตัวให้ดูเหมือนเป็นไอดอลมากกว่านี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง กลายเป็นว่าเกร็งจนยิ้มไม่สวยอีก
ทางด้านไอริถือว่าทำได้ดี สามารถรายงานข่าวได้โดยไม่ต้องอ่านบท
แต่โปรดิวเซอร์รายการบอกอยากให้ดูสนุกสนานมากกว่านี้ เพราะงั้นถึงได้ต้องการไอดอลมาทำหน้าที่ช่วงนี้
หลังจากนิตยสาร fanfan ออกวางจำหน่าย ขณะที่พวกรันกะ 3 คนก็ดูไปคุยไปกันตามประสาติ่งอยู่ เพื่อนในห้องก็บอกว่าอิมเมจของโยชิโนะไม่เหมาะกับ fanfan เท่าไหร่
มจจี้ก็บอกว่าโยชิโนะออกจะมีสไตล์ แต่พอมานึกๆดูที่โยชิโนะเป็นคนเดียวที่ใส่ส้นตึกถ่ายแบบแล้วก็ทำเอาพูดไม่ออก
(คือรูปร่าง ส่วนสูงอะไรพวกนี้ยังห่างชั้นจากมืออาชีพที่ถ่ายแบบแนวนี้กัน)
รายการทอล์คโชว์ที่มิยุกับนานามิไปออกได้ออกอากาศแล้วแต่ช่วงที่ทั้ง 2 คนพูดกลับถูกตัดออกไปหมดเลย
พวกวะกุเนอร์กลุ่มของโอตะก็มานั่งโวยวายในร้านด้วยเรื่องนี้กันอีก
ดูเหมือนรายการทอล์คโชว์จะยังเร็วไปสำหรับทั้งคู่ ทังเกะเลยบอกว่าสิ่งสำคัญคือต้องรู้จุดแข็งของตัวเองและพยายามนำเสนอมันออกมา
หลังจากที่นำคำพูดของทังเกะไปประชุมกันแล้วคายะก็เลยลองเขียนบล็อกจากบันทึกที่ตัวเองทำการลดน้ำหนัก
พร้อมเมนูอาหารไขมันต่ำดู
มิยุเห็นดังนั้นก็ลองจัดรายการทางเน็ตดูบ้าง
เป็นรายการแนวๆพูดคุยและแนะนำอนิเมกับมังงะที่ตัวเองชอบ
(มีพูดถึง 7 แฝดด้วยนะ avex เหมือนกัน ล้อได้ตามสบาย)
ตัดมาทางฝั่ง I-1 ทางนี้ยอกขายแต่ละซิงเกิลลดลงเรื่อยๆ
แสดงให้เห็นถึงภาวะถดถอยของวงการไอดอลที่ขนาดยักษ์ใหญ่อย่าง I-1 ยังต้องเผชิญกับวิกฤต
โยชิโนะได้รับการเสนอให้ถ่ายแบบกราเวียร์ชุดว่ายน้ำแต่ตัวเองไม่มั่นใจในสไตล์และรูปร่างสักเท่าไหร่
พอทังเกะบอกว่าถ้าไม่เอาเดี๋ยวทางนั้นเขาจะไปติดต่อเมมเบอร์ I-1 มาแทนทำให้โยชิโนะรับงานเพราะไม่อยากเสียโอกาสนี้ไป
ในวันถ่ายแบบโยชิโนะพลาดท่าล้มแต่ทางช่างภาพบอกว่าแบบนี้ดูน่าสนใจดีแล้วก็ให้วิ่งไปรอบๆพร้อมกับถ่ายภาพไปด้วย
ทำให้ภาพที่ออกมาดูสดใสมีความเป็นไอดอล และดูเป็นตัวของโยชิโนะเองมากกว่า
เมื่อไอริกับมินามิเห็นดังนั้นก็เลยไปเตรียมการอะไรบางอย่าง
ในรายการข่าวคราวนัไอริมาในโหมดของชาร์คฮายาชิดะด้วยการสวมหัวฉลาม อิมเมจสัตว์ประจำตัวของตัวเองเอาไว้
และก็ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด
พวกเพื่อนๆของกลุ่มมจจี้เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น
มินามิก็เช่นกัน นำเอาสไตล์การร้องเพลงพื้นบ้านที่ตัวเองสถนัดมาผสมผสานกับอุมเม้เนี้ย
ทำให้ได้รีแอคชั่นการกินอาหารแบบใหม่ในสไตล์ของตัวเอง
ทางด้านนานามิอยากทำงานที่สามารถร้องเพลงได้ ทังเกะเลยให้ไปสมัครออดิชันละครเพลง
ตอนแรกนานามิก็ลังเล ถึงจะเป็นสิ่งที่ตัวเองฝึกมาตลอดเพื่อสอบเข้าฮิคาริสุกะ แต่เจ้าตัวก็ได้เลือกที่เป็นไอดอลแทนแล้ว
ทังเกะถามว่ายังทำใจเรื่องฮิคาริสุกะไม่ได้หรือเปล่า แต่นานามิบอกว่าไม่ใช่และจพลองสมัครดู
หลังจากออดิชันเสร็จนานามิบอกว่าตัวเองสู้พวกมืออาชีพไม่ได้เลยจริงๆแต่ก็ตั้งเป้าว่าสักวันจะต้องไปแสดงละครเพลงให้ได้
และในที่สุดก็มีงานติดต่อเข้ามาเพื่อขอตัวมายุไปทำโดยเฉพาะนั่นก็คืองานแสดงละคร
และที่สำคัญมายุจะได้เข้าฉากร่วมกับชิโฮะด้วย สร้างความตกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก
เพราะว่าสองคนนี้เป็นคู่แข่งกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ I-1 แล้ว
(จบตอน)