" ความดีที่ไม่สิ้นสุด คือการอุทิศอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ "
ปัจจุบันการอุทิศร่างกาย บริจาคอวัยวะและดวงตา กับสภากาชาดไทย
สามารถทำผ่านออนไลน์ หรือกรอกแบบฟอร์มแล้วส่งไปรษณีย์ได้แล้วนะคะ
ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนต่างจังหวัดหรือไม่สะดวกเดินทางไปที่สภากาชาดไทย
ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปติดต่อเองจ้าาา
เลยขอแบ่งปัน รวบรวม Link มาให้สำหรับคนที่ยังไม่เคยทราบค่ะ
1.
การอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา การวิจัย และการรักษาทางการแพทย์
ไปที่ Link นี้ค่ะ >>>>>
"
https://www.redcross.or.th/node/51 "
(ถ้าเปิดหน้าไม่ได้ กดลิงก์ไม่ไป สามารถ copy ไปวางในหน้า ie, firefox, chrome ได้ค่ะ)
หน้านี้มีบอกรายละเอียดข้อมูลครบทุกอย่างค่ะ
ตั้งแต่การบริจาค ไปถึงตอนที่เราเสียชีวิตแล้วว่าต้องติดต่อที่ไหน และเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
อ่านไปเรื่อยๆ จนสุดหน้าจะมีที่ให้เรา Download เอกสารบริจาคค่ะ
เมื่อกรอกเอกสารครบและจัดเตรียมเอกสารครบทุกอย่างแล้ว ให้ส่งเอกสารและซองเปล่าที่จ่าหน้าซองถึงตัวเราเอง
ส่งทางไปรษณีย์ไปที่
"แผนกอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา ศาลาทินทัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน กทม. 10330"
แล้วทางโรงพยาบาลจะส่งบัตรประจำตัวไปให้ตามที่อยู่ที่จ่าหน้าซองเปล่าเอาไว้ค่ะ
2.
การบริจาคอวัยวะ
ไปที่ Link นี้ค่ะ >>>>>
"
http://www.organdonate.in.th/About_Donation/donate_process.html "
(ถ้าเปิดหน้าไม่ได้ กดลิงก์ไม่ไป สามารถ copy ไปวางในหน้า ie, firefox, chrome ได้ค่ะ)
หน้านี้ก็อธิบายรายละเอียดไว้เหมือนกัน
ตรงกลางๆ หน้าจะมีที่ให้ Download เอกสารได้
เมื่อกรอกแบบฟอร์มแล้วก็ส่งไปรษณีย์ไปที่
ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย
อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) ชั้น 5 ถนนอังรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
*ที่นี่ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องแนบซองเปล่าจ่าหน้าถึงตัวเองไปด้วยนะคะ เค้าคงมีบริการจัดส่งบัตรให้เราฟรี
3.
การบริจาคดวงตา
ไปที่ Link นี้ค่ะ >>>>>
"
http://eyebank.redcross.or.th/eyebankthai/donationwebsite/register-donor "
(ถ้าเปิดหน้าไม่ได้ กดลิงก์ไม่ไป สามารถ copy ไปวางในหน้า ie, firefox, chrome ได้ค่ะ)
น่าจะเป็นการเปิดรับบริจาคที่สะดวกที่สุด เพราะเป็นแบบออนไลน์
เปิดไปตาม Link ก็สามารถกรอกข้อมูลและคลิกส่งได้ทันที
ส่วนตัวก็เป็นทั้งผู้อุทิศร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ และบริจาคเรียบร้อยแล้วทั้งอวัยวะและดวงตา
ซึ่งทำเรียบร้อย แจ้งความจำนงไว้หลายปีแล้ว
และหลายๆ คนมักมีคำถามที่สงสัยกัน ยกตัวอย่างเช่น
...การอุทิศและบริจาคต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับคนเป็นที่ยังอยู่นะคะ ว่ามีความประสงค์อย่างไร
หากเราแจ้งความจำนงว่าต้องการบริจาคไว้แล้ว แต่ลูกหลานไม่ประสงค์จะให้รับร่างกายไป
ทางสภากาชาดไทยก็ไม่สามารถนำไปได้ค่ะ รวมถึงญาติอาจจะไม่โทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นถ้าบริจาคแล้ว ก็ต้องคุยกับลูกหลานให้เข้าใจเจตนารมณ์ของเราด้วยค่ะ
...ไม่มีมดลูก ผ่าตัดไปแล้ว ไม่ครบ 32 จะบริจาคได้มั้ย
เท่าที่ทราบ ทางสภากาชาดไทยเปิดรับบริจาคหมดนะคะ แค่ยกเว้นการตายบางอย่างที่จะไม่สามารถนำร่างกายหรืออวัยวะไปใช้งานได้
เช่น การเสียชีวิตจากโรค (เชื้อโรค) อันนี้แทบจะนำอวัยวะไปปลูกถ่ายให้บุคคลอื่นไม่ได้เลย
หรือเสียชีวิตนาน จึงจะแจ้งให้สภากาชาดไทยทราบ ทำให้อวัยวะตาย ไม่สามรถนำไปปลูกถ่ายได้เช่นกันค่ะ
(ปกติมีข้อกำหนดว่าต้องโทรแจ้งภายในกี่ชั่วโมงนับจากเสียชีวิต และมีวิธีการดูแลร่างกายระหว่างรอการมารับศพ)
...บริจาคอวัยวะไปแล้ว ชาติหน้าเกิดมาจะพิการรึป่าว
ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกันนะคะ เกิดใหม่ชาติหน้า ธรรมชาติก็สร้างอวัยวะมาให้ใหม่เอง หรือไม่น่าจะงอกเกินมานะคะ
อย่าคิดมากค่ะ ไม่ได้น่ากลัวเลย ตายแล้วร่างกายเรายังเป็นประโยชน์กับโลกได้อีก
ช่วยต่อชีวิตคนอื่น บุญยิ่งใหญ่มหาศาลมากค่ะ ถ้าบุญกรรมมีจริง เกิดชาติหน้าเราน่าจะแข็งแรงมากขึ้นด้วยซ้ำ
การอุทิศร่างกาย บริจาคอวัยวะและดวงตา ((Version อุทิศและบริจาคหน้าคอม))
ปัจจุบันการอุทิศร่างกาย บริจาคอวัยวะและดวงตา กับสภากาชาดไทย
สามารถทำผ่านออนไลน์ หรือกรอกแบบฟอร์มแล้วส่งไปรษณีย์ได้แล้วนะคะ
ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนต่างจังหวัดหรือไม่สะดวกเดินทางไปที่สภากาชาดไทย
ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปติดต่อเองจ้าาา
เลยขอแบ่งปัน รวบรวม Link มาให้สำหรับคนที่ยังไม่เคยทราบค่ะ
1.
การอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา การวิจัย และการรักษาทางการแพทย์
ไปที่ Link นี้ค่ะ >>>>>
(ถ้าเปิดหน้าไม่ได้ กดลิงก์ไม่ไป สามารถ copy ไปวางในหน้า ie, firefox, chrome ได้ค่ะ)
หน้านี้มีบอกรายละเอียดข้อมูลครบทุกอย่างค่ะ
ตั้งแต่การบริจาค ไปถึงตอนที่เราเสียชีวิตแล้วว่าต้องติดต่อที่ไหน และเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
อ่านไปเรื่อยๆ จนสุดหน้าจะมีที่ให้เรา Download เอกสารบริจาคค่ะ
เมื่อกรอกเอกสารครบและจัดเตรียมเอกสารครบทุกอย่างแล้ว ให้ส่งเอกสารและซองเปล่าที่จ่าหน้าซองถึงตัวเราเอง
ส่งทางไปรษณีย์ไปที่
"แผนกอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา ศาลาทินทัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน กทม. 10330"
แล้วทางโรงพยาบาลจะส่งบัตรประจำตัวไปให้ตามที่อยู่ที่จ่าหน้าซองเปล่าเอาไว้ค่ะ
2.
การบริจาคอวัยวะ
ไปที่ Link นี้ค่ะ >>>>>
(ถ้าเปิดหน้าไม่ได้ กดลิงก์ไม่ไป สามารถ copy ไปวางในหน้า ie, firefox, chrome ได้ค่ะ)
หน้านี้ก็อธิบายรายละเอียดไว้เหมือนกัน
ตรงกลางๆ หน้าจะมีที่ให้ Download เอกสารได้
เมื่อกรอกแบบฟอร์มแล้วก็ส่งไปรษณีย์ไปที่
ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย
อาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) ชั้น 5 ถนนอังรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
*ที่นี่ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องแนบซองเปล่าจ่าหน้าถึงตัวเองไปด้วยนะคะ เค้าคงมีบริการจัดส่งบัตรให้เราฟรี
3.
การบริจาคดวงตา
ไปที่ Link นี้ค่ะ >>>>>
(ถ้าเปิดหน้าไม่ได้ กดลิงก์ไม่ไป สามารถ copy ไปวางในหน้า ie, firefox, chrome ได้ค่ะ)
น่าจะเป็นการเปิดรับบริจาคที่สะดวกที่สุด เพราะเป็นแบบออนไลน์
เปิดไปตาม Link ก็สามารถกรอกข้อมูลและคลิกส่งได้ทันที
ส่วนตัวก็เป็นทั้งผู้อุทิศร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ และบริจาคเรียบร้อยแล้วทั้งอวัยวะและดวงตา
ซึ่งทำเรียบร้อย แจ้งความจำนงไว้หลายปีแล้ว
และหลายๆ คนมักมีคำถามที่สงสัยกัน ยกตัวอย่างเช่น
...การอุทิศและบริจาคต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับคนเป็นที่ยังอยู่นะคะ ว่ามีความประสงค์อย่างไร
หากเราแจ้งความจำนงว่าต้องการบริจาคไว้แล้ว แต่ลูกหลานไม่ประสงค์จะให้รับร่างกายไป
ทางสภากาชาดไทยก็ไม่สามารถนำไปได้ค่ะ รวมถึงญาติอาจจะไม่โทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นถ้าบริจาคแล้ว ก็ต้องคุยกับลูกหลานให้เข้าใจเจตนารมณ์ของเราด้วยค่ะ
...ไม่มีมดลูก ผ่าตัดไปแล้ว ไม่ครบ 32 จะบริจาคได้มั้ย
เท่าที่ทราบ ทางสภากาชาดไทยเปิดรับบริจาคหมดนะคะ แค่ยกเว้นการตายบางอย่างที่จะไม่สามารถนำร่างกายหรืออวัยวะไปใช้งานได้
เช่น การเสียชีวิตจากโรค (เชื้อโรค) อันนี้แทบจะนำอวัยวะไปปลูกถ่ายให้บุคคลอื่นไม่ได้เลย
หรือเสียชีวิตนาน จึงจะแจ้งให้สภากาชาดไทยทราบ ทำให้อวัยวะตาย ไม่สามรถนำไปปลูกถ่ายได้เช่นกันค่ะ
(ปกติมีข้อกำหนดว่าต้องโทรแจ้งภายในกี่ชั่วโมงนับจากเสียชีวิต และมีวิธีการดูแลร่างกายระหว่างรอการมารับศพ)
...บริจาคอวัยวะไปแล้ว ชาติหน้าเกิดมาจะพิการรึป่าว
ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกันนะคะ เกิดใหม่ชาติหน้า ธรรมชาติก็สร้างอวัยวะมาให้ใหม่เอง หรือไม่น่าจะงอกเกินมานะคะ
อย่าคิดมากค่ะ ไม่ได้น่ากลัวเลย ตายแล้วร่างกายเรายังเป็นประโยชน์กับโลกได้อีก
ช่วยต่อชีวิตคนอื่น บุญยิ่งใหญ่มหาศาลมากค่ะ ถ้าบุญกรรมมีจริง เกิดชาติหน้าเราน่าจะแข็งแรงมากขึ้นด้วยซ้ำ