สวัสดีครับ ปกติแฟนผมจะเป็นคนที่หน้ามันมากระหว่างวันต้องใช้กระดาษซับหน้า 2-3 แผ่นตลอด
ใช่แล้วครับ พอหน้ามัน สิวก็มาเยือน นอกจากวิธีทั่วไปที่เราทุกคนทำอยู่เป็นประจำ เช่นการทานน้ำเยอะๆ การเลือกทานอาหารที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันเยอะๆ เช่นพวกของทอด  การเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะคนหน้ามัน หรือ ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป

แฟนผมยังมีตัวช่วยเป็นผลิตภัณฑ์เหล่านี้ครับ วันนี้ผมเลยอยากจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ราคาสบายกระเป๋าที่หาซื้อได้ง่ายๆ และเห็นผลจริง

ตัวแรก
ด้วยความอยากลองหลังเลยได้ตัวนี้มาครับ สมูทโตะ โทเมโท อโล สเนล ไวท์ & แอคเน่ สลิปปิ้ง เซรั่ม จาก 7-11 จริงๆ เหมือนจะมีหลายสูตร แต่เลือกอันนี้มาเพราะเป็นสลิปปิ้ง เซรั่ม เหมาะกับการพอกๆ ง่ายๆ แล้วนอนไปเลยครับ และเค้าเคลมไว้หน้าซองว่า ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอมซึ่งน่าจะเหมาะกับคนแพ้ง่ายด้วย โดยในรีวิวผมจะใช้หน้าแฟนเป็นหลักครับ ซึ่งเป็นคนหน้ามันมาก สิวก็เลยขึ้นค่อนข้างเยอะ รอยแดงจากสิวมีตลอด


ส่วนประกอบหลักๆ ที่หลังซอง :
Aloe vara (ว่านหางจระเข้)
Tomato (สารสกัดจากมะเขือเทศ)
Snail secretion (เมือกหอยทาก)
Tea tree oil (ที ทรี ออยล์)
ซึ่งหลังซองเคลมไว้ว่า ด้วยส่วนผสมข้างต้นจะช่วยดูแลสิว และ ช่วยทำให้ผิวนุ่ม รูขุมขนแลดูกระชับ ผิวไม่มัน

วิธีใช้ก็ง่ายๆ พอกไว้หนาๆข้ามคืน เพราะเป็นสลิปปิ้ง เซรั่มเนาะ ล้างออกอีกทีก็ตอนเช้าเลย
แพคเกจเป็นซองขนาด 10 มิลลิลิตร มีฝาซึ่งสามารถเก็บไว้ใช้ต่อได้ สะดวกมาก

เรามาลองดูเนื้อเซรั่มด้านในกันครับ เนื้อเซรั่มจะเป็นสีออกเขียว ไม่ใส ไม่ขุ่น กลิ่น ที ทรี ออยล์ ชัดมากครับ อันนี้ชอบส่วนตัวเลย หลังจากลองทาทีบริเวณมือพบว่าซึมค่อนข้างเร็ว ดังนั้นส่วนตัวคิดว่าเวลาทาหน้าเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดอาจจะต้องพอกหนาๆเลย เพราะไม่งั้นแปปเดียวมันซึมแล้วรู้สึกเหมือนยังไม่ได้ทา


เรามาลองดูเนื้อเซรั่มด้านในกันครับ เนื้อเซรั่มจะเป็นสีออกเขียว ไม่ใส ไม่ขุ่น กลิ่น ที ทรี ออยล์ ชัดมากครับ อันนี้ชอบส่วนตัวเลย หลังจากลองทาทีบริเวณมือพบว่าซึมค่อนข้างเร็ว ดังนั้นส่วนตัวคิดว่าเวลาทาหน้าเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดอาจจะต้องพอกหนาๆเลย เพราะไม่งั้นแปปเดียวมันซึมแล้วรู้สึกเหมือนยังไม่ได้ทา


ผลจากการใช้งานอย่างต่อเนื่องประมาณ 3 วันนะครับ
สิ่งที่เห็นได้ชัดถึงการเปลี่ยนแปลงเลย คือรอยแดง ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อีกอย่างที่เห็นความเปลี่ยนแปลงหน้าไม่ค่อยมันเหมือนเดิมครับแต่กลับ ชุ่มชื้นขึ้น ปกติระหว่างวันต้องใช้กระดาษซับหน้า 2-3 แผ่น


โดยรวมถ้าเทียบกับราคาแล้วถือว่าค่อนข้างโอเค เพราะราคาไม่แพงสามารถหาซื้อได้ทั่วไป
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในการทาครีม เพราะใช้ง่ายทาแล้วนอนได้เลยครับ  


อีกตัวครับ เป็นเจลแต้มสิว จาก Boots ได้มาในราคา ต่ำกว่า 50 บาท เพราะจัดโปรโมชั่นอยู่  
ขนาด 6 มิลลิลิตรครับ ขวดเป็นพลาสติกใสๆ มองเห็นตัวเจลยาด้านใน ข้นๆ มาพร้อมกับหัวแปรง คล้ายๆ ลิปเหมือนกัน


วิธีใช้ง่ายๆ เหมือนยาแต้มสิวทั่วไปครับ แต่ด้วยความที่เป็นหัวแปรงทำให้ไม่เลอะเทอะ ค่อนข้างสะดวกเลย แต่สิ่งที่ทั้งผมและแฟนไม่ค่อยประทับใจคือ กลิ่น เพราะกลิ่นตัวนี้จะออกเป็นกลิ่นตัวยาเลยครับ น่าจะไม่ได้ใส่น้ำหอมแต่งกลิ่นเลย แต่ผลลัพธ์กลับดีอย่างน่าตกใจ เพราะหลังใช้สิวยุบประมาณนึงเลยครับ น่าสนใจในราคาประหยัดครับ


ตัวถัดไปนะครับ ZermixCream ตัวนี้ ทั้งผมและแฟนชื่นชอบเป็นพิเศษเลย เพราะตัวนี้จะเป็นครีมที่ให้ความชุ่มชื้นกับหน้า แต่ไม่ทำให้หน้ามัน ซึมเข้าผิวอย่างรวดเร็ว และไม่มีน้ำหอมเป็นส่วนประกอบ คุณสมบัติหลักๆคือ เติมน้ำให้กับผิวทำให้ชุ่มชื่น เหมือนกักเก็บน้ำไว้บนหน้าของเรา เนื้อครีมตัวนี้จะเป็นสีขาว กลิ่นแอบเป็นกลิ่นยานิดๆ แต่ไม่ได้แรงเหมือนตัวด้านบนครับ


และตัวสุดท้ายครับ นอกจากเราจะมีผลิตภัณฑ์รักษาจากภายนอกแล้ว แฟนผมยังทานตัว Vitamin C ร่วมด้วยเพื่อเป็นการรักษาจากภายในครับ เพราะวิตามินซีเนี่ย นอกจากจะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส สร้างคอลลาเจน ยังช่วยรักษาแผลจากสิวให้จางลงด้วยครับ


และทั้งหมดก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่แฟนผมใช้เพื่อดูแล และควบคุมความมันนะครับ ทั้งนี้ผมคิดว่าน่าจะขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่ใช้ด้วย ด้วยความที่ผิวหน้าต่างกัน อาจจะส่งผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไปนะครับ ยังไงก็ลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเราครับ