สวัสดีครับ มีรีวิวมาฝากอีกแล้ว พอดีเมื่อเดือนก่อนไปเที่ยวบ้านแฟนที่พะเยามา ทีแรกก็คิดว่าแค่ไปพักผ่อนคงไม่ได้เขียนรีวิวอะไรแต่พอไปถึงแล้วกลับมีเรื่องราวมากมายที่อยากมาแชร์ให้ได้เห็นกัน ไปภาคเหนือมาก็หลายครั้งอยู่แต่ไม่เคยรู้เลยว่าพะเยาจะมีเสน่ห์น่าค้นหาขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ หรือวิถีชีวิต

เดินทางไปวันศุกร์กลางคืนหลังเลิกงานลงที่สนามบินเชียงรายครับ พ่อแม่แฟนมารับเลย ขอบพระคุณครับ ลูกซองกระบอกนั้นไม่ต้องขัดบ่อยก็ดีนะครับ ฮ่าๆๆ คืนแรกเหนื่อยมารีบนอนก่อนเลยเพราะวันรุ่งขึ้นจะไปดูทะเลหมอกที่ผาช้างน้อย ภูลังกาครับ

ทางขึ้นดอยขับไม่ยากเกินไปมีโค้งแรงๆไม่มากแต่ต้องบอกเลยว่าข้างทางนี่สวยมากๆ ทั้งทะเลหมอกและแสงแดดที่สองทะลุหมอกออกมาดูแล้วอบอุ่นมากๆ

ถึงวันนี้โชคไม่ดีที่ตรงผาช้างน้อยหมอกขึ้นสูงไปหน่อยทำให้ไม่ได้เห็นวิวอะไรเลยจนแปดโมงเช้า แต่วิวที่เห็นกับบรรยากาศร้านกาแฟริมผามันก็คุ้มค่าแก่การตื่นเช้าแล้ว
หมอกลงหนาเบอร์นี้ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
นอกจากบรรยากาศดีกาแฟก็อร่อยด้วยนะครับ
พอสายๆหน่อยหมอกก็เริ่มหายจะเห็นผาช้างน้อยแล้ว ที่อยู่กลางทุ่งนั่นเลย จะเขียวได้ขนาดนี้ ดูแล้วสดชื่นมากๆ

ภูลังกาอยู่ไม่ไกลจากอำเภอเชียงคำ ในอำเภอเชียงคำก็มีที่เที่ยวอื่นๆอีกเยอะเลย ไปนั่งกินข้าวในตัวอำเภอนิดหน่อยแล้วเลยไปต่อที่วัดนันตาราม วัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่ที่โบสถ์เป็นไม้หลังคาซ้อนๆกันหลายชั้น แน่ใจว่าหลายคนยังไม่เคยเห็นมีโอกาสควรไปดูครับ
ด้านในโบสถ์เป็นไม้ทั้งหมดได้อารมณ์ความเก่าแก่
ด้านในวัดมีพิพิธภัณฑ์ของวัดที่รวมของเก่าๆมากมายรวมถึงคำภีร์ต่างๆด้วยครับ ถึงจะอ่านไม่ออกแต่ก็ดูน่าสนใจดี

ดูๆไปเริ่มง่วงเพราะเป็นโรคแพ้การตื่นเช้ากลับบ้านนอนรอตื่นตอนเย็นไปเลย

ตอนเย็นบอกแฟนว่าพาไปดูทุ่งนาหน่อยโดนมองแปลกๆดูทำไมทุ่งนา ก็คนกรุงไม่เคยเห็นนาใกล้ๆนี่นา ขี่มอเตอร์ไซค์ไปโลด
บรรยากาศโรแมนติคสุดๆ ทั้งกระท่อมปลายนาและพระอาทิตย์ตก ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงต้องมานั่งจีบกันตรงนี้สินะ บริจาคเลือดให้ยุงด้วย

วันต่อมาก็พักผ่อนตื่นสายไปเพราะฝนตก อากาศดีแถมมีเสียงน้ำหยดลงพื้นชุ่มฉ่ำ

ฝนหยุดแล้วออกไปเที่ยวเล่นต่อเลยแฟนอาสาขี่มอเตอร์ไซค์นำเที่ยวเองซะด้วย
ขับเล่นไปมาเจอยายคนนี้ยกยอจับปลาอยู่ขอถ่ายรูปยายก็ใจดียกให้ดูด้วย
บอกตรงๆเลยว่าหลงรักบรรยากาศและสีเขียวของทุ่งนามากๆ มองไปทางไหนก็มีแต่ความสดชื่น พอนาแปลงไหนข้าวเริ่มออกรวงก็เป็นสีเหลืองทองๆ

อยู่ต่างจังหวัดแบบนี้มันดีเวลาฝนจะมาเราเห็นก่อนเลยมาจากตรงไหนไม่มีตึกสูงๆบัง หลบทันแน่นอน

ระหว่างรอฝนแฟนบอกไปหลบบ้านป้าก่อน เห็นป้ากับลุงกินข้าวอยู่เลยไปแจมซะ กับข้าวก็ง่ายๆหาวัตถุดิบจากในรั้วบ้านเลย กินผักเน้นๆ ปลาหาเอาในคลองหลังบ้าน อร่อยแถมสุขภาพดี ลุงเห็นคนกรุงเทพกินได้ดูมีความสุขไปอีก

ต่อไปนี้ใครบอกคนต่างจังหวัดบ้านนอกผมเถียงคอแข็งเลยเพราะคนกรุงเทพอย่างผมนี่แหละบ้านนอก แค่เห็นควายก็ตื่นเต้นบอกแฟนจอดก่อนอยากดูควาย
แอบใจสั่นตอนน้องควายตัวนี้จ้องเราจริงจัง ใจก็กลัวโดนขวิดแต่ก็อยากถ่ายรูปเก็บไว้
น้องควายตัวนี้ดูแล้วเหมือนเค้าดูแลดีเป็นพิเศษสงสัยเพราะเขาเค้าสวยกว่าเพื่อน
ตัวนี้กลัวน้อยหน้าสะบัดหางโชว์ น้ำกระจายเต็มเสื้อไปดิ
บรรยากาศแถวนี้อะไรก็ดูสนุกนานไปหมด ปกติเห็นแต่หมาต้อนแกะที่บ้านเราก็มีหมาต้อนควายเหมือนกัน ไม่น้อยหน้าใครเค้าหรอก

วันนี้ต้องกลับซะแล้วจริงๆยังอยากอยู่ที่นี่ต่ออีกแต่ต้องกลับไปทำงานฝ่าฟันรถติดในกรุงเทพอีกแล้ว ก่อนกลับเลยแวะไปกว๊านพะเยาก่อนเพราะมันคือไฮไลท์ของที่นี่ ตอนแรกก็ไม่ได้หวังจะเห็นอะไรสวยๆมากมายเพราะยังไงก็แค่อ่างเก็บน้ำ ที่ไหนได้ตรงนี้เป็นเหมือนสวนสาธารณะให้คนมาพักผ่อน ได้เห็นอะไรน่าสนใจอีกเยอะแยะเลย
นอกจากเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมแล้วกว๊านพะเยาก็ยังเป็นที่ทำมาหากินของชาวประมงอีกด้วย มีทั้งออกเรือหาปลาและทั้งตกปลาอยู่ตามริมๆน้ำ วันนั้นไปพอดีเห็นพี่ๆกลุ่มนึงตกได้ปลาชะโดหนัก 5 กิโลแน่ะ ตัวนี้เค้าจะขายผมแค่ 200 แต่ผมไม่รู้จะขนกลับบ้านยังไง ฮ่าๆ พี่เค้ายังบอกด้วยว่าเค้าต้องการกำจัดปลาชะโดออกจากอ่างเพราะมันไม่ใช่ปลาท้องถิ่นมีคนแอบมาปล่อยแล้วเป็นปลาดุร้ายกินปลาท้องถิ่นไปเยอะ ทำลายระบบนิเวศ ใครคิดจะปล่อยปลาก็ดูให้ดีก่อนนะครับไม่งั้นคงได้ทำบาปมากกว่าทำบุญ
โชคสองชั้นวันนี้นักกีฬาเรือยาวมาซ้อมกันอีก ที่ไม่เคยเห็นได้เห็นวันนี้หมดเลย

บอกตรงๆเลยว่ารู้สึกพลาดมากที่ไม่เคยมาเที่ยวพะเยามาก่อน หน้าหนาวนี้ใครยังไม่มีที่ไปบอกเลยว่าพะเยาไม่ผิดหวังแน่นอน ใครไปมาแล้วมีที่เที่ยวอื่นๆแนะนำตามสบายครับ

อุปกรณ์ที่ใช้
Nikon D610
Nikon 16-35mm f/4
Nikon 50mm f/1.8G
Tamron 70-300mm f/4-5.6 VC