[CR] [Review] Tinker Tailor Soldier Spy (2011) ถอดรหัสสายลับพันหน้า



หลายคนอาจรับรู้เรื่องราวในช่วงยุคสงครามเย็น ที่เป็นสงครามตัวแทนโดยคู่สงครามที่แท้จริงไม่ได้รบกันจะๆ เหมือนในสงครามโลกทั้งสองครั้งที่ผ่านมา แต่จะรบผ่านประเทศที่ตนสนับสนุนอยู่ เรียกได้ว่าเป็นสงครามอุดมการณ์ที่แบ่งเป็นสองโลก คือโลกเสรีนำโดยสหรัฐอเมริกา กับโลกคอมมิวนิสต์นำโดยสหภาพโซเวียต นอกจากจะทำการรบผ่านตัวแทนดังกล่าวแล้วยังมีการแย่งชิงข้อมูลข่าวสารอันเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อการวางแผนส่งผลให้ยุคนั้นอาชีพสายลับกลายเป็นอาชีพที่สำคัญอาชีพหนึ่ง หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวสายลับ หรือที่เรียกว่าหนังแนวจารกรรม สร้างจากนวนิยายแนวสายลับในชื่อเดียวกันซึ่งเป็นผลงานของปรมาจารย์นักเขียนนิยายแนวสายลับชื่อดัง จอห์น เลอ คาร์เร ซึ่งเรื่องนี้นำแสดงโดย แกรี่ โอลด์แมน (Bram Stoker's Dracula (1992), Léon: The Professional (1994),  The Fifth Element (1997), Darkest Hour (2017)) ร่วมด้วย โคลิน เฟิร์ธ(Kingsman: The Secret Service (2015), Kingsman: The Golden Circle (2017))  จอห์น เฮิร์ท  ,มาร์ค สตรอง ,เบเนดิค คัมเบอร์แบทช์ และ ทอม ฮาร์ดี้ กำกับโดย โทมัส อัลเฟรดสัน ผู้กำกับชาวสวีเดน

Tinker Tailor Soldier Spy บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษในยุคสงครามเย็น คอนโทรล ( เฮิร์ท ) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอังกฤษได้รับรายงานลับว่ามีหูด(สายลับสองหน้า)คอยส่งข่าวสารความเคลื่อนไหวของหน่วยข่าวกรองอังกฤษให้กับคาร์ล่าหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของโซเวียต โดยรายงานได้บอกว่าหูดที่ว่านั้นเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยซึ่งมีตำแหน่งอยู่ที่เดอะเซอร์คัส(กองบัญชาการหน่วยข่าวกรองของอังกฤษ) เขาจึงส่งจิม สายลับมือฉมัง (สตรอง) ไปค้นหาความจริง แต่ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาดทำให้ภารกิจล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จ เป็นผลให้คอนโทรลต้องถูกบีบให้ออก กระทบไปถึงลูกน้องคนสนิทจอร์จ สไมลีย์(โอลด์แมน) จะต้องลาออกตามไปด้วย ต่อมาหลังจากนั้นไม่นานเลขาธิการสภาความมั่นคงของอังกฤษก็ได้ตามให้จอร์จไปพบ เพื่อมอบภารกิจลับในการตามล่าหาหูดที่ยังคงแฝงตัวอยู่ในเดอะเซอร์คัส จอร์จได้ฟอร์มทีมขึ้นมาเพื่อใช้ในภารกิจซึ่งเขาได้ชักชวนอดีตลูกน้อง ปีเตอร์ กวิลเลียม (คัมเบอร์แบทช์)มาช่วยงานร่วมกับอดีตสายลับที่ถูกบีบให้ออก โดยนอกจากทีมงานดังกล่าวแล้วจอร์จยังได้รับข้อมูลสำคัญจากริคกี้ ทาร์(ฮาร์ดี้)ลูกน้องของกวิลเลียมอดีตสายลับที่หายตัวไปขณะปฏิบัติภารกิจ

ต้องบอกไว้ก่อนว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแนวแอคชั่นบู๊ล้างผลาญตื่นเต้นเลย ไม่ได้เหมือน 007 หรือ Kingsman อะไรพวกนั้นเลย หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังแนวการค้นหาความจริงแบบต่อจิ๊กซอว์ หากคนที่ไม่ชอบแนวซีเรียสคิดตามอาจจะง่วงเหงาหาวนอนได้ ออกจะเหมือนแนวๆ หนังเรื่อง Munich (2005)หรือ The Good Shephard (2006) การดำเนินเรื่องจะเนิบๆ แต่ทรงพลัง ปริศนาต่างๆ จะถูกไขออกทีละข้อๆ และสรุปในตอนท้าย ผมชอบบรรยากาศในเรื่องนะ มันมีความเป็นกลิ่นอายในยุค 70s ซึ่งยุคดังกล่าวเป็นยุคที่มีความตึงเครียดและมีความเข้มข้นในการแข่งขันด้านการจารกรรมข้อมูลข่าวสารกัน ซึ่งหนังสามารถทำออกมาได้สมจริงทำให้เรารู้สึกเหมือนกับเข้าไปอยู่ในยุคนั้นจริงๆ  ต้องชื่นชมฝีมือในการถ่ายภาพของ ฮอยท์ ฟานฮอยท์ม่า ที่ฝากฝีไม้ลายมือไว้กับหนังชื่อดังหลายเรื่อง ( Interstellar, 007(Spectre) และ Dunkirk ) ซึ่งเขาสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของบรรยากาศยุคสงครามเย็นที่มีความขุ่นมัวเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมไปถึงเพลงประกอบที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ของเราได้เป็นอย่างดีและทำได้เข้ากับยุคสมัยซึ่งเป็นฝีมือของ อัลเบอร์โต้ อิเกลเซียส ( ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จาก The Constant Gardener (2005) และ The Kite Runner (2007) รวมถึงเรื่องนี้ด้วย ) แค่นี้ก็การันตีได้แล้วว่ายอดเยี่ยมขนาดไหน รวมไปถึงฝ่ายเสื้อผ้าหน้าผมที่สามารถทำออกมาได้สมจริงเข้ากับสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี

พูดถึงเรื่องการแสดง ในบทของจอร์จ สไมลี่ย์สายลับรุ่นลายครามมากประสบการณ์ โอลด์แมนแสดงได้ดีสุดๆ ทำให้เราเชื่อได้ว่าเขาเป็นสายลับที่มีตัวตนจริงๆ ในเรื่องนี้สไมลี่ย์จะเป็นสายลับแก่ๆ รุ่นดึก ไม่ได้เป็นสายลับหนุ่มๆ ที่ไล่ล่าฆ่าศัตรูอย่างเจมส์ บอนด์หรือแม้กระทั่งแบบแฮรี่ ในเรื่อง Kingsman แต่เราจะเห็นสายลับที่ใช้สมองแทนการเคลื่อนไหวเป็นหลัก มีความสุขุมและเงียบขรึมคอยประมวลข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมา ในหนังเราจะได้เห็นฉากที่สไมลี่ย์นั่งประมวลข้อมูลอยู่บนโซฟาโดยมีเสียงกระซิบกระซาบหรือเสียงที่ดักฟังจากคนอื่นๆ ดังอยู่รอบๆ รวมไปถึงการที่เขามีความเด็ดขาดและเลือดเย็น ที่สั่งการให้ลูกน้องไปลักลอบนำเอกสารสำคัญในกองบัญชาการ ถ้าหากถูกจับได้ห้ามซัดทอดเป็นอันขาดให้รับความผิดเองเท่านั้น แถมในทุกๆ เช้าของแต่ละวันสไมลี่ย์ก็ยังไปทำกิจวัตรประจำวันคือการว่ายน้ำที่แม่น้ำเหมือนกับว่าภารกิจสำคัญที่ได้รับเป็นแค่งานๆ หนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าทุกวัน สมแล้วครับที่ แกรี่ โอลด์แมนได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากบทนี้ อีกคนที่ต้องพูดถึงก็คือ บทของปีเตอร์ กวิลเลียมที่แสดงโดยคัมเบอร์แบทช์ เรื่องนี้เขาแสดงให้เราได้เห็นถึงสายลับที่ดีคนนึง ที่เขาได้ทำทุกอย่างเพื่อให้ปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมากมายแค่ไหนแต่เขาก็พร้อมที่จะทำโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ รวมไปถึงการเสียสละเรื่องชีวิตส่วนตัว แถมในเรื่องนี้เราจะเห็นเสน่ห์ของคัมเบอร์แบทช์ที่สาวๆ ในสำนักงานแอบปลื้มเขาโดยที่เขาไม่ต้องเข้าไปจีบเลย ในส่วนของเฟิร์ธ ที่แสดงเป็นบิลลี่ เฮย์เด้น หนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเดอะเซอร์คัส เขาแสดงให้เห็นถึงความเก่งและความคล่องในการแก้ปัญหา แต่เราก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเจ้าชู้ปลิ้นปล้อนของเขา รวมไปถึงอารมณ์รักและเศร้าที่แสดงออกมาทางสายตา ส่วนบทริคกี้ ทาร์แม้ว่าจะออกมาไม่เยอะแต่ฮาร์ดี้ก็ทำให้เราได้สัมผัสถึงสายลับคนนึงที่นำอารมณ์ความรักเข้ามามีผลต่อการปฏิบัติภารกิจ ซึ่งเราจะพบว่าการนำอารมณ์เข้ามามักจะนำไปสู่ความล้มเหลว รวมไปถึงความทะเยอทะยานของทาร์ที่ต้องการจะสร้างผลงานที่เป็นของตัวเองโดยไม่สนใจว่าจะเกินหน้าที่ที่ตัวเองนั้นได้รับมอบหมายมาหรือไม่ ถือว่าฮาร์ดี้แสดงได้อย่างสมบทบาทเลยทีเดียว ส่วนตัวละครที่สำคัญได้แก่บทของคาร์ล่า หัวหน้าหน่วยจารกรรมของโซเวียต โดยในเรื่องนี้เราจะไม่ได้เห็นตัวเขาเลยแม้แต่น้อยแต่เราก็สามารถรับรู้ได้ถึงความเขี้ยวลากดินของเขา เขาเป็นสายลับที่เก่งกาจที่สามารถรู้ได้ว่าจะต้องรับมือกับใครด้วยวิธีไหน แม้แต่ตัวสไมลี่ย์เองที่คาร์ล่ายอมรับว่ามากด้วยฝีมือแต่คาร์ล่าก็สามารถจับจุดอ่อนของสไมลี่ย์ได้และทำเอาสไมลี่ย์เองถึงกับเป๋ไปเลยทีเดียว กลายเป็นว่าคาร์ล่าเอง ก็เป็นตัวละครสำคัญที่ขับเคลื่อนหนังได้อย่างมีอิทธิพลพอสมควร

หนังเรื่องนี้ถูกจริตผมมากๆ ผมชอบกลิ่นอายของหนังจารกรรมและเรื่องนี้ก็ทำได้ดีมากๆ แถมในตอนจบก็ยังมีเพลง La Mer ซึ่งมีเนื้อหาบรรยายความงดงามของชายฝั่งทะเลท่ามกลางคลื่นและลมฝนในฤดูร้อน ร้องโดย ฮูลิโอ อิเกลเซียส ที่นำมาประกอบกับภาพบรรยากาศงานเลี้ยงในวันคริสมาสต์ของหน่วยข่าวกรองอังกฤษตัดกับภาพบทสรุปของตัวละครต่างๆ ทำออกมาได้เข้ากัน ผมให้คะแนน 8.5 เต็ม 10 หักนิดหน่อยตรงที่บทสรุปในตอนจบรวบรัดไปทำให้สงสัยว่าบางคนจะมีโชคชะตาเป็นอย่างไร ซึ่งหนังไม่ได้บอกเราชัดเจนเท่าไรนัก อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในหนังที่ชื่นชอบของผม ถ้าใครที่ชื่นชอบหนังแนวสายลับที่เป็นสายลับจริงๆ และมีการดำเนินเรื่องที่เนิบๆ แต่ทรงพลัง แนะนำเรื่องนี้ครับ

ถ้าสนใจดูรีวิวหนังเรื่องอื่นเพิ่มเติมหรือให้คำติชมแนะนำได้ที่เพจผมครับ https://www.facebook.com/cineman95/


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   Tinker Tailor Solider Spy
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่