ตลอดช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าที่เกิดขึ้น ประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลกันไป ณ พระบรมหาราชวัง สนามหลวง กันอย่างเนืองเเน่น แน่นอนว่าหลายคนไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย ฉันเห็นพวกเขาส่วนใหญ่ร้องไห้ พวกเขาส่วนใหญ่ไปด้วยอาการสำรวมมีมารยาท แล้วอีกหลายคนที่ไปยืนถ่ายภาพเซลฟี่ ไปนั่งเก๊กหน้าสวยถายรูปตามซุ้มตามกำแพงวังนี่ไปด้วยจุดประสงค์อะไรคะ
ดิฉันไปก็ถ่ายรูปสถานที่และบรรยากาศเก็บไว้เพื่อเป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งดิฉันได้มาถวายความอาลัยต่อพระองค์ท่านที่ฉันรักเเละเทิดทูนอย่างที่สุดเพียงไม่กี่ภาพ เพราะใจฉันมันโศกเศร้าเกินกว่าจะมัวห่วงสถานที่สวยๆ จนอยากจะบันทึกเก็บไว้ดูความงดงามของวัดวังและมันไม่ใช่จุดประสงค์ที่ฉันมาที่นี่ รูปที่ถ่ายไว้นอกจากเพื่อให้ตัวเองได้ระลึกถึงความโศกเศร้าของผู้คนในประเทศเเล้วก็เก็บไว้ให้ลูกหลานดู แต่ไม่มีภาพใดที่เอาหน้าตัวเองไปเสนอในรูปฝากรอยยิ้มเก๋ไก๋เพื่อไว้อวดผู้คน
แต่จากวันแรกจนถึงเมื่อวันเสาร์ สิ่งที่ฉันได้พบมากขึ้นคือความไร้มารยาทวัฒนธรรม ความไม่มีกาลเทศะของผู้คนที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ
เสาร์ที่ผ่านมา คนจำนวนมากไปยืนถ่ายรูปตัวเองโดยที่ฉากหลังเป็นพระเมรและอาคารประกอบพวกเขาเหล่านั้นหน้าตาสดชื่นเเช่มบาน ฉันเห็นเจ้าหน้าที่คอยบอกผู้ที่มาชมการซ้อมขวบนแห่งเกียรติยศของเหล่าทหารและตำรวจว่า "กรุณาอย่าถ่ายรูปค่ะ เป็นการมิบังควร อนุญาตให้ถ่ายแต่รูปอาคารเท่านั้นค่ะ"
คล้อยหลังเจ้าหน้าที่คนเดิมๆ ก็ไปยืนถ่ายตรงที่ไม่มีเจ้าหน้าที่กันจนได้ ฉันเองแม้ไม่ช่จิตอาษาแต่เมื่อเห็นใครทำแบบนี้ก็จะคอยบอกเขาดีๆ หลายคนก็อายนะไม่กล้าทำ แต่หลายคนก็ทำแบบ กรูไม่สน กรูจะถ่าย แถมมีหนุ่มสาววัยมัธยมปลายทำท่ากิริยาไม่พอใจอีก ฉันจึงต้องพูดไปว่านี่เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพหรือพูดง่ายๆ ให้ชาวบ้านเข้าใจก็คือเป็นที่เผาศพไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่ให้มาถ่ายรูปเซลฟี่ค่ะ แต่กระนั้นก็มิได้นำพา.....นี่หรือคนที่ได้ชื่อว่าสัตว์ประเสริฐ เขาทั้งห้ามทั้งปรามแต่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี หมาแมวมันไม่ต้องมีมารยาทธรรมเนียมหรอกค่ะ แต่คนสิต้องรู้มารยาทแต่ถ้าไม่รู้มารยาทนี่คงไม่ต่างอะไรจากพวกนั้นจริงไหม
อ้อฝากอีกเรื่องค่ะ เรื่องการแต่งกายของผู้หญิงน่าเป็นห่วงกว่าผู้ชายค่ะ จำพวกกระโปรงซีทรู ข้างนอกเป็นผ้าบาง / ลูกไม้ แล้วข้างในเป็นกระโปรงสั้นหรือกางเกงขาสั้นนี่มันไม่มีความสุภาพเลยแม้แต่น้อย เอาไว้ใส่ไปเที่ยวกับแฟนนะคะอย่าใส่ไปสนามหลวงตอนนี้เพราะเขาจะไม่ให้เข้าไปด้านในแน่นอน
พระเมรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือคะ?????
ดิฉันไปก็ถ่ายรูปสถานที่และบรรยากาศเก็บไว้เพื่อเป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งดิฉันได้มาถวายความอาลัยต่อพระองค์ท่านที่ฉันรักเเละเทิดทูนอย่างที่สุดเพียงไม่กี่ภาพ เพราะใจฉันมันโศกเศร้าเกินกว่าจะมัวห่วงสถานที่สวยๆ จนอยากจะบันทึกเก็บไว้ดูความงดงามของวัดวังและมันไม่ใช่จุดประสงค์ที่ฉันมาที่นี่ รูปที่ถ่ายไว้นอกจากเพื่อให้ตัวเองได้ระลึกถึงความโศกเศร้าของผู้คนในประเทศเเล้วก็เก็บไว้ให้ลูกหลานดู แต่ไม่มีภาพใดที่เอาหน้าตัวเองไปเสนอในรูปฝากรอยยิ้มเก๋ไก๋เพื่อไว้อวดผู้คน
แต่จากวันแรกจนถึงเมื่อวันเสาร์ สิ่งที่ฉันได้พบมากขึ้นคือความไร้มารยาทวัฒนธรรม ความไม่มีกาลเทศะของผู้คนที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ
เสาร์ที่ผ่านมา คนจำนวนมากไปยืนถ่ายรูปตัวเองโดยที่ฉากหลังเป็นพระเมรและอาคารประกอบพวกเขาเหล่านั้นหน้าตาสดชื่นเเช่มบาน ฉันเห็นเจ้าหน้าที่คอยบอกผู้ที่มาชมการซ้อมขวบนแห่งเกียรติยศของเหล่าทหารและตำรวจว่า "กรุณาอย่าถ่ายรูปค่ะ เป็นการมิบังควร อนุญาตให้ถ่ายแต่รูปอาคารเท่านั้นค่ะ"
คล้อยหลังเจ้าหน้าที่คนเดิมๆ ก็ไปยืนถ่ายตรงที่ไม่มีเจ้าหน้าที่กันจนได้ ฉันเองแม้ไม่ช่จิตอาษาแต่เมื่อเห็นใครทำแบบนี้ก็จะคอยบอกเขาดีๆ หลายคนก็อายนะไม่กล้าทำ แต่หลายคนก็ทำแบบ กรูไม่สน กรูจะถ่าย แถมมีหนุ่มสาววัยมัธยมปลายทำท่ากิริยาไม่พอใจอีก ฉันจึงต้องพูดไปว่านี่เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพหรือพูดง่ายๆ ให้ชาวบ้านเข้าใจก็คือเป็นที่เผาศพไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่ให้มาถ่ายรูปเซลฟี่ค่ะ แต่กระนั้นก็มิได้นำพา.....นี่หรือคนที่ได้ชื่อว่าสัตว์ประเสริฐ เขาทั้งห้ามทั้งปรามแต่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี หมาแมวมันไม่ต้องมีมารยาทธรรมเนียมหรอกค่ะ แต่คนสิต้องรู้มารยาทแต่ถ้าไม่รู้มารยาทนี่คงไม่ต่างอะไรจากพวกนั้นจริงไหม
อ้อฝากอีกเรื่องค่ะ เรื่องการแต่งกายของผู้หญิงน่าเป็นห่วงกว่าผู้ชายค่ะ จำพวกกระโปรงซีทรู ข้างนอกเป็นผ้าบาง / ลูกไม้ แล้วข้างในเป็นกระโปรงสั้นหรือกางเกงขาสั้นนี่มันไม่มีความสุภาพเลยแม้แต่น้อย เอาไว้ใส่ไปเที่ยวกับแฟนนะคะอย่าใส่ไปสนามหลวงตอนนี้เพราะเขาจะไม่ให้เข้าไปด้านในแน่นอน