พอเข้าเดือนตุลาคม 2560 ก็จะปลายฝนต้นหนาวแล้วสินะ
บรรยากาศที่เราสัมผัสได้ช่วงนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น สีเขียวๆ
ความเย็น ของแรงลม บวกกับแสงเเดด อ่อนบ้าง เข้มบ้าง
ผมเดินทางไปยัง "ตาน้อยฟาร์ม" ที่เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2555
ที่นี่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีทั้งสิ้น...
และความตั้งใจของฟาร์มก็จะเป็นแบบนี้นานเท่านาน...
ทุกอย่างต้องปลอดสาร แต่จะใช้วิธีการธรรมชาติในการพึ่งพาซึ่งกันและกัน
วันนี้เราจะตามไปดูสิ่งที่ฟาร์มปลูกมาตั้งแต่แรกๆ กัน ว่าต้นไม้เหลานั้นเติบโตมากแค่ไหนกัน
เราตั้งใจว่าจะปลูกต้นหม่อนให้ยาย โดยการปลูกครั้งนี้เราทำเป็นแปลงๆ อาจจะมีหญ้าขึ้นบ้าง
(แต่เราไม่ใช้สารเคมีนะ) การทำรุ่นใช้วิธีดายหญ้าแทนนะ (แต่นี่ฝนดีไปหน่อยนะ 5555)
ส่วนนี้คือ ต้นกาแฟครับพี่น้อง 5555 ถือเป็นครั้งแรกที่ฟาร์มเราเอามาทดลองปลูก มันรอดและกำลังจะโต
ส่วนนี่คือ "ต้นทุเรียน" มันรอดล่ะ จัดไป !!!!! ต้องรอดดิก็ลองมาปลูกสามรอบล่ะ 555
พรวนดินสะหน่อย เน้อ อิอิอิอิ
ในส่วนต่อมาเป็นต้นมะละกอนะครับ ที่ออกลูกดก ดกกว่าลูกไก่ลูกหมูอีก 5555
ตะไคร้ก็ตามมา แม่เจ้า ใบเธอนี่ชั่งดกอะไรปานนี้หนอ
แต่ที่อยากให้เห็นนี่เลยครับ "กล้วยหอม" ออกลูกล่ะ แถมหน่อกล้วยที่ทดลองขยายเพิ่ม
ตอนนี้รอดหมดแล้วล่ะ อีกไม่เกินเคี้ยวหมากแหล่ คงจะสุกเต็นต้น 5555 ว่าไปนั่น
ส่วนนี้เลย...ข้าวปลอดสาร 100% เพราะคนปลูกไม่ได้ดายหญ้าเลย ทำให้หญ้าขึ้นเต็มที่
" ก็ลองดู จะไปคิดอะไรให้มากล่ะ " คนปลูกบอก 55555
อ้อ...ลืมบอกไปว่าที่ฟาร์มเราทดลองปลูกข้าวสองรุ่นนะครับ คือข้าวนาปี กะนาปัง
ปลูกเวลาเดียวกัน แต่สิ่งที่เห็นคือ ข้าวนาปังเริ่มออกรวงละ ส่วนข้าวนาปี ยังไม่ออกร่วง
ก็ลองดูอีกนั่นละ 5555
นี่ก็เป็นแปลงหญ้า "รูซี่" รุ่นที่สองล่ะครับ รุ่นแรกเราทดลองทำหญ้าแห้งอัดด้วย
ส่วนรุ่นที่สอง ทางฟาร์มใจดีครับ ลองปล่อยให้คนเลี้ยงวัวเนื้อมาตัดไปให้วัวเขากินดูว่าจะเป็นอย่างไร
จริงๆ เราเห็นชาวบ้านต้องไปตัดหญ้า หรือพาวัวไปปล่อยแทะเล็มตามที่สาธารณะประจำนะ
คือเราพยายามจะสื่อสารเขาผ่านทางการกระทำแบบนี้นะ ว่าแค่มีที่ไม่มากก็ทำแปลงหญ้าไว้เลี้ยงวัวก็ได้
ไม่จำเป็นต้องไปหาที่ที่อื่นๆ หรอก (เพราะถ้าทำเองเราก็มีกินตลอดทั้งปีนะ)
ใจเราคิดแบบนั้นนะสิ...แต่ไม่รู้ชาวบ้านจะเห็นรึป่าวนะ 5555
ส่วนปลาในบ่อ ตอนนี้ก็โตละ ว่ายน้ำกันเต็มบ่อเลย...
เราตั้งใจจะทำฟาร์มให้ปลอดสาร และจะยึดหลักของ "พ่อหลวง" ในการทำและอยากจะบอกให้คนที่สนใจรู้ว่า
เราไม่จำเป็นต้องเริ่มทำสิ่งใหญ่ๆ แต่เราเริ่มได้จากสิ่งเล็กๆ เริ่มปลูกเท่าที่กำลังเรามี เท่าที่เวลาจะมี
เท่าที่เราเริ่มได้....พอนานๆไปสิ่งเหล่านี้จะเป็นเหมือนแรงสะสมให้ต้นไม้ได้งอกงาม ได้เติบใหญ่ในวันข้างหน้า
ตอนเด็กๆ เราจำได้ว่าคุณยายเล่าเรื่องที่ในหลวงมาสร้างเขื่อนให้ชาวบ้าน และท่านก็เสด็จมาเปิดด้วย
ตอนนั้นคนในหมู่บ้านไปรับเสด็จ และหมู่บ้านแถวๆ นั้น เงียบมากๆ .... จากวันนั้นถึงวันนี้ เขื่อนๆ นั้นได้เก็บน้ำและส่งน้ำ
มาให้ชาวบ้านทำนาทำสวน ทำไร่ ฯลฯ และฟาร์มของเราก็ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำที่พ่อหลวงพระราชทานให้....
ตอนนี้ผมอยากจะบอกพ่อหลวงว่า...ไม่มีแผ่นดินไหนที่อุดมสมบูรณ์ และสุขเท่า...ประเ ทศไทยแล้ว
ลูกตัวเล็กๆ จะขอเดินตามและรักษาความสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินนี้ไว้ตราบนานเท่านาน
" I LOVE THAILAND "
ความสุขเล็กๆ ที่สัมผัสได้เดือนตุลาคม ณ ตาน้อยฟาร์ม
บรรยากาศที่เราสัมผัสได้ช่วงนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น สีเขียวๆ
ความเย็น ของแรงลม บวกกับแสงเเดด อ่อนบ้าง เข้มบ้าง
ผมเดินทางไปยัง "ตาน้อยฟาร์ม" ที่เริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2555
ที่นี่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีทั้งสิ้น...
และความตั้งใจของฟาร์มก็จะเป็นแบบนี้นานเท่านาน...
ทุกอย่างต้องปลอดสาร แต่จะใช้วิธีการธรรมชาติในการพึ่งพาซึ่งกันและกัน
วันนี้เราจะตามไปดูสิ่งที่ฟาร์มปลูกมาตั้งแต่แรกๆ กัน ว่าต้นไม้เหลานั้นเติบโตมากแค่ไหนกัน
เราตั้งใจว่าจะปลูกต้นหม่อนให้ยาย โดยการปลูกครั้งนี้เราทำเป็นแปลงๆ อาจจะมีหญ้าขึ้นบ้าง
(แต่เราไม่ใช้สารเคมีนะ) การทำรุ่นใช้วิธีดายหญ้าแทนนะ (แต่นี่ฝนดีไปหน่อยนะ 5555)
ส่วนนี้คือ ต้นกาแฟครับพี่น้อง 5555 ถือเป็นครั้งแรกที่ฟาร์มเราเอามาทดลองปลูก มันรอดและกำลังจะโต
ส่วนนี่คือ "ต้นทุเรียน" มันรอดล่ะ จัดไป !!!!! ต้องรอดดิก็ลองมาปลูกสามรอบล่ะ 555
พรวนดินสะหน่อย เน้อ อิอิอิอิ
ในส่วนต่อมาเป็นต้นมะละกอนะครับ ที่ออกลูกดก ดกกว่าลูกไก่ลูกหมูอีก 5555
ตะไคร้ก็ตามมา แม่เจ้า ใบเธอนี่ชั่งดกอะไรปานนี้หนอ
แต่ที่อยากให้เห็นนี่เลยครับ "กล้วยหอม" ออกลูกล่ะ แถมหน่อกล้วยที่ทดลองขยายเพิ่ม
ตอนนี้รอดหมดแล้วล่ะ อีกไม่เกินเคี้ยวหมากแหล่ คงจะสุกเต็นต้น 5555 ว่าไปนั่น
ส่วนนี้เลย...ข้าวปลอดสาร 100% เพราะคนปลูกไม่ได้ดายหญ้าเลย ทำให้หญ้าขึ้นเต็มที่
" ก็ลองดู จะไปคิดอะไรให้มากล่ะ " คนปลูกบอก 55555
ปลูกเวลาเดียวกัน แต่สิ่งที่เห็นคือ ข้าวนาปังเริ่มออกรวงละ ส่วนข้าวนาปี ยังไม่ออกร่วง
ก็ลองดูอีกนั่นละ 5555
นี่ก็เป็นแปลงหญ้า "รูซี่" รุ่นที่สองล่ะครับ รุ่นแรกเราทดลองทำหญ้าแห้งอัดด้วย
ส่วนรุ่นที่สอง ทางฟาร์มใจดีครับ ลองปล่อยให้คนเลี้ยงวัวเนื้อมาตัดไปให้วัวเขากินดูว่าจะเป็นอย่างไร
จริงๆ เราเห็นชาวบ้านต้องไปตัดหญ้า หรือพาวัวไปปล่อยแทะเล็มตามที่สาธารณะประจำนะ
คือเราพยายามจะสื่อสารเขาผ่านทางการกระทำแบบนี้นะ ว่าแค่มีที่ไม่มากก็ทำแปลงหญ้าไว้เลี้ยงวัวก็ได้
ไม่จำเป็นต้องไปหาที่ที่อื่นๆ หรอก (เพราะถ้าทำเองเราก็มีกินตลอดทั้งปีนะ)
ใจเราคิดแบบนั้นนะสิ...แต่ไม่รู้ชาวบ้านจะเห็นรึป่าวนะ 5555
ส่วนปลาในบ่อ ตอนนี้ก็โตละ ว่ายน้ำกันเต็มบ่อเลย...
เราตั้งใจจะทำฟาร์มให้ปลอดสาร และจะยึดหลักของ "พ่อหลวง" ในการทำและอยากจะบอกให้คนที่สนใจรู้ว่า
เราไม่จำเป็นต้องเริ่มทำสิ่งใหญ่ๆ แต่เราเริ่มได้จากสิ่งเล็กๆ เริ่มปลูกเท่าที่กำลังเรามี เท่าที่เวลาจะมี
เท่าที่เราเริ่มได้....พอนานๆไปสิ่งเหล่านี้จะเป็นเหมือนแรงสะสมให้ต้นไม้ได้งอกงาม ได้เติบใหญ่ในวันข้างหน้า
ตอนเด็กๆ เราจำได้ว่าคุณยายเล่าเรื่องที่ในหลวงมาสร้างเขื่อนให้ชาวบ้าน และท่านก็เสด็จมาเปิดด้วย
ตอนนั้นคนในหมู่บ้านไปรับเสด็จ และหมู่บ้านแถวๆ นั้น เงียบมากๆ .... จากวันนั้นถึงวันนี้ เขื่อนๆ นั้นได้เก็บน้ำและส่งน้ำ
มาให้ชาวบ้านทำนาทำสวน ทำไร่ ฯลฯ และฟาร์มของเราก็ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำที่พ่อหลวงพระราชทานให้....
ตอนนี้ผมอยากจะบอกพ่อหลวงว่า...ไม่มีแผ่นดินไหนที่อุดมสมบูรณ์ และสุขเท่า...ประเ ทศไทยแล้ว
ลูกตัวเล็กๆ จะขอเดินตามและรักษาความสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินนี้ไว้ตราบนานเท่านาน
" I LOVE THAILAND "