Kamikochi เป็นแหล่งท่องเที่ยวหุบเขา ทิวทัศน์สวยงามซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวอันดับต้นๆของญี่ปุ่น
อยู่แถบเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น(Japan Alps) ในจังหวัดนากาโน่ ความสูงเฉลี่ย 1,500 เมตร มีแม่น้ำ Azusa ไหลผ่าน

เดือนตุลาคมเหมาะแก่การไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี และตรงกับช่วงปิดเทอมของโรงเรียนในไทย
ผู้ปกครองสามารถพาบุตรหลานไปเที่ยวได้ อุณภูมิช่วงเดือนตุลาคมอยู่ระหว่าง 10-17 องศา ไม่หนาวมากนัก ที่น่ากังวลจะเป็นฝน


วิธีเดินทางครั้งนี้ ผมเริ่มตั้งต้นที่ Shinjuku โตเกียว เดินทางโดยรถ Bus ซึ่งจะมีหลายบริษัทฯ มีรถออกทุกชั่วโมงเลยก็ว่าได้
ขึ้นรถที่ Shinjuku Bus terminal (อยู่ชั้น 4 หาไม่ยากครับ ถามเจ้าหน้าที่แถวนั้น) ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง
แนะนำรถ Bus ค่าย Alpico จะค่อนข้างกว้างขวางครับ มีเก้าอี้พิเศษแบบมีที่ชาร์จแบตแต่ต้องเพิ่มตัง
ถ้าไม่มีเลือกค่ายอื่นก็ได้ครับ ไม่ได้ย่ำแย่อะไร

ตั๋วรถ Bus จองทางเน็ต 2-3 วันก่อนบินไปญี่ปุ่นได้เลย พิมพ์ใบจองใช้ขึ้นรถได้เลยครับ ไม่ต้องไปแลกตั๋วจริงใดๆ
แต่ต้องวางแผนเลือกเวลารถให้ดีครับ เพราะจะเปลี่ยนเวลายากหน่อย ต้องเปลี่ยนทางเน็ตเท่านั้น
https://highway-buses.jp/course/matsumoto.php
ผมจองผ่านเน็ตเป็นตั๋วไปกลับ Shinjuku-Matsumoto (ราคาตั๋วไปกลับ 6,000 เยน ถ้าไปอย่างเดียวก็ 3,500 เยน)
โดยจะพักที่ Matsumoto 3 คืน ใช้ Matsumoto เป็นฐานในการเที่ยว เนื่องจากค่าโรงแรมจะถูกกว่าพักบนเขามาก

ระหว่างทางที่รถ Bus วิ่งไป จะมีจอดที่ปั๊มน้ำมัน 1 ครั้ง 10 นาทีเท่านั้น อย่ามัว shop เพลินนะครับ
เข้าห้องน้ำ+ซื้อขนมแล้วรีบกลับขึ้นรถเลย

ถึงแล้วครับ Matsumoto Bus Terminal อยู่ในช่องด้านขวามือในรูป
ตอนนั่ง Bus ขึ้นเขา ก็ขึ้นรถที่ช่องเดียวกันนี้


ฺีBus Terminal จะอยู่ที่ตึก Alpico ตามรูปด้านบน
อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ Matsumoto แล้วอยู่ตรงข้ามโรงแรม Ace Inn ที่ผมพักด้วย สะดวกมากมาย
ลงจากรถ Bus ก็เดินเข้า Office ของ Alpico ก่อนเลย
เพื่อเอาใบจอง 2 Day Pass ไปแลกตั๋ว Pass จริง ใช้ขึ้นรถไฟ+รถ Bus ฟรีตลอด 2 วัน
ใบจอง 2 Day Pass แนะนำให้ซื้อจากเวป https://www.japanican.com/th/
จะราคาถูกกว่าซื้อจาก Alpico โดยตรงครับ

นี่คือโรงแรม Ace Inn ที่ผมพักครับ สูง 10 ชั้น ห้องพักมีห้องน้ำในตัว พักได้สูงสุด 2 คน
ผมไป 3 คน ก็เลยต้องเปิด 2 ห้อง มีอาหารเช้าให้


เนื่องจากกว่ารถ Bus จะถึง Matsumoto ก็ช่วงบ่ายไปแล้ว
วันแรกแวะเที่ยวปราสาท Matsumoto ถนนคนเดินอะไรไปก่อน
วันที่ 2-3 ค่อยใช้ 2 Day Pass ขึ้นรถไป Kamikochi ครับ

สถานีรถไฟ Matsumoto ครับ อยู่ใกล้ๆกับโรงแรม Ace Inn ที่พัก อยู่ตรงข้าม Bus Terminal
เราสามารถเลือกว่าจะนั่งรถไฟไปเที่ยว(ต้องไปต่อ Bus อีกที) หรือ นั่ง Bus ไปเที่ยวบนเขา


สถานีรถไฟ Matsumoto ไม่ได้ใหญ่ซับซ้อนแบบสถานีชินจูกุ ถามเจ้าหน้าที่ได้เลย หารถไฟไม่ยาก

หน้าสถานีรถไฟ จะมีร้านขายขนมปังไม่แพง อร่อยใช้ได้
สามารถซื้อตุนใส่เป้ไว้ เวลาไปเที่ยวบนเขา จะได้คว้ามาทานได้


วันแรกผมเลือกนั่ง Bus เที่ยว 5:30 เช้ามืดเลย ขึ้นเขาไป Kamikochi ใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง
ถือว่าตัดสินใจถูกต้องครับ เพราะเช้าๆฝนยังไม่ตก พอสายหน่อยฝนตกยันค่ำเลยครับ
ถ้าเลือกนั่งรถไฟ ใช้เวลา 30 นาที จะไปสุดปลายทางที่สถานี Shin-Shimashima ลงแล้วขึ้น Bus อีก 1 ชั่วโมงถึง Kamikochi ครับ
รถไฟ+รถ Bus นั่งฟรีตลอดครับ โดยโชว์ 2 Day Pass

พอไปถึง Kamikochi นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ลงป้าย Taisho-Ike Pond เพื่อถ่ายรูป แล้วเดินเล่นต่อไปยัง Kappa bridge
แต่ผมแนะนำให้ลงสุดทางที่สะพาน Kappa bridge ก่อนครับ เพื่อถ่ายรูปวิวที่สวยที่สุด แล้วค่อยนั่งรถย้อนกลับมา Taishoike
ไม่งั้นฝนตกขึ้นมาก่อน จะเสียดาย

ถึงสุดทาง ก็เดินไปสะพาน Kappa bridge ประมาณ 200-300 เมตรจากท่ารถ Bus ครับ
เริ่มมองเห็นสะพาน Kappa Bridge แล้ว ถ่ายไปเรื่อยครับ

ถึงแล้วสะพาน Kappa ถ่ายบนสะพาน วิวมหาชนยอดนิยมคนเป็นแสน ก็ต้องหลบนักท่องเที่ยวให้ดี

ถ่ายเสร็จก็เดินย้อนกลับมาที่ท่ารถ Bus เพื่อนั่งรถ Bus ย้อนกลับไป Taisho-Ike Pond
ถ้าจะเดินก็ได้ครับ 2-3 กิโลเมตร แต่ช่วงตุลาคมแนะนำนั่งรถเร็วกว่า รีบไปถ่ายรูปก่อนฝนจะตก


ที่ Taisho-Ike Pond นักท่องเที่ยวมากมายเช่นกัน เลือกมุมถ่ายหลบนักท่องเที่ยวให้ดี
สถานที่จริงสวยงามมากกว่าในรูปมากครับ แนะนำให้ไปเที่ยว ไม่ผิดหวัง


หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ระหว่างทางเดินกลับมาสะพาน Kappa ฝนเริ่มตกครับ
แนะนำให้นั่งรถ Bus ที่ป้าย Taisho-Ike กลับโรงแรมเลยก็ดี เพราะฝนตกแล้วเดินค่อนข้างยาก
ที่นั่งระหว่างทางก็เปียกน้ำ นั่งพักไม่ได้

มีสระน้ำอีกแห่ง สวยงามมากเช่นกันคือ Myojin Pond แต่รถ Bus ไม่ผ่านครับ
ต้องเดินขึ้นไปจากท่ารถ Bus ประมาณ 3 กิโลเมตร กลับอีก 3 กิโลเมตร
ถ้าฝนไม่ตก คงได้ไปครับ