รอยเตอร์วิเคราะห์ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าในปีที่ผ่านมาพุ่งทะลุ 32 ล้านคน โดยเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวหญิง 52% เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 42% ในปี 2015 และจากระดับ 42% ในปี 2012 โดยเศรษฐกิจของไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวถึง 12% ของจีดีพีและเป็นหมวดธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของประเทศนับตั้งแต่ปี 2014
ซึ่งปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเริ่มออกแคมเปญ “Women’s Journey” โดยเสนอส่วนลดในโรงแรม สปา ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวหญิงจากทั่วทุกมุมโลกรวมถึงจากนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วย โดยปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลบวกกับการท่องเที่ยวของไทยคือการเข้ามาท่องเที่ยวของคนจีนที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
โดยจำนวนคนจีนที่เข้ามาไทยเพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 12% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2012 ขึ้นมาเป็น 27% ในปีที่ผ่านมา ในขณะทีนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนก็เพิ่มมาไทยเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 4 เท่าตัวในช่วงเดียวกัน ซึ่งล่าสุดมีจำนวน 5.3 ล้านคน
ซึ่งเมื่อชายชาวจีนหาเงินได้มากขึ้น พวกเขาก็มักพาภรรยา ลูกสาว และแม่เดินทางมาเที่ยว ทำให้สัดส่วนของนักท่องเที่ยวหญิงเพิ่มสูงขึ้น
นักท่องเที่ยวจีนเลือกที่จะมาไทยเนื่องจากทำเลที่ตั้งที่ไม่ไกลจากจีนมากนัก มีไฟล์ทบินจำนวนมาก ใช้งบท่องเที่ยวที่ไม่มากจนเกินไป และการขอวีซ่าที่ง่ายดาย ซึ่งนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนหลายคนระบุว่าสิ่งที่ทำให้พวกเธอเลือกที่จะมาเที่ยวไทยอีกอย่างคือการขอคืนภาษีสำหรับสินค้าปลอดภาษีที่ง่าย ทำให้พวกเธอเลือกจะเข้ามาซื้อสินค้าจำพวกเครื่องสำอางค์ ซูปรังนก วิตามิน รวมไปถึงของใช้ต่างๆ
ในขณะที่ศูนย์การค้าไทยหลายแห่งก็เริ่มรับชำระเงินด้วย Alipay ซึ่งเป็นบริการชำระเงินยักษ์ใหญ่จากจีน ซึ่งใน Big C Supermarket ที่ใกล้กับศาลท้าวมหาพรหมก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้า ส่วนธุรกิจในเมืองท่องเที่ยวก็เริ่มมีการใช้เมนูเป็นภาษาจีนและให้คนงานไปเรียนภาษาจีนเพื่อที่จะได้สื่อสารกับลูกค้าคนจีนได้ ซึ่งในช่วงวันชาติของจีนมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเยือนไทยเพิ่มขึ้นถึง 70% จากปีก่อน ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวหญิงทำให้ภาพลักษณ์การเป็นเมืองค้ากามของไทยดูอ่อนลง และแหล่งท่องเที่ยวบริการทางเพศหลายแห่งอย่างย่านพัฒน์พงษ์และสีลมก็ดูเงียบเหงาลงโดยเฉพาะในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว (low season)
ส่วนเกาะสมุยซึ่งเป็นอีกแห่งที่รู้จักกันดีว่ามีแหล่งท่องเที่ยวบริการทางเพศก็มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวลดลงทำให้หลายแห่งต้องปิดการให้บริการไป
ทั้งนี้แม้รัฐบาลทหารจะพยายามปราบปรามการค้าบริการทางเพศอย่างหนักเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศนับตั้งแต่ปี 2014 แต่ธุรกิจเหล่านี้ก็สามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็วอีกครั้งเสมอ
https://www.reuters.com/article/us-thailand-tourism/go-go-going-as-chinese-women-fuel-thai-tourism-boom-idUSKBN1CP0FC
CR
https://www.facebook.com/luihoonasean/photos/a.344218642662502.1073741828.344194015998298/399241107160255/?type=3&theater
รอยเตอร์วิเคราะห์ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย
ซึ่งปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเริ่มออกแคมเปญ “Women’s Journey” โดยเสนอส่วนลดในโรงแรม สปา ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวหญิงจากทั่วทุกมุมโลกรวมถึงจากนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วย โดยปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลบวกกับการท่องเที่ยวของไทยคือการเข้ามาท่องเที่ยวของคนจีนที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
โดยจำนวนคนจีนที่เข้ามาไทยเพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 12% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2012 ขึ้นมาเป็น 27% ในปีที่ผ่านมา ในขณะทีนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนก็เพิ่มมาไทยเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 4 เท่าตัวในช่วงเดียวกัน ซึ่งล่าสุดมีจำนวน 5.3 ล้านคน
ซึ่งเมื่อชายชาวจีนหาเงินได้มากขึ้น พวกเขาก็มักพาภรรยา ลูกสาว และแม่เดินทางมาเที่ยว ทำให้สัดส่วนของนักท่องเที่ยวหญิงเพิ่มสูงขึ้น
นักท่องเที่ยวจีนเลือกที่จะมาไทยเนื่องจากทำเลที่ตั้งที่ไม่ไกลจากจีนมากนัก มีไฟล์ทบินจำนวนมาก ใช้งบท่องเที่ยวที่ไม่มากจนเกินไป และการขอวีซ่าที่ง่ายดาย ซึ่งนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนหลายคนระบุว่าสิ่งที่ทำให้พวกเธอเลือกที่จะมาเที่ยวไทยอีกอย่างคือการขอคืนภาษีสำหรับสินค้าปลอดภาษีที่ง่าย ทำให้พวกเธอเลือกจะเข้ามาซื้อสินค้าจำพวกเครื่องสำอางค์ ซูปรังนก วิตามิน รวมไปถึงของใช้ต่างๆ
ในขณะที่ศูนย์การค้าไทยหลายแห่งก็เริ่มรับชำระเงินด้วย Alipay ซึ่งเป็นบริการชำระเงินยักษ์ใหญ่จากจีน ซึ่งใน Big C Supermarket ที่ใกล้กับศาลท้าวมหาพรหมก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้า ส่วนธุรกิจในเมืองท่องเที่ยวก็เริ่มมีการใช้เมนูเป็นภาษาจีนและให้คนงานไปเรียนภาษาจีนเพื่อที่จะได้สื่อสารกับลูกค้าคนจีนได้ ซึ่งในช่วงวันชาติของจีนมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเยือนไทยเพิ่มขึ้นถึง 70% จากปีก่อน ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวหญิงทำให้ภาพลักษณ์การเป็นเมืองค้ากามของไทยดูอ่อนลง และแหล่งท่องเที่ยวบริการทางเพศหลายแห่งอย่างย่านพัฒน์พงษ์และสีลมก็ดูเงียบเหงาลงโดยเฉพาะในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว (low season)
ส่วนเกาะสมุยซึ่งเป็นอีกแห่งที่รู้จักกันดีว่ามีแหล่งท่องเที่ยวบริการทางเพศก็มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวลดลงทำให้หลายแห่งต้องปิดการให้บริการไป
ทั้งนี้แม้รัฐบาลทหารจะพยายามปราบปรามการค้าบริการทางเพศอย่างหนักเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศนับตั้งแต่ปี 2014 แต่ธุรกิจเหล่านี้ก็สามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็วอีกครั้งเสมอ
https://www.reuters.com/article/us-thailand-tourism/go-go-going-as-chinese-women-fuel-thai-tourism-boom-idUSKBN1CP0FC
CR https://www.facebook.com/luihoonasean/photos/a.344218642662502.1073741828.344194015998298/399241107160255/?type=3&theater