"อัพหมู่ลง YouTube ไม่ช่วยอะไร อีก 2 เดือน EVS ปิดตำนาน กับ แคมเปญลงขันของ DEX ทางรอดธุรกิจDVD"
เมื่อผู้สื่อข่าวของไทยรัฐไปสัมภาษณ์ 2 ผู้ประกอบการที่จัดจำหน่ายสินค้าแผ่นบันเทิงผ่าน DVD
โดยที่EVS นี่อยู่ในวงการมา 30 ปี นั้นยอมยกธงขาวเตรียมเลิกกิจการจัดจำหน่าย DVD
หลังขาดทุนต่อเนื่องมาตลอดแล้วดูเหมือนสุทธิสรร สุรนันท์กิ่งเพชร หรือ เฮียเสกนั้นจะจนปัญญากับปัญหาการขาดทุนของบริษัทที่ไม่ได้รายได้ผ่านการขายมานานแล้ว
ส่วนทาง DEX นั้นกวิน โรจน์รัตนวาณิชย์ที่เป็นเจ้าของบ.DEX นี้ก็เล่าถึงความลำบากที่ผ่านมาจากการขาดทุนการขาย DVD การ์ตูนที่ Lc มานาน จึงต้องมีการทำการลงขันการ์ตูนกับลิขสิทธิ์ผ่านการลงขัน
“ผมกำลังจะเลิกทำธุรกิจ ที่ทำมาเกือบ 30 ปี ในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้แล้วครับ”
“ปัจจุบัน รายได้หลักเรา ไม่ได้มาจากการขายแผ่น นานมากแล้วครับ”
เว็บไซด์อ้างอิง ไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/content/1102149
ก็ถือว่าลำบากจริงๆแหละแต่ยังไงก็ยังต้องทนกลืนน้ำลายอุดหนุนสินค้าลิขสิทธิ์ต่อละกัน
บวกกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อมานานหลายอย่างอีก สภาพแวดล้อมที่ซ้ำเติมมาตลอดเลย
ส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เป็นมายาวนานนี่ถึงต่อให้กฎหมายดีแค่ไหนแต่การบังคับใช้กลับไม่เข้มข้น คนก็ไม่เกรงกลัวกฎกับจิตสำนึกที่ไม่ได้รับการย้ำเตือนคุณค่าของสินค้าลิขสิทธิ์ลูกค้าก็ไม่สนใจ แล้วที่สะสมมันก็ระเบิดออกผ่านการขาดทุนของบริษัท
สัมภาษณ์ EVS / DEX ในสถานการณ์ปัจจุบันของสินค้าแผ่นบันเทิงที่ประสบภาวะขาดทุน
เมื่อผู้สื่อข่าวของไทยรัฐไปสัมภาษณ์ 2 ผู้ประกอบการที่จัดจำหน่ายสินค้าแผ่นบันเทิงผ่าน DVD
โดยที่EVS นี่อยู่ในวงการมา 30 ปี นั้นยอมยกธงขาวเตรียมเลิกกิจการจัดจำหน่าย DVD
หลังขาดทุนต่อเนื่องมาตลอดแล้วดูเหมือนสุทธิสรร สุรนันท์กิ่งเพชร หรือ เฮียเสกนั้นจะจนปัญญากับปัญหาการขาดทุนของบริษัทที่ไม่ได้รายได้ผ่านการขายมานานแล้ว
ส่วนทาง DEX นั้นกวิน โรจน์รัตนวาณิชย์ที่เป็นเจ้าของบ.DEX นี้ก็เล่าถึงความลำบากที่ผ่านมาจากการขาดทุนการขาย DVD การ์ตูนที่ Lc มานาน จึงต้องมีการทำการลงขันการ์ตูนกับลิขสิทธิ์ผ่านการลงขัน
“ผมกำลังจะเลิกทำธุรกิจ ที่ทำมาเกือบ 30 ปี ในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้แล้วครับ”
“ปัจจุบัน รายได้หลักเรา ไม่ได้มาจากการขายแผ่น นานมากแล้วครับ”
เว็บไซด์อ้างอิง ไทยรัฐ https://www.thairath.co.th/content/1102149
ก็ถือว่าลำบากจริงๆแหละแต่ยังไงก็ยังต้องทนกลืนน้ำลายอุดหนุนสินค้าลิขสิทธิ์ต่อละกัน
บวกกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อมานานหลายอย่างอีก สภาพแวดล้อมที่ซ้ำเติมมาตลอดเลย
ส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เป็นมายาวนานนี่ถึงต่อให้กฎหมายดีแค่ไหนแต่การบังคับใช้กลับไม่เข้มข้น คนก็ไม่เกรงกลัวกฎกับจิตสำนึกที่ไม่ได้รับการย้ำเตือนคุณค่าของสินค้าลิขสิทธิ์ลูกค้าก็ไม่สนใจ แล้วที่สะสมมันก็ระเบิดออกผ่านการขาดทุนของบริษัท