บทเรียนจากพี่Office ท่านนึง เล่าสู่กันฟังนะคะ

"เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมและครอบครัวได้มีโอกาสนำรถยนต์ประจำบ้าน ขับข้ามด่านหนองคาย (สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 1) ไปท่องเที่ยวดินแดนประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ซึ่งเป็นการนำรถยนต์ข้ามไปเองเป็นครั้งแรกครับ ครั้งก่อนๆ ของผมนั้นจะเป็นรถโดยสารทั้งสิ้น โดยส่วนตัวก็ได้ศึกษาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัว การเตรียมเอกสาร ค่าธรรมเนียมต่างๆ จากใน Pantip ของพวกเราอยู่ก่อนหน้าแล้ว
โดยผมและครอบครัวถึงด่านหนองคายตอนเช้าครับ ทำเรื่องและเดินเอกสารฝั่งไทยเสร็จสรรพ ก็นำรถยนต์ข้ามไปฝั่งลาว ด้วยความที่เป็นครั้งแรกก็อาจจะขลุกขลักบ้างครับ แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี หลังพ้นด่านศุลกากรของลาวแล้ว เผอิญว่าเรายังไม่ได้แลกเงินกีบมาก็เลยชิดขวาจอดขอบทางบริเวณริมกำแพงอาณาเขตที่รับฝากรถยนต์ของฝั่งลาว เพราะเห็นว่าก็มีรถยนต์ป้ายทะเบียนลาวจอดต่อกันอยู่พอสมควร และเปิดไฟฉุกเฉินไว้ครับ แต่ผมเองก็กลับลืมสนิทเพื่อสังเกตว่าบริเวณขอบทางดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์จราจรทาสีขาว-แดง ซึ่งเป็นที่ห้ามจอดตามกฎหมายครับ กลับมาที่รถ ก็พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรของทางการลาว 2 นาย รอที่จะขอดูใบอนุญาตขับขี่และเอกสารต่างๆ อยู่แล้วครับ
จึงขอเตือนพี่ๆ เพื่อนๆ ที่จะนำรถยนต์ข้ามฝั่งลาวนะครับ เราอาจจะชินอยู่บ้างกับการละเลยการปฏิบิติตามกฎจราจร ซึ่งขอย้ำนะครับว่าแบบที่ผมเป็นอยู่นั้นไม่ถูกต้องนะครับ แต่ถ้าพอข้ามไปฝั่งลาวแล้วและยิ่งเป็นรถไทยด้วยแล้ว ต้องยิ่งพึ่งระวังไว้อย่างยิ่งครับ โดยเฉพาะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ การที่เรามาอ้างว่าทีรถยนต์ลาวยังกระทำได้เลย ไม่สามารถทำได้ และไม่ถูกต้องครับ
ข้อเท็จจริงแล้ว ในขณะที่หารือกับเจ้าหน้าที่ของลาวอยู่ในขณะนั้น มีการแจ้งโดยวาจาถึงการเสียอัตราค่าปรับ ณ ตรงนั้นด้วยนะครับ แต่เราเลือกที่จะทำให้เป็นไปตามกฎหมายของแต่ละประเทศดีกว่าครับ ผมจึงถูกให้เสียค่าปรับด้วยอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายลาวได้ระบุไว้ (ตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งนะครับ) คือ 700,000 กีบ หรือประมาณ 3,000 บาทไทยครับ และยังต้องถูกนำตัวไปดำเนินเอกสารในสำนักงานตำรวจลาวในด่านครับ ซึ่งบรรยากาศภายในส่วนตัวผมเองคิดว่าเหมือนในภาพยนต์ที่ประกอบฉากให้ยอมรับสารภาพยังไงยังงั้น ไม่โอ่โถงเป็นห้องทึบและมีกลิ่นชื้นครับ
ด้วยเหตุนี้ จึงขอนำเรื่องราวของเหตุการณ์นี้ มาแจ้งให้พี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนได้รับทราบ แล้วจะได้ระวังในจุดนี้ไว้ให้มากนะครับ อย่างน้อยจะได้ไม่โดนแบบผม จะได้ขับรถยนต์ของตัวเองเที่ยวยังฝั่งลาวได้สนุกสนานและมีความสุขครับ
ด้านล่าง คือ หน้าตาของเอกสารในการเสียค่าปรับในครั้งนี้ครับ...สบายดี...
ปล. ด้วยสภาพถนนใน สปป.ลาว นั้นหลายจุดมีสภาพเสียหาย เป็นหลุมบ่อ สลับกันไป ดังนั้นสภาพรถที่นำข้ามไปต้องพร้อมนะครับ และต้องระวังไว้อย่างยิ่ง คือ จักรยานยนต์ของฝั่งนู้นครับ เพราะการขับขี่จะต่างกับไทยค่อนข้างมาก และต้องขับขวาด้วยรถพวงมาลัยขวาอย่างบ้านเราครับ"
เตือน! ท่านที่จะนำรถยนต์ส่วนบุคคลข้ามไปขับยังฝั่ง สปป.ลาว ผ่านด่านหนองคาย
โดยผมและครอบครัวถึงด่านหนองคายตอนเช้าครับ ทำเรื่องและเดินเอกสารฝั่งไทยเสร็จสรรพ ก็นำรถยนต์ข้ามไปฝั่งลาว ด้วยความที่เป็นครั้งแรกก็อาจจะขลุกขลักบ้างครับ แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี หลังพ้นด่านศุลกากรของลาวแล้ว เผอิญว่าเรายังไม่ได้แลกเงินกีบมาก็เลยชิดขวาจอดขอบทางบริเวณริมกำแพงอาณาเขตที่รับฝากรถยนต์ของฝั่งลาว เพราะเห็นว่าก็มีรถยนต์ป้ายทะเบียนลาวจอดต่อกันอยู่พอสมควร และเปิดไฟฉุกเฉินไว้ครับ แต่ผมเองก็กลับลืมสนิทเพื่อสังเกตว่าบริเวณขอบทางดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์จราจรทาสีขาว-แดง ซึ่งเป็นที่ห้ามจอดตามกฎหมายครับ กลับมาที่รถ ก็พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรของทางการลาว 2 นาย รอที่จะขอดูใบอนุญาตขับขี่และเอกสารต่างๆ อยู่แล้วครับ
จึงขอเตือนพี่ๆ เพื่อนๆ ที่จะนำรถยนต์ข้ามฝั่งลาวนะครับ เราอาจจะชินอยู่บ้างกับการละเลยการปฏิบิติตามกฎจราจร ซึ่งขอย้ำนะครับว่าแบบที่ผมเป็นอยู่นั้นไม่ถูกต้องนะครับ แต่ถ้าพอข้ามไปฝั่งลาวแล้วและยิ่งเป็นรถไทยด้วยแล้ว ต้องยิ่งพึ่งระวังไว้อย่างยิ่งครับ โดยเฉพาะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ การที่เรามาอ้างว่าทีรถยนต์ลาวยังกระทำได้เลย ไม่สามารถทำได้ และไม่ถูกต้องครับ
ข้อเท็จจริงแล้ว ในขณะที่หารือกับเจ้าหน้าที่ของลาวอยู่ในขณะนั้น มีการแจ้งโดยวาจาถึงการเสียอัตราค่าปรับ ณ ตรงนั้นด้วยนะครับ แต่เราเลือกที่จะทำให้เป็นไปตามกฎหมายของแต่ละประเทศดีกว่าครับ ผมจึงถูกให้เสียค่าปรับด้วยอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายลาวได้ระบุไว้ (ตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งนะครับ) คือ 700,000 กีบ หรือประมาณ 3,000 บาทไทยครับ และยังต้องถูกนำตัวไปดำเนินเอกสารในสำนักงานตำรวจลาวในด่านครับ ซึ่งบรรยากาศภายในส่วนตัวผมเองคิดว่าเหมือนในภาพยนต์ที่ประกอบฉากให้ยอมรับสารภาพยังไงยังงั้น ไม่โอ่โถงเป็นห้องทึบและมีกลิ่นชื้นครับ
ด้วยเหตุนี้ จึงขอนำเรื่องราวของเหตุการณ์นี้ มาแจ้งให้พี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนได้รับทราบ แล้วจะได้ระวังในจุดนี้ไว้ให้มากนะครับ อย่างน้อยจะได้ไม่โดนแบบผม จะได้ขับรถยนต์ของตัวเองเที่ยวยังฝั่งลาวได้สนุกสนานและมีความสุขครับ
ด้านล่าง คือ หน้าตาของเอกสารในการเสียค่าปรับในครั้งนี้ครับ...สบายดี...
ปล. ด้วยสภาพถนนใน สปป.ลาว นั้นหลายจุดมีสภาพเสียหาย เป็นหลุมบ่อ สลับกันไป ดังนั้นสภาพรถที่นำข้ามไปต้องพร้อมนะครับ และต้องระวังไว้อย่างยิ่ง คือ จักรยานยนต์ของฝั่งนู้นครับ เพราะการขับขี่จะต่างกับไทยค่อนข้างมาก และต้องขับขวาด้วยรถพวงมาลัยขวาอย่างบ้านเราครับ"