พึ่งกลับมาจากทริปพาแม่เที่ยวยุโรปครับ มาแชร์ดึกหน่อยเพราะพึ่งกลับมายังนอนไม่หลับ ยังคงชินกับเวลาที่โน้นครับ วันนี้ก็เลยจะมาแชร์เหตุการณ์ความมั่วของพนักงานออกตั๋วของสายการบิน Qatar Airways ที่เกือบทำให้ทริปล่ม

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ สนามบินโฮจิมินห์ บริเวณ Transfer Counter ของ Qatar Airways (ไฟล์ทขาไป)

ทำไมถึงไปเกิดที่ สนามบินโฮจิมินห์?
เพราะว่าผมได้จองตั๋วโปร(หลุด) ชั้นธุรกิจ ของ Qatar Airways ไว้ จากโฮจิมินห์ เวียดนาม ไป มิลาน อิตาลี หลายคนที่ติดตามเรื่องโปรตั๋วเครื่องบินอาจจะพอผ่านตากับโปรหลุดนี้กันนะครับ หลุดมาหลายเส้นทางเลยทั้งยุโรปและอเมริกา ผมเป็นคนหนึงที่กดจองไว้ และก็บินได้จริงๆ  แต่โปรนี้ต้องไปเริ่มต้นขึ้นที่เวียดนามครับ

และผมได้ทำการซื้อตั๋วจากไทยไปโฮจิมินห์ ของ สกบ เวียดนามแอร์ไลน์ เพิ่มเติม เพื่อนำไปต่อกันกับไฟล์ทโปร(หลุด) ชั้นธุรกิจ ของ Qatar Airways (ก็คือทริปนี้จะมีตั๋วเครื่องบินแยก 2 สายการบินครับ)

วันเดินทางตอนเช็คอินกับ เวียดนามแอร์ไลน์ ที่สุวรรณภูมิ ผมได้แจ้ง จนท เคาน์เตอร์เช็คอินว่า พอดีผมมีไฟล์ทต่อไปมิลาน สามารถ Check-through กระเป๋าเดินทาง ให้ไปรับที่มิลานเลยได้ไหม

จนท เช็คอิน เวียดนามแอร์ไลน์ ที่สุวรรณภูมิ ก็ขอเวลาเช็ค และสุดท้ายก็แจ้งว่าสามารถ Check-through กระเป๋าให้ไปรับที่มิลานได้เลย แต่ boarding pass ของ Qatar Airways จากโฮจิมินห์ ไป มิลานต้องไปรับที่บริเวณ Transfer Counter นะ ตรงนั้นจะมีเคาน์เตอร์ของ Qatar Airways (จนท เช็คอิน เวียดนามแอร์ไลน์ ที่สุวรรณภูมิ แนะนำขั้นตอนต่างๆ และช่วยเหลือดีมากๆ ครับ)



เข้าเรื่อง
พอมาถึงสนามบินโฮจิมินห์ ก็ตรงไป เคาน์เตอร์ของ Qatar Airways บริเวณ Transfer Counter มี จนท ผู้หญิง 2 คนนั่งอยู่ ก็เลยแจ้งไปว่าจะมาขอรับ boarding pass แต่ จนทผู้หญิงดูเวลาแล้วแจ้งว่า เดี๋ยวต้องรอเคาน์เตอร์เปิดก่อน ถึงจะออก boarding pass ให้ได้ (เคาน์เตอร์เปิดก่อนเดินทาง 3 ชั่วโมง แต่ตอนที่ผมไปติดต่อประมาณ 5 ชั่วโมงก่อนเดินทาง) ก็เลยต้องนั่งเล่นรอไป 2 ชั่วโมง

พอถึงเวลาเคาน์เตอร์เปิด จนท ผู้หญิงก็เดินมาเรียกผมไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อให้ไปหา จนท ผู้ชาย ผู้ที่จะทำการออกตั๋วให้ผมกับแม่ ตอนนั้นผมเดินไปคนเดียวครับ ให้แม่นั่งดูกระเป๋าตรงเก้าอี้ เพราะก็อยู่ติดๆ กันกับตรงเคาน์เตอร์นั้นเลย

พอไปถึง จนท ผู้ชาย

ผม : ยื่นพาสปอร์ตของผมกับแม่ + ยื่น E-ticket ที่จองไว้ ให้ จนท
จนท : เปิดดูอยู่ซักพัก พลิกไปพลิกมา จึงบอกให้ผมไปเรียกแม่มา

พอผมไปเรียกแม่มา

จนท : แจ้งว่า วีซ่าเชงเก้นแม่ ใช้ไม่ได้นะ เพราะที่ขอมาเป็นเชงเก้นเนเธอร์แลนด์ จะใช้ได้คุณต้องบินไปที่เนเธอร์แลนด์ก่อน แต่นี่คุณไปมิลาน วีซ่าแม่คุณเลยใช้ไม่ได้
ผม : จึงยื่นแผนการเดินทางให้ จนท ดูว่า เนี่ยผมอยู่เนเธอร์แลนด์ นานที่สุดนะ ถูกตามเงื่อนไขการใช้วีซ่า

***เงื่อนไขการใช้วีซ่าเชงเก้นก็คือ อยู่ประเทศไหนนานสุดให้ไปขอวีซ่าเชงเก้นกับประเทศนั้น หรือ ถ้าทริปนั้น อยู่แต่ละประเทศเท่าๆ กัน ก็ให้ไปขอวีซ่ากับประเทศที่เดินทางไปถึงประเทศแรก

จนท : รับแผนการเดินทางไป และตรวจดูแผน พร้อมใบจองโรงแรม ใบจองตั๋วรถไฟ ตั๋วเครื่องบิน ตรวจอย่างละเอียดยิบ เน้นว่าละเอียดยิบมาก ใช้เวลาตรวจค่อนข้างนาน และไล่ตรวจไปทีละวันเลย เหมือนพยายามจะหาจุดให้เราไม่ได้เดินทางให้ได้
จนท  :  หลังจากตรวจแผนการเดินทางเสร็จ ก็ยังเงยหน้าขึ้นมาแล้วยังบอกว่า วีซ่าเชงเก้นแม่คุณ ใช้ไม่ได้ ยังยืนยันว่าต้องบินเข้าเนเธอร์แลนด์ก่อน

ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึก เฮ้ย ไม่ใช่ละ นี่มันเรื่องใหญ่นะ ถ้าบอกว่าวีซ่าแม่ใช้ไม่ได้ ก็คือแม่ก็ไม่ได้เดินทาง พูดง่ายๆ คือทริปล่มนะแหละ เพราะผมก็ต้องพาแม่กลับไทย และมันจะต้องเสียหายหนักเพราะจองอะไรต่างๆ ไว้หมดแล้ว

ผม : ยังยืนยันว่าใช้ได้ซิ ก็อยู่เนเธอร์แลนด์นานสุดไง ตามกฎ และชี้ไปที่พาสปอร์ตผมหน้าที่มีวีซ่าเชงเก้น เห็นไหมนี่พึ่งไปมาเมื่อเดือนที่แล้ว ทำไมจะใช้ไม่ได้

อธิบายเพิ่ม : ผมกับแม่ขอวีซ่าเชงเก้นเนธอร์แลนด์มาพร้อมกันครับ วันเริ่มต้นและวันหมดอายุพร้อมกัน แต่ผมดันไปลุยเดี่ยวก่อนเมื่อเดือนกันยา แล้วตุลา จึงไปพร้อมกับแม่ วีซ่าผมจึงถูกใช้อย่างถูกต้องตามกฎแล้วครั้งแรก ส่วนครั้งต่อไปจะเข้าประเทศไหนก่อนก็ได้ ส่วนของแม่ถือเป็นครั้งแรก จึงต้องยังทำตามกฏอยู่

จนท : บอก มันเป็นกฎใหม่ ( จนท ยืนยันว่ามันเป็นกฎใหม่อยู่หลายรอบมาก ผมเถียงไปก็บอกกฎใหม่ๆ พึ่งมี)
เถียงกันอยู่ซักพักเลยครับ เพราะผมก็ไม่ยอม มันยอมไม่ได้ ยอมคือกลับ ทริปล่ม เสียหายหลายบาท กฎใหม่บ้าอะไรตรูพึ่งไปมาเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว
ผม : ไหนขอเอกสารอ้างอิง เอกสารยืนยันซิ กฎไหม่ตอนไหน (ยอมรับว่าตอนนี้โมโห หน้าแดง เริ่มขึ้นเสียง)

จนท : ขอเวลา เอาเคสของคุณโทรไปสอบถาม… ก่อน คุณช่วยกลับไปนั่งรอที่เก้าอี้ (ผมเข้าใจว่าโทรไปถามคนที่ฟันธงเองนี้ได้)
ผม : ไม่ยอมกลับไปนั่งที่เก้าอี้ครับ คือจะยืนฟังตรงนั้นและ ว่าคุยอะไรกัน เดี๋ยวไปงึมงำๆ แล้วบอกว่ายืนยันว่าใช้ไม่ได้ อีก สรุปผมก็ยืนฟังตรงนั้น แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอกครับ เค้าคุยภาษาเวียดนามกัน 555

จนท : วางสายเสร็จ ก้มหน้าก้มตา กดคอม แล้ว Print boarding pass เอาสายรัดมาติดกระเป๋าถือขึ้นเครื่องให้ ขอโทษผมซักคำไม่มี
ผม : ตอนนั้นผมแบบ หืม ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ เกือบงานเข้าแล้วไหมละ เพราะความมั่วของ จนท แท้ๆ

ตอนนั้นแอบคิดว่า รึเค้าเห็นว่าตั๋วเราเป็นตั๋วหลุด เลยพยายามจะหาจุดให้เราไม่ได้เดินทางให้ได้
แล้วแบบนี้คนเดินทางบางคนอาจจะไม่ได้รู้เงื่อนไขการใช้วีซ่าเชงเก้น แล้วดันมาเจอ จนท มั่วบอกว่ามันใช้ไม่ได้ แล้วเค้ายอมกลับจะทำยังไง คงเสียหาย

ก่อนจาก
จนท ผู้ชายคนนั้นพูดว่า : คุณไปถึงอิตาลี ก็เตรียมเอกสารทริปของคุณไว้แล้วกัน ตม.เค้าก็ต้องตรวจเอกสารคุณเหมือนผมตรวจนี่ละ
ผม : เลยตอบไป อารมณ์แบบ เออ รู้แล้วละ โกรธแรงมากตอนนั้น ไม่อยากคุยด้วย

ตอนนั้นก็ลืมถ่ายรูปไว้ แต่พอเดินเข้าเกท เจอ จนท คนนี้อีกตรง งวงช้างทางเดินเข้าชั้นธุรกิจ ผมอัดคลิปไว้พอดี เดี๋ยวคงส่งแนบไปกับเรื่องร้องเรียนที่จะส่งไปยังสายการบินครับ





***โพส์ตนี้ขอตำหนิแค่ จนท ผู้ชายคนนี้เท่านั้นครับ ไม่เหมารวม เพราะการบริการต่างๆ บนเครื่องผมประทับใจมากครับ
***ผมจะส่งเองนี้ร้องเรียนไปยังสายการบิน Qatar Airways ด้วยครับ เพราะเรื่องนี้ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องวีซ่าโดนแล้วผมว่ามันจะเสียหาย เพราะตามเข้าใจ เรื่องนี้ จนท ทำงานด้านนี้ ควรจะต้องรู้ดี ไม่ใช่มั่ว และความซวยมาตกที่ผู้โดยสาร