สวัสดีค่ะทุกคน หลายๆคนอ่านชื่อกระทู้แล้วอาจจะงงๆเล็กน้อย แต่ดิฉันตั้งใจจะมาแชร์วิธีการรักษาความจำของเราให้ดีตลอด แม้อายุจะมากขึ้นจริงๆค่ะ ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะว่าตอนนี้ดิฉันอายุ 48 ปีค่ะ ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศปกตินี่แหละค่ะ
ตั้งแต่เล็กจนโตดิฉันเคยได้ยินเรื่องการบำรุงสมอง บำรุงความจำมาเยอะค่ะ คุณพ่อคุณแม่ก็ชอบบังคับให้ทานปลา ทานของมีประโยชน์ ทานอาหารเสริม บอกจะทำให้ฉลาด เรียนหนังสือเก่งๆ แต่ดิฉันไม่เคยเชื่อเลยค่ะ อาจจะเพราะดิฉันมั่นใจว่าตัวเองเป็นคนหัวไว เข้าใจอะไรได้ง่าย ความจำดีก็ได้ค่ะ ดิฉันไม่เคยคิดว่าคนเราโตขึ้นความจำจะแย่ลง หรือที่เค้าบอกกันว่า ไม่ใช้สมองมากๆสมองจะฝ่ออะไรพวกนี้ ดิฉันไม่เชื่อเลยค่ะ ดังนั้นตั้งแต่เด็กจนโตเรียนจบทำงาน ดิฉันก็ใช้ชีวิตประจำวันแบบคนทั่วไป ไม่ได้ใส่ใจสุขภาพ บำรุงอะไรร่างกายเท่าไหร่นัก
กระทั่งปีที่แล้วดิฉันเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองชอบลืมของลืมนู่นนี่ตลอดเวลา และมาหนักตรงเหตุการณ์นึงคือ ดิฉันลืมไปว่าต้องเข้าประชุมใหญ่ที่ประชุมออนไลน์กับบริษัทในเครือที่ทำงาน ทำให้โดนหัวหน้าต่อว่าแรงมาก ดิฉันจึงเริ่มสังเกตตัวเอง รวมไปถึงสังเกตคนรอบข้างอย่างคุณพ่อคุณแม่และญาติๆด้วย พึ่งมารู้สึกตัวว่าทุกคนเวลาที่แก่ตัวลง ในเรื่องของความจำ หรือพวกการทำงานของสมองจะช้าลง มีประสิทธิภาพน้อยลงอย่างที่เคยมีคนบอกไว้จริงๆ อย่างคุณพ่อคุณแม่หลังๆท่านชอบลืมของตลอดเวลา ลืมไปว่าใส่แว่นอยู่บ้าง ลืมว่าอาบน้ำไปแล้วบ้าง จากที่บ้านดิฉันคิดเคยคิดเลขเร็วกันทุกคน ตอนนี้คิดช้าลงมาก บวกลบเลขหลักร้อย หลังๆต้องใช้เครื่องคิดเลขตลอด ตอนแรกเราอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าสังเกตและใส่ใจมากๆ ถ้าวันนึงลืมอะไรที่มันซีเรียสมากๆอาจจะเป็นปัญหาตามมาได้
ดิฉันจึงเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการต่างๆที่เคยได้ยินว่าช่วยในเรื่องของการบำรุงสมอง เพื่อจะดูแลทั้งตัวเองและคนในบ้าน ให้ความจำไม่แปรผันตามอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้พบวิธีที่สำหรับตัวดิฉันและคนรอบข้างเองรู้สึกว่าได้ผลจึงอยากนำมาแบ่งปันกับเพื่อนๆทุกคนค่ะ ซึ่งถ้าใครมีข้อคิดเห็นหรือคำแนะนำก็สามารถมาแชร์กันเพิ่มเติมได้นะคะ
เริ่มจากการฝึกสมาธิค่ะ ดิฉันได้ลองหาข้อมูลมาพบว่าการฝึกสมาธิจะช่วยเรื่องการพักผ่อน ผ่อนคลายความเครียด การทำงานของสมอง วิธีการของดิฉันคือจะนั่งสมาธิก่อนนอน เริ่มจากแรกๆประมาณ 2-3 นาที แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้น ทุกวันนี้ถ้ามีเวลาและไม่เหนื่อยจากการทำงานจนเกินไป ดิฉันจะนั่งประมาณ 15 นาทีก่อนนอนค่ะ ตอนนั่งก็ใช้เวลาตอนนั้นคิดทบทวน ฝึกจิตให้สงบนิ่ง ผ่อนคลายความกังวล ความเครียด เพื่อทำให้การนอนหลับพักผ่อนของเรามีประสิทธิภาพ ได้พักแบบเต็มที่จริงๆ แรกๆก็ยากมากค่ะ ยิ่งให้คนในบ้านมาทำด้วยกันแล้ว ยิ่งยากค่ะ เพราะแต่ละคนก็แก่ๆแล้ว สมาธิก็สั้นกันมาก ไม่เคยทำมาก่อน แต่พอทำไปได้ซักพัก ก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นจริงๆ คือเริ่มไม่ค่อยลืมของ มีสติในการตัดสินใจ ทำงานและทุกอย่างเลยค่ะ เหมือนจิตเราเริ่มตั้งมั่นแล้วค่ะ
รูปบริเวณห้องพระที่ดิฉันนั่งสมาธิค่ะ ก่อนนั่งก็มีสวดมนต์เล็กน้อย ทำให้รู้สึกสงบดีนะคะ
หลังจากฝึกสมาธิกันไปแล้ว ก็เริ่มมาดูเรื่องของการพักผ่อนค่ะ ดิฉันหาข้อมูลเพิ่มเติมทางอินเตอร์เนตเค้าบอกว่า การนอนหลับพักผ่อนนั้นก็ส่งผลกับสมองและความจำเช่นกัน เพราะการนอนจะเป็นช่วงเวลาที่สมองเกิดการเรียบเรียงความจำต่างๆ เข้าด้วยกัน ถ้านอนแบบไม่มีคุณภาพ มันก็ส่งผลกันค่อนข้างเยอะอยู่นะคะ ทำให้คสามสมองเราวันนั้นๆจะสั่งงานช้าลง หรือจำอะไรได้น้อยลง แต่การดูแลเรื่องการนอนของดิฉันและครอบครัวเป็นไปอย่างง่ายดายมาก เพราะเหมือนเราฝึกสมาธิการมาก่อนแล้ว การนั่งสมาธิก่อนนอนมันจะช่วยไม่ให้เราฟุ้งซ่าน คิดมาก หรือเครียดจนการนอนของเราไม่มีประสิทธิภาพค่ะ สำหรับดิฉันเห็นผลเร็วมากนะคะ ทำไปสัก 1 อาทิตย์ก็เริ่มรู้สึกแล้วว่านอนหลับสนิทมากขึ้น ตื่นเป็นเวลา และตื่นมาก็รู้สึกสดชื่นมากกว่าแต่ก่อนค่ะ
หลังจากดูแลเรื่องการนอนไปแล้ว ดิฉันมาดูแลเรื่องการออกกำลังกายต่อค่ะ ดิฉันหาเรื่องการดูแลความจำจากอินเตอร์เนตแล้วไปเจอว่า ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายทั่วๆ ไปนั้นสามารถเพิ่มความสามารถในการเรียกความจำได้ดีขึ้น ยิ่งสำหรับผู้สูงอายุนั้นจะช่วยชะลออาการความจำเสื่อมได้ ดิฉันเลยเริ่มชวนครอบครับมาวิ่งรอบหมู่บ้าน ออกไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำแถวบ้าน ให้ร่างกายได้ยืดเส้นยืดสายหน่อย ก็ไม่รูว่าวิธีนี้จะช่วยได้จริงหรือไม่ แต่ดิฉันมองว่าอย่างน้อยทุกคนในบ้านก็จะมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้น สุขภาพดีขึ้นไปอีกทาง ก็ถือเป็นอีกเรื่องดีๆน่ะค่ะ
รูปรองเท้าคู่ใจค่ะ เบาวบายค่ะ ใช้ใส่วิ่งรอบหมู่บ้านเอาค่ะ
ต่อมาคือเริ่มสนใจเรื่องอาหารเสริมค่ะ คือดิฉันก็ไม่ได้เชื่อ 100% หรอกนะคะว่าตัวอาหารเสริมมันจะช่วยได้มากขนาดนั้น แต่พอได้ลองทานประกอบกับการฝึกสมาธิ และหลายอย่างดิฉันว่ามันก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ อาหารเสริมที่ดิฉันเลือกคือตัวสารสกัดจากใบแปะก๊วยค่ะ เพราะว่าเคยอ่านเจอว่าใบแปะก๊วยนี่ดีมาก ช่วยเรื่องการบำรุงสมอง ความจำ ได้ดีมากๆ แล้วยังเป็นที่นิยมกันอยู่ตอนนี้ เห็นมีโฆษณานมที่ผสมกิงโกะก็ออกแนวขายเรื่องความจำ แต่มุมมองดิฉันๆคิดว่า ถ้าทานเป็นอาหารเสริมไปเลยมันน่าจะได้สารอาหารเต็มที่กว่า ละดิฉันได้เข้าไปอ่านข้อมูลมา เห็นเค้าบอกว่าเหมาะสำหรับผู้สูงอายุด้วย กิงโกะจะทำให้เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ดิฉันจึงตัดสินใจเลือกตัวนี้ จะได้ทานกับที่บ้านไปด้วยเลยค่ะ แล้วก็ทานง่ายนะคะ คุณพ่อคุณแม่และคุณป้าก็ไม่ได้อิดออดอะไรตอนให้เริ่มทาน ก็บอกเค้าไปว่าทานแล้วดีต่อสุขภาพนะ บวกกับเป็นอาหารเสริมยี่ห้อเดิมที่พวกท่านเคยทานอยู่แล้ว
อันนี้เป็นรูปของตัวกิงโกะที่ดิฉันและครอบครัวทานอยู่ค่ะ
ส่วนวิธีสุดท้ายที่ดิฉันปฏิบัติคือ หากิจกรรมที่ได้ใช้ความคิดมาทำร่วมกันในครอบครัวค่ะ อย่างคือที่บ้านดิฉันคุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มมีอายุมากขึ้นๆแล้วจริงไหมคะ จะให้เล่นเกมส์อะไรยากๆก็จะไม่ค่อยไหว ดิฉันก็เลือกเกมส์ง่ายๆ แบบอูโน่ ไพ่สลาฟ และเกมส์เศรษฐีสลับๆกันไปค่ะ แต่ที่ๆบ้านชอบที่สุดน่าจะเป็นอูโน่ค่ะ ที่บ้านชอบมาก การเล่นเกมส์พวกนี้อย่างน้อยคือให้สมองเราได้คิด ได้ทำงานบ้าง แรกๆคุณพ่อคุณแม่ท่านจะคิดช้านิดนึงค่ะ แต่พอเริ่มทำซักพัก ประกอบการดูแลตัวเองร่วมกันทั้ง 5 วิธี หลังๆจะเห็นได้ชัดว่าเกมส์มันเล่นได้เร็วขึ้น จบเร็วขึ้น สนุกขึ้น และทุกคนก็แฮปปี้ค่ะ
นี่แหละค่ะคือ วิธีการทำให้ความจำไม่แก่ตามอายุของดิฉัน ดิฉันเริ่มหันมาดูแลตัวเองตั้งแต่ประมาณเดือน 2 หลังจากที่โดนหัวหน้าเรียกไปต่อว่า นับมาถึงตอนนี้ก็เกือบ 2 ปีแล้ว ก็รู้สึกได้ระดับนึงเลยนะคะว่าขี้ลืมน้อยลง ยังไงก็อยากให้ทุกคนลองมาแชร์กันดูว่า แต่ละคนมีวิธีการดูแลความจำ และการทำงานของสมองยังไงกันบ้าง หรือถ้าใครไม่เคยคิดจะดูแลและบำรุงสมองเพราะคิดว่าไม่จำเป็น เราก็อยากให้เริ่มดูแลมันแล้วนะคะ รวมถึงดูแลคนที่คุณรักด้วยค่ะ
ขออนุญาตเครดิตเว็บที่ดิฉันหาข้อมูลมานะคะ ดิฉันก็เลือกที่คิดว่าทำได้แล้วก็เหมาะกับตัวดิฉันเองค่ะ ☺
http://www.nuttaputch.com/6-effective-ways-to-improve-memory/
https://health.kapook.com/view10210.html
วิธีการทำให้ความจำไม่แก่เท่าอายุ(วิธีส่วนตัว)
ตั้งแต่เล็กจนโตดิฉันเคยได้ยินเรื่องการบำรุงสมอง บำรุงความจำมาเยอะค่ะ คุณพ่อคุณแม่ก็ชอบบังคับให้ทานปลา ทานของมีประโยชน์ ทานอาหารเสริม บอกจะทำให้ฉลาด เรียนหนังสือเก่งๆ แต่ดิฉันไม่เคยเชื่อเลยค่ะ อาจจะเพราะดิฉันมั่นใจว่าตัวเองเป็นคนหัวไว เข้าใจอะไรได้ง่าย ความจำดีก็ได้ค่ะ ดิฉันไม่เคยคิดว่าคนเราโตขึ้นความจำจะแย่ลง หรือที่เค้าบอกกันว่า ไม่ใช้สมองมากๆสมองจะฝ่ออะไรพวกนี้ ดิฉันไม่เชื่อเลยค่ะ ดังนั้นตั้งแต่เด็กจนโตเรียนจบทำงาน ดิฉันก็ใช้ชีวิตประจำวันแบบคนทั่วไป ไม่ได้ใส่ใจสุขภาพ บำรุงอะไรร่างกายเท่าไหร่นัก
กระทั่งปีที่แล้วดิฉันเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองชอบลืมของลืมนู่นนี่ตลอดเวลา และมาหนักตรงเหตุการณ์นึงคือ ดิฉันลืมไปว่าต้องเข้าประชุมใหญ่ที่ประชุมออนไลน์กับบริษัทในเครือที่ทำงาน ทำให้โดนหัวหน้าต่อว่าแรงมาก ดิฉันจึงเริ่มสังเกตตัวเอง รวมไปถึงสังเกตคนรอบข้างอย่างคุณพ่อคุณแม่และญาติๆด้วย พึ่งมารู้สึกตัวว่าทุกคนเวลาที่แก่ตัวลง ในเรื่องของความจำ หรือพวกการทำงานของสมองจะช้าลง มีประสิทธิภาพน้อยลงอย่างที่เคยมีคนบอกไว้จริงๆ อย่างคุณพ่อคุณแม่หลังๆท่านชอบลืมของตลอดเวลา ลืมไปว่าใส่แว่นอยู่บ้าง ลืมว่าอาบน้ำไปแล้วบ้าง จากที่บ้านดิฉันคิดเคยคิดเลขเร็วกันทุกคน ตอนนี้คิดช้าลงมาก บวกลบเลขหลักร้อย หลังๆต้องใช้เครื่องคิดเลขตลอด ตอนแรกเราอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าสังเกตและใส่ใจมากๆ ถ้าวันนึงลืมอะไรที่มันซีเรียสมากๆอาจจะเป็นปัญหาตามมาได้
ดิฉันจึงเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการต่างๆที่เคยได้ยินว่าช่วยในเรื่องของการบำรุงสมอง เพื่อจะดูแลทั้งตัวเองและคนในบ้าน ให้ความจำไม่แปรผันตามอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้พบวิธีที่สำหรับตัวดิฉันและคนรอบข้างเองรู้สึกว่าได้ผลจึงอยากนำมาแบ่งปันกับเพื่อนๆทุกคนค่ะ ซึ่งถ้าใครมีข้อคิดเห็นหรือคำแนะนำก็สามารถมาแชร์กันเพิ่มเติมได้นะคะ
เริ่มจากการฝึกสมาธิค่ะ ดิฉันได้ลองหาข้อมูลมาพบว่าการฝึกสมาธิจะช่วยเรื่องการพักผ่อน ผ่อนคลายความเครียด การทำงานของสมอง วิธีการของดิฉันคือจะนั่งสมาธิก่อนนอน เริ่มจากแรกๆประมาณ 2-3 นาที แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้น ทุกวันนี้ถ้ามีเวลาและไม่เหนื่อยจากการทำงานจนเกินไป ดิฉันจะนั่งประมาณ 15 นาทีก่อนนอนค่ะ ตอนนั่งก็ใช้เวลาตอนนั้นคิดทบทวน ฝึกจิตให้สงบนิ่ง ผ่อนคลายความกังวล ความเครียด เพื่อทำให้การนอนหลับพักผ่อนของเรามีประสิทธิภาพ ได้พักแบบเต็มที่จริงๆ แรกๆก็ยากมากค่ะ ยิ่งให้คนในบ้านมาทำด้วยกันแล้ว ยิ่งยากค่ะ เพราะแต่ละคนก็แก่ๆแล้ว สมาธิก็สั้นกันมาก ไม่เคยทำมาก่อน แต่พอทำไปได้ซักพัก ก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นจริงๆ คือเริ่มไม่ค่อยลืมของ มีสติในการตัดสินใจ ทำงานและทุกอย่างเลยค่ะ เหมือนจิตเราเริ่มตั้งมั่นแล้วค่ะ
หลังจากฝึกสมาธิกันไปแล้ว ก็เริ่มมาดูเรื่องของการพักผ่อนค่ะ ดิฉันหาข้อมูลเพิ่มเติมทางอินเตอร์เนตเค้าบอกว่า การนอนหลับพักผ่อนนั้นก็ส่งผลกับสมองและความจำเช่นกัน เพราะการนอนจะเป็นช่วงเวลาที่สมองเกิดการเรียบเรียงความจำต่างๆ เข้าด้วยกัน ถ้านอนแบบไม่มีคุณภาพ มันก็ส่งผลกันค่อนข้างเยอะอยู่นะคะ ทำให้คสามสมองเราวันนั้นๆจะสั่งงานช้าลง หรือจำอะไรได้น้อยลง แต่การดูแลเรื่องการนอนของดิฉันและครอบครัวเป็นไปอย่างง่ายดายมาก เพราะเหมือนเราฝึกสมาธิการมาก่อนแล้ว การนั่งสมาธิก่อนนอนมันจะช่วยไม่ให้เราฟุ้งซ่าน คิดมาก หรือเครียดจนการนอนของเราไม่มีประสิทธิภาพค่ะ สำหรับดิฉันเห็นผลเร็วมากนะคะ ทำไปสัก 1 อาทิตย์ก็เริ่มรู้สึกแล้วว่านอนหลับสนิทมากขึ้น ตื่นเป็นเวลา และตื่นมาก็รู้สึกสดชื่นมากกว่าแต่ก่อนค่ะ
หลังจากดูแลเรื่องการนอนไปแล้ว ดิฉันมาดูแลเรื่องการออกกำลังกายต่อค่ะ ดิฉันหาเรื่องการดูแลความจำจากอินเตอร์เนตแล้วไปเจอว่า ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายทั่วๆ ไปนั้นสามารถเพิ่มความสามารถในการเรียกความจำได้ดีขึ้น ยิ่งสำหรับผู้สูงอายุนั้นจะช่วยชะลออาการความจำเสื่อมได้ ดิฉันเลยเริ่มชวนครอบครับมาวิ่งรอบหมู่บ้าน ออกไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำแถวบ้าน ให้ร่างกายได้ยืดเส้นยืดสายหน่อย ก็ไม่รูว่าวิธีนี้จะช่วยได้จริงหรือไม่ แต่ดิฉันมองว่าอย่างน้อยทุกคนในบ้านก็จะมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้น สุขภาพดีขึ้นไปอีกทาง ก็ถือเป็นอีกเรื่องดีๆน่ะค่ะ
ต่อมาคือเริ่มสนใจเรื่องอาหารเสริมค่ะ คือดิฉันก็ไม่ได้เชื่อ 100% หรอกนะคะว่าตัวอาหารเสริมมันจะช่วยได้มากขนาดนั้น แต่พอได้ลองทานประกอบกับการฝึกสมาธิ และหลายอย่างดิฉันว่ามันก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ อาหารเสริมที่ดิฉันเลือกคือตัวสารสกัดจากใบแปะก๊วยค่ะ เพราะว่าเคยอ่านเจอว่าใบแปะก๊วยนี่ดีมาก ช่วยเรื่องการบำรุงสมอง ความจำ ได้ดีมากๆ แล้วยังเป็นที่นิยมกันอยู่ตอนนี้ เห็นมีโฆษณานมที่ผสมกิงโกะก็ออกแนวขายเรื่องความจำ แต่มุมมองดิฉันๆคิดว่า ถ้าทานเป็นอาหารเสริมไปเลยมันน่าจะได้สารอาหารเต็มที่กว่า ละดิฉันได้เข้าไปอ่านข้อมูลมา เห็นเค้าบอกว่าเหมาะสำหรับผู้สูงอายุด้วย กิงโกะจะทำให้เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ดิฉันจึงตัดสินใจเลือกตัวนี้ จะได้ทานกับที่บ้านไปด้วยเลยค่ะ แล้วก็ทานง่ายนะคะ คุณพ่อคุณแม่และคุณป้าก็ไม่ได้อิดออดอะไรตอนให้เริ่มทาน ก็บอกเค้าไปว่าทานแล้วดีต่อสุขภาพนะ บวกกับเป็นอาหารเสริมยี่ห้อเดิมที่พวกท่านเคยทานอยู่แล้ว
ส่วนวิธีสุดท้ายที่ดิฉันปฏิบัติคือ หากิจกรรมที่ได้ใช้ความคิดมาทำร่วมกันในครอบครัวค่ะ อย่างคือที่บ้านดิฉันคุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มมีอายุมากขึ้นๆแล้วจริงไหมคะ จะให้เล่นเกมส์อะไรยากๆก็จะไม่ค่อยไหว ดิฉันก็เลือกเกมส์ง่ายๆ แบบอูโน่ ไพ่สลาฟ และเกมส์เศรษฐีสลับๆกันไปค่ะ แต่ที่ๆบ้านชอบที่สุดน่าจะเป็นอูโน่ค่ะ ที่บ้านชอบมาก การเล่นเกมส์พวกนี้อย่างน้อยคือให้สมองเราได้คิด ได้ทำงานบ้าง แรกๆคุณพ่อคุณแม่ท่านจะคิดช้านิดนึงค่ะ แต่พอเริ่มทำซักพัก ประกอบการดูแลตัวเองร่วมกันทั้ง 5 วิธี หลังๆจะเห็นได้ชัดว่าเกมส์มันเล่นได้เร็วขึ้น จบเร็วขึ้น สนุกขึ้น และทุกคนก็แฮปปี้ค่ะ
นี่แหละค่ะคือ วิธีการทำให้ความจำไม่แก่ตามอายุของดิฉัน ดิฉันเริ่มหันมาดูแลตัวเองตั้งแต่ประมาณเดือน 2 หลังจากที่โดนหัวหน้าเรียกไปต่อว่า นับมาถึงตอนนี้ก็เกือบ 2 ปีแล้ว ก็รู้สึกได้ระดับนึงเลยนะคะว่าขี้ลืมน้อยลง ยังไงก็อยากให้ทุกคนลองมาแชร์กันดูว่า แต่ละคนมีวิธีการดูแลความจำ และการทำงานของสมองยังไงกันบ้าง หรือถ้าใครไม่เคยคิดจะดูแลและบำรุงสมองเพราะคิดว่าไม่จำเป็น เราก็อยากให้เริ่มดูแลมันแล้วนะคะ รวมถึงดูแลคนที่คุณรักด้วยค่ะ
ขออนุญาตเครดิตเว็บที่ดิฉันหาข้อมูลมานะคะ ดิฉันก็เลือกที่คิดว่าทำได้แล้วก็เหมาะกับตัวดิฉันเองค่ะ ☺
http://www.nuttaputch.com/6-effective-ways-to-improve-memory/
https://health.kapook.com/view10210.html