O_O 555 ชายไต้หวันรับการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศชายขนาด 12นิ้ว

http://worldnewsdailyreport.com/taiwanese-millionaire-successfully-gets-transplanted-12-inch-long-black-mans-penis/

ได้มาจากลิงค์ด้านบนนะคะ คือเราอ่านแล้วเปิดหูเปิดตา แต่ก็ขำมากๆ ขำนานเลยอะค่ะ เลยอยากเอามาแบ่งปันให้ทุกคนได้รับทราบกันด้วย

แปลคร่าวๆคือ ผู้ชายไต้หวันคนนี้เป็นเศรษฐีด้านอสังหาฯ คนนึง ชื่อว่า Huy Xen Phang ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะจากชายคนดำ ซึ่งอวัยวะเพศของเค้ามีขนาด 12 นิ้ว

โดยการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่4ของโลก แต่ได้รับการจัดอันดับว่าใหญ่ที่สุดด้วย ซึ่งเขาใช้เวลานาน 18เดือนจนพบกับอวัยวะใหม่นี้

"ผมภูมิใจกับอวัยวะเพศอันใหม่นี้มาก ผมไม่สนว่าใครจะรู้ เค้าก็แค่อิจฉาเท่านั้นแหละ" เขาหัวเราะ

"ภรรยาผมมักจะล้อเรื่องอวัยวะขนาดเล็กของผมเสมอ ตอนนี้เธอได้ขนาดใหญ่แล้ว"

"อวัยวะเพศของผมเล็กมากๆ เหมือนกับคนเอเชียทั่วไป ตอนนี้ผมมีอวัยวะที่ ดำ และใหญ่ที่สุดในไต้หวันและเมืองจีน"

การผ่าตัดครั้งนี้เกิดขึ้นโดย Dr. Andre van der Merwe ใน Tygerberg Hospital ในเมือง Cape Town ประเทศSouth Africa

โดยใช้เวลา 18เดือนในการหาอวัยวะในขนาดที่ผู้ป่วยต้องการ โดยได้มาจากบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งMr. Phangเป็นผู้จัดการเรื่องการเงินทั้งหมด

"Mr. Phang เน้นย้ำมากๆว่าเขาต้องการอวัยวะขนาดยาวกว่า 12 นิ้วเท่านั้น สั้นกว่านั้นนิดนึงก็ไม่เอา"

การผ่าตัดนี้มีความเสี่ยงและมีราคาที่แพงมาก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่สำหรับทุกคน

“คุณต้องมีช่วงเวลาปรับตัวด้วย คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับการแบกน้ำหนักมากของสิ่งนี้ " คุณหมอหัวเราะขณะกล่าว

"ด้วยขนาดที่ใหญ่ของอวัยวะเพศ คุณหมอแนะนำให้ระมัดระวังขณะที่มีการแข็งตัวครั้งแรก เพราะปริมาณเลือดที่ไหลจากสมองไปหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นอาจทำให้หน้ามืดหรือเป็นลมได้"
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 7
ข่าวหนุ่มไต้หวันนั่นเป็นข่าวปลอมนะครับ รูปคุณลุงนั่นก็เป็นรูปคนไข้ธรรมดาที่เสียชีวิตแล้ว ไม่ได้ผ่าตัดอะไรเกี่ยวกับจู๋ เป็นข่าวปลอมที่ทำมาเรียกไลค์เฉยๆ

ส่วนการผ่าตัดเปลี่ยนจู๋จากผู้บริจาคมีจริงๆ แต่ยังทำกันน้อยมากๆ และยากอยู่ ทั่วโลกมีไม่ถึงสิบเคสเลย

เมื่อปีที่ผ่านมา ที่อเมริกากำลังฮือฮาเกี่ยวกับการผ่าตัดชนิดนึง ซึ่งเหมือนเป็นความหวังใหม่ของผู้ชายเลยนะครับ

นั่นคือทีมแพทย์จากมหาวิทยาลัย Massachusetts General Hospital ในเมือง Boston ได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่ายจู๋ใหม่ให้กับคนไข้เมื่อวันที่ 15 พค.ที่ผ่านมา ซึ่งคนไข้ผู้โชคดีรายนี้ได้ถูกตัดจู๋ไปเพราะโรคมะเร็งเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ซึ่งการรักษาโรคมะเร็งจู๋นี้  วิธีที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดจู๋ออกทั้งหมดนะครับ ซึ่งหมอก็รู้ว่าจะสร้างความเจ็บปวดร้าวรานให้กับผู้ชายมาก ๆ แต่ทำอย่างไรได้ ต้องรักษาชีวิตเอาไว้ก่อน ซึ่งคนไข้รายนี้ก็อยู่แบบไม่มีจู๋มา 4 ปี แต่แล้ววันนึงก็เหมือนมีแสงสว่างเกิดขึ้นที่ปลายอุโมงค์

คือทางการแพทย์สามารถคิดวิธีการผ่าตัดปลูกถ่ายจู๋จากผู้เสียชีวิตให้กับคนไข้รายนี้ ซึ่งก็เหมือนการปลูกถ่ายไต ปลูกถ่ายปอด หัวใจที่ปัจจุบันทำกันมากขึ้น โดยหลักการก็คือมีผู้ที่เสียชีวิตที่ก่อนตายได้แสดงเจตจำนงในการบริจาคอวัยวะต่าง ๆ เช่นดวงตา ไต หัวใจ ปอด อะไรแบบนี้ครับ ซึ่งเมืองไทยก็มีผู้ใจบุญแสดงเจตจำนงไว้กับทางกาชาดอยู่เป็นจำนวนมาก และล่าสุดครั้งนี้ก็มีการเอาจู๋ของผู้บริจาคมาต่อได้ด้วย ทำให้คนไข้รายนี้ซึ่งกำลังสิ้นหวังได้ถูกคัดเลือกและได้รับการผ่าตัดออกมาซึ่งก็ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ได้กลายเป็นคนไข้คนแรกของอเมริกาที่ได้รับการผ่าตัดวิธีนี้ครับ

ง่ายไหม ไม่ง่ายครับ การผ่าตัดนี้ใช้เวลาทั้งหมด 17 ชม. หมอศัลยแพทย์ 7 คน ค่าใช้จ่ายประมาณ 2 ล้านกว่า ซึ่งหลักการก็คือต่อเส้นเลือดดำ ต่อเส้นเลือดแดง ต่อเส้นประสาท ต่อท่อปัสสาวะ และที่สำคัญคนไข้รายนี้หลังผ่าตัดต้องทานยากดภูมิคุ้มกันไปตลอด สาเหตุก็เพราะปกติร่างกายทุกคนจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านอวัยวะของคนอื่น เหมือนคนไข้เปลี่ยนไต แบบนี้แหละครับ จึงต้องทานยาไปตลอดชีวิต

ถามว่าแล้วใช้งานได้ไหม อันนี้ทีมแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเค้าเชื่อว่าน่าจะได้นะครับ เพราะมีการต่อเส้นประสาทให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ระยะยาวก็ต้องติดตามต่อไป

ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกนวัตกรรมความก้าวหน้าทางการแพทย์นะครับ ที่เป็นความหวังใหม่ของคนไข้ เพราะในแต่ละปีอเมริกามีคนไข้ที่ต้องตัดจู๋จากมะเร็งปีละหลักพันคนเลย (เมืองไทยมากกว่านี้เยอะนะครับ แค่รพ.ผมก็ปีละเป็นสิบแล้ว) และคนไข้อีกกลุ่มนึงที่เป็นโอกาสของเค้าคือพวกคนไข้ทหารที่สูญเสียจู๋ไปจากออกรบในสงครามครับ ในอเมริกามีคนไข้กลุ่มนี้เกือบ 1300 คนเลยทีเดียว และทั้งหมดอายุน้อยกว่า 35 ปีด้วย ซึ่งคนไข้กลุ่มนี้ปัจจุบันเค้าต้องสูญเสียความมั่นใจและโอกาสในการมีความสุขจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ดังนั้นถ้าการผ่าตัดเปลี่ยนจู๋ครั้งนี้สำเร็จผ่านไปได้ด้วยดี ก็เหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เลยครับ

ส่วนคนทั่วไปหละจะรู้ไปทำไม ก็คือเอามาบอกหนุ่มๆไทยครับ ว่ามะเร็งจู๋ มีจริง ตัดจริง กุดจริง และถ้าถูกตัดหวังจะต่อ ค่าผ่า 2 ล้าน คิดว่าบัตร 30 บาทน่าจะไม่ออกให้แน่นอน ฉะนั้นเราก็ต้องป้องกันตัวเองจากมะเร็งจู๋ซะ ซึ่งจริงๆก็ง่ายมาก คือล้างให้สม่ำเสมอ หัวเปิดไม่ได้ก็ไปขริบ ไม่ฉีดสารแปลกปลอมแหกตาเข้าไปในจู๋เพื่อหวังใหญ่ จะได้ไม่ต้องถูกตัดแล้วมานั่งรอความหวังให้คนมาบริจาคจู๋ให้ภายหลังครับ

ลองตามไปดูนะครับ
https://www.facebook.com/sarikahappymen/photos/a.247802955403497.1073741829.241280376055755/509449449238845/?type=3 ฝากกดไลค์ให้ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่