[CR] [Review] Midnight Run (1988) 2 กวนได้ 3 กำ


หนังแอ็คชั่นคอมเมดี้สุดฮาสัญชาติอเมริกันเรื่องนี้ ได้ดาราดังรางวัลออสการ์ โรเบิร์ต เดอ นีโร( The Godfather II,Goodfellas ) ดาราผู้ไม่มีเชื้อสายอิตาเลียนเลยแม้แต่น้อย แต่มักจะได้รับบทเป็นมาเฟียอิตาเลียนมาแสดงนำ ร่วมด้วย ชาร์ลส์ โกรดิน ( Beethoven I&II ) และ ยาเฟต คอตโต้ กำกับโดย มาร์ติน เบรสต์ ผู้กำกับชาวอเมริกันที่เคยได้รับรางวัลลูกโลกทองคำและถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากหนังเรื่อง Scent of a Woman (1992) แถมยังได้ แดนนี่ เอลฟ์แมน ผู้ทำเพลงประกอบชื่อดังคู่บารมีของ ทิม เบอร์ตัน จากเรื่อง Batman มาช่วยทำเพลงให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย

Midnight Run เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักล่าค่าหัว แจ็ค วอลช์(เดอ นีโร) อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชิคาโก้ได้รับการว่าจ้างจากนายหน้าค้ำประกัน เอ๊ดดี้ (แพนโตเลียโน่) ให้ตามหาตัว เดอะดุ๊ค( โกรดิน ) อดีตนักบัญชีของเจ้าพ่อมาเฟียจิมมี่ เซอรีโน่แถมยังเชิดเงินของเจ้าพ่อไปสิบห้าล้านเหรียญเพื่อนำตัวมายังลอสแองเจลิสให้ทันเวลาก่อนสัญญาประกันจะหมดอายุในเที่ยงคืนของวันศุกร์ มิฉะนั้นเอ๊ดดี้จะต้องเสียเงินค่าประกันให้กับเจ้าพ่อมาเฟียเซอร์รีโน่( ฟารีนา ) เป็นจำนวนสี่แสนห้าหมื่นเหรียญ ซึ่งวอลช์หวังว่าถ้าเค้าได้รางวัลจากการนำตัวเดอะดุ๊คมาให้ทันเส้นตาย แล้วเค้าจะวางมือแล้วเอาเงินไปเปิดร้านกาแฟ แต่เรื่องไม่ได้ง่ายเช่นนั้น วอลช์จะต้องพบกับการไล่ล่าของเอฟบีไอนำโดยเจ้าหน้าที่โมสลี่ย์ ( คอตโต้ ) ที่ต้องการนำตัวเดอะดุ๊คมาขึ้นศาล อีกทั้งเจ้าพ่อมาเฟียที่ต้องการปิดปากเดอะดุ๊คและแก้แค้นที่เชิดเงินไป รวมไปถึงการไล่ล่าจากนักล่าค่าหัวเพื่อนร่วมอาชีพ มาร์วิน ( แอชตัน ) ที่ต้องการแย่งชิงเดอะดุ๊คเพื่อเอาเงินรางวัลเช่นเดียวกัน

การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้บอกได้เลยว่าสนุกครับ คือดูได้เพลินๆ มีอมยิ้ม มีเสียงหัวเราะตลอดเวลา 2 ชั่วโมง ต้องขอชมว่าผู้กำกับเก่งเค้าสามารถเล่าเรื่องได้เป็นไปตามลำดับ คือความสัมพันธ์ของตัวละครสองตัวเอกค่อยๆ พัฒนาไปตามเวลาในหนังอย่างสมเหตุสมผล แถมฉากไล่ล่าในหนังก็ทำให้เราได้ตื่นเต้นเรียกว่าได้ลุ้นกันตลอดเรื่อง รวมไปถึงฉากซึ้งๆ ที่แม้จะมีเพียงนิดเดียวแต่ก็สามารถถ่ายทอดได้ดี แม้ไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ แค่ใช้สีหน้าและแววตาสื่อสารก็ทำให้เราเข้าใจในความห่วงหาอาทรซึ่งกันและกันของตัวละคร เพลงประกอบก็ใช้ได้เราจะได้ฟังซาวน์ประกอบหนังยุค 80s ที่สนุกสนานเหมาะสมเข้ากับเรื่องได้เป็นอย่างดี อาจจะมีอารมณ์หม่นๆ มัวๆ บ้างก็เพราะเป็นสไตล์ของเอล์ฟแมนนั่นเอง ซึ่งเราจะได้พบกับเอกลักษณ์ของเขาอีกในหนังเรื่อง Batman รวมไปถึงการถ่ายทำในฉากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบนเครื่องบิน บนรถไฟ บนท้องถนน สามารถถ่ายทำได้เหมือนจริงอย่างไม่น่าเชื่อว่านี่คือหนังเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ทำออกมาได้เนียนใช้ได้อาจจะมีบ้างเล็กน้อยที่ไม่เนียน เช่น การระเบิด การยิงกัน แต่ก็ด้วยขีดจำกัดของเทคโนโลยีในสมัยนั้น แต่โดยรวมต้องถือว่าทำได้ดีจริงๆ

ทีนี้มาพูดถึงบทบาทการแสดงบ้างครับ หลังจากที่ เดอ นีโรได้เสร็จสิ้นการแสดงจากเรื่อง The Untouchables เขาก็อยากจะลองบทบาทอื่นๆ เช่นการแสดงหนังตลกบ้าง ถึงกับไล่ตามเพื่อที่จะรับบทนำในหนังเรื่อง Big ( 1988 ) และผู้กำกับเรื่องนั้นก็สนใจ แต่ค่ายหนังไม่เห็นด้วย บทดังกล่าวจึงตกเป็นของทอม แฮ้งค์ไป เดอ นีโรจึงได้มาแสดงเรื่องนี้แทน ซึ่งกลายเป็นว่าบทบาทของแจ็ค วอลช์ นักล่าค่าหัวเหมาะสมกับเขาเป็นอย่างยิ่ง เดอ นีโรแสดงให้เราเห็นถึงการทำงานคนเดียวแบบที่เขาถนัด ที่เราจะได้เห็นใน Ronin หรือบทบาทตลกในหนังเรื่อง Meet the Parent ถือว่าฉีกจากบทบาทเดิมๆ ที่เค้าได้เคยเล่นมาก่อนหน้านั้นไม่ว่าจะเป็นบทดอนวีโต้ที่เคร่งขรึมจาก The Godfather II หรืออัลคาโปนเจ้าพ่อสุดโหดเหี้ยม จาก The Untouchables มาเรื่องนี้เราจะไม่เห็นรัศมีเจ้าพ่อ แต่เราจะเห็นนักล่าค่าหัวผู้ร้อนเงิน ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน ซ้ำยังเป็นคนเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก แต่ก็มีมุมเล็กๆ ของความอ่อนโยนให้เห็นบ้างเป็นบางส่วน ส่วนในบทของเดอะดุ๊กนักบัญชีที่แหย่หนวดเสือเจ้าพ่อ แต่เดิมบทนี้มีผู้มาออดิชั่นได้แก่ โรบิน วิลเลี่ยมส์ นักแสดงตลกผู้ล่วงลับ และบรู๊ซ วิลลิส คนอึดตายยากแห่ง Die Hard แต่กลับกลายเป็นโกรดินที่ได้บทนี้ไป ซึ่งในขณะออดิชั่นเขาได้เล่นร่วมกับ เดอ นีโรแล้วปรากฏว่าเคมีของทั้งคู่เข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราเห็นเป็นเช่นนั้นจริงๆ โกรดิน เล่นเป็นเดอะดุ๊ค ผู้ที่ช่างจ้อพูดคุยได้ตลอดเวลา และเป็นนักจิตวิทยาคอยไซโค วอลช์ ตลอดทั้งเรื่อง รวมไปถึงการแสดงให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์ร้ายลึกที่ทำให้เราไม่ต้องสงสัยเลยว่า เดอะดุ๊คหลบซ่อนเจ้าพ่อมาได้ไงตั้งหลายปี ทั้งคู่แสดงได้ดีสุดๆ รวมไปถึงบทของมาร์วินเพื่อนและคู่แข่งร่วมอาชีพของ วอลช์ ที่เล่นได้ฮา และทำให้เราเชื่อได้ว่ามาร์วินนี่โง่จริงๆ

ผมให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 8.5 เต็ม 10 ครับ สนุกสุดๆ ใครชื่นชอบหนังแอคชั่นคอมเมดี้ ห้ามพลาดเรื่องนี้เป็นอันขาด ตลอดทั้งเรื่องไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อเลย แถมยังมีครบทุกอารมณ์ ตลก ตื่นเต้น ซึ้ง มีหมด จะหักนิดหน่อยก็คงเป็นในเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อาจจะไม่ค่อยเก่งเท่าไรนัก ซึ่งได้แต่ตามหลังแจ๊ค วอลช์แทบทุกฝีก้าว จริงๆ น่าจะเก่งหรือฉลาดกว่านี้อีกนิด เพื่อที่เราจะได้ลุ้นระทึกเพิ่มอีกหน่อย อย่างไรก็ตามหวังว่าหนังเรื่องนี้คงถูกจริตหลายๆ คนนะครับ แนะนำเลยมีโอกาสต้องดูให้ได้
ชื่อสินค้า:   Midnight run (1988)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่